(𝗧𝗵𝗲 𝗕𝗹𝗼𝗼𝗱 𝗪𝗮𝗿 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗡𝗶𝗴𝗵𝘁) เจ้าชายแวมไพร์กับอัศวินสาวจอมเย็นชา

ชื่อเรื่องเก่า

รักอันตรายของเจ้าชายแวมไพร์จอมเย็นชา [Love the Vampire Danger]

นักเขียนขอทำการแจ้งตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ว่านิยายได้เปลื่ยนชื่อเรื่องมาเป็น

(𝗧𝗵𝗲 𝗕𝗹𝗼𝗼𝗱 𝗪𝗮𝗿 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗡𝗶𝗴𝗵𝘁) เจ้าชายแวมไพร์ตัวร้ายกับอัศวินสาวจอมเย็นชา

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากนักอ่านหลายๆท่านได้ส่งข้อความมาหานักเขียนเป็นจำนวนมาก เพราะหาชื่อนิยายทั้งในแอปและgoogleไม่เจอ ทางนักเขียนขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า นิยาย รักอันตรายของเจ้าชายแวมไพร์จอมเย็นชา [Love the Vampire Danger] และ (𝗧𝗵𝗲 𝗕𝗹𝗼𝗼𝗱 𝗪𝗮𝗿 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗡𝗶𝗴𝗵𝘁) เจ้าชายแวมไพร์กับอัศวินสาวจอมเย็นชา เป็นเรื่องเดียวกัน แต่นักเขียนได้ทำการรีไรท์ทั้งชื่อเรื่องและเนื้อเรื่องใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์และไม่ขาดหายไปบางช่วงและบางเหตุการณ์ หากผู้เขียนต้องการตามหาชื่อนิยายสามารถเข้ามาพิมพ์ชื่อนิยายตามที่แจ้งไว้ หรือหากหาไม่เจอให้ค้าหาคำว่า Rorory ใน Google และตามด้วยชื่อธัญวลัยได้ก็จะพบกับนิยายเรื่องนี้

นิยายเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งในจักรวาล

Pólemos world

(κόσμος του πολέμου)

โลกแห่งมหาสงคราม

one upon Time

เมื่อนานแสนนานมาแล้ว

ตำนานเล่าว่าเหล่าทวยเทพทรงได้สร้างสรรค์สิ่งมีชีวิตหลากหลายเผ่าพันธุ์ให้อยู่รวมกันมากมาย เมื่อหลายหมื่นปีหรืออาจจะแสนปีก่อน แต่ทว่าพระเจ้ากับได้ถูกเทพตนหนึ่งที่ขี้ริษยาจนล่อลวงพระเจ้าเผลอสร้างปีศาจตนหนึ่งที่มินิสัยหยาบช้านิสัยต่างจากเผ่าพันธุ์อื่นๆ หรือก็คือปีศาจตนแรกเอลคิน ต้นกำเนิดเผ่าพันธุ์ปีศาจและได้มีลูกๆสามตน ตนแรกคืออาซิรูส ปีศาจผู้เป็นแวมไพร์คนแรกที่มีหน้างดงามเหมือนมนุษย์และได้กำเนิดต้นตระกูลเอลฟ์แห่งความมืด เอลฟ์กับแวมไพร์จึงมีหน้าตางดงามมากพอๆกัน ตนสองคือคารูต้า ปีศาจหญิงแห่งความมืดที่สามารถกลายร่างเป็นสัตว์ได้ ต่อมาได้ขยายหลายสายพันธุ์เป็นทั้ง หมาป่า เงือก ยักษ์ มังกร และเผ่าอื่นๆที่ใกล้เหมือนเผ่าที่พระเจ้าเคยสร้างมาก่อนแต่ทว่าแฝงไปด้วยความชั่วร้ายและสามารถแปลงร่างได้ ตนสามคือเทเปส ปีศาจงูบาซิออนตนแรกที่มีพลังทำร้ายล้างสูง และได้แพร่พันธุ์กำเนิดสัตว์อื่นๆในตำนานมืดมากมายและในปัจจุบันมีให้พบเห็นน้อยมากแทบจะเรียกเป็นสัตว์อสูรในตำนานแทน แต่ก็ทว่าก็ได้มีสองเผ่าพันธุ์ที่เป็นปรปักษ์กันมาตั้งแต่สร้างโลก คือแวมไพร์และมนุษย์ที่รบกันมาราวหลายหมื่นปี เพราะเหล่าฝั่งรัตติกาลมักจะนำมนุษย์และเผ่าดินแดนแสงอรุณไปกินและทรมานจนเกือบสูญพันธุ์ จนมนุษย์ได้รับพรจากทวยเทพบางคนได้รับพลังเวทย์มหาศาลและอาจส่งต่อพลังให้ลูกหลานได้ บางส่วนได้พลังแรร์ที่สุ่มให้บางคนที่ถูกเลือกเท่านั่นซึ่งผู้ที่ได้รับจะมีอายุมากกว่ามนุษย์ทั่วไป อีกส่วนได้รับพลังธาตุที่หนึ่งพันปีจะเลือกผู้ใช้ที่ได้ถูกคัดสรรเลือกขึ้นมาเองตั้งแต่กำเนิดเท่านั้น มนุษย์บางส่วนได้ผสมพันธุ์กับเหล่ามังกรหรือเอลฟ์และอมนุษย์ที่ทวยเทพสร้างไว้ด้วยกัน แม้ส่วนมากพวกที่มีสายเลือดผสมทั้งมนุษย์และปีศาจจะไม่รอดกันเป็นส่วนใหญ่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดาก็ตาม ผู้มีสายเลือดผสมจึงถือว่าเป็นพวกหายากโดยเฉพาะมนุษย์กับเผ่าอื่นๆที่มีเพียง 5 % ของโลก รวมถึงเอลฟ์กับพวกปีศาจที่ไม่มีสายเลือดผสมให้เห็นแม้แต่ตนเดียวนอกจากกับดาร์คเอลฟ์เท่านั้น ผู้มีสายเลือดผสมที่หายากสุดในโลกจะเป็น เผ่าภูตและเอลฟ์ ซึ่งเผ่าภูตเป็นเผ่าพันธุ์โบราณที่หายสาปสูญไปแล้ว ในปัจจุบันมีเพียงสามคนที่มีสายเลือดผสมหลงเหลืออยู่ให้เห็น ส่วนพลังธาตุเหล่าฝั่งรัตติกาลที่ฉลาดกว่าจึงนำมนุษย์ที่จับได้ไปทดลองอยู่หลายพันปีจนกระทั่งสามารถทดลองจนดึงพลังธาตุพันปีมาอยู่ในการครอบครองของปีศาจได้ในที่สุด ซึ่งผู้ที่ได้รับจะมีอายุเพียง 1,000 ปีเท่านั้นทั้งมนุษย์และเผ่าปีศาจ หรือหากเสียชีวิตลงก่อนเวลาพลังจะเลือกหาทารกที่เพิ่งเกิดและมีคุณสมบัติเหมาะสมทันที เนื่องจากความบาดหมางและความขัดแย้งจากในอดีตเหล่าทั้งสองทวีปจึงได้ต่อสู้กันมายาวนาน จนเกิดความสูญเสียมากมายและเกิดเป็นความแค้นที่ไม่หมดสิ้น เกิดสงครามและการแย่งชิงมากมายของเหล่าปีศาจและมนุษย์ที่มีประวัติศาสตร์มากกว่าหมื่นปีและจะเกิดสงครามใหญ่ที่สุดในหนึ่งพันปี ในสนธิสัญญา Dark-Sun เพื่อชำระพันธะสัญญาว่าผู้ใดจะได้ครองชัยชนะและปกครองทุกสิ่งอย่างบนโลกใบนี้ โดยใช้สงครามอันยิ่งใหญ่สุดในรอบพันปีมาตัดสินมาทุกครั้ง สงครามทุกพันปีจะรุนแรงมากพอที่จะทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างและรวมถึงฝั่งรัตติกาลจะแอบใช้วิธีผิดกฎของโลกมาใช้ทุกครั้ง คือการอัญเชิญสัตว์ร้ายและสัตว์อสูรผู้มีสายเลือดของหนึ่งในปีศาจในตำนานออกมาใช้ หากมีวิธีสามารถอัญเชิญมาได้ ซึ่งยังไม่มีปีศาจฝั่งรัตติกาลตนไหนที่สามารถเรียกอัญเชิญออกใช้ได้แม้แต่ตนเดียว ถึงแม้จะมีการใช้พิธีกรรมที่ถูกต้องแล้วก็ตาม ทางฝั่งรัตติกาลจึงหาวิธีมาตลอดเวลา แต่ทว่าผ่านมานับ 12,000 ปี ก็ยังต่อสู้กันเรื่อยมา แม้ส่วนมากมนุษย์จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ซะส่วนใหญ่แต่ทว่ามนุษย์ก็เริ่มชนะมหาสงครามขึ้นมาได้มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ทางดินแดนรัตติกาลไม่พอใจและสร้างความเกลียดต่อมนุษย์ที่อ่อนแอกว่าตนมากขึ้นเป็นทวีคูณ ที่มนุษย์สามารถยกเผ่าพันธุ์ตนเองมาเทียบเคียงตน เหล่าปีศาจจึงใช้สนธิสัญญามาอ้างสิทธิ์อันชอบธรรมมาใช้อย่างไม่จบไม่สิ้น เพื่อชัยชนะของตนเองที่จะได้บดขยี้ศัตรูด้วยความชิงชัง สนธิสัญญาจึงไม่มีผลอะไรอีกต่อไปเหลือแค่เพียงสนธิสัญญาที่ไร้ซึ่งอำนาจและพลังที่ใช้ยุติสงคราม แต่ทว่ากลับถูกใช้อ้างสิทธิเพื่อความกระหายสงครามของเหล่ามนุษย์และปีศาจ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ร้อยกี่พันปีหรือหมื่นปีก็ตาม เหล่ามนุษย์ อมนุษย์ ปีศาจ แม้กระทั่งทวยเทพยังหลงระเริงไปกับสงคราม ซึ่งส่งผลมากมายมหาศาลต่อโลกใบนี้ ไม่ว่าจะชีวิตอันมากมายของเหล่ามนุษย์และปีศาจที่สูญสิ้นไปนับร้อยล้านชีวิตที่ตายลงในสนามรบมาตลอดเกือบหมื่นปี เหล่าผู้คนต่างเรียกและขนานนามเหตุการณ์นี้ว่า

'มหาสงครามพันปี '

เธอคือ ทายาทคนสุดท้ายของเหล่าอัศวินผู้มีสายเลือดมังกรในกาย คือตระกูลวอร์ลาเซีย อัศวินสายเลือดมังกรแห่งราชอาณาจักรสเกลดิโอ ดินแดนทางมหาทวีปตะวันออก หรือเป็นดินแดนที่เหล่ามนุษย์และอมุษย์ฝั่งแสงสว่างอาศัยอยู่และคอยปกป้องมหาทวีปจากการรุกรานจากเหล่าปีศาจจากดินแดนมหาทวีปมืดตะวันตก หนึ่งในมหาสามตระกูลบนโลกใบนี้ที่มีสายเลือดผสมอันหายากไหลเวียนอยู่กาย ซึ่งตระกูลของเธอคือผู้มีสายเลือดระหว่างมนุษย์และเผ่ามังกรดำโบราณที่หายสาปสูญไปในอดีตกาลแล้ว ในปัจจุบันเหลือเพียงเธอคือสายเลือดผสมมนุษย์และมังกรเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ในฐานะผู้สายเลือดมังกรดำ

เหล่าอัศวินสายเลือดมังกรได้มีประวัติศาสตร์ตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักรแห่งมหาทวีปทั้งสอง ซึ่งเป็นที่หวาดกลัวและน่าเกรงขามกับฝั่งทวีปแห่งรััตติกาลเป็นอย่างมาก จนกระทั่งตระกูลวอร์ราเซียได้ถูกฆ่าล้างตระกูลจากฝีมือของเจ้าชายแวมไพร์ผู้มีพลังธาตุไฟพันปีจนหมดสิ้น เหลือเพียงแค่เด็กสาวที่มีนามว่า 'สเตลล่า' ที่ยังคงมีชีวิตรอดอยู่และกลายเป็นความหวังและความหวาดกลัวของตำนานอัศวินเลือดมังกรคนสุดท้าย

เพราะว่าเธอจะกลายเป็นนักรบอันแสนเก่งกาจเพื่อสร้างความหวดกลัวให้เหล่าปีศาจในอีกไม่ช้า

ความอันตรายที่ดับสูญจะกำเนิดขึ้นอีกครั้ง

พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ได้หลับใหลอยู่ในสายเลือดของเธอจะตื่นขึ้นจากนิทราอันชั่วนิรันดร์

เพื่อรอคอยที่จะได้คืนชีพขึ้นในต่อสู้ของมหาสงครามพันปีอันยาวนานอีกครั้ง

ตามคำนายโบราณกาล

ทายาทแห่งมังกรจะสยายปีกไปทั่วท้องนภา

หยาดโลหิตจะย้อมบนพื้นธรณี

แสงอาทิตย์และจันทราจะบรรจบกัน

ดวงจันทราจะแดงชาดเป็นเลือด

แสงสว่างจะทำลายความอุบาทของรัตติกาล

เปลวเพลิงนรกโลกันต์จะมอดไหม้ไม่ดับ

สงครามจะไม่สิ้นสุดลง

มหาสงครามพันปีจะได้อุบัติขึ้นอีกครา

แม้เธอจะถูกมองว่าอันตราย

แต่สำหรับเขาทั้งสามคน เธอคือ สตรีอันแสนสำคัญต่อตนแม้ว่ามุมมองจะแตกต่างกัน

สำหรับเขาผู้เป็นดั่งหยาดโลหิตอันหอมหวาน เธอคือรักแรกเพียงหนึ่งเดียวที่เขาผู้เป็นจะทำทุกทางเพื่อที่จะให้ได้เธอมาครอบครอง โดยไม่สนวิธีอะไรก็ตาม หากมันแลกได้กับการที่เขาได้เธอมาครอบครอง แม้ความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์และรวมถึงการที่เขาจะได้เป็นราชารัตติกาลผู้ขึ้นครองราชบัลลังก์รัตติกาลที่พันธการเขาไว้ตั้งแต่แรกแล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่อาจหยุดความปรารถนาอันแสนอันตรายที่มีต่อเธอไปได้ แม้เขาจะทำให้หัวใจเธอเจ็บปวดก็ตามที่ต้องทำให้เธอทรมาน แต่เขาไม่สนสิ่งใดหากแลกกับการให้เธอหันมาสนใจเขาบ้าง

สำหรับเขาอีกคนผู้ที่แสนอ่อนโยน เธอคือแสงสว่างในหัวใจของเขาตั้งแต่วัยเยาว์ที่คอยส่องแสงสว่างอยู่เคียงข้างเขาเสมอ แม้มันจะเป็นเพียงหน้าที่และฐานันดรระหว่างเจ้าชายผู้ที่จะเป็นกษัตริย์ในอนาคตและองค์รักษ์ผู้เป็นตระกูลดยุคที่เชื่อมความสัมพันธ์ของระหว่างเขาและเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกของเขามันมีต่อเธอมากขึ้นจนชัดเจนทุกครั้ง เขาจึงอยากพยายามเข้าถึงหัวใจที่ปิดตายของเธอให้มากที่สุดและอยากที่จะทำให้เธอก้าวข้ามออกมาจากอดีตอันแสนเศร้าที่ตามหลอกหลอนเธอผู้เป็นที่รักไปด้วยกันกับเขา เธอคือคนสำคัญที่มีความหมายกับเขาเหลือเกิน เธอเป็นทั้งเพื่อนและคนที่เขารัก

สำหรับเขาอีกคนที่แสนอำมหิต เธอคือสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาตระหนักถึงความรัก เหตุการณ์ฆ่าล้างบางตระกูลของเธอทำให้เขาเลือกที่จะไม่ฆ่าเธอจึงปกป้องเธอแทน แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆที่เขาได้พบเธอ แต่เขาอยากที่จะปกป้องเธอไว้ ทำให้เขารับรู้ถึงความรู้สึกที่เคยตายด้านในใจต่อเธอจนเป็นความรักต้องห้ามของเขาเสียเอง เพราะตั้งแต่เกิดมาเขาเป็นเพียงแค่อาวุธที่มีชีวิตเท่านั้นและไม่อาจดึงเธอมาพัวพันอยู่กับปีศาจอันแสนอำมหิตและเย็นชาแบบตนเองได้ จึงเลือกที่จะจากเธอไปตลอดกาล

แต่ทว่าสำหรับเธอนั้น

เขาผู้เป็นดั่งหยาดโลหิตอันน่าวิปลาส เป็นคนที่เธอไม่คิดที่จะรัก แม้ว่าเธอจะรู้สึกดีกับเขาเสมอในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันเพราะเธอเห็นเขาเป็นดั่งเพื่อนพ้องคนสำคัญ แต่ทว่าเขากลับเป็นถึงเจ้าชายแวมไพร์จากมหาจักรพรรดิรัตติกาลที่แฝงตัวเข้ามาและฆ่าพวกพ้องของเธอและคนบริสุทธิ์ไปมากมาย เธอจึงต้องตัดใจเป็นศัตรูของเขาเพราะหน้าที่อัศวินที่เธอแบกรับไว้เสียเอง แม้ในใจเธอจะไม่อยากที่เชื่อว่าจะต้องเป็นศัตรูกับเขาก็ตาม ทำให้จากความรักจึงกลายเป็นความเย็นชา เธอไม่ต้องการสิ่งใดอื่นนอกจากหยาดโลหิตที่เขาต้องหลั่งเลือดที่ไปเข่นฆ่าเพื่อนๆของเธอให้เขาต้องหลั่งโลหินคืนกลับมาเท่านั้น

แด่เขาอีกคนผู้เป็นดั่งแสงสว่าง ที่เธอทั้งเคารพและเทิดทูลและจะปกป้องเขาไปตลอดกาลและถวายได้แม้กระทั่งชีวิตเพื่อเขาผู้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป เขาคือผู้ที่ช่วยดึงเธอออกมาจากความมืดมิดและอดีตอันโหดร้ายที่คอยตามหลอกหลอนเธอมาตลอด ความอบอุ่นและความอ่อนโยนของเขานั้นช่วยทำให้เธอเข้าใจและเรียนรู้สิ่งต่างๆได้มากขึ้น เพราะเขานั้นจะคอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ ไม่ว่าจะตอนไหนก็ตาม เขาจึงเป็นคนสำคัญที่ทำให้เธอก้าวข้ามความยากลำบากมาได้และเขาคือแรงผลักดันให้เธออยากแข็งแกร่งเพื่อที่จะได้คอยอยู่เคียงข้างเขาเพื่อปกป้องและถวายชีวิตให้แด่เขาจนวันตาย

เขาอีกคนเป็นผู้เป็นดั่งเปลวเพลิงอันมอดไหม้ เธออยากที่จะอยู่ด้วยกับเขาอีกครั้งแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ อยากขอบคุณเขาที่ทำให้รู้ว่าในช่วงชีวิตที่โหดร้ายมีเพียงเขาที่ยอมปกป้องเธอไว้ ถึงตอนนี้แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างไกลจากเธอมากเกินไปจนเธอไม่อาจจะวิ่งไล่ตามเขาทันได้เสียแล้วก็ตาม เธออยากที่จะพบเจอเขาอีกครั้งและอยากที่จะอยู่กับเขาผู้เป็นที่รักให้มากกว่านี้ เขาทำให้เธอตระหนักได้ถึงความรักที่แท้จริง แม้ว่าความรู้สึกของเธอจะไม่อาจส่งไปสิ่งเขาที่อาจจะไม่เคยรักเธอก็ตาม แต่เธอยังคงรอคอยเขาเสมอมา ถึงจะผ่านเวลาที่เคยพบเขามาถึง 10 ปีแล้วก็ตาม

ตัวละครหลัก

ดยุค สเตลล่า อัลคาร์ค วอร์ราเชีย

ฉายา อัศวินนักรบมังกรดำ,

อัศวินนักรบสายเลือดมังกรในตำนานคนสุดท้าย,

สเตลล่า จอมมฤตยูแห่งมังกรดำ

สูง: 170

อายุ: 17 ปี

เกิด : 31 ตุลาคม ปีแสงอรุณที่ 6,982

ตระกูล: อดีตผู้นำตระกูลอัศวินแห่งราชอาณาจักรสเกลดิโอ, ดยุคแห่งวาลัคเคีย ผู้ปกครองดินแดนตะวันตก (คฤหาสน์ของดยุคทั้งหมด 4 ตระกูลจะตั้งอยู่ใกล้เมืองหลวงหมดและถ้าตั้งอยู่ส่วนไหนก็ตาม บริเวณหลังคฤหาสน์เป็นต้นไปจะเป็นดินแดนของแต่ล่ะตระกูลดยุค)

นักเรียนของคลาสปี 6 ของชั้นเรียนสายนักรบ แห่งโรงเรียนการต่อสู้และเวทย์มนต์ เป็นอัจริยะที่เก่งที่สุดของรุ่นนักรบ เป็นเด็กสาวที่แสนเย็นชาที่มีแต่คนรู้จักในนาม 'สายเลือดมังกรอัศวินในตำนานคนสุดท้าย' เก่งเรื่องการต่อสู้ทุกประเภทเพราะต้องทำหน้าที่อัศวินและเป็นดยุค จึงได้ฝึกฝนตนเองและถูกฝึกฝนอย่างหนักโดยเบริค ผู้นำเผ่าราชอาณาจักรมังกรดินแดนติดกัน ซึ่งเป็นญาติห่างท่เหลืออยู่คนสุดท้ายของตนเอง กษัตริย์เบริคได้ทรงแวะมาเลี้ยงดูเธออย่างใกล้ชิดมาตลอด เธอได้ถูกเลือกล่วงหน้าไว้ตั้งแต่วัยเยาว์ให้เป็นองค์รักษ์คนที่ 2 ของเจ้าชายเดเวนโน่ที่จะเป็นกษัตริย์ในอนาคต ปัจจุบันอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลวอร์ราเชียคนเดียวและมีเบริคแวะมาบ่อยๆ เพราะพ่อกับแม่ได้เสียชีวิตจากสงครามเมื่อ10 ปีก่อน แล้วญาติคนอื่นๆถูกฆ่าตายหมด และมีเพื่อนสนิทคนเดียวคือคริสติน่า เธอมีชุดเกราะมังกรดำของผู้นำตระกูลรุ่นแรกอยู่ในครอบครองรวมถึงดาบโลหิตมังกรดำ รวมใช้เวทย์มนต์พื้นฐานอื่นๆได้หมด เธอมีความสามารถพิเศษในการสร้างและตีอาวุธขึ้นเองได้จากตำราของตระกูลตนเอง จุดเด่นของตระกูลเธอ ทุกคนในตระกูลจะมีผมสีดำขลับกับดวงตาสีม่วงอัญมณีเป็นเอกลักษณ์ แต่มารดาของสเตลล่ามีสายเลือดเสี้ยวของชาวยูกิโนะโอนิผ่านทางทวด หน้าตาของเธอจึงแตกต่างจากจากคนอื่นในตระกูลเล็กน้อย (พ่อกับแม่เป็นญาติในตระกูลเดียวกัน) เธอมักจะสวมใส่สร้อยอัญมณีสีแดงของฮาเดสติดตัวตลอดเวลาอย่างไม่ทราบสาเหตุ หลังจากเธอรับตำแหน่งองค์รักษ์ของเจ้าชายเดเวนโน่ เขาก็ได้พาเธอและแคสเปอร์ออกเดินทางผจญภัยในโลกกว้างที่เธอไม่เคยได้ทำมาก่อน และได้ไปทำภารกิจมากมายในอาณาจักรและดินแดนต่างๆทั่วมหาทวีปแสงอาทิตย์ฝั่งตะวันออกบ่อยๆ

เจ้าชายองค์รัชทายาทลำดับที่ 1 แห่งมหาจักรวรรดิออร์ฟิอัส

จอห์นนี่ แบล็คเรสเธอร์

ฉายา ราชันย์แวมไพร์แห่งโลหิต

เจ้าชายแห่งมหารัตติกาลผู้กระหายเลือด

สูง:188 cm

อายุ: 318 ปี

เกิด : 21 พฤษภาคม ปีรัตติกาลที่ 11,682

ตระกูล : ราชวงศ์ราชาแวมไพร์แห่งมหาจักรวรรดิออร์ฟิอัส ดินแดนรัตติกาล

เป็นเจ้าชายแวมไพร์ที่แฝงกายมาเรียนปี 6 ในโรงเรียนเดียวกับสเตลล่า เป็นคนที่ฉลาด กวนประสาท เจ้าเล่ห์ แต่ก็มีความเป็นผู้นำ มีความอำมหิตสูงเวลาต้องสู้ มีความชัดเจนและเด็ดขาดในการตัดสินใจทุกอย่างและเก่งกาจในเรื่องการรบไม่ว่าจะต่อสู้ตัวต่อตัวหรือใช้อาวุธและศาสตร์การเรียนรู้สำหรับผู้ปกครองจักรวรรดิได้ยอดเยี่ยม เรื่องภารกิจและสิ่งต่างๆที่ต้องทำเขาก็จัดการทำสิ่งนั้นได้เก่งและสำเร็จทุกอย่าง เรียกว่าแทบสมบูรณ์แบบก็ว่าได้ ทว่าเสียอย่างเดียวที่เขากลับบ้าผู้หญิงไปเสียหน่อย อยากได้สเตลล่ามาเป็นคนรักเพราะตัวเองอาจจะต้องขึ้นเป็นราชาแวมไพร์ในอนาคตและเขาก็ชอบสเตลล่ามากยิ่งกว่าสตรีใดๆซะอีก เขาได้ตามหาอะไรบางอย่างในสเกลดิโอเพียงชั่วคราว เขามีมหาเวทย์ปีศาจแห่งโลหิต 𝗕𝗹𝗼𝗼𝗱 𝗗𝗲𝗺𝗼𝗻 𝗠𝗮𝗴𝗶𝗰 ที่สามารถใช้เลือดสร้างสิ่งของต่อสู้และกลายร่างเป็นเลือดได้ หรือทำสิ่งอื่นๆได้ตามใจคิดและตามที่ผู้ใช้จินตนาการได้ ยิ่งกินเลือดของคนที่มีพลังกายสูงและกินเลือดมนุษย์มากเท่าไหร่ พลังจะแข็งแกร่งมากขึ้น พลังที่แท้จริงยังคงเป็นความลับ เพราะไม่มีแวมไพร์ที่ครอบครองพลังนี้ตนไหนสามารถเข้าถึงพลังที่แท้จริงได้เลยสักตนเดียว ทั้งๆที่พลังนี้ทรงอนุภาพร้ายแรงมากที่เดียว แต่จอห์นนี่จึงถูกคาดหวังไว้สูงว่าจะต้องใช้พลังนี้ที่แท้ให้จงได้ เพราะเขาขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพี่น้องตนเอง เขาจึงชอบต่อสู้กับคนที่เก่งๆเสมอ เขาไม่ได้ใช้อาวุธหรืออาวุธวิเศษเป็นของตนเอง ส่วนมากจะใช้ดาบดำธรรมดาแต่จะใช้พลังเลือดรวมร่างกับดาบจนดาบเป็นสีแดงเข้ม ความสามารถของเขาค่อนข้างเป็นสิ่งน่ากลัวสำหรับศัตรูเป็นอย่างมาก ในสงครามเขาจึงเป็นแวมไพร์ที่ฝั่งดินแดนแห่งแสงอาทิตย์ไม่อยากเจอด้วยรองลงมาจากฮาเดสน้องชายของเขาเอง เขาและพี่น้องคนอื่นๆไม่สนิทกับน้องชายอย่างฮาเดสสักนิดเดียว เพราะคำสั่งของราชาผู้เป็นพ่อ ในใจลึกเขาไม่อยากที่จะต้องนั่งขึ้นครองบัลลังก์รัตติกาลแต่ทว่าเขาก็ไม่อยากส่งต่อภาระอันยิ่งใหญ่ให้น้องๆของตนเองทุกคน แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าไม่มีน้องคนไหนที่จะต้องการบัลลังก์เช่นกัน แต่ทว่าในเงามืดแวมไพร์บางตนส่วนน้อยในตระกูลอื่นๆต่างต้องการแย่งชิงบัลลังก์รัตติกาล เขาจึงต้องคอยกำจัดแวมไพร์และผู้ต่อต้านเหล่านั้นทันทีเพื่อราชวงศ์ตนเอง เขามีคู่หมั้นคือ คลอเนเรีย แวมไพร์สาวเลือดบริสุทธิ์เหมือนเขา

เจ้าชายองค์รัชทายาทลำดับที่ 1 แห่งราชอาณาจักรสเกลดิโอ

เดเวนโน่ อัลฟอลเซ่ วาเรนไลอ้อน

ฉายา มหาวีรบุรุษผู้พิชิตแห่งรุ่งอรุณ,

แสงสว่างแห่งราชอาณาจักรสเกลดิโอ

สูง: 185 cm

อายุ: 25 ปี

เกิด : 2 สิงหาคม ปีแสงอรุณที่ 6,974

ตระกูล : ราชวงศ์กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรสเกลดิโอ ดินแดนแสงอาทิตย์

ว่าที่กษัตริย์ในอนาคต เป็นอ่อนโยนและค่อนข้างกับทุกคน ฉลาด รอบคอบ มีความเป็นผู้นำ และมีความเฉียบขาดในการตัดสินใจต่างๆ เขาคือเจ้าชายคนโตของราชอาณาจักรสเกลดิโอ และเป็นกษัตริย์ในอนาคตอย่างแน่นอน เขามีน้องอีก 3 คน เขาชอบสเตลล่ามาตั้งแต่วัยเยาว์แล้ว เนื่องจากเขาได้เดินทางไปศึกษาที่ดินแดนอื่นมานานมากเกินไป จนผ่านมา10 ปี จึงไม่ได้พบสเตลล่าเลย เพราะหน้าที่ของเขาแม้ว่าเขาจะอยากกลับมาหาสเตลล่าเมื่อได้ยินข่าวว่าตระกูลเธอถูกฆ่าทิ้งหมดเหลือรอดเพียงเธอคนเดียว พอเขากลับมาทำหน้าที่ของราชวงศ์จึงให้สเตลล่าทำหน้าที่องค์รักษ์ทันที เขามีพลังแรร์คือเวทย์อัญเชิญสายขาว ทำให้เขาสามารถเรียกใช้อาวุธหรือสิ่งของๆที่ทำสัญญาและที่เก็บสะสมไว้เองออกมาใช้สู้ได้ รวมถึงสัตว์ต่างๆหรือสัตว์เวทย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆออกมาได้ เขามีทักษะใช้เวทย์พื้นฐานขั้นสูงและใช้อาวุธทุกประเภทได้เก่งกาจ ว่ากันว่าเขามีอาวุธในตำนานของราชวงศ์แสงและจากที่อื่นๆเก็บไว้ครอบครองมากมายและใช้ได้หมดทุกอย่างด้วย ซึ่งอาวุธในตำนานที่ไม่ใช่ว่าผู้ใดจะใช้ได้ เขามักจะพาองค์รักษ์อย่างสเตลล่าและแคสเปอร์ไปเดินทางผจญภัยไปทำภารกิจในอาณาจักรและดินแดนต่างๆทั่วมหาทวีปแสงอาทิตย์ฝั่งตะวันออก

เจ้าชายลำดับที่ 5 แห่งมหาจักรวรรดิออร์ฟิอัส

ฮาเดส  แบล็คเรสเธอร์

ฉายา ปีศาจมารเพลิงโลกันตร์,

ฮาเดสผู้เหี้ยมโหด,มัจจุราชแห่งยมโลก,

เจ้าชายฮาเดสผู้ครอบครองพลังธาตุไฟพันปี

สูง: 186 ปี

อายุ: 314 ปี

เกิด : 13 ธันวาคม ปีรัตติกาลที่ 11,686

ตระกูล : ราชวงศ์ราชาแวมไพร์แห่งมหาจักรวรรดิออร์ฟิอัส ดินแดนรัตติกาล

เขาคือเจ้าชายที่เหี้ยมโหดและแข็งแกร่งมากสุดในราชวงศ์แบล็คเรสเธอร์ ผู้ถือครองพลังธาตุไฟพันปีในตำนาน เป็นน้องชายของจอนนี่คนน้องสุดและเป็นบุตรชายของราชาแห่งรัตติกาลเจ้าชายองค์เดียวในบรรดาพี่น้องตนเองที่ไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นองค์รัชทายาทเพราะบิดาของเขาเกลียดเขามากยิ่งกว่าอะไรทั้งมวลเพราะคำทำนายกับพลังธาตุไฟที่เขาได้ครอบครองทั้งๆที่ฝั่งรัตติกาลไม่มีใครได้มาก่อนเพราะมันเป็นพลังธาตุต้องสาปสำหรับรัตติกาล เขามีนิสัยนิ่งขรึม ไม่ค่อยสุงสิงหรือพูดจากับใครสักนิดเดียว ้เขาค่อนข้างน่ากลัว โหดร้าย เหี้ยมโหด เลือดเย็น รวมถึงเขาไร้ความรู้สึก ไม่สนใจใครและฆ่าได้ทุกคนหากอยากฆ่าขึ้นมา โดยเฉพาะคนที่พูดจาไม่เข้าหูตนเอง แม้เขาจะดูฟังคำสั่งคนอื่นแต่ก็ฉลาดมากกว่าที่ใครๆคิดเยอะเลยทีเดียว คนอื่นๆจึงกลัวเขามาก เขามีพลังธาตุไฟที่ 1,000 ปี จะจุติลงมาในร่างเด็กทารก พลังธาตุของเขาแทบจะไม่มีขีดจำกัดและเขาสามารถควบคุมได้อย่างหลากหลายและอาจจะเป็นผู้มีพลังธาตุอีกคนที่สามารถเข้าถึงแก่นแท้ของพลังตนเองที่อาจใช้พลังในโบราณได้ จากการสันนิษฐานของซาโตรุ เขาเป็นบุตรชายของราชารัตติกาลคนเดียวเขาถูกใช้ในการต่อสู้มาตั้งแต่เด็กและไม่มีเพื่อนเลยสักคนเดียว ในวัยเยาว์เขาเคยถูกขังในคุกและไม่ให้ยุ่งกับพี่น้องตนเอง ส่งผลให้เขาชอบอยู่คนเดียวและห่างไกลจากทุกคนและเขาก็ไม่ชอบที่จะให้ใครมารุกล้ำคฤหาสน์ตนเองมากที่สุดแม้จะเป็นราชาผู้เป็นพ่อตนเองก็ตาม เขามองโลกในแง่ร้ายตลอด จนกระทั่งเมื่อเกือบสิบปีก่อน เขาได้ไว้ชีวิตเด็กสาวคนหนึ่งนั่นคือ สเตลล่า เขาได้มอบสร้อยคออัญมณีสีแดงที่บรรจุพลังเวทย์ของเขาคอยคุ้มกันทันทีหากเกิดอันตรายกับสเตลล่าขึ้นมาและมีกลไกบางอย่างติดตั้งในสร้อยคอไว้ แต่เขาไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับสร้อยให้สเตลล่ารู้ เขามักจะชอบหายตัวไปเสมอและไม่มีใครสามารถตามหาตัวเขาได้ นอกจากเขาจะปรากฏตัวมาให้เจอเอง ซึ่งจะเป็นแค่เวลาที่เกิดสงครามใหญ่เท่านั้นที่เขาจะกลับมา ส่วนมากเขาจะคุยกับซาโตรุเล็กน้อยและกับพี่น้องตนเองบางครั้ง รวมถึงพูดกับราชาเมื่อจำเป็นเท่านั้น เขาเคยจะถูกแวมไพร์คนหนึ่งในตระกูลดาร์คเคสที่ต้องการใช้เขาเป็นหุ่นเชิดเพื่อให้ได้บัลลังก์รัตติกาล แต่เขาก็รู้ทันและไม่สนใจใคร จึงได้ใช้ไฟแผดเผาผู้นั้นจนตายต่อหน้าราชาและพี่น้องตนเองและไม่มีผู้ใดกล้าดึงเขาไปเป็นหุ่นเชิดอีกเลย เพราะหวาดกลัวเขา ฮาเดสมักจะฆ่าผู้อื่นอยู่เสมอตั้งแต่วัยเยาว์และเขาในตอนนี้มีฐานะเป็นเจ้าชายที่เพียงทำหน้าที่เป็นตุ๊กตาของราชวงศ์ไว้ฆ่าผู้อื่นที่ได้รับสั่งมาเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในการฆ่าที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของเขา คือ ' การฆ่าล้างบางตระกูลวอร์ลาเซีย ' จนตายตระกูลเหลือเพียงสเตลล่าคนเดียวที่เขาไม่ฆ่าและการที่ปล่อยให้สเตลล่ารอดทำให้เขาถูกฝั่งรัตติกาลสาปส่งหนักกว่าเดิมอีก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจนัก

ซาโตรุ เรดตัน

นามสกุลเดิมคือ เรดตันเรลเดอร์ แต่ได้เปลื่ยนเพื่อที่จะไม่ให้ผู้อื่นรู้ถึงตัวตนในอดีตเมื่อ 957 ปีก่อน

ฉายา นักรบนัยต์ตาอสูร

สูง:190 cm

อายุ: 989 ปี

เกิด : ไม่ทราบวัน แต่เกิดในฤดูหนาว ปีรัตติกาลที่ 11,011

ตระกูล: อดีตราชวงศ์เรดตันเรดเดอร์แห่งราชอาณาจักรโบราณเรดตันที่ล่มสลายไปเมื่อ 957 ปีก่อน เพราะถูกราชอาณาจักรอื่นๆช่วยล้มล้างราชวงศ์ลง

เผ่าพันธุ์ : มนุษย์(อดีต) แวมไพร์

แอบแฝงเข้ามาในสหราชอาณาจักรสเกลเลโอ เพื่อตามหาคนรักที่ได้กลับชาติมาเกิดใหม่ตามคำทำนายของแม่เฒ่าแวมไพร์ นิสัยเป็นคนร่าเริง ฉลาดกว่ามนุษย์แล้วแวมไพร์ตนอื่นๆ ในพวกหมู่แวมไพร์รุ่นใหม่เขาเป็นผู้ที่มีความเป็นผู้ใหญ่และน่าเคารพมาก อดีตของเขาเคยเป็นคนในราชวงศ์ทางอาณาจักรโบราณเรลตันที่ล่มสลายไปแล้วในมหาทวีปตะวันออก เขาเป็นบุตรชายนอกสมรสของกษัตริย์วิปลาสแต่เขาถูกแต่งตั้งเป็นแค่นักรบแห่งราชวงศ์เพื่อสงครามเท่านั้น เขาทรยศและทำร้ายเขาเสียเอง เพราะมีแม่เป็นทาสที่มีสายเลือดชาวยูกิโนะโอนิผสมอยู่และมีพี่สาวคนล่ะแม่ของซาโตรุอยู่ก่อนแล้วแต่แม่เขากลับเรียกทรัพย์สินจากทางราชวงศ์เป็นจำนวนมากและทิ้งเขาและพี่สาวให้อยู่ในราชวังอันแสนโสโครกและต้องทนโดนดูถูกตลอดทั้งชีวิต เขาถูกแวมไพร์ช่วยชีวิตไว้เพราะใกล้จะตาย จนได้กินเลือดของแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์นั่นคือ ราชารัตติกาลตนปัจจุบัน จึงได้กลายเป็นแวมไพร์เทียม(เป็นแวมไพร์ที่เรียกได้ว่าเป็นพวกที่ถูกเลือดบริสุทธิ์สร้างขึ้นโดยเลือดเนื้อ มีเพียง1%ที่สามารถเป็นแวมไพร์เทียมที่มีพลังอาจเท่าๆกับแวมไพร์ขั้นราชาผู้มอบพลังแวมไพร์ให้ได้เลยทีเดียว) เขาเป็นมือขวาของราชาแวมไพร์ ซาโตรุได้ถูกบังคับให้ช่วยคุ้มครองลูกชายที่ได้มาอยู่ในสังคมมนุษย์ชั่วคราวเพราะหาอะไรบางอย่าง เขามีพลังนัยต์ตาอสูรที่สามารถมองและจับสัมผัสและมองเห็นได้จากในระยะไกลจากบนท้องฟ้าและในอาณาเขตที่มีสัญลักษณ์อาคมเวทย์ที่เขาติดตั้งไว้หากไกลเกินไปอาจจะทำให้ไม่ค่อยชัดเจน รวมถึงสร้างภาพลวงตาได้ ความสามารถของเขาจึงถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของทางดินแดนรัตติกาล เขารักกับคริสติน่าตั้งแต่ตอนเป็นมนุษย์อายุ 12 ปี แต่ทว่าเมื่อเขาอายุ 32 ปี เธอก็ได้ถูกกษัตริย์ผู้เป็นพ่อต้องการตัวสั่งทหารทำร้ายเธอจนตาย โดยการกล่าวหาว่าเธอเป็นพวกซาตานและทรมานเธอจนใกล้ตาย แล้วนำเธอมาตัดคอเอาร่างไปเผาไฟจนเหลือแต่เพียงศีรษะ เขาจึงได้สติหลุดแล้วกวาดล้างราชวงศ์ตนเองทิ้งไปบางส่วนก่อนที่อาณาจักรจากถูกประเทศอื่นทำลายล้างลง เขาได้พาพี่สาวหนีส่งไปราชอาณาจักรสเกลดิโอ ลูกหลานของพี่สาวเขาได้กลายเป็นตระกูลชนชั้นสูงในประเทศนั้นไป จนกระทั่งเรเอลน่า(คริสติน่า)กลับชาติมาเกิดใหม่ เขาจึงคอยไปเฝ้าดูตั้งแต่เธอกำเนิดมาอย่างห่างๆมาตลอดรวมถึงค่อยช่วยเหลือลูกหลานพี่สาวตนเองเช่นกัน เขารอคอยที่จะเริ่มต้นความรักกับเธอใหม่แม้ว่าเธอจะจำเขาไม่ได้

คริสติน่า เลออนฮาร์ท เมอร์ลิน

ชื่อชาติก่อน เรเอลน่า

ฉายา บทเพลงดอกไม้แห่งตระกูลเมอร์ลิน

สูง: 160 cm

อายุ: 17 ปี

เกิด : 18 มิถุนายน ปีแสงอรุณที่ 6,982

ตระกูล : มาร์ควิส , ขุนนางนักปราชญ์สายเช่นแร่แปรธาตุ

(ตระกูลมาร์ควิสเป็นตำแหน่งรองมาจากตระกูลดยุค)

นักเรียนของคลาสปี 6 ของชั้นเรียนสายเล่นแร่แปรธาตุแห่งโรงเรียนการต่อสู้และเวทย์มนต์ เป็นสตรีที่งดงามของโรงเรียนที่มีคนหลายๆคนแอบชอบ เพราะความน่ารักและความใจดีต่อคนรอบข้าง เป็นลูกสาวของหัวหน้าขุนนางนักปราญช์ในวัง มีพี่ชายเป็นนักปราชญ์แห่งสายเล่นแร่แปรธาตุของกษัตริย์คนปัจจุบัน เธอคือคนรักของเรดตันที่ได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชาติก่อนเธอชื่อว่าเราเอลน่าเป็นคนรับใช้ของราชวังของซาโตรุและได้เป็นคนรักของเขาแต่ทว่าเธอกลับต้องมาตายอย่างทรมาน โดยการกล่าวหาว่าเธอเป็นพวกซาตานและทรมานเธอจนใกล้ตาย แล้วนำเธอมาตัดคอเอาร่างไปเผาไฟจนเหลือแต่เพียงศีรษะ ทำให้ซาโตรุสติหลุดจนกวาดล้างราชวงศ์ตนเองทิ้งไปเกือบหมดสิ้น เธอมีความสามารถพื้นฐานในรักษาคนและใช้เวทย์มนต์รวมถึงการเล่นแร่แปรธาตุเพราะฝึกฝนการเรียนด้านนักปราชญ์ของตระกูลมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ทว่าเธอมีพลังแรร์ที่แท้จริงคือการขับขานบทเพลงที่สามารถใช้พลังเวทย์เปลื่ยนมาเป็นพลังได้และควบคุมมารักษาและใช้ป้องกันและใช้ต่อสู้ได้พอสมควร ไม่นับความสามารถในการเล่นแร่แปรธาตุของเธอด้วย ถือว่าเป็นสตรีที่มีทักษะดีคนหนึ่งในฐานะขุนนาง ในวัยเด็กตอน 5 ขวบ เธอเคยเห็นซาโตรุมองเธออยู่ห่างๆมาก่อน จึงสงสัยมาตลอดว่าเขาเป็นใคร จนกระทั่งมาเจอเขาในฐานะอาจารย์สอนเวทย์มนต์คนใหม่แทน แต่เธอก็จำเขาไม่ได้

-----------

นิยายเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของมหาจักรวาล

Pólemos World

เนื้อหาจะมีอีกหลายเรื่องให้ติดตาม

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านด้วยที่ช่วยสนับสนุนและติดตามอ่านกัน