หลง กลาง รัก
26
ตอน
81.2K
เข้าชม
521
ถูกใจ
8
ความคิดเห็น
18
เพิ่มลงคลัง

 

        ๑.

แสงไฟที่ส่องไม่เต็มกำลังจากหลอดไฟนีออนแสงริบหรี่บนเสาไฟฟ้าภายในตรอก ฉาดฉายสรรพสิ่งภายในตรอกอย่างไม่ชัดเจน ทำให้แลดูสลัว  ร่างตะคุ่มของชายสามคนโผขวับออกมาจากเงามืดของมุมตึกราวหนูโสโครกวิ่งลัดเลาะท่ามกลางความมืดอย่างประสงค์ในความสกปรกที่พวกมันชื่นชอบ เสียงร้องตะเบ็งของหญิงสาวกรีดแหลมขึ้นมาราวเจาะราตรีให้มีนิรมิตความตกใจแห่งอันตรายอันกำลังคุกคาม

“กรี๊ด.....”

ร่างกำยำของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ชะงักเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องนั่น  เขาบังเอิญเดินดุ่มๆ อย่างไม่มีจุดหมายปลายทางจนมาโผล่กลางตรอกแสงสลัวนี่  ร่างของเขายังคงโซเซโงนเงน เขาใช้แขนเสื้อเชิ๊ตแบะกระดุมที่เขาใส่ทับเสื้อยืดสีน้ำเงินขะมุกขะมอมเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า  แล้วปราดเข้าหาเงาตะคุ่มทั้งสามนั่น

ผลัวะ  บึก บึก

“โอ้ย !!”

เสียงของชายวัยรุ่นรูปร่างผอมบางโดนท่อนแขนกำยำทุบเข้าที่ท่อนแขนและไหล่ซ้ายอย่างรวดเร็ว ร่างนั้นปล่อยมือที่เกาะกุมแขนน้อยบอบบางของเด็กสาวในชุดกางเกงยีนส์ขาสั้นรัดรูป เสื้อเอวลอยโชว์เนินเนื้อขาวผ่องบริเวณหน้าท้อง   ร่างกำยำชกตามติดด้วยความรวดเร็วเข้าที่ท้องของอีกหนึ่งในวัยรุ่นที่กำลังลวนลามเด็กสาวในชุดแต่งกายล่อแหลมอยู่    ชายบ้ากามอีกสองคนอ้าปากค้าง ละล่ำละลักออกมา

“เฮ้ย !  มาจากไหนวะเนี่ย  เอ็งเป็นใครวะ”

“ไอ้นี่ ยุ่งเรื่องชาวบ้าน  วอนหาเรื่องซะแล้ว”  วัยรุ่นร่างเตี้ยล่ำสันกัดฟันกรอดพ่นเสียงคำรามออกมา แสงแวบจากรถยนต์ที่ขับผ่านทำให้แลเห็นรอยสักยันต์ที่โผล่เหนือเสื้อกล้ามแขนสั้นได้ชัดเจน  แต่ชายจรจัดผู้มีร่างกายกำยำไม่แสดงท่าทีกลัววัยรุ่นผู้คำรามใส่เขาแต่อย่างใด  เขาปล่อยร่างของหนึ่งในสามที่ถูกเขาต่อยให้ทรุดลงนอนวัดพื้นอย่างสงบ  แล้วใช้อุ้งมือขวาอันแข็งแกร่งตะครุบจับทั้งแขนทั้งหัวไหล่ข้างซ้ายของเด็กสาวแล้วกระชากเหวี่ยงให้ออกไปให้พ้นรัศมีของกำปั้นและอุ้งเท้า

เด็กสาวรูปร่างบอบบาง ผิวขาว ในเครื่องแต่งกายน้อยชิ้นถึงกับทำสีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดที่โดนชายผู้มาช่วยเหลือใช้กำลังอย่างไม่ทะนุถนอมกับร่างบอบบางของเธอ

“โอ้ย”   เด็กสาวอุทานเพียงคำเดียวเท่านั้น แล้วพลันถลาล้มก้นกระแทกพื้นนั่งชันเข่ามองเหตุการณ์เบื้องหน้าด้วยกายสั่นเทาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ชายวัยรุ่นรูปร่างล่ำสัน  สักยันต์ที่บริเวณแขน  ล้วงมีดโบวี่ปลายแหลมมีรอยลับจนคมวับ  เกร็งข้อมือชี้ปลายแหลมของใบมีดใส่ใบหน้าของชายจรจัดร่างกำยำ

“ไอ้พวกเสือกเรื่องชาวบ้าน เอ็งตายแน่”

ชายจรจัดร่างกำยำขยับกายพุ่งพรวดแบบก้าวกระโดดเพียงก้าวเดียวก็ถึงตัววัยรุ่นผู้ถือมีดไว้  ร่างกำยำของเขาสูงกว่าวัยรุ่นมากนัก ไหล่ของเขาเทียมหัวร่างที่ถือมีด  เขาส่ายร่างกายตวัดไหล่ซ้ายขวาราวนักมวยผู้ชำนาญเวที กำปั้นอันรวดเร็ววินาทีละสามหมัดพุ่งใส่ร่างของวัยรุ่นผู้กำมีดอยู่อย่างรวดเร็ว

พล่อก  พล่อก พล่อก

ร่างนั้นสลบเหมือดกลางอากาศพร้อมกับมีดโบวี่ที่หล่นลงสู่พื้นอย่างไร้การใช้แม้แต่น้อย  ชายวัยรุ่นอีกคนยืนตาค้าง  ลมหายใจของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์  เขาแทบสร่างเมาเมื่อเห็นเพื่อนร่วมอารมณ์หื่นทั้งสองโดนสอยลงไปกองกับพื้นตรอกแสงสลัวอย่างรวดเร็ว  แต่ยังไม่ทันได้เคลื่อนไหวร่างกาย พลันปลายคางและก้านคอของเขาก็ถูกขาของชายร่างกำยำเตะซ้อนใส่สองครั้งอย่างรวดเร็ว  ร่างของเขาร่วงหล่นกระทบพื้นดังตุบ

“โห !”   เด็กสาวในชุดล่อแหลมร้องอุทานอย่างทึ่งในฝีมือการต่อสู้ด้วยมือเปล่าของชายจรจัด  เธอเดินโซเซพลางใช้มือขยับเสื้อเกาะอกของเธอให้เข้าที่เข้าทาง  ชายจรจัดผู้ช่วยเหลือยืนเด่นเคว้งคว้างคล้ายเมื่อต่อสู้จบแล้วไม่รู้จะทำเช่นไรดี  เด็กสาวหายตกใจอย่างรวดเร็ว  เตรียมวิ่งหนีจากที่เกิดเหตุ  แต่เมื่อเห็นชายจรจัดยืนนิ่ง นัยน์ตาของเขามีสีแดงกล่ำ คล้ายผ่านการเพิ่งหลั่งน้ำตาแห่งความอาดูรเสียใจออกมา เด็กสาวรู้สึกสะท้อนในหัวใจอย่างแปลกๆ  รู้สึกเห็นเขาคล้ายชายคนหนึ่งขึ้นมา  เธอหันซ้ายหันขวา แล้วตัดสินใจดึงมือชายที่ช่วยเธอให้รอดจากการรุมโทรม วิ่งตามเธอมา

“แฮ่กๆๆ”   เด็กสาววิ่งจับมือชายร่างกำยำวิ่งผ่านตรอกซอกซอยออกมายังถนนที่มีผู้คนเดินไปมามากมาย เธอเห็นรถแท็กซี่วิ่งอยู่บนถนนเบื้องหน้าหลายคัน  ทำท่าจะเรียกรถแท็กซี่  แต่ก็หันมามองชายผู้ช่วยเธอไว้แล้วตั้งคำถาม

“พี่มาจากไหนนี่”

ชายจรจัดส่ายหน้าคล้ายไม่ต้องการตอบคำถามนี้  สีหน้าส่อแววสิ้นหวัง ใบหน้าที่หมองเศร้าเต็มไปด้วยหนวดเคราหยาบ  เด็กสาวจึงถามซ้ำ

“พี่มาจากต่างจังหวัดเหรอ”   ชายจรจัดไม่ตอบ สีหน้าสิ้นหวังยังคงโรยอยู่เต็มใบหน้า เขาเพียงแต่พยักหน้าคล้ายเห็นด้วยกับคำคาดเดาของเด็กสาว

“พี่มีที่พักไหม  มีญาติพี่น้องไหม”   เด็กสาวถามซ้ำ ความรู้สึกเป็นห่วงชายแปลกหน้าจรจัดผู้ช่วยให้เธอรอดพ้นจากอารมณ์บ้ากามของผู้ชายสามคนในตรอกมืดผุดขึ้นมาเองอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น  ขณะที่ชายร่างกำยำสลัดหัวปฏิเสธรวดเดียว

“หนูขอบคุณพี่มากที่ช่วยหนูจากพวกบ้ากามนั่น”  เด็กสาวพูดพลางยกมือพนมไหว้ขอบคุณแล้วล้วงธนบัตรราคาหนึ่งพันบาทออกมา ทันทีที่สายตาของเธอสบกับธนบัตร ความเสียดายได้หลั่งล้นเข้าสู่จิตใจของเธอ  แต่หัวของเธอหมุนคิดอย่างรวดเร็ว  หากพวกบ้ากามนั่นข่มขืนรุมโทรมเธอแล้วจี้ปล้นเงินไปด้วย เธอจะต้องเสียทั้งตัวและเสียทั้งทรัพย์สินติดตัวทั้งหมด  แม้กระทั่งชีวิตของเธอก็อาจถูกกระชากไปได้ ซึ่งบ่อยครั้งที่มีข่าวหญิงสาวถูกกระทำเช่นนี้   แล้วเธอจะกลับไปหาพ่อและแม่ได้อย่างไรเล่า

.....พ่อ.....แม่......

เด็กสาวคิดเพียงแค่นั้นแล้วหยุดคิด  เธอจ้องมองแววตาอันแสนซื่อจากชายผู้อุตส่าห์มีน้ำใจยื่นมือมาช่วยเหลือเธอ  เขามองเธออย่างเฉยชา  สายตาไม่ได้สนใจธนบัตรในมือเธอเลยสักนิด

 

“ไม่เอา”   ชายจรจัดพูดสั้นๆ แล้วผละร่างออกจากเธอคล้ายกำลังจะเดินจากไป  เธอรีบยุดมือเขาไว้ พลันรู้สึกถึงกระแสความร้อนจากท่อนแขนของเขาแผ่ซ่านเข้ามาสู่ร่างกายเล็กบอบบางของเธอ แม้เธอจะจับท่อนแขนเขาที่บริเวณเสื้อเชิ้ตสีมัวแขนยาวปกคลุมอยู่   แต่ก็รู้สึกถึงไอร้อนอุ่นจากร่างเขาอย่างชัดเจน

“พี่จะไปไหน”

เธอถามพร้อมมองร่างเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง เสื้อผ้าของเขาเก่าๆ โทรมๆ  เขาจะมีเงินติดกายถึงหนึ่งพันบาทไหม นี่คือสิ่งที่เธอคิด ชายจรจัดไม่ตอบ แต่ส่ายหน้า หันร่างกลับมาเผชิญใบหน้าเธออีกครั้ง สายตาของเขาไม่จ้องใบหน้าขาวสวยใสอมชมพูของเธอ เพียงแต่มองผ่านๆ อย่างอ่อนโรย เขามีท่าทางหิวโหย สายตาเหม่อลอยด่ำดิ่ง  คล้ายทำสิ่งสำคัญประดุจหัวใจของเขาหล่นหายล่วงลับไปแล้ว  พลันเด็กสาวรู้สึกเห็นใจเขาอย่างไม่มีเหตุผลขึ้นมา อย่างไรเสียเขาก็อุตส่าห์ลงแรงช่วยเธอให้พ้นจากสามคนบ้ากามนั่น

 

“พี่มีเงินติดตัวเท่าไหร่ล่ะ”  เธอถามโพล่งขึ้นมาอีกครั้ง

ชายจรจัดยกมือล้วงกระเป๋ากางเกงข้างขวา  มีบัตรคล้ายบัตรประจำตัวประชาชนและธนบัตรมูลค่ายี่สิบบาท ๔ ใบ ห้าสิบบาท ๑ ใบ และธนบัตรใบละร้อยบาทราว ๘ ใบ นอกจากนั้น เหรียญบาทสามสี่เหรียญร่วงหล่นจากกระเป๋าตกกระทบพื้นฟุตบาทข้างถนนดังกริ๊ก  เขารีบก้มตัวตามคว้าสองเหรียญบาท มีเพียงหนึ่งเหรียญกลิ้งหมุนวนหล่นลงสู่ท่อระบายน้ำข้างหน้าเขา  ชายจรจัดเหยียดกายตรงอีกครั้ง มองคล้ายไว้อาลัยเหรียญบาทที่จากไปโดยตัวเขาไม่อาจช่วยได้เลย

เด็กสาวรู้สึกได้ถึงความซื่อที่ชายหนุ่มคนนี้มี  ทันใดนั้นเองเธอรู้สึกว่าชายจรจัดยิ้มบางเฉียบราวขบขันในโชคชะตาชีวิตของเขาเอง  เขาหันมามองเธอ ตัดสินใจให้เธอรับรู้ชีวิตของเขา

“พี่...เอ่อ...พี่เจอกับอุบัติเหตุน่ะ  แต่ว่าพรุ่งนี้พี่จะไปหาเพื่อนที่เชียงใหม่แล้ว  กะจะไปเริ่มชีวิตใหม่ที่นั่น”

เธอพยักหน้ารับรู้ อย่างน้อยเด็กสาวก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เธออ้าปากจะถามเขาสักอย่าง แต่ชายจรจัดชิงพูดขึ้นก่อน

“ถ้าจะกลับบ้านแล้วกลัวไม่ปลอดภัย พี่ไปส่งแถวบ้านก็ได้นะ”

เด็กสาวรู้สึกน้ำเสียงของเขามีความอบอุ่นปลอดภัยแฝงอยู่  เขาใช้คำว่าไปส่งแถวบ้าน เหมือนเขาจะรู้ว่าในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เธอก็ไม่ควรไว้ใจเขาเช่นกัน  เธอจึงยุดปลายแขนเสื้อเขาไว้แล้วเรียกรถแท็กซี่

ตลอดทางบนรถแท็กซี่ เขาไม่พูดอะไรกับเธอเลย เธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกัน ทั้งคู่มาถึงหอพักแห่งหนึ่งที่เด็กสาวพักอยู่  ชายหนุ่มผู้มีจิตเอื้อเฟื้อรู้สึกว่าหมดหน้าที่ของเขาแล้ว  จึงเดินจากไป

 

“เดี๋ยวสิพี่  พี่จะไปนอนไหน”  เธอร้องทานด้วยน้ำเสียงชัดเจน ขณะที่เขาส่ายหน้าบอกเป็นเชิงว่าไม่รู้  แต่ก็ยังฝืนพูดออกมา  “ใต้ท้องฟ้านี้พี่นอนได้หมดแหละ   หลับๆ ตื่นๆ  ลืมเรื่องอดีตซะแล้วอยู่กับปัจจุบัน เมื่อรู้สึกตัวอยู่กับปัจจุบันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวันเก่าหรือวันใหม่ ก็ไม่มีอะไรที่ต้องไปหวาดกลัวกับมันอีกต่อไป”

เด็กสาวชะงักสะดุดกับคำพูดของเขา  ขณะที่เขาก็แปลกใจกับคำพูดของตัวเองเช่นกัน คำพูดเช่นนี้เหมือนเขาเคยได้เรียนรู้มันจากใครบางคนแต่ก็ลืมไปแล้ว  พลันเขารู้สึกเจ็บศีรษะแปลบขึ้นมา  ขาทั้งสองข้างสั่นระริก  ร่างกายของชายหนุ่มโคลงเคลงสั่นไหว เขาทรุดตัวลงนั่งยองกับพื้นคอนกรีต

“พี่เป็นอะไรไปน่ะ”  เด็กสาวเปล่งเสียงด้วยความเป็นห่วงผู้ช่วยชีวิตเธอ  ชายหนุ่มสะบัดหัวแรงๆ พยายามยันกายให้ลุกขึ้นแต่ยังลุกไม่ไหว  เขายกมือโบกแสดงว่าไม่เป็นอะไรหนักหนา

 

“แค่เจ็บหัวน่ะ”  เขาพูดพลางเลื่อนมือที่กุมกำอยู่กลางหัวมากุมที่บริเวณท้ายทอย  เด็กสาวรีบถลาเข้าไปช่วยประครองเขา  แต่เธอก็พบว่าน้ำหนักเขามากเหลือเกิน เธอเซแซ่ดๆ แล้วล้มทับเขาซ้ำอีก

“โอย”  เด็กสาวคราง  ขณะที่ชายหนุ่มรู้สึกบรรเทาความเจ็บปวดที่ศีรษะบ้างแล้ว  แต่ก็รู้สึกจุกที่ร่างเล็กฟุบทับอยู่กลางหน้าอกของเขา แถมกำลังใช้มือดันหน้าอกเขาไว้อีก

“ออกไปจากตัวพี่ได้ไหม พี่หนัก”  ชายหนุ่มร้องขอขณะแผ่ร่างนอนเหยียดกลางพื้นคอนกรีต  เด็กสาวรีบโผตัวออกจากร่างของเขาด้วยความเขินอาย  ทั้งคู่ยืนตัวตรงอีกครั้ง

“พี่เคยโดนตีที่หัวน่ะ  บางทีพี่ก็จะรู้สึกมึนงง จำอะไรในอดีตไม่ได้ หลายครั้งเวลาที่พูดอะไรออกมา พี่คิดว่าเป็นสิ่งที่พี่เคยเรียนรู้ในอดีตนะ  แต่จำไม่ได้จริงๆ ว่า ไปเรียนรู้จากใคร ที่ไหน และความหมายที่แท้จริงคืออะไร”

เด็กสาวพยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่ผู้ช่วยชีวิตเธอพูด  เธอเอื้อมมือไปจับแขนเขาที่มีเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีมัวปกปิดกั้นการสัมผัสกันทางเนื้อหนังโดยตรง

“งั้นพี่ขึ้นไปพักบนห้องหนูก่อนนะ  ถ้าพี่เป็นอะไรขึ้นมาหนูคงรู้สึกผิดแน่ๆ เลย”

ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างว่าง่าย  เขาเดินตามเธอขึ้นไปที่ห้องพักของเธอ

 

“อยู่คนเดียวเหรอ”  ชายหนุ่มถามขณะที่เด็กสาวอยู่ในห้องตามลำพังกับเขาแล้ว เธอเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำเย็นรินใส่แก้วแล้วยื่นให้เขา

“ใช่ค่ะพี่  ตอนนี้เป็นช่วงที่หนูต้องดิ้นรนมากเลย  ทั้งคนที่เป็นเพื่อนและทั้งคนที่ไม่ใช่เพื่อน จะให้เข้ามายุ่งยากกับชีวิตของเรามากไม่ได้หรอก  ชีวิตต้องควบคุมเพื่ออนาคตที่ดีกว่า”

ชายหนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยกับคำพูดของเธอ   เขาดื่มน้ำรวดเดียวจนหมดแก้ว ยิ้มให้เธอแบบไม่แม้แต่จะจ้องหน้าตรงๆ ชายหนุ่มรู้ว่าหากมองหน้าเด็กสาวตรงๆ อาจดูไม่สุภาพ  เขาจึงเลือกที่จะไม่จ้องมองใบหน้าและรูปร่างของเธอตรงๆ

“พี่นอนที่นี่ก็ได้นะ”  เด็กสาวเอ่ยขึ้น

“ไม่กลัวพี่เหรอ  สมัยนี้ไม่ควรไว้ใจใคร  แม้แต่ตัวเราเองยังไว้ใจไม่ได้เลย”

เด็กสาวหัวเราะในคำพูดของเขา  “พี่พูดแปลกดีนะ  จะว่าไปประโยคนี้ก็คุ้นแฮะ  แต่จำไม่ได้ว่าเคยได้ยินมาจากที่ไหน”

 

ชายหนุ่มยื่นบัตรประจำตัวประชาชนให้เด็กสาว

“ในเมื่อน้องมีความเอื้อเฟื้อต่อพี่   พี่ก็ขอให้คำมั่นว่า พี่จะไม่ทำร้ายน้องไม่ว่าในกรณีใดๆ อย่างแน่นอน ขอให้น้องสบายใจได้  เมื่อน้องมีน้ำใจให้พี่นอนที่นี่  พี่ก็จะนอนมันตรงนี้แหละ  ฟ้าสว่างเมื่อไร พี่ก็จะไป”

“พี่พูดเหมือนพระเอกหนังที่หลุดออกมานอกจอเลยนะ”  เธอหัวเราะคิกขณะที่ชายหนุ่มยิ้มรับอย่างเฝื่อนๆ ห้องนอนของเด็กสาวมีเตียงตัวเดียวและเก้าอี้หนึ่งตัวตั้งอยู่ไม่ห่างจากเตียง ใกล้โต๊ะเขียนหนังสือที่มีกองหนังสือเรียนและโคมไฟตั้งวางอยู่  อีกด้านหนึ่งมีตู้ใส่เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เย็น ตั้งกระจายชิดฝาผนังห้อง ภายในห้องมีห้องน้ำในตัวและมีระเบียงอยู่ด้านหลัง  ชายหนุ่มเลื่อนตัวลงมาจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่และทรุดตัวนอนลงบนเสื่อน้ำมัน เบื้องล่างเตียงนอน

เขานอนแผ่กายเหยียดยาว เด็กสาวขยับริมฝีปากเสมือนทำท่าอยากบอกให้เขาขึ้นมานอนบนเตียง  แต่ก็ฉุกคิดได้ว่า เธอก็จะไม่มีที่นอน เด็กสาวหันรีหันขวางสักพัก เมื่อได้ยินเสียงเขากรนเธอจึงหยิบผ้าเช็ดตัวมานุ่งพันกายแบบกระโจมอกและถอดเสื้อผ้าน้อยชิ้นทั้งหมดออก เธอย่างก้าวเข้าห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดชำระร่างกาย วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ต้องสู้ฟันฝ่ากับการใช้ชีวิต  เด็กสาวได้แต่หวังว่าความสงสารที่เธอหยิบยื่นให้ชายจรจัดแปลกหน้าคงไม่ทำให้เธอต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กับเขาอีกครั้งในตอนดึก อย่างไรเสียเธอก็มีความมั่นใจลึกๆ ว่าเขาคงไม่ใช่พวกบ้ากามที่เธอเคยพบเจอทุกๆ วันแน่

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว