"สัตย์สาบาน" ต่อบ้านเมือง...คำมั่นสัญญาที่ต้องรักษาไว้ด้วยชีวิต!
พุทธศักราช ๒๓๑๐ กรุงศรีอยุธยาถูกกองทัพข้าศึกรุกเข้าพระนคร
...เปลวเพลิงโชติช่วงเผาผลาญเมืองสว่างราวกลางวันด้วยน้ำมือข้าศึกนับหมื่น...
...เสียงดาบกระทบดาบ...
...โลหิตแดงฉานชโลมแผ่นดิน...
...ซากศพดาษดื่น...
...เสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดกึกก้องผืนปฐพี...
...เสียงโหยไห้ดังระงมก้องหล้า...
...หัวใจไทยทุกดวงรวดร้าว...ชะตาบ้านเมืองดับสิ้นลงตรงหน้า...
...เหลือเพียงนามราชธานี "ศรีอยุธยา"...
...เหลือเพียง "คำสัตย์สาบาน" ของสองเพื่อนรักเพื่อนตาย...
..."พระยาอรรคราชเสนา" และ "พระเดชชาญณรงค์"...
"ข้าพระพุทธเจ้า...พระยาอรรคราชเสนา...ขอถวายสัตย์ต่อเบื้องพระพักตร์ว่าจักปกป้องพิทักษ์แผ่นดินตราบสิ้นชีวิต ลมหายใจ แลด้วยดวงวิญญาณของข้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าข้า!"
"กระผม...พระเดชชาญณรงค์...ขอสาบาน...กระผมจักรักษาแผ่นดินนี้ด้วยชีวิต...เลือด...เนื้อ...แลดวงวิญญาณของกระผม!"
จิตที่มั่นคงแน่วแน่ถูกเปล่งออกเป็นวาจาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเข้มแข็ง
ทว่า...ผู้ใดจักคาดคิด... คำสาบานที่ให้ไว้ก่อนกรุงศรีอยุธยาจะถึงกาลพินาศกลับกลายเป็น "บ่วง" พันธนาการ 2 ดวงวิญญาณให้ยังคงตราตรึงสถิตในดาบคู่ใจเพื่อปกป้องแผ่นดิน มิอาจหลุดพ้นไปสู่สุคติแม้นกาลเวลาจะล่วงเลยมาแล้วกว่า ๒๕๐ ปี แล้วสิ่งใดล่ะ...จะมาปลดปล่อย "บ่วงสัตยา" นี้ได้...