ชีวิตของเรยา
0
ตอน
2.16K
เข้าชม
124
ถูกใจ
2
ความคิดเห็น
2
เพิ่มลงคลัง

  • เรื่องราวที่จะเล่าในนิยายเรื่องนี้เขียนมาจากชีวิตจริงของผู้เขียน ไม่ได้มีการลอกเลียนแบบมาจากละครเรื่องใด(ขออภัยถ้าหากจะมีความล่อแหลมด้านเนื้อหา การกระทำของบุคคลในเรื่อง คำพูดต่างๆมีเหตุผลของมันในตัวเอง)
  • ปี 2535

    ที่ ห้องเช่าแห่งหนึ่งแถวชานเมืองในกรุงเทพ ฉันเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลก พ่อฉันเป็นคนอินเดีย แม่เป็นคนร้อยเอ็ด เค้าเจอกันครั้งแรกหน้าโรงงานที่แม่ทำงานอยู่ พ่อฉันขายโรตีอยู่หน้าโรงงาน จำได้ว่าตอนที่ฉันเกิดพ่อเห่อมาก ด้วยที่ฉันเป็นลูกชายคนแรกไง(เป็นนักเขียนหน้าใหม่นะคะ อาจจะเกริ่นเริ่มต้นแล้วดูงงๆ)

    ชีวิตของฉันมันคงเป็นชีวิตที่เป็นสุข มีชีวิตชีวาเหมือนครอบครัวอื่นๆ ถ้าพ่อฉันไม่ถูกฆ่าตายซะก่อน.......!!!!!!!

    ครอบครัวของฉัน(เมื่อ12ปีก่อน)มีทั้งหมด5คน พ่อ แม่ ฉัน และน้องชายอีกสองคน ฉันเป็นคนโต นิสัยตอนเด็กตั้งแต่อนุบาลจะกระเดียดไปทางผู้หญิงอ่ะคะ รักสวยรักงาม พูดง่ายๆประสาชาวบ้านก็คือกะเทยเด็ก!!

    " ซุป...ทำอะไรลูก" แม่ตกใจที่เห็นฉันกำลังใส่กระโปรงยาวสีแดง

    "คือหนูกำลังฝึกเล่นละครวันเด็ก!!!!!!" คือในวัยนั้นรู้แค่ว่าชอบมากที่ได้แต่งหน้าทาปาก แต่งตัวเป็นผู้หญิง ไม่รู้เลยว่าที่เราทำแบบนั้นมันทำให้พ่อโกรธมาก

    "มึงอย่ามาทำกระตุ้งกระติ้ง ดัดจริตเป็นผู้หญิง มึงอย่านะ___เดี๋ยวกูเตะสลบเลย"คำพูดนี้ฉันได้ยินเวลาเผลอทำเป็นงอแง เบะปาก อย่างในนางร้ายในละคร ช่วงนั้นละครเรื่องคมพยาบาทกำลังดังมาก

    " อีน้อย แกมานี่สิ มานวดให้ฉันหน่อย" แผดเสียงแวดๆ กรี๊ดแหกปากหน้ากระจกห้องน้ำ ก็ฉันนี่แหละอีเปียไง

    เนื่องด้วยที่บ้านพ่อเป็นแขกอิสลาม แล้วฉันเป็นลูกชายคนโต การที่จะเป็นกะเทยหรือตุ๊ดอะไรนี้ มันเป็นอะไรที่เป็นไม่ได้ คือพ่อนี่นะแกแอนตี้หัวชนฝาเลย แกเกลียดมาก คือเชื่อว่าแกคงไม่ยอมให้ลูกชายแกเป็นกะเทยแน่

    "หนูรักงานกีฬาสีค่ะอาจารย์ หนูเต้นเป็นหนูอยากเป็นเชียร์ลีดเดอร์ค่ะ"คือตอนนั้นเพื่อนชะนีมันถอนตัว เข้าทางเราเลย

    "ลีดเชิ่ด!!!3.4 ซู่ๆซ่าๆนักกีฬาเซ็กซี่กองเชียร์ดี๋ดีเซ็กซี่ซู่ซ่าๆๆๆ" ซ้อมหลังเลิกเรียนทุกวันค่ะ จุดประสงค์คือปีนี้ต้องชนะอีทีมสีฟ้าแชมป์เก่าให้ได้ อีกประเด็นที่สำคัญที่สุดคือได้แต่งตัวไปอวดหนุ่มรุ่นพี่นักกีฬาไง

    ตอนเด็กต้องยอมรับว่าฉันเป็นตุ๊ดที่สวยที่สุดในโรงเรียนเลย ไม่ต้องสงสัยเพราะพ่อเป็นแขก ได้เชื้อแขกมาเต็มๆ ตาโต ขนตางอน จมูกโด่ง ได้ผิวขาวเหลืองมาจากแม่

    "อีดอก สวยตายแหละ มองหน้า ตบได้นะ"ตุ๊ดรุ่นพี่ตะโกนด่าพร้อมท้าตบ

    "ก็เปล่านี่ค่ะ...ก็พี่เขียนขอบตาได้สวยคมมาก หนูก็เลยแอบมองอยากเขียนบ้างแต่พ่อไม่ให้" ในใจกูด่ามึง ตัวก็ใหญ่อีกะเทยควาย

    "จริงเหรอ พูดจริงดิ เออก็จริงวันนี้ก็มีคนมาชมหลายคนนะ ว่าตาพี่สวยขึ้น"มันหยิบกระจกมาส่องแล้วยิ้มอย่างภูมิใจ อย่างกับได้มงกุฎเวทีมิสยูนิเวิรส์ ยังไงยังงั้น

    เอิ่มลืมไปยังไม่ได้บอกชื่อเลยฉันชื่อ ซุป ย่อมากจาก ยุซุป ที่บ้านเรียกติดปากว่า ซุป ที่โรงเรียนเพื่อนเรียก อีพิ้งกี้ ต่อนะค่ะ_

    หลังจากโดนรุ่นพี่ด่า และท้าตบเมื่อวันก่อน วันนี้มันมาแปลกมาคุยดีด้วย มันพาไปแนะนำกับตุ๊ดอีกกลุ่มนึงด้วย

    "นี่พวกมึง......วันนี้กูพาสมาชิกใหม่มารายงานตัว"เสียงกรี๊ดลั่นห้องน้ำเลย

    "นี่อีพิ้งกี้ ที่มึงหมั๋นไส้มันอ่ะตอนเต้นหลีด มันอยู่สีแดงไง"พูดพร้อมจิกตาใส่

    "คือหนูเห็นพวกพี่มานานแล้ว อยากเป็นแบบพวกพี่บ้าง ได้แต่งหน้าสวยๆทาปาก ปัดขนตา ใส่กางเกงนักเรียนขาสั้นได้ ขอให้หนูได้อยู่กลุ่มพี่อีกคนนะคะ"มันคือการแสดงที่จริงกูจะมาเป็นเบอร์1เข้าใจตรงกันนะ

    "ถ้าจะมาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกูไม่ยาก มึงต้องไปท้าตบอีแมน ม2/2"อะไรนะ อีแมนนั่นนะเหรอ สารรูปมันนี่นะไม่ไหวๆๆๆอีนี่มันฉายา จาพนม2 กล้ามขามันสามารถแตะต้นกล้วยหักได้เลยทีเดียว สยอง

    "ไม่เอาน่ะ_พูดเล่นปะพี่"เราสวนกลับทันที

    "ทำไม มึงทำไม่ได้เหรอ เป็นกะเทยอ่ะต้องรู้จักตบตีไว้ มันเป็นคุณสมบัติอย่างนึง"เออ กูเพิ่งรู้นะเนี่ย ความรู้ใหม่

    "แต่มันเป็นรุ่นน้องที่หนูรัก มันเคยช่วยหนูไว้ตอนหนูมีเรื่องกับพวกเด็กท่าน้ำ"ตอนนั้นจำได้ดีเลยว่า ไปโดนวัยรุ่นขี้ยามันจับตูดแล้วจะถอดกางเกงเราแล้ว อีแมนที่มันเดินตามหลังมามันเห็นมันเลยแกล้งตะโกนว่าพ่อเรามาพวกมันเลยปล่อยตัวเรา จากนั้นมาก็เป็นรุ่นน้องที่ค่อนข้างสนิทกัน

    "ไม่เป็นไร เอาอย่างนี้นะ มึงไปนั่งตักอ.คริสโตเฟอร์แล้วกัน มึงกล้าไหมอีพิ้งกี้"จะบ้าไปแล้วนั่น อ.คริสโตเฟอร์แกเป็นครูสอนภาษาอังกฤษมาจากออสเตรเลีย ที่สำคัญแกค่อนข้างดุเอาเรื่องเชียว

    "ไม่เด็ดขาดพี่ อันนี้ไม่เอาแน่มันแรงเกินไปอ่ะ"พูดเสร็จฉันรีบเดินหนี แล้วอีพวกนั้นมันก็วิ่งตามมา

    "คิดดูให้ดีนะอีพิ้งกี้ มึงจะเอายังไง มึงอยากเป็นแกะดำเหรออีดอก?

    มีมึงคนเดียวนะที่เป็นตุ๊ดไม่มีสังกัด5555"พวกมันเยาะเย้ยทิ้งท้ายแล้วทิ้งให้ฉันนั่งคิดอย่างกลุ้มใจอยู่

    "เออ_ที่พวกมันพูดก็เป็นเรื่องจริง ตอนนี้ในห้องก็ไม่มีใครสนิทด้วย เป็นตุ๊ดตัวคนเดียวด้วย " เริ่มบนพรึมพรำ ทันใดนั้นความคิดชั่วร้ายที่ถูกอีพวกตุ๊ดรุ่นพี่กรอกหูท้าทายไว้นั้น!!!!!!!

    "เป็นไงเป็นกัน"พูดเสร็จฉันก็วิ่งไปหาอีพวกรุ่นพี่ผีบ้านั่น

    "โอเค หนูรับคำท้าพวกพี่ หนูจะไปนั่งตักอ.คริส ตอนเย็นเลิกเรียนโอเคป่ะ"พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ แต่ในใจแอบหวั่นไหวไม่น้อย_ตอนเย็นหลังเลิกเรียนเพื่อนๆก็กลับบ้านกันหมดแล้ว เหลือแต่ฉันกับอีพวกผีบ้านั่น ตอนนั้นก็เกือบ6โมงเย็นฉันก็เดินไปที่ห้องภาษาอังกฤษ อีพวกนั้นก็แอบเดินตามมาดู ตอนนั้นเห็นอ.คริสแกนั่งจดงานอยู่ ฉันก็อึกอักอยู่นานกล้าไม่กล้า อยู่หน้าห้องนานเกือบ15นาที ทำไงดีหละแกก็กำลังจะกลับเก็บของใส่กระเป๋าแล้วเอาไง อีพวกนั้นก็ส่งสายตาขู่อยู่อีกฝั่งของประตู เอาอย่างนี้เลียนแบบอีเปียที่ในละครนางแกล้งเข้าไปหาของที่ทำหายไว้ในห้องพระเอก แล้วทำเป็นล้มไปนั่งตักตอแหลแล้วบอกว่าขอโทษ เอ่อเข้าท่าดี123ไป!!!

    "แอมซอรี่"ภาษาอังกฤษงูๆปลาๆมาก

    "อืม ทามม่ายยั๊งม่ายกาบบ้าน?"แกพูดไทยได้นิดหน่อย

    "อ่ะสมุดbook.."ทำท่าชี้ไปทางโต๊ะของแก แกก็งงๆ ฉันเดินเข้าไปทำเป็นหาสมุดหนังสือ แต่ตาก็มองไปที่เป้าแกเพื่อหาตำแหน่ง แกก็ไม่ได้สนใจอะไรนะ เท่านั้นแหละโอกาสเหมาะแกล้งเอื่อมไปหยิบสมุดที่มุมสุดโต๊ะ แล้วสะดุดขาตัวเองไปนั่งบนตักเเกเต็มๆ แกตกใจมาก

     

     

    แสดงเพิ่มเติม

    รีวิว (0)

    เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว