บทนำ
ทองฟ้าอันดำสนิทย้อมปิดทุกสรรพสิ่งบนท้องฟ้าให้ถูกกลืนดำสนิท แม้แต่ดวงจันทร์ที่เคยส่องแสงสว่างในยามค่ำคืน กลับแลดูมืดมิด ฝูงสัตว์มากมายเริ่มออกหากินตอนกลางคืน มีทั้งผู้ล่า และผู้ที่ถูกล่า มันไม่แปลกอะไรเลยเพราะมันคือธรรมชาติของใบโลกนี้นั่นเอง
“แฮ่ก แฮ่กๆๆ”
เสียงหายใจของชายหนุ่มคนหนึ่ง กำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่าง เขาวิ่งแบบไม่คิดชีวิต มือสองข้างก็พัลวันปัดกิ่งก้านต้นไม้ที่แกะกะตรงหน้า เพราะมันเป็นอุปสรรคในการหลบหนี
“แครก แครกๆ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่าๆๆๆๆ”
มีเสียงเหยียบใบไม้ใบหญ้าแห้งตามมาอย่างกะชั้นชิด ตามด้วยเสียงหัวเราะอันแหลมคม เฉียดแทงเข้าไปในแก้วหู บาดเข้าไปในหัวใจ ทำให้แสบไปถึงโสตประสาท รูปร่างของมันแตกต่างจากมนุษย์แค่นิดเดียว มีใบหูที่แหลมยาว ดวงตาเรียวคมมีสีแดงก่ำ มีฟันอันแหลมคม มันคือ
“แวมไพร์” พวกมันหิวกระหายเลือด ยิ่งได้ดื่มเลือดมนุษย์มันก็ยิ่งแข็งแกร่งและมีพลังมากขึ้น มันไล่ตามชายหนุ่มคนนั้นทัน มันยืนจังงังอยู่ข้างหน้า ใช้มืออันน่าเกียจของมันบีบที่คอของชายหนุ่ม แล้วยกตัวเขาขึ้นสูงเรื่อยๆ จนตอนนี้เท้าเขาไม่ติดพื้นแล้ว มันใช้เขี้ยวแหลมๆโน้มลงไปกัดที่ข้างต้นคอ มันค่อยๆดูดเลือดชายหนุ่มคนนั้นจนเขาเริ่มตัวขาวซีดเผือก มือเท้าของเขาเริ่มเกร็งขึ้นเรื่อยๆ ตาของเขาเหลือกลน เนื้อตัวแห้งเหี่ยว ในที่สุดเขาก็สิ้นใจไป
กรี๊ กรี๊ๆๆๆ!!!!!
มันส่งเสียงร้อง แล้วมันก็เปลี่ยนจากร่างที่เหมือนมนุษย์ กลายเป็นค้างคาวแล้วบินจากไปในความมืดสนิท
บทที่1 คนแปลกหน้า
ณ บ้านหลังหนึ่งแถวชานเมือง
มีหญิงสาวสวย ผมสีน้ำตาลทองตรงสลวย ดวงตากลมโต นัยน์ตาสีน้ำตาล ผิวขาวอมชมพู ปากสีแดงระเรื่อเป็นธรรมชาติ จมูกโด่งรับกับปากอันระเรื่อของฉัน (ดูจะไม่หลงตัวเองซักเท่าไหร่เลยนะเรา ) ชื่อของฉันคือ “อึนบี”
บ้านของฉันเป็นร้านขายดอกไม้เล็กๆ ฉันอยู่กับยายสองคน พ่อแม่ของฉันตายตั้งแต่ฉันได้3ขวบ ด้วยอุบัติเหตุรถคว่ำตกเหว ระหว่างที่ไปเที่ยวกับครอบครัว มีฉันที่รอดชีวิตเพียงคนเดียว
ฉันเลยอาศัยอยู่กับยายมาโดยตลอด ฉันไม่มีญาติที่ไหนนอกจากยายคนเดียว
“อึนบี มาหายายซิลูก” ยายเรียกให้ฉันเข้าไปหา แต่สีหน้าของยายดูไม่สู้ดีนัก
“คุณยายมีอะไรรึเปล่าคะ!?”
“ยายต้องไปต่างจังหวัดสักพักนะ หลานดูแลร้านแทนยายได้ไหม” ฉันแสดงท่าทีเป็นห่วงและกังวล เมื่อฉันได้ยินยายกล่าวเช่นนั้น(. .)” “ยายมีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ” ฉันถามยายอย่างเป็นห่วง
“เปล่าๆ ยายแค่จะไปเยี่ยมเพื่อนซะหน่อย ไม่ได้จัดปาร์ตี้กันตั้งนานแล้ว” ยายพูดพลางยิ้มๆ^^
ฉันเข้าสวมกอดยาย “ยายรีบไปรีบกลับนะคะ อึนบีคิดถึงยาย” >o<
กริ่ง กริ่ง!!
เสียงกระดิ่งที่ติดตรงประตูดังขึ้น มีชายหนุ่มแปลกหน้าเดินเข้ามา รูปร่างของเขาสูงโปร่ง ผิวขาวราวสำลี ปากแดงระเรื่อ จมูกโด่งเป็นสัน ผมสอยสีแดง ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยว นัยน์ตาสีน้ำเงินประกาย เขาหล่ออย่างเทพบุตร สายตาอึนบีมองเขาแบบไม่ละสายตา จนยายต้องสะกิดให้เธอไปต้อนรับลูกค้า แล้วยายก็เดินขึ้นบ้านไปจัดการเก็บข้าวของเพื่อออกเดินทางเย็นนี้
“สวัสดีคะ คุณต้องการซื้อดอกอะไรเหรอคะ” ฉันรีบออกมาตอนรับด้วยท่าทางเป็นมิตร
แต่ทว่า เขาไม่หันมามองฉันด้วยซ้ำ เขาเอาแต่ก้มหน้าดมหาดอกไม้อะไรสักอย่างต่อไป
เขาเดินไปที่มุมของร้าน แล้วหยุดอยู่ที่ดอกกุหลาบสีขาวที่ดูเหี่ยวเฉาและไม่สวยเหมือนดอกอื่นๆ เขาหยิบดอกกุหลาบที่เหี่ยวเฉาไปหลายช่อ ก่อนจะยิ้มที่มุมปาก แล้วบ่นพึมพำ
“ของดีแบบนี้เอามาวางไว้ตรงนี้ซะได้”
…….ทำไมเขาถึงต้องการดอกกุหลาบที่เหี่ยวเฉาแทนที่จะเป็นดอกไม้ที่สดใสสวยงาม……..
ฉันคิดในใจ เขาเดินตรงมาหาฉันเพื่อให้ฉันทำการห่อดอกกุหลาบที่เหี่ยวเฉาของเขา
เขาส่งดอกไม้ให้ฉัน พลันสายตาของเขาก็สบตากับฉันพอดี ฉันสบตากับเขา มันเหมือนกับว่ามีเวทมนต์อะไรสักอย่าง ที่สะกดให้ฉันอยู่นิ่ง ใบหน้าของเขาค่อยโน้มลงมาใกล้กับใบหน้าของฉัน จนฉันรู้สึกถึงถึงลมหายใจอันแผ่วเบาของเขา กลิ่นน้ำหอมของเขา หอมยิ่งกว่าดอกไม้ที่อยู่ในร้าน หัวใจของฉันเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าของฉันร้อนผ่าวแดงเป็นลูกมะเขือเทศ เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้เรื่อยๆฉันหลับตาปี๋ >////< “คุณครับ คุณมีอะไรติดที่ผมคุณน่ะ”
เพล้ง!!!!!! (เสียงหน้าของฉันที่แตกเป็นเสี่ยงๆ) เขายื่นมืออันเรียวยาวของเขาไปที่ผมของฉัน และหยิบเอากลีบดอกไม้เจ้ากรรมที่ติดผมฉันออก ไอ้ความคิดเจ้ากรรมมันก็ดันคิดลึกไปไกลถึงยุโรปแล้ว เจ้าค่าเอ้ย!!!
โอ้ย!!!!!!::>_<:: ในมือฉันยังถือดอกกุหลาบ ฉันบีบเข้าไปอย่างแรง หนามของกุหลาบก็ทิ่มมือของฉัน เลือดสดๆไหลออกมาT-T” ฉันร้องอุทานออกมาสุดเสียง ….ต้องมาเจ็บเพราะความโง่ของตัวเองแท้ๆ….. <(ˍ ˍ*)>ฉันคิดในใจพลางดึงหนามที่ทิ่มมือออก
เขาก็รีบคว้ามือของฉันขึ้นมาดู ชายหนุ่มเห็นแผลของฉัน แล้วเขาก็หยิบผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมา พันแผลให้ฉันอย่างชำนาญ “ฉันไม่เป็นคะ! ขอบคุณที่เป็นห่วงคะ” ฉันรีบกระชากมือของฉันออกจากชายหนุ่มแปลกหน้า ใบหน้าของฉันยังแดงระเรื่ออยู่ เพราะไม่เคยมีผู้ชายหน้าไหนมาจับมือแบบนี้เลย ชายหนุ่มแปลกหน้าวางเงินให้ฉัน แล้วหยิบดอกไม้ไปโดยที่ยังไม่ได้ห่อ เขายิ้มที่มุมปากอย่างกับรอยยิ้มของซาตาน แล้วเปิดประตูออกไป โดยที่ยังไม่ได้รับเงินทอน