Bromance เมื่อผมต้องมาเป็นการ์ดให้ไอดอลเกาหลี! (7P) 18+

Y

Bromance เมื่อผมต้องมาเป็นการ์ดให้ไอดอลเกาหลี! (7P) 18+

Bromance เมื่อผมต้องมาเป็นการ์ดให้ไอดอลเกาหลี! (7P) 18+

SOUNG OPPA

Y

7
ตอน
122K
เข้าชม
495
ถูกใจ
402
ความคิดเห็น
860
เพิ่มลงคลัง

แค่เริ่มต้นก็โบ๊ะบ๊ะโบ๊ะบ๊ะเลยนะ

 

Bromance Concert Seoul: 13h00

 

“ เจ มึงยืนดูตรงนี้นะ เดี๋ยวกูไปเอากระเป๋าน้ำมาให้”

“ อืม” ผมพยักหน้าส่งๆให้ไอจงจากนั้นก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่น กดเล่นจริงๆครับ กดเข้าแอปนู้นแล้วก็ออกกดเข้าแอปนี้เเล้วก็ออก เคยเป็นเหมือนผมใช่มั้ย เวลาไม่มีอะไรทำก็มีแต่โทรศัพท์นี่แหละเพื่อนคู่ใจ ถึงจะไม่มีอะไรให้เช็คก็ขอเอามากดเล่นเถอะ เฮ้อ อีกกี่ชั่วโมงถึงจะได้กลับบ้านวะ นี่ผมต้องรอตรวจบัตรจนถึงตีเท่าไหร่ เข้าให้คนเข้าตอน4โมง30ม่ใช่หรอ แล้วคุณผู้หญิงพวกนี้จะมาอะไรตั้งแต่เที่ยง! บางคนมาก่อนเที่ยงก็มี! ตอนนี้ก็เป็นเวลา13นาฬิกาตรงแต่เเถวแม่งยาวเหยียดต้องยืดคอเหมือนยีราฟนู้นถึงจะเห็นปลายแถว

 

สวัสดีครับผม JJ เรียกแค่ J ตัวเดียวก็ได้ ผมอายุ 20 ปี เป็นพนักงานพาร์ทไทม์ใน 7-11 เเต่ตอนนี้รับจ๊อบเป็นพนักงานตรวจบัตรคอน ผมมีพี่น้องเเต่ว่าไม่ได้อยู่ที่โซลเหมือนผม ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ .โค้งเล็กน้อยให้หัวติดปลายเท้า

 

“ น้องๆ!” ผมรีบหันขวับไปหาที่มาของเสียงก็เจอผู้ชายคนนึงในพื้นที่เฉพาะพนักงานข่ายเพลงเท่านั้นที่เข้าได้ เค้าแต่งตัวดูดีในระดับนึง.. ดูดีหรอ..

แฟชั่นอะไรของม้านนนนนน!

กางเกงขายาวข้างสั้นข้างมีเส้นๆเเบบขาดๆ แว่นตากันแดด..ในวันที่ฟ้าครึ้ม ฮู้ดลายสติทช์สีฟ้าคราม มีที่ขาดผมหูหมีสีเหลืองอ๋อยในมือ ..

 

โลกมันหมุนไวจนJJตามไม่ไหวเเล้วครับพี่บัวลอย..

 

“ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! แกนั่นมันหวังชิน!! โอปป้าาาาาาาา!!! กรี๊ดดดดดดดด!!!”

 

นี่เสียงคนหรือเสียงปลาโลมาดังถึง120เดซิเบลเลยนะนั่น! พอมีคนเห็นคนต่อไปก็เห็นด้วย จากที่คนๆเดียวกรี๊ดตอนนี้ก็ทั้งวง! ผมมองคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายที่มีน้อยกว่าคุณผู้หญิงยกเครื่องมือการถ่ายรูปขึ้นมากดชัตเตอร์เบบรัวๆ จากมุมนี้ผมรู้เลยว่าใครมีทรัพมากหรือทรัพน้อย.. โห กล้องบางตัวนี่ซื้อรถได้คันนึงเลยนะ! นี่สินะความสุขของแฟนคลับ แค่เห็นก็มีคามสุขถึงจะแตะต้องไม่ได้ก็ตาม เห็นแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้

 

“ เฮ้ย! ไอน้อง!”

“ ครับๆ!” ผมรีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงเเล้วรีบวิ่งไปหา ลืมไปเลยว่าเค้ากำลังเรียกเราอยู่

ผมวิ่งไปหยุดตรงหน้า.. อืม.. นี่คงจะเป็นหวังชิน นักร้องนำของวงบอยเเบนด์ Bromance ว่าแต่ว่าสไตล์นี้ท่านได้จากใครมา

 

“ น้องสั่งพิซซ่าให้ฮยองหน่อยสิ”

“ หื้ม?”

“ หื้ม? มาหงมาหื้มอะไร บอกให้สั่งพิซซ่าให้หน่อย ขอแฮมชีสนะ เอาชีสเยอะๆไม่เอาเเบบแป้งบางขอเเป้งหนาๆ 2ชุด บอกเค้าไม่ต้องใส่หัวหอมนะ อิลกุกมันแพ้ เราก็เป็นแฟนคลับอิลนี่ ใส่เสื้อสกรีนหน้ามันด้วย เเล้วก็อะไรอีกน้าา เอ้อ! เอาโค้กเเต่ไม่เอาโค้กฝาแดงนะ เอาโค้กฝาดำ โค้กซีโร่อ่ะ เอามา6ขวด ขวดเล็กนะไม่เอาขวดใหญ่ดื่มไม่หมด”

 

ครับพี่จะรับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มด้วยมั้ยครับ ถุ้ย!!! เดี๋ยว!! นี่มาเป็นพนักงานตรวจบัตรนะไม่ใช่พนักงงานขายพิซซ่า! เดี๋ยว! แล้วนั่นมึงจะไปไหน! เดี๋ยวดิโว้ยย! สั่งกูเเล้วให้เงินกูด้วย!

“ เดี๋ยวสิครับ!”

“ วัทซับ? อ๋อส่งที่ห้องเตรียมตัวเลยบอกว่าหวังชินสั่งให้เอามาให้ ทำหน้าอย่างงี้ดีใจล่ะสิที่จะได้เข้าห้องศิลปิน ถือว่าโชคดีไปเเล้วกันเน้อะ ไปล่ะ เจอกัน ”

“ กรี๊ดดดดดดดดดด!!~ ชินโอปป้าาาาาาาา!~”

มีเพียงคำๆนี้ที่อยากพูดออกไปให้เธอได้ยินเเต่มันพูดออกเสียงไม่ได้..

 

ไอซั้ซ! 

 

 

“ เอาพิซซ่าแฮมชีสไม่เอาหัวหอมแป้งหนา2ชุดครับ เเล้วก็ขอชีสเยอะๆด้วยนะครับ”

“ เครื่องดื่มรับเป็นอะไรดีครับ?”

“ โค้กกระป๋อง6กระป๋องครับ”

“ กรุณาคุณลูกค้ารอสัก15นาทีนะครับ!”

 

……

 

สุดท้ายผมก็ต้องมาตามคำสั่งคุณชายหวังชิน นี่มันคิดว่าเป็นศิลปินที่มีคนรู้จักกันทั้งเอเชียจะทำอะไรอย่างงี้ก็ได้หรอ คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชายหรือไงวะ เเล้วก็ผมขอชี้เเจงเรื่องเสื้อที่ผมใส่ครับ ผมไม่ได้’เต็มใจ’ ใส่เสื้อตัวนี้เลยย มันก็แค่เสื้อสีดำสกรีนรูปหน้าศิลปินวง Bromance เสื้อตัวหนึ่งกับหน้าศิลปินคนนึง คือตอนเเรกผมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว เเต่ไอ้จงบอกให้เปลียนเป็นเสื้อตัวนี้จะได้เข้ากับบรรยกาศ ผมก็เถียงมันหัวชนฝาว่าไม่ใส่ เสื้ออะไรออกเเบบได้เช้ยเชย แต่รู้เลยว่าเสื้อนี่ไม่ได้ออกเเบบโดยคุณชายหวังชินเเน่นอน ก็ถือว่าบุญมาก ไม่งั้นไม่อยากคิดสภาพเสื้อเลย ท้ายสุดผมก็ต้องใส่เพราะมันอ้างว่าผู้จัดงานเค้าบังคับ

 

“ พิซซ่าแฮมชีสไม่ใส่หัวหอมกับโค้ก6กระป๋องได้เเล้วครับบบบบ”

“ เท่าไหร่ครับ”

“ ทั้งหมด 15’000 วอนครับผม...”

 

“ …..” ถึงกลับกลืนน้ำลายลงคอเลยทีเดียว ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 477 บาทครับ มันอาจดูไม่แพงสำหรับใครบางคน แต่สำหรับผมมันแพงนะ! อยู่กลางเดือนซะด้วยสิ ไม่มีโปรโมชั่นซื้อ1แถม1หรอวะ เฮ้อ ผมควักตังค์ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ออกมา คือผมไม่มีกระเป๋าตังค์ครับ มีเเต่กระเป๋าสำหรับใส่การ์ด เคยเห็นใช่มั้ย ที่มันไม่มีช่องให้ใส่เหรียญใส่เเบงค์ เเต่มันมีช่องสี่เหลี่ยมให้ใส่แต่การ์ด เช่นการ์ดเครดิต การ์ดบัตรประชาชน ฯลฯ

 

“ เเต่ตอนนี้ร้านเรามีโปรโมชั่นนะครับ” โอ้ววววว เยสสสสสสส THANKS GOD! ขอบคุณพระเจ้า! มันก็เป็นอย่างที่คนโบราณเค้าพูดๆกันอ่ะนะ คนดีผีคุ้ม 55555555555555 เครียดๆมาหายเลยกู 555555555555555555

 

“ ให้ชื่อเฟสบุ๊คผู้ซื้อวันนี้รับส่วนลดฟรี50%”

“ นี่เลยครับ ตามนี้เลยครับ” รออะไรจดบนกระดาษที่เค้าเตรียมให้สิครับโธ่

“ 15’000 ลด 50% เหลือ 7’500 วอนครับ.. รับมา 8’000 วอน ถอน 500 วอนครับ นี่ครับ”

 

ผมรับพิซซ่าพร้อมกับเหรียญเงินถอนจากนั้นก็บอกขอบคุณเเละรีบวิ่งกลับคอน กี่โมงเเล้วเนี่ย! ไอ้คุณชายเเม่งมันก็จริงๆเล้ย!

 

 

 

ผมวิ่งหน้าตั้งแซะซ้ายเเซะขวาจากผู้คนที่รอต่อคิว คนเยอะเป็นบ้า!!

“ กี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย” ผมชะโงกดูเวลาจากมือถือน้องผู้หญิงข้างๆที่กำลังปัดๆดูรูปหนึ่งนักร้องใน6ของ Brom. ผมก็ไม่รู้จักมากมายหรอกครับ ชื่ออ่ะเคยได้ยินเเต่ไม่รู้จักหน้า

 

13h45

 

อ่าว ผ่านไป45นาทีเองหรอ นึกว่าผ่านไปชั่วโมงกว่าๆได้เเล้ว เอาล่ะไปส่งพิซซ่าให้คุณชายดีกว่าเดี๋ยวท่านจะองค์ลง คนมันก็เยอะจริงๆ เเล้วการ์ดหายไปไหนหมด เเถวเเม่งจะไม่ใช่เเถวเเล้ว ไม่เป็นระเบียบกันเลย!

 

“ อันยองฮาเซโย ผมมาส่งพิซซ่าให้คุณหวังชินครับ” ผมยิ้มหวานให้พี่เมเนเจอร์ ก็ป้ายที่คอมันเขียนว่า Manager อ่ะ ก็เลยเรียกๆตามป้าย

 

“ อ๋อจ้ะ เข้ามาได้เลย แต่ก่อนเข้าสวมบัตรนี่ไว้ด้วยเดี๋ยวคนอื่นข้างในเข้าใจผิดว่าแฟนคลับแอบเข้ามา แล้วก็ห้องศิลปินอยู่ซ้ายมือ คุณ..”

 

“ เจเจครับผม ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ผมโค้งเเละเชคมือพี่เค้าเบาๆ

“ นูน่าชื่อคิม ฮยอน นะ ไม่ต้องพูดเเบบทางการก็ได้นูน่าไม่ถือเรื่องเเบบนี้ เจเจเดินตรงไปซัก30เมตรนะจากนั้นจะเห็นทางสองเเยก ให้เลี้ยวขวา เลี้ยวขวาอีกที เเล้วก็ไปอีกซัก10เมตรก็จะเจอห้องๆนึงหน้าห้องก็จะมีป้ายเขียนว่า Private ตัวสีเเดงใหญ่ๆ นั่นเเหละห้องนั้นเลย เก็ทนะ นูน่าไปก่อนนะ ต้องไปเช็คเสื้อผ้า เจอกันนะเจเจ ” จากนั้นก็หันมาตบไหล่ผมสองที..

อ่า..

นูน่าาาาา!! รอผมด้วยย ผมความจำสั้น ;-; ผมเป็นปลาดอรี่! ผมมองนูน่าเดินจากไปอย่างช้าๆ.. รู้สึกชีวิตมันดราม่าก็ตอนนี้เเหละ ไม่เป็นไรครับ! ค่อยถามเอาคนข้างหน้าอีกทีก็เเล้วกัน

 

เอาล่ะครับทุกคน เรามาส่งพิซซ่ากันเถอะ!

 

“ อันยองอาเซโย.. อันยองอาเซโย..” ตลอดทางผมก็ก้มหัวทักทายผู้คนที่เดินผ่านผม มันเป็นมารยาทที่ควรทำเมื่อคุณมา’อยู่’เกาหลีนะครับ คนที่ทำงานในข่ายเพลงนี้เค้าคัดจากหน้าตาเปล่าวะ ทำไมหน้าตาดีเเม่งเกือบหมดทุกคน ถ้าเค้าคัดจากหน้าตาจริง ผมคงได้เข้ามาทำงานที่นี่.. 5555555555555555 ล้อเล่นน่ะครับ

 

“ ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าห้องศิลปินอยู่ทางไหนครับ พอดีผมมาส่งพิซซ่าให้คุณหวังชินน่ะครับ

“ อ๋อ ตามผมมาเลยครับ” ขอบคุณมากครับพี่ ส่งผมไปให้สุดทางนะครับ ไม่ทิ้งผมเหมือนนูน่าเมื่อกี้นะ

“ ห้องนี้ครับผม.. เดี๋ยวผมเอาไปให้ก็ได้”

“ ไม่ต้องครับ!”

“….”

 

“ คือเค้ายังไม่จ่ายค่าพิซซ่า..” เงินผมครับพี่เกือบ250นู้นน่ะ ผมขอเอาคืนก่อนได้มั้ยครับ หรือไม่พี่ก็จ่ายผมแทนคุณชายนั่นก็ได้ เเต่ขอติ๊บด้วยได้มั้ย วิ่งไปมาเจ็บขาเเล้ว

 

ก็อก ก็อก ก็อก

 

“ เข้ามา”

 

“….” ผมหันไปหาฮยองที่นำทางผมเมื่อกี้ เเบบเป็นเชิงๆว่าเเน่ใจนะว่าห้องนี้ เสียงตอบเเม่งโคตรน่ากลัว ฮยองแกก็พยักหน้าเเล้วก็โบกมือบ้ายบาย เอ้า จะไปเเล้วหรอ! ทำไมไม่เข้าไปด้วยกันเล่า!

 

อ็ดดด

 

ผมค่อยๆเปิดประตูอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้พิซซ่าตกลงไปจูบกับพื้นกระเบื้องสีขาว

 

“ พิซซ่าคุณหวัง...ครับ..” คนเดียว.. ครับในห้องใหญ่ห้องนี่มีคนอยู่คนเดียว หายไปไหนกันหมด ได้ยินมาว่าในวงมีอยู่ประมาณ5-6คนไม่ใช่หรอ เเล้วนี่ทำไมมีเเค่คนเดียว หน้าตาก็นะ

ขมวดคิ้วให้เป็นรูปตัวv ขมวดช้าๆให้เป็นรูปตัวv

 

ผมตั้งพิซซ่าไว้บนโต๊ะที่ผมเห็นตัวเเรกพร้อมกับถุงน้ำโค้กใหญ่ๆ

 

“ ทั้งหมด7’500วอนครับ”

 

“ …..” บางทีการเงียบก็ไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นนะ รีบๆจ่ายได้มั้ย ทำตัวไม่ถูก รู้แหละว่าไม่ใช่ของของตัวเองเเต่จ่ายเเทนเพื่อนมันจะได้มั้ย กูอยากออกจากที่นี่ จ่ายกูหน่อยเถอะ แต่สุดท้ายความเงียบก็ครอบงำพวกเราทั้งสอง

 

พอเค้าไม่พูดอะไรผมก็ได้เเต่มองเพดาน เอาใหม่ล่ะกัน

 

“ เอ่อ.. คุณหวังจะกลับมาตอนไหนครับ ผมจะได้คิดเง-

“ ผมไม่ดื่มโค้ก ผมดื่มน้ำส้มหรือไม่ก็น้ำเปล่า เเต่ถ้าเป็นน้ำเปล่าก็ต้องเป็นของEvianเท่านั้น” ครับ ขอบคุณที่บอกนะ

“ ครับเเต่คุณหวังไม่ได้บอกผมให้-

“ คุณเป็นแฟนคลับผม คุณก็น่าจะรู้” จากนั้นก็ชี้ที่เสื้อผม .. เออวะ พึ่งสังเกตุเสื้อที่ผมใส่นั่นมันหน้ามันนี่หว่า ตัวจริงดูกวนตีนกว่าในเสื้ออีกนะ

 

“ ผมถูกบังคับให้ใส่ครับ” คนข้างผมเลิกคิ้วเเละมองผมสักพัก พักใหญ่ๆ มันไม่มีเหตุผลที่ผมจะไปตอบเค้ากลับว่า นั่นนะสิครับ หรือ ใช่เลยครับ ก็ผมถูกบังคับมาจริงๆ

“ งั้น.. คุณไปซื้อน้ำส้มมาให้ผมหน่อย ขอส้มแท้100% ไม่เอาเเบบใส่สีหรือใส่สาร เอายี่ห-

“ ไม่เอาอ่ะผมเหนื่อย”

 

“….อะไรนะ?”

 

“ ผมบอกว่าผมเหนื่อย ผมขอทวนนะ ค่าพิซซ่าและค่าเครื่องดื่มรวมกันเป็น7’500วอนครับ” คราวนี้ผมเเบมือขอเลยครับ เพิ่มท่าทางกริยาให้ดูรีบสุดๆคือการก้มมองนาฬิกาข้อมือถึงผมจะไม่มีก็เถอะเเต่อยากให้คนข้างหน้าเอะใจหน่อยว่าผมรีบ เเต่ดูๆเเล้วเหมือนมันไม่ได้ช่วยอะไรผมเลยเพราะคนข้างหน้าก็ยังนั่งไขว้ขาจ้องผมเหมือนเดิม

 

“ ผมรีบนะ ผมมีการมีงานนะคุณ รีบๆจ่ายได้มั้ย”

“ น้ำส้มขวดละ5’000วอน ผมให้คุณสองเท่าถ้าคุณวิ่งไปซื้อให้ผม” มันต้องเอาให้ได้ใช่มั้ย

“ คุณก็ให้พี่เมเนเจอร์ไปซื้อเองสิ ผมเป็นเเค่พนักงานตรวจบัตรคอนนะคุณไม่ใช้เด็กเสิร์ฟอาหาร เเล้วคุณกำลังทดสอบผมอยู่หรือไง ผมบอกว่าไม่ไป ผมวิ่งไปซื้อพิซซ่าให้เพื่อนคุณมาเเล้วเนี่ยรอพิซซ่า15นาทีเเต่วิ่งไปกลับ30นาที 30นาทีเชียวนะคุณ ถ้าอยากดื่มนักก็ไปซื้อเอง ผมขอเเค่ค่าพิซซ่า7’500วอนเนี่ย จ่ายเเทนเพื่อนไปก่อนไม่ได้หรอ ผมเหนื่อยเเล้วนะ เหนื่อยกับการวิ่งไม่พอนี่ต้องมาเหนื่อยกับการอธิบายให้คุณฟังอีก ตกลงจะจ่ายไม่จ่ายเนี่ย” ผมล่ะอยากจะหยิบโค้กในถุงนั่นมาดื่มใหชุ่มคอซะจริงๆ นี่คิดว่าตัวเองเป็นอะไรเนี่ย นิสัยเหมือนเพื่อนมันจริงๆเลย คิดว่ามีเงินเเล้วจะฟาดหัวใช้คนอื่นได้หรือไง กูต้องการเงินพิซซ่าเนี่ยย 7’500วอนเนี่ยย ให้กูได้มั้ยกูจะไปทำงานต่อ

 

ผมมองหน้ามัน มันมองหน้าผม

คือผมควรจะยอมเเพ้กับค่าพิซซ่าเเล้วกลับไปทำงานใช่มั้ย

 

“ นี่เมื่อกี้คุณบ่นผมอย่างงั้นหรอ? คุณกำลังบ่นผมอย่างงั้นหรอ?”

 

“ ก็มีคุณกับผมในห้องคุณคิดว่าผมบ่นไดร์เป่าผมหรอ” สักตั้งมั้ย คอเเห้งเเล้วนะ ผมยืนพิงประตูเเล้วกอดอกมองคุณชายอิลกุก ซึ่งเค้าก็ทำท่านี่ก่อนหน้านี่ซึ่งตอนนี้เค้าก็เปลี่ยนท่าเเล้ว เข้าเปลี่ยนจากนั่งเป็นเดินมาหาผมไงล่ะ! ผมรีบเอามือที่ไขว้อยู่ข้างหน้ามาเเนบลำตัวยังกะกำลังยืนตรงทำความเคารพธงชาติ คงจะเดินมาจ่ายตังค์มั้ง เเล้วทำไมผมต้องสั่นๆด้วยเนี่ย

ปึก!

 

“…”

 

ตอนนี้ผมกับเขาห่างกันแค่ไม่กี่เซนติเมตร มือด้านซ้ายของเขาได้ดันประตูที่ผมไว้เเละมืออีกข้างก็เกยเอวส่วนขาก็กลับมาไขว้กันเหมือนเดิม เขาสูงกว่าผมเยอะมากทำให้เขาต้องก้มลงเพื่อที่จะคุยกับผม

ตอนนี้ผมอยู่ใกล้เขามาก ใกล้จนได้ยินเสียงหายใจเข้าออก ใกล้จนสังเกตุเห็นรอยสักที่คอที่เป็นรูปแม่กุญแจเมโลดี้ ใกล้จนหน้าที่เข้มๆที่พอดูใกล้ๆเเม่งยิ่งเข้มไปกว่าเดิม ผมรีบตั้งสติและใช้มือดันอกเพื่อรักษาระยะห่าง แต่พอผมวางมือบนอกเเล้วดันปึ้ป

ปัป

 

เขาขัดขืนโดยการเอามือที่เคยเกยเอว รวบมือผมทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัวแล้วจับผมหันหลังเเล้วกระแทกทำให้ตัวผมตอนนี้ราบไปเป็นส่วนส่วนเดียวกับประตูเป็นที่เรียบร้อย

 

“ โอ้ย!” ผมอุทานออกมาด้วยความเจ็บแปลบที่อก ก็ชนซะเเรงขนาดนั้นมันก็ต้องมีสะเทือนกันบ้าง ผมรีบสะบัดเเขนสะบัดเพื่อที่จะออกจากที่ตรงนี้เเต่เมื่อใดที่ผมขยับเข้าก็จะกระแทกมาจากด้านหลัง เหมือนเล่นบทตบจูบเเต่เปลี่ยนคือขยับกระแทก

 

“ โอ้ย! นี่คุณหยุดกระแทกผมสักทีมันเจ็บนะ!”

“ ก็จะได้รู้ว่าการเถียงผู้ใหญ่มันไม่ดี” เสียงของเขา ณ ตอนนี้มันใกล้กับใบหูของผมมาก เหมือนเขาตั้งใจที่พูดข้างๆ อยู่ดีๆผมก็เกิดอาการขนลุกขึ้นมา

“ ปล่อยผมสิ ปล่อยผ-

ปัง

 

“ อ๊าา!” เดี๋ยวนะ! นี่มันไม่ใช่เสียงผมนะ! คือมันออกมาเอง! ผมไม่ได้ตั้งใจนะ! แล้วอะไรที่มันดันๆดุนๆอยู่หลังบั้นทายผมเนี่ย! .. เฮ้ย อย่าบอกนะมึง!

 

“ หึ ไม่ต้องตกใจ เพราะเดี๋ยวคุณก็ได้เห็นมัน!”

 

 

 

ใครก็ได้ เอาผมออกไปจากที่ตรงนี้ที

 

 

--------------------------------------------

 

สวัสดีครับ Soung OPPA ครับ ช่วยเป็นกำลังใจให้กับนิยายเรื่องนี้ด้วยนะครับ ถ้าชอบ,ถูกใจ อย่าลืมกดไลค์เเละเเบ่งปันให้เพื่อนๆได้เข้ามาอ่านด้วยนะครับ คอมเม้นท์ของรีดเดอร์เป็นกำลังใจที่ดีที่สุดของไรท์เตอร์ครับ เเล้วเจอกันใหม่ใน EP หน้า สวัสดีครับ


 

 

 

ฝากเรื่องของผมอีกเรื่องนึงไว้ในอ้อมกอดด้วยครับ 

http://www.tunwalai.com/story/132282/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2-yakuza-i-yaoi-20?page=1

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว