โลกนี้ไซร้... ไร้หญิงสาว

ตลก

โลกนี้ไซร้... ไร้หญิงสาว

โลกนี้ไซร้... ไร้หญิงสาว

Poun:D

ตลก

0
ตอน
1.04K
เข้าชม
145
ถูกใจ
5
ความคิดเห็น
0
เพิ่มลงคลัง

การถึงจุดสิ้นสุดของโลกก็คงเหมือนเครื่องเกมที่เปิดเล่นมานานแสนนานแล้วก็ปิดไป...

และมันคงไม่ใช่เรื่องตลกเท่าไหร่ เมื่อวันสิ้นสุดของโลกมาถึงแล้วจริงๆ คลื่นน้ำมหาศาลยกสูงกว่าสิบเมตรถาโถมเข้าหาเมือง กวาดทุกสิ่งบนผืนแผ่นดินให้กลับไปอยู่ใต้ทะเล พ่อแม่ เพื่อน หรือทุกๆคนตายหมดเว้นแค่เขา...

ทิว... ทิวทัศน์ เลิศล้ำ อายุ 18 ปี เด็กหนุ่มหัวเกรียนสวมแว่นกรอบกลมกำลังยืนกระพริบตาปริบๆ เสื้อผ้าหลุดรุ่ย อยู่บนเกาะๆหนึ่งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองรอดจากเหตุการณ์น้ำท่วมจนลอยมาติดเกาะนี้ได้ยังไง

“สวัสดีไอ้หนุ่ม”

ทิวหันขวับไปหาคนที่เรียกเขา ชายแก่ร่างท้วมไม่สูงมากในชุดสีขาวตั้งแต่หัวจรดเท้า หนวดสีขาวยาวเฟิ้มถึงคอ ไม้เท้าหัวกลมคอยพยุงร่างหนาให้เดินสะดวก และสิ่งที่ดูโดดเด่นที่สุดบนตัวของชายแก่คงไม่พ้นห่วงสีเหลืองทองที่ลอยเหนือหัว กับปีกเล็กๆที่งอกจากกลางหลัง... มันดูเหมือนเทวดาที่เขาเคยอ่านในหนังสือการ์ตูน

“สวัสดีครับ คุณเป็นใคร”

“พระเจ้า”

ทิวยื่นคอไปข้างหน้า ตาถลน “พระเจ้า!?”

“ใช่เลย ฉันคือพระเจ้าผู้ที่สร้างทุกสิ่งขึ้นมาให้ถูกกฎตามทำนองคลองธรรมและคอบควบคุมความเป็นไปทุกอย่างของธรรมชาติ”

ทิวได้แต่ยืนกระพริบตาปริบๆมองชายแก่ที่พยายามยืดตัวและยิ้มมุมปาก ท่าทางดีใจที่ได้อวดสรรพคุณของตัวเอง

“พระเจ้าจริงรึเป่าเนี่ย จะเชื่อได้ยังไง”

ฟังดูเป็นคำท้าทายเบื้องสูงเสียจริง ซึ่งชายแก่ก็ยิ้มยียวน พยักหน้าสองสามทีก่อนเอ่ยเบาๆ

“ฝนตก!”

ฝนเทลงมาราวฟ้ารั่ว....

“แดดออก”

แดดออกเปรี้ยงๆจนแสบผิวหนัง

ชายแก่เดินเชื่องช้าเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มแล้วยิ้มมุมปากก่อนเอ่ย “เชื่อรึยัง หรือจะให้ข้าเสกฟ้าผ่าใส่เจ้าสักเปรี้ยงดี”

“เชื่อแล้ว”

“ดี ข้ามีภารกิจให้เจ้าทำ” พระเจ้ากระแอมไอเล็กน้อย “โลกในปัจจุบันได้เสื่อมโทรมลงไปมากโดยฝีมือของมนุษย์ พวกเขาฉลาดมากเกินไปและได้สร้างทุกสิ่งที่ไม่จำเป็นจนทำลายกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ มนุษย์สร้างที่อยู่อาศัยโดยเบียดเบียนพื้นที่ของสัตว์อื่นๆ มนุษย์สร้างอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ตนเองโดยไม่สนใจว่ามันทำลายทรัพยากรของโลกไปมากมายเท่าไหร่ และอื่นๆที่หากข้าบรรยายทุกเหตุการณ์คงใช้เวลานานเป็นปี และอาจต้องทำแผนภาพประกอบให้เจ้าเข้าใจง่ายขึ้นด้วย เพราะฉะนั้น...”

พระเจ้าเงียบไปเล็กน้อยแล้วเอ่ยต่อ “ข้าจึงบันดาลให้เกิดภัยพิบัติชำระโลกใบนี้ซะ และจะลงมือสร้างมันขึ้นมาใหม่” ว่าจบก็ชูกำปั้นขึ้นเหนือหัว ยืดตัวตรง เก๊กท่า ซึ่งมันคงจะเท่ห์กว่านี้ถ้าเจ้าตัวไม่อวบอ้วนและตัวเตี้ยเหมือนที่เป็นอยู่

ชายแก่หันขวับแล้วชี้นิ้วไปที่เด็กหนุ่ม “เจ้าคือผู้ถูกเลือก! เจ้าจะต้องผลิตลูกหลานสร้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ขึ้นมาใหม่ ถ้าให้พูดด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย เจ้าก็คือ อดัม เบอร์2 ซึ่งจะต้องมีความสัมพันธ์กับ อีฟ เบอร์2 ด้วย”

ทิวยังสงสัย “เท่าที่เห็นมีผมรอดอยู่คนเดียว แล้วอีฟอยู่ที่ไหนครับ”

“หึ หึ หึ” ชายแก่หัวเราะในลำคออย่างเจ้าเล่ห์ “ข้าเป็นพระเจ้าผู้ชาญฉลาด ข้าเตรียมหญิงสาวไว้ให้เจ้าแน่นอนอยู่แล้ว รับรองเลยว่าเจ้าต้องถูกใจ ขนาดข้ายังถูกใจเลย เพราะนางน่ารักมาก

พระเจ้าหันซ้ายหันขวาครู่หนึ่ง ก่อนฉีกยิ้มกว้างแล้วยกมือชี้ไปยังร่างบางที่กำลังเดินมาใกล้พวกเขา “นั่นไงล่ะไอ้หนุ่ม ถูกใจมั้ย”

ทิวขยับแว่นกรอบกลมเล็กน้อย ก่อนต้องน้ำลายหกเพราะคนที่เดินมาเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้างดงามราวกับนางฟ้า ใบหน้าเรียวคม ผิวขาวกระจ่างใส เส้นผมสีดำยาวสลวย รูปร่างสมส่วนรูปนาฬิกาทราย ส่วนที่ควรเว้าก็เว้าส่วนที่ควรบวมก็บวม ดวงตาของเธอดูอ่อนหวานและใสซื่อ

“ถะ ถะ ถูกใจครับ” ทิวตอบเสียงสั่น ” แล้วผมต้องทำยังไงกับเธอ”

พระเจ้าทำหน้าผิดหวัง “ไม่น่าถามเลยไอ้หนุ่ม แกก็ต้อง...”

พระเจ้าเอากำปั้นฟาดลงบนฝ่ามือดังผัวะทันใด แล้วฉีกยิ้มกว้าง “เพื่อผลิตลูกหลานน่ะนะ หุ หุ”

เธอเดินเข้ามาใกล้แล้วเอ่ยเสียงหวาน “ขอโทษนะคะ พอจะรู้มั้ยคะ ว่าที่นี่คือที่ไหน”

น้ำเสียงเคลิ้มฝันทำให้เด็กหนุ่มแทบล่องลอย

“ใจเย็นๆไอ้หนุ่ม เดี๋ยวข้าขอไปอธิบายให้นังหนูเข้าใจก่อน อดใจไว้”

ใช่... เป็นอย่างที่พระเจ้าบอก อดใจไว้ ชั่วชีวิต 18 ปี ที่ไม่เคยสัมผัสผู้หญิงของเขา และมาตอนนี้เขากำลังจะได้สัมผัสแล้ว โอ้ววววว

พระเจ้าใช้เวลาครู่หนึ่งอธิบายแต่แล้วใบหน้าเหี่ยวย่นของชายแก่กลับต้องบิดเบี้ยวทันใด พร้อมเจ้าของเสียงหวานที่พูดเสียงดังจนทิวได้ยินว่า

“ฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ”

“ทำไมล่ะนังหนู มันเป็นหน้าที่นะ ข้าเลือกเจ้ามา ถ้าเจ้าไม่ทำมนุษย์จะต้องสูญสิ้น”

เธอยังคงส่ายหัวรุนแรง “ฉันทำไม่ได้... ฉันมีลูกไม่ได้”

“เจ้ามีลูกได้สิ เจ้าจะต้องขยายเผ่าพันธุ์นะ” พระเจ้าหว่านล้อม

“ฉัน...” เธอเอ่ยเสียงสั่น น้ำตาคลอเต็มเบ้า

ทิวรู้สึกสำนึกผิด “เธอคงเป็นผู้หญิงไร้เดียงสาที่ถูกพ่อแม่ทะนุถนอมมาตลอด ไม่เคยสัมผัสความโหดร้ายของสังคม แถมการที่เหลือกันเพียงสองคนบนโลกก็ทำใจได้ยากพอแล้ว ถ้าจะให้มาทำเรื่องแบบนั้นคงต้องให้เวลาเธอหน่อยนะครับ”

“ไม่ใช่นะ!” เธอร้องขัดเสียงดัง ทิวกับพระเจ้าต้องขมวดคิ้วมุ่นทันใด พลางมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

“ที่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้เพราะว่าฉันเป็น...”

“เป็น...” ทิวกับพระเจ้าทวนคำพร้อมกัน

กะเทย

สายลมเบาๆจากท้องทะเลพัดผ่านดังวิ้ว~...

“เธอเป็นกะเทย?” พระเจ้าถามย้ำ

“ใช่ค่ะ” เด็กสาวสาวตอบชัดถ้อยชัดคำ แถมยังทิ้งท้ายด้วยค่ะอย่างมั่นใจ ที่เล่นเอาคนหนึ่งคนกับพระเจ้าอีกหนึ่งท่านถึงกับยืนอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อสายตา “ฉันชื่อ นัน นันทพล อายุ 17 ปี… ค่ะ...”

“เป็นกะเทยมานานรึยังครับ” ทิวถาม

“ตั้งแต่รู้ความ...”

ทิวไล่สายตามองผู้ชายในคราบเด็กสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า “แปลงเพศแล้วเหรอครับ”

นันเงียบไป กำมือสองข้างแล้วยกปิดปาก นัยน์ตาอ่อนหวานช้อนตามอง ดวงหน้าแดงเรื่อเล็กน้อยแล้วตอบเสียงเบา

“…ยังค่ะ”

หัวใจแทบหยุดเต้นกับคำตอบ เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ พลางเลื่อนสายตามองลงต่ำกว่าสะดือเล็กน้อย...

“แปลว่ายังมีไอ้นั่นอยู่...”

นันตอบเสียงสั่น “...ใช่ค่ะ ก็หนูกลัวนี่นา”

ทิวตัวสั่นกึกกัก ก่อนยกมือชี้ไปยังตัวเธอ “ละ ละ แล้วหน้าอกนั่น”

“เผอิญแม่ให้มาเยอะแล้วฮอร์โมนมันแรงค่ะ”

ความเงียบปกคลุมรอบบริเวณได้ยินเสียงคลื่นซัดมาดัง ซู่...

...

ชายแก่หันมาหาทิวพร้อมพูดหน้าซื่อ “แย่เลยไอ้หนุ่ม ข้าดูผิด”

อนาคตของมนุษยชาติอาจจะต้องจบลงเพียงเพราะเหตุผลง่ายๆว่า พระเจ้าดันเลือกกะเทยมาแทนที่จะเป็นผู้หญิง

“แล้วต้องทำยังไงต่อล่ะครับ” ทิวถาม โมโหเล็กน้อย

พระเจ้าครุ่นคิด แหงนหน้าขึ้นฟ้าอยู่ครู่ ก่อนหันมาสบตาเด็กหนุ่มแล้วตบไหล่เบาๆ “ลองดูมั้ย”

“ลองอะไรครับ”

พระเจ้ายักคิ้วไปทางเด็กสาว “ลองมีความสัมพันธ์กับเธอ”

เป็นอันเกือบหงายหลังล้มตึงทันที ทิวถลึงตาเถียงกลับ “จะให้ผมมีทำไมครับ! นั่นไม่ใช่ผู้หญิงนะ”

“เผื่อฟลุ๊คท้องไง”

อยากจะกุมขมับกับความคิดของคนตรงหน้า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนคนนี้คือบุคคลที่สร้างโลกขึ้นมาจากเศษดิน

ชายแก่มุ่นหัวคิ้ว “ท่าทางเจ้าไม่อยากมีความสัมพันธ์กับเธอนะ”

“ก็ใช่น่ะสิ(วะ)ครับ” ร้องปฏิเสธไปเต็มเสียง แล้วถามต่อทันที “ในโลกนี้ไม่มีผู้หญิงคนอื่นเหลือรอดสักคนเลยเหรอครับ”

พระเจ้าส่ายหัว “ตายเรียบ เหลือแค่เจ้ากับเธอนั่นแหละ”

สมกับเป็นจุดจบของโลกจริงๆ...

ชายแก่ทำปากยื่นเหมือนไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนหยิบหนังสือเล่มหนาปึ้กกับแว่นตาหนาๆที่เหน็บอยู่ข้างเอวมาสวมอ่าน โดยมีข้อความตัวใหญ่สังเกตง่ายบนหน้าปกเขียนไว้ว่า ‘คู่มือการสร้างโลก’

ผ่านเวลาไปครู่ใหญ่ นานจนเกือบหลับ จนพระเจ้าเลิกคิ้วสูง พลางหยิบแว่นออกจากตาหันมาหาเด็กหนุ่ม ฉีกยิ้มมุมปากท่าทางภูมิใจ

“ปัญหาแค่นี้สำหรับพระเจ้าที่ชาญฉลาดอย่างข้ามีหรือจะแก้ไม่ได้”

ถ้าชาญฉลาดจริงก็อย่าเลือกผิดสิ ทิวอยากจะแย้งแต่ขอเงียบไว้ก่อน

“ข้าขอถามก่อน ว่าเจ้าไม่อยากมีความสัมพันธ์กับเธอเพราะอะไร”

ทิวนิ่งไปนิดแล้วตอบ “เพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิง”

“ถ้าเป็นสาเหตุนั้นวิธีแก้ก็ง่ายมาก”

ทิวขมวดคิ้ว “ทำยังไงคับ”

พระเจ้ายิ้มอย่างมีนัย คิ้วซ้ายเลิกขึ้นสูง

“ก็เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นผู้หญิงไง”

ทิว  ขยับแว่นกรอบกลมบนใบหน้าเล็กน้อยแล้วกระพริบตาปริบๆ

“เปลี่ยน... ให้กลายเป็นผู้หญิง... ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอครับ”

“แน่นอน! เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร” ชายแก่ยิ้ม แถมแอ๊คท่า ชี้นิ้วมาทางเขาแล้วแอ่นพุงจนตัวโค้งเป็นรูปตัว D

ทิวถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับท่าทางโอเวอร์เกินเหตุ “แล้วต้องทำยังไงครับ”

สิ้นคำถามชายแก่ร่างท้วมก็เปิด คู่มือการสร้างโลก ให้เขาดูทันที แล้วใช้นิ้วอวบอ้วนเคาะที่หน้ากระดาษ

“นี่ไงล่ะ ข้าเรียกมันว่าผลไม้มหัศจรรย์แห่งสวนอีเดน... หึ หึ หึ เจ้ารู้เรื่องราวลึกลับที่มนุษย์เล่าต่อกันมาเกี่ยวกับอดัมกับอีฟรึเปล่า... เรื่องของแอปเปิ้ล” ว่าเสียงต่ำท่าทางลึกลับ ด้วยใบหน้าชวนขนลุกพร้อมเสียงหัวเราะเจ้าเล่ห์อย่างที่คนฟังไม่เข้าใจว่าจะทำไปทำไม

“ผมไม่รู้ละเอียดนักหรอกครับ รู้แค่ว่าในเรื่องที่เคยได้ยินมานั้น อดัมกับอีฟถูกงูล่อลวงให้กินผลไม้ต้องห้าม ซึ่งนั่นก็คือแอบเปิ้ล แล้วพวกเขาทั้งคู่ก็ถูกขับไล่ออกจากสวนอีเดนและให้กำเนิดลูกหลานชาวมนุษย์สืบต่อมา”

พระเจ้ายกนิ้วชี้ขึ้นแล้วส่ายไปมา “ถูกแค่ครึ่งเดียวนะเจ้าหนุ่ม เดี๋ยวข้าจะเล่าเรื่องจริงๆของมันให้ฟังเอง”

เจ้าของแว่นกรอบกลมคิ้วกระตุกเล็กน้อย “เชื่อได้มั้ยครับเนี่ย”

“ข้าคือใคร!”

ทิวยิ้มแหย “พระเจ้าครับ”

“ข้าคือผู้ที่รู้ทุกเรื่องดังนั้นเรื่องที่ข้าจะเล่าต่อไปนี้คือเรื่องจริงแน่นอน…” ชายแก่เงียบไปครู่ กระแอมไอเล็กน้อย แล้วว่าเสียงต่ำ

“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีอดัมกับอีฟในสวนแห่งอีเดน พวกเขายิ้ม หัวเราะ แต่ละวันดำเนินไปอย่างมีความสุข... เวลาผ่านไปเนิ่นนาน จวบจนกระทั่งอดัมและอีฟมีความรู้สึกหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมานั่นคือ ‘ความเบื่อหน่าย’ ใช่... พวกเขาเบื่อหน่ายกันเอง เบื่อหน่ายทุกเวลาที่เห็นหน้าอีกฝ่าย พวกเขาเริ่มรู้สึกว่าชีวิตนี้มันจำเจและสมควรได้รับการเปลี่ยนแปลง จนกระทั่งพวกเขาได้เจอกับเพื่อนใหม่... งู”

“อดัมกับอีฟอธิบายปัญหาของทั้งสองให้งูผู้รอบรู้ฟัง และงูได้เสนอแนะทางออก ซึ่งก็คือการกินผลไม้มหัศจรรย์แห่งสวนอีเดน ผลไม้ที่จะทำให้พวกเขาทั้งสองมีเพศที่ต่างกัน...”

หยุด!

ทิวยกสองมือขึ้นห้ามฉับไว ดวงตาเบิกกว้าง แล้วเอ่ยเสียงสั่น

“ผลไม้นี้จะทำให้พวกเขามีเพศที่ต่างกัน....”

“ใช่ เจ้าขัดข้าทำไมเนี่ย” ชายแก่บ่นอย่างหัวเสียนิดๆ

“ผมแค่สงสัย... ว่าถ้าผลไม้นี้ทำให้พวกเขามีเพศที่ต่างกัน นั่นหมายความว่า...” ทิวกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ นัยน์ตาสั่นระริก รู้สึกคำถามถัดไปของเขาเป็นคำถามที่อันตรายและไม่ควรรู้คำตอบมากที่สุด

“แปลว่า... ตอนนี้... อดัมกับอีฟมีเพศเดียวกัน?”

ชายแก่ตอบกลับหน้าซื่อ

“ใช่ ชายทั้งคู่”

OH MY GOD!!

ทิวอ้าปากค้างแบบหุบไม่ลง ลิ้นสีแดงเด้งออกมาจากปาก นัยน์ตาใต้แว่นกรอบกลมเบิกกว้างจนแทบถลน

“เจ้าตกใจอะไร ข้าอยากรีบเล่าให้มันจบ” ชายแก่บ่น

“เชิญเลยครับ” ทิวพยักหน้ารัวเร็ว

พระเจ้ากลืนน้ำลายลงคอแล้วเล่าต่อ “งูได้พาพวกเขาไปกินผลไม้มหัศจรรย์แห่งสวนอีเดน... น่าเสียดายที่ผลไม้นั้นมีเพียงผลเดียว อีฟจึงเป็นฝ่ายอาสากิน และทันทีที่อีฟกลืนลงคอ ร่างกายก็พลันเปลี่ยนไป... ร่างกายที่เคยใหญ่โตบอบบางลง ทรวงอกที่เคยแบนราบมีเนื้อมีนวล ดวงหน้าคมเข้มอ่อนหวาน ดูน่ารักและน่าทะนุถนอม และที่สำคัญ... สิ่งที่อยู่ต่ำกว่าสะดือเล็กน้อยหายไป...”

“อีฟกลายเป็นผู้หญิง และอดัมกับอีฟก็ชักชวนกันออกจากสวนอีเดน พวกเขาให้กำเนิดลูกหลานเผ่าพันธุ์มนุษย์สืบทอดต่อกันมา...”

พระเจ้ามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยังยืนอ้าปากค้างอยู่

“เจ้าเข้าใจที่ข้าเล่ารึเปล่า”

“เข้าใจๆ ผมเข้าใจ...” ทิวอึกอัก “มันแค่ต่างจากเรื่องที่ผมเคยฟังไปมากโขน่ะครับ...”

พระเจ้าปิดหนังสือดัง ปัง! มองหน้าเด็กหนุ่มด้วยนัยน์ตาแน่วแน่ ชูมือขึ้นฟ้า

“เพราะฉะนั้นเจ้าจะต้องไปนำผลไม้มหัศจรรย์นั่นมาให้เธอทาน ผลไม้นั่นอยู่บนยอดสุดของเกาะนี้ เจ้าจะต้องเดินทางไปกับเธอเพื่อการเปลี่ยนเพศครั้งนี้” ชายแก่ว่าเสียงดังฟังชัด ก่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้หูของเด็กหนุ่มแล้วกระซิบ

“แต่ข้ามีกฎอยู่ 1 ข้อที่เจ้าจะต้องปฏิบัติตาม” เสียงแหบแห้งเค้นอย่างจริงจัง “เจ้าจะต้องห้ามบอกเธอว่าผลไม้ชนิดนี้มีผลกระทบอย่างไร”

ทิวขมวดคิ้ว “ทำไมล่ะครับ”

“เรื่องราวจากหนังสือเล่มนี้ของข้า มนุษย์ไม่ควรรู้มากนัก เจ้ารู้คนเดียวก็เกินพอแล้ว”

เจ้าของแว่นกรอบกลมพยักหน้าเข้าใจ

และนี่เป็นภารกิจแรกของเขามนุษย์ผู้เหลือรอดจากเหตุการณ์วันสิ้นโลก... เปลี่ยนกะเทยให้เป็นผู้หญิง

 

“สวัสดีนะนัน”

สวัสดีค่ะ”

ทิวอยากจะน้ำตาไหลพราก ทั้งรอยยิ้มพริ้มใจและน้ำเสียงอ่อนหวานสดใสนั่นทำให้เขารู้สึกอยากจะเอาหัวโชกกำแพงตายซะเหลือเกิน.... เธอเป็นกะเทยที่น่ารักมาก ถ้าเธอไม่มีไอ้ที่อยู่ข้างล่าง บางทีเขาอาจจะชอบเธอ

“หิวรึเปล่า” ทิวถาม

“หิวอยู่นะคะ... ตั้งแต่ตื่นมายังไม่ได้กินอะไรเลย” เธอว่าพลางลูบท้อง หยีตา แลบลิ้นแบบอายๆ

“พอดีผมรู้มาว่าเหนือสุดของเกาะมีต้นแอปเปิ้ล... และตอนนี้มันก็สุกกำลังได้ที่ด้วย”

“ฉันชอบแอปเปิ้ลนะ“ นันยิ้มหวาน

น่ารัก....  ทิวคิดในใจ

“งั้นเราไปกินกันเถอะ”

การหลอกล่อเป็นไปได้สวย แต่ถ้าให้พูดตามตรงมันก็ไม่เชิงหลอกล่อเพราะแต่ไหนแต่ไรเธอเองก็อยากเป็นผู้หญิง บางทีการพาเธอไปกินผลไม้มหัศจรรย์นี้คือการทำให้ฝันของเธอเป็นจริง แม้ทิวจะยังข้องใจอยู่เล็กน้อยว่าทำไมพระเจ้าถึงห้ามบอกเรื่องผลไม้มหัศจรรย์นี้ เพราะถ้าเธอรู้คงรีบวิ่งขึ้นไปกินเป็นคนแรกแน่ๆ แต่ก็นั่นแหละเรื่องของพระเจ้า เขามีหน้าที่แค่ต้องทำตามเท่านั้น

การเดินทางขึ้นในเกาะนี้เป็นไปได้อย่างยากลำบากพอสมควร ต้นไม้น้อยใหญ่เต็มสองข้างทางทำให้ทิวและนันต้องใช้พลังกายอย่างมากในการก้าวเท้าแต่ละก้าว

และเท่าที่ทิวสังเกตจากตลอดทางที่เดินผ่านมา เหมือนจะเป็นเกาะที่ครบครันพอสมควร มีสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่มากมาย พืชพันธุ์อุดมสมบูรณ์ อากาศสดใสเหมาะแก่การอาศัยอยู่

และที่น่าแปลกใจคือนัน... เธอแข็งแรงกว่าที่เขาคิด เพราะพวกเขาเดินทางกันมาได้เกือบๆสามชั่วโมงแล้ว แต่เธอก็ยังสามารถตามเขามาได้และไม่ร้องโอดโอย

“เหนื่อยมั้ยครับ อีกไม่นานก็จะถึงแล้วล่ะน่าจะไม่เกินสองร้อยเมตร...” เด็กหนุ่มเดาจากยอดของเกาะที่ตอนนี้อยู่ใกล้อีกไม่กี่อึดใจ

“เหนื่อยค่ะ แต่ฉันจะพยายาม”

ฟ่อ... ฟ่อ...

นัยน์ตาใต้แว่นกรอบกลมกับนัยน์ตาอ่อนหวานต้องเบิกกว้างเมื่อจู่ๆพวกเขาก็มีแขกไม่ได้รับเชิญ งู... งู สีน้ำตาลอมเขียวตัวใหญ่ขนาดเท่าแขนกำลังเลื้อยเชื่องช้ามาหาพวกเขาพร้อมลิ้นสีแดงที่ตวัดไปมา ขณะนัยน์ตากลมโตมองคนทั้งสองอย่างเงียบเชียบ

“งูค่ะ...” นันเอ่ยเสียงแผ่ว ใบหน้าสะท้อนให้เห็นความหวาดกลัว

ทิวครุ่นคิด ในเรื่องเล่าของพระเจ้า งูคือเพื่อนของเราที่จะนำทางไปหาแอปเปิ้ล...

เมื่อคิดได้ดังนั้นทิวก็เดินเข้าไปใกล้พยายามทำใบหน้าเป็นมิตร แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าไปสัมผัสตัว งูตัวใหญ่นั่นก็ชูคอขึ้นแล้วพุ่งฉกแขนทันที

“อ๊าก!” ทิวร้องลั่น งูตัวนั้นเลื้อยหนีไป

ไม่เห็นจะเหมือนอย่างที่บอกเลยนะพระเจ้า เด็กหนุ่มกุมแขนอย่างเจ็บปวดแล้วเขาก็สลบ

นันเอามือกุมปากท่าทางตกใจไม่แพ้กัน เธอประคองตัวเขา แขนของเด็กหนุ่มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงอมเขียวแล้วค่อยๆลามขึ้นมา... มันคงเป็นพิษของงู

เขากำลังจะตาย... มนุษย์สองคนสุดท้ายของโลกกำลังจะเหลือเพียงคนเดียวแล้ว

 

“ไอ้หนุ่ม! ไอ้หนุ่ม!” เสียงร้องที่คุ้นหูเรียกให้เด็กหนุ่มลืมตาขึ้น เขาเห็นพระเจ้าทำหน้าลำบากใจและนันที่ยังคงมีท่าทีตกใจไม่หาย และที่ที่เขานอนอยู่คือสวนที่มีต้นไม้นานาพรรณพร้อมต้นหญ้านุ่มๆกับแสงแดดอ่อนๆยามเช้าที่มันทำให้บริเวณแห่งนี้ดูงดงาม

“ผมโดนงูกัด...”

“ใช่ แต่ไม่ต้องห่วง เจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว”

“ท่านช่วยข้าเหรอครับ”

ชายแก่ส่ายหัว “ไม่ใช่ข้าหรอก เธอต่างหาก”

ทิวขมวดคิ้ว “ช่วยยังไง”

“ฉันก็ทำตามที่พระเจ้าบอกน่ะค่ะ” นันยิ้ม “ตอนนี้คุณดูสวยมากเลย”

สวย!? ทิวสะดุ้งโหยง มองตัวเองทันที... หน้าอกหน้าใจที่เคยแบนราบตอนนี้ บวมขึ้นมา แขนที่เคยหนากว่านี้บอบบางลง ผิวพรรณที่หยาบกร้านกลับนุ่มนวล... และที่สำคัญ สิ่งที่อยู่ใต้สะดือหายไป...

เขาเงยหน้ามองชายแก่

“พระเจ้า... ปืนผมหาย” เขาว่าพลางชี้ลงเป้ากางเกง แต่อีกฝ่ายทำหน้าไม่หยี่หระและตอบเสียงเรียบ

“ข้าเห็นแล้ว”

“ผมมีอก”

“ข้าก็เห็นแล้วเหมือนกัน”

ทิวกระพริบตาปริบๆมองหน้าพระเจ้า ซึ่งอีกฝ่ายก็กระพริบตาปริบๆใส่เขาเหมือนกัน

“ผม... เป็นผู้หญิง?”

“ใช่ โคตรสวยเลยล่ะ”

สายลมเบาๆจากท้องทะเลพัดผ่านดังวิ้ว~...

ทิวพุ่งไปโอบคอชายแก่มาพูดคุยเป็นการส่วนตัวทันที

“(ไอ้)พระเจ้า ทำไมผมถึงกลายเป็นผู้หญิง ยังงี้มันผิดแผนไม่ใช่เหรอ(วะ)”

“ก็ผิดแผนน่ะสิ แต่ถ้าข้าไม่ทำยังงี้มีหวังเจ้าซี้แหงแก๋”

“ซี้แหงแก๋?” ทิวสงสัย

“ก็เจ้าถูกงูกัดไง ถูกพิษเข้าไปเต็มเปา วิธีแก้มีทางเดียวคือเจ้าจะต้องกินแอปเปิ้ลจากสวนอีเดน แอปเปิ้ลเป็นผลไม้มหัศจรรย์ที่นอกจากจะเปลี่ยนเพศมนุษย์แล้วยังสามารถรักษาโรคภัยต่างๆได้ด้วย”

“ท่านเลยให้ผมกินเพื่อขจัดพิษ”

“เจ้าก็ไม่ได้โง่นี่นะ”

ช็อค เกิดอาการช็อคซีนีม่าขึ้นทันใดเมื่อแทนที่เขาจะเป็นผู้ชายแต่ดันกลายเป็นผู้หญิงซะอย่างนั้น

ทิวว่าเสียงสั่น “มะ มะ มีแอปเปิ้ลเหลือมั้ยครับ ถ้ากินแล้วผมจะได้กลับเป็นผู้ชายใช่มั้ย”

“มีผลเดียวที่เจ้ากินไปนั่นแหละ”

“ยังงี้จะมีมนุษย์ต่อได้ยังไงล่ะครับ! เพราะที่นี่มีแต่ผู้หญิงทั้งสองคน” ทิวพยายามเถียง

“พูดอะไรของเจ้า” พระเจ้าแย้งทันที พลางชี้ไปที่อดีตเด็กหนุ่ม

“เจ้าเป็นผู้หญิง”

แล้วค่อยๆเลื่อนนี้วไปอีกทาง

“แล้วเธอก็เป็นผู้ชาย”

ความเงียบปกคลุม... เสียงจั๊กจั่นร้อง

...

ชายแก่ตบไหล่เขาเบาๆ

“ขยายเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้ทีนะ”

พระเจ้ายิ้มดีใจเพราะแก้ปัญหาไปได้อีกหนึ่งอย่าง ปีกเล็กๆกลางหลังขยับขึ้นลงกำลังจะบินขึ้น

“นะ นะ นี่ท่านกำลังจะไปไหน”

“ข้าจะไปทำธุระเรื่องอื่นน่ะสิ เป็นพระเจ้าน่ะมันยุ่งนะ”

และแล้วปัญหาเรื่องมนุษย์รุ่นแรกของโลกใหม่ก็ได้จบไป ชายแก่บินขึ้นฟ้าอย่างเบิกบานทิ้งไว้เพียงเสียงร้องตะโกนตามหลังของเด็กสาวร่างเล็กน่ารักว่า...

 

“OH MY GODDDDDDD!!!!”

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว