Shot Fiction Tokyo Ghoul Toudai moto kurashi FurutaKanekiArima
0
ตอน
4.93K
เข้าชม
65
ถูกใจ
2
ความคิดเห็น
29
เพิ่มลงคลัง

Shot Fiction Tokyo Ghoul

Toudai moto kurashi

 

ใต้ประภาคารคือความมืด

 

*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

 

ท่ามกลางความมืดแว่วเสียงปิดกระแทก ก่อนจะตามมาด้วยอะไรบางอย่างขมๆที่ถูกยัดเข้าปากมา ตามด้วยน้ำที่กรอกตามลงมาอย่างไม่มีความปราณีใดๆ แว่วเสียงพูดมาจากที่ไกลๆว่า “เพราะแกเอาผู้หญิงคนนั้นไป... ฉันจะเอาแกไปแทน...” ก่อนที่กลิ่นหวานอ่อนๆนั่นจะถูกป้ายตรงบริเวณปากและจมูก ให้สติของเขาถูกฉุดลงสู่ความมืดอีกครั้ง

 

สัมผัสสากๆปนเปียกชื้นลากไล้ไปตามผิวกาย...ความรู้สึกขยักแขยงตีตื้นในอก เขาพยายามฝืนเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้น ก็พบกับพื้นปูนสกปรกฝุ่นจับหนา และรอยดวงน้ำบางส่วน จนเปลี่ยนพื้นบริเวณนั้นให้เป็นขี้โคลน

 

ไกลออกไปหน่อยเป็นเศษกระจกที่แตกละเอียดส่องประกายล้อกับแสงไฟบางอย่าง และเสื้อโค้ทสีดำที่ถูกถอดทิ้งไว้ ภายในนั้นมีเหรียญสีดำถูกสอดไว้ในกระเป๋า...

 

เขาพยายามจะหันศีรษะแต่ก็พบว่าทำไม่ได้ ...อย่าว่าแต่หันหัวเลยแค่ปลายนิ้วมือที่เหยียดออกไปด้านหน้าเขายังไม่อาจสั่งงานมันให้กระดิกได้เลย!?

 

สัญชาตญาณลั่นร้องอยู่ในอก ความรู้สึกที่มีหมอกดำๆปกคลุม กำลังก่อเค้าถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นโดยไม่อาจเรียบเรียงเป็นคำได้ สัมผัสสากๆและเปียกชื้นนั้นไล้ต่ำ... เช่นเดียวกับสัมผัสลื่นๆพร้อมเมือกบางอย่างกำลังลูบไล้ไปทั่วผิวกายราวกับร่างของเขากำลังเปลือยเปล่า

 

ความเปียกชื้นนั่นไล้ต่ำลงมายังส่วนนั้นของเขาพร้อมกับเชือกนิ่มๆลื่นๆบางอย่างที่ไล้ถูไถกับทางเข้าน่าอายนั่น!!

 

เขากระตุกกายเฮือกทันที ริมฝีปากแข็งทื่อพยายามเปล่งเสียงพูดออกมา แต่ถึงอย่างนั้นลิ้นนั้นก็แข็งทื่อ ปากก็ไม่ขยับ!!

 

“โอ๊ะโอ๋ ตื่นแล้วเหรอจ้า~Y”

 

ใบหน้าของเขาถูกจับให้หันมามองหน้าคนที่กำลังกระทำการอุกอาจกับเขา เก้าหาง!

 

เจ้าเก้าหางหยักยิ้มเยาะใส่เขาขณะบังคับให้คากุเนะของตนเลื้อยรัดพันกายที่เขาพบว่าเสื้อผ้าถูกปลดกระดุมออกเสียจนหลุดลุ่ย กางเกงสแล็คและชั้นในถูกโยนทิ้งไกลออกไป

 

แม้ดวงตาเขาจะไม่อาจฝืนลืมได้อย่างเต็มที แต่ประกายดุดันนั้นสถิตอยู่ในดวงตาสีเทาเข้มที่จับจ้องมองเก้าหางอย่างอาฆาตโดยไม่อาจทำอะไรได้ เจ้าเก้าหางเหยียดยิ้มเยือกเย็นใส่ขณะเลียริมฝีปากของตนอย่างหิวกระหายเพราะความอดอยาก

 

ไม่รอช้าเส้นสายบิคาคุหนึ่งก็จัดการแทรกผ่านปากทางที่ถูกถูไถเสียจนเปียกชื้นไปด้วยสารคัดหลั่งจากคากุเนะ

 

“ฮะ!!!” เสียงร้องครางพลันหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากที่เวลานี้ช่างดูเย้ายวนให้ลิ้มลองนัก เร็วเท่าความคิด เจ้าเก้าหางก็จัดการก้มลงไปละเลงจูบเขาอย่างที่ใจอยากทันที “อือ!” ชายหนุ่มร้องครางประท้วงในลำคอ กลิ่นบุหรี่และมิ้นต์ตีคลุ้งเข้ามาในปากจากผู้บุกรุก แม้สมองพยายามจะสั่งการให้ตัวเองกัดลิ้นโสโครกนั่นซะ แต่เขาพบว่าตนเองไม่สามารถสั่งการหรือบังคับร่างกายได้เลย

 

มีเพียงแค่สัมผัสเปียกลื่นที่กระแทกกระทั้นเข้า-ออกภายในร่างกายเขาที่ปราศจากอารมณ์ร่วมใดๆทั้งสิ้น มีเพียงแค่ความเจ็บที่เริ่มแล่นริ้ว ...ดวงเนตรสีเมาเกือบดำเบิกกว้างแข็งค้างมองใบหน้าที่น่ารังเกียจนั่นผละออกห่างพร้อมหยาดน้ำใสปนสีแดงไหลเยิ้มเชื่อมริมฝีปากทั้งสอง ตอนนั้นเองที่ความเจ็บและอุ่นปร่าเค็มคลุ้งอยู่ในปาก

 

เจ้าเก้าหางลูบไล้ใบหน้าของเขา “นึกไม่ถึงจริงๆเลยนะเนี่ยว่าเธอจะรสดีขนาดนี้น่ะY”

 

“โกรธเหรอ? แต่เธอจะทำอะไรฉันได้ล่ะ? ร่อนสะโพกให้ฉันเหรอ? ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” เก้าหางหัวเราะอย่างกักขฬะขณะแหงนเงยหน้าเชิดไปเบื้องหลัง ก่อนก้มกลับลงมามองเขาด้วยดวงตาคาคุกันที่เรืองรองอยู่ในรูที่เจาะไว้เป็นตาของหน้ากาก “ฉันจะกินเธอให้เกลี้ยงเลยนะYฮ่าๆๆๆ” ว่าจบเจ้านั่นก็ก้มลงขบกัดซอกคอเขาเสียจนเลือดซิบ แล้วเมื่อเลือดไหลรินมันก็เริ่มกัดกินอย่างตะกละตะกลาม

 

ดวงเนตรข้างซ้ายของเขาพลันเปลี่ยนเป็นคาคุกันทันที ความโกรธาที่แล่นริ้วราวกับเหล็กร้อนๆที่หลอมละลายไหลพล่านไปทั่วร่าง สั่งการให้ร่างกายของเขาขยับเพื่อจัดการคนน่ารังเกียจตรงหน้าให้สิ้น!!!

 

ปากที่โดนกัดกินริมฝีปากจนหมด เผยให้เห็นเหงือกและฟันพลันอ้ากว้าง ก่อนกัดเต็มแรงลงบนไหล่ของคนที่ย่ำยีเขา!!!

 

“อ้ากกกกกกก” เจ้าเก้าหางร้องลั่นขณะรีบผละตัวออกห่าง มันตวัดสายตาขึ้นมองเขาที่กำลังถลึงตาจ้องตอบอย่างอาฆาต เส้นสายรินคาคุอันบิดเบี้ยวพยายามจะก่อตัวเป็นรูปร่างแต่ก็ไม่สมบูรณ์นัก แต่เขาก็อาศัยความโกรธเป็นแรงขับร่างกายสั่งการให้คากุเนะของตนนั้นฟาดฟันใส่ศัตรูตรงหน้า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พบว่าเขาทำได้แค่เพียงให้คากุเนะไล่ปัดใส่อย่างสะเปะสะปะอย่างไม่อาจควบคุมได้

 

แม้จะถลึงตามองอย่างอาฆาต... แม้จะเพียรสั่งงานคากุเนะของตนด้วยความเกี้ยวกราดเพียงใด แต่ก็ไม่ได้ตามที่หวัง เจ้าเก้าหางเองก็ตั้งท่าจะเข้ามาจัดการเขา ดังนั้นเขาจึงเค้นสติทั้งหมดที่มีสั่งให้คากุเนะนั่นฟาดเข้ากับฝาผนัง ...เพดาน และพื้นเสียจนพังยับ ฉวยหยิบเสื้อโค้ทที่ปลายเท้ามาห่อกาย แล้ววิ่งลงบันได แต่เขาก็ก้าวพลาดจนกลิ้งตกลงไป แต่เขาก็รีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแม้ว่าโลกจะหมุนคว้างและอะไรบางอย่างเปียกๆจะไหลเข้าตาก็ตาม

 

เขาวิ่ง... วิ่ง... วิ่ง...จนออกมาสู่สายฝน และยังคงวิ่งต่อไปอย่างไม่รู้ว่าจะไปไหน ...มีเพียงแค่ความรู้สึกอย่างแรงกล้าที่ขับดันให้เขาวิ่งหนีเอาตัวรอดบนท้องถนนยามค่ำคืนอ้างว้างไร้ผู้คน

 

 

พลัก! ชายหนุ่มกระแทกเข้ากับร่างของใครบางคนที่โผล่เข้ามาขวางเขาท่ามกลางความมืดมิด และคงล้มไปแล้วถ้านิ้วมืออันแข็งแรงภายใต้ถุงมือหนังสีดำนั่นไม่ได้กระชากแขนรั้งเขาเข้าหาตัวจนปะทะกับแผ่นอกกว้าง

 

“โอะโอ้ว... นี่ผมเก็บอะไรได้เนี่ย?” น้ำเสียงทะเล้นถูกเอ่ยออกมาจากร่างนั้น เมื่อไฮเสะเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง

 

ตัวตลกหน้าขาว ริมฝีปากสีแดงแสยะกว้างเป็นรอยยิ้มอวดฟันขาวสอดรับกับจมูกกลมโตสีแดงดูน่าขัน ที่โหนกแก้มขวาถูกเขียนรูปหัวใจสีชมพู ตรงตำแหน่งตาถูกเจารูเล็กๆไว้ให้มองเห็น แต้มด้วยรอยขีดสีดำเหมือนรอยเย็บแผลจากรูนั่นขึ้นไปที่หน้าผาก และที่รอบตาซ้ายถูกเขียนด้วยตัวอักษอัลฟาเบท G  ...มันคือหน้ากากตัวตลกที่เขาจำได้ไม่มีวันลืม!!!

 

“เอ้า!ฮืบ!” เจ้าตัวตลกนั่นว่าก่อนจะช้อนร่างของเขาพาดบ่าเอาไว้ แล้วเดินเขย่งก้าวกระโดดพลางฮัมเพลงในลำคอท่ามกลางสายฝน “On a wagon bound~ for market, There’s a calf with a mournful eye~~”

 

“ฮึก” เขาครางออกมาเมื่ออยู่ๆก็ถูกช้อนตัวแถมยังถูกจับห้อยหัวกะทันหันจนเลือดตกหัวหน้ามืดอย่างที่ไม่เคยเป็นมานานมากแล้ว นับตั้งแต่ที่เคยเป็นมนุษย์  เขาพยายามที่จะสลัดตัวให้หลุดจากการจับกุม แต่ก็ทำได้เพียงแค่ขยับมือทุบไปที่หลังนั่นด้วยแรงที่น้อยมากจนน่าโมโห และที่น่าโมโหยิ่งกว่าคืออาการหน้ามืดนั่นมันเรียกให้อาการมึนงงกลับมาครอบงำอีกครั้งจนเขาได้แต่ปล่อยให้หัวตกห้อยอย่างไม่อาจฝืนได้อีก

 

“High above him there’~s a swallow,~~ Winging swifly through the sky~~”

 

แม้ตอนนี้ความมึนงงจะครอบงำให้เขาไม่อาจเข้าใจเนื้อร้องนั้นได้ในตอนนี้ แต่เค้าลางในหัวบ่งบอกว่าเขาเคยอ่านและรู้ความหมายเพลงนี้...

 

“How the winds~ are laughing,~~ They laugh with all their might~~”

 

เสียงทะเล้นนั่นยังคงร้องเพลงนี้ต่อไป อยู่ห่างๆและเป็นระลอกเหมือนวงคลื่นที่ผิวน้ำ

 

“Laugh and laugh the whole day through, ~~ and half the summer’s night~”

 

ปลายผมสีดำอันเปียกชื้นตกระ ล้อมรอบการมองเห็นที่มีเพียงพื้นคอนกรีตที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำฝนที่แตกกระจายเพราะการเหยียบย่ำของรองเท้าหนังสีดำและหยาดน้ำจากฟ้า

 

“Donna Donna Donna~~  Donna Donna Don~¯”

 

รู้สึกได้ถึงสัมผัสของฝ่ามือแกร่งใต้ถุงมือหนังที่เริ่มลูบไล้ผิวเนื้อหลังข้อพับขาที่ถูกรวบไว้ ...สูงขึ้นไป ...สูงขึ้นไป

 

“Donna Donna Donna~~  Donna Donna Don~¯”

 

สัญชาตญาณบอกให้หนี แต่หัวกลับไม่อาจสั่งงานให้ร่างกายขยับได้อีกแล้ว... ได้แต่ปล่อยให้ร่างกายห้อยแกว่งไปมาอยู่บนไหล่กว้างนั้นอย่างตุ๊กตาผ้า

 

แล้วตอนนั้นเอง...อยู่ๆฝนก็หยุดตก ...ไม่สิ พวกเขาเข้ามาในร่มของอาคารแห่งหนึ่งต่างหาก เจ้าตัวตลกหันซ้ายหันขวาจนร่างของเขาถูกเหวี่ยงไปมาด้วย จนเขาการมองเห็นน่ะพร่าเลือนหายไปชั่วครู่

 

 

 

 

พลั่ก!

 

ตัวตลกหนุ่มจัดการโยนร่างคนบนไหล่ใส่เนินหินกรวดที่วางกองไว้ใต้ถุนอาคารที่กำลังก่อสร้าง พร้อมประกาศด้วยเสียงทะเล้นว่า “เอาที่นี่ล่ะกัน!”

 

แล้วตัวตลกหนุ่มก็เท้าเอวทั้งสองเอียงคอมองดูร่างอ่อนปวกเปียกนั่นที่พยายามฝืนรั้งสติออกจากความงุนงงและจุก

 

“คิดถึงครั้งแรกที่ผมทำความรู้จักกับคุณจังเลยนะครับ...คาเนกิ เคนคุง” เจ้าตัวตลกแสนกลยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าอ่อนวัยที่ที่มีเลือดจากหน้าผากที่แตกไหลเข้าตา ทั้งยังริมฝีปากที่โดนกัดกินจนหมดก่อนหน้านี้ที่กำลังฟื้นตัวจนริมฝีปากอิ่มเอิบนั่นกลับมาประดับบนเครื่องหน้าอันน่าหลงใหลอีกครั้ง... “ถึงแม้ที่นี่จะไม่ใช่อาคารที่กำลังก่อสร้างนั้น แต่ว่านี่!...” ว่าแล้วก็ยืดตัวผายมืออกไปด้านข้างทั้งสองราวกับพิธีกรที่กำลังจะนำเสนอโชว์บางอย่างก็ไม่ปาน “คืออาคารที่กำลังก่อสร้างเหมือนกัน! ที่ ที่ให้บรรยากาศแบบเดียวกับเมื่อตอนนั้นยังไงล่ะครับ!!”

 

“อึก” แม้ไม่อาจส่งเสียงออกมาได้แต่ดวงตาข้างซ้ายของไฮเสะที่เปลี่ยนเป็นสีเลือด ขณะที่กำลังจับจ้องมองเจ้าตัวตลกนั่นเปี่ยมไปด้วยความวาวโรจน์

 

ใบหน้าเบื้องหลังหน้ากากพลันแสยะยิ้มระรื่นออกมาสุดขีดทันที ขณะที่จับจ้องมองดวงเนตรสองสีที่กำลังเรืองรองราวกับอัญมณีน้ำงาม ...ช่างน่าหลงใหล ...ลุ่มหลงให้มัวเมาอย่างบ้าคลั่ง

ชายหนุ่มในคราบตัวตลกแสนกลคุกเข่าลงเบื้องหน้าร่างเปลือยเปล่า ซึ่งมีเพียงเสื้อโค้ทสีดำพันกายลวกๆเปิดให้เห็นผิวเนื้อที่ไหล่และโคนขาขาวที่มีเพียงชายเสื้อมาปิดส่วนนั้นเอาไว้ ตัวตลกหนุ่มจัดการถอดถุงมือที่สวมไว้ออก ก่อนจะส่งมือใหญ่เข้าลูบไล้โคนขาเนียนอันเย็นเฉียบที่สะดุ้งเฮือกชักหนี แต่มันก็ไม่ไวพอ จนโดนมือของเขาตะครุบจิกรั้งมันเอาไว้ ก่อนแยกมันออกว้างให้เขาแทรกกลางตัวอีกฝ่ายได้

 

“ผมน่ะ... ชอบแต่ผู้หญิงสวยๆนะ” ตัวตลกกล่าวอย่างใจเย็น พลางเบียดตัวแนบกับร่างคนตัวเล็กกว่าที่บัดนี้ตกเป็นเบี้ยล่างเขาโดยสมบูรณ์ “...แต่ ตอนนี้คงต้องรวมของสวยๆงามๆอย่างคุณเข้าไปแล้วนี่สิ” กล่าวพลางดุนดันส่วนที่แข็งขืนใต้กางเกงของตนเข้ากับส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่าย จนร่างนั้นสะดุ้งสุดตัว ดวงตาที่วาวโรจน์นั้นปรากฏเค้าความกระดายอายแบบสาวไร้เดียงสาก็ไม่ปาน เรียกอารมณ์ตื่นเต้นให้กับเขาได้เป็นเท่าทวี

 

“อะไรกันครับ? ...ทำเป็นไม่เคยไปได้นะครับ” กล่าวพลางกระชากเสื้อโค้ทอันเกะกะออกไปให้พ้นทาง ทำให้เห็นร่างเปลือยเปล่าที่แม้จะยังมีเสื้อเชิ้ตสีดำเหลือติดกาย แต่มันก็ไร้ค่าเมื่อกระดุมถูกฉีกกระชากออกจนหมดอยู่แล้ว กล้ามเนื้อได้รูปสวยจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอกำลังเปียกปอนจนทั้งร่างสั่นระริก ไหนยังผิวที่เนียนลื่นมือนี่อีก ช่างน่าเสียดายนักที่มีหน้ากากนี่มาเกะกะจนเขาไม่อาจลิ้มชิมรสร่างนี้ได้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงทำเพียงแค่ก้มหน้าลงคลอเคลียที่ซอกคอขาวแล้วสูดดมกลิ่นหอมๆที่กำลังกรุ่นกำจายราวกับจะเชิญชวนนี้แทน ในขณะที่นิ้วมือแกร่งก็จัดการขยี้ลงบนตุ่มไตสีหวานบนแผ่นอกของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง จนคนตัวเล็กกว่าหลุดเสียงครางขาดห้วงออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

และนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มยามใจเลื่อนมือลงต่ำไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวอีกฝ่ายบีบเคล้นคลึงมันจนเริ่มมีปฏิกิริยานิดๆ มือเรียวข้างขวาภายใต้ถุงมืออันขาดวิ่นนั่นยกขึ้นจิกไหล่กว้าง และพยายามพลักดันออกไปด้วยเรี่ยวแรงน้อยนิด

 

ก็น้า~ โดนยาเข้าไปก็แบบนี้แหละนะ รู้สึกจะเป็นจำพวกยาสลบ? หรือเปล่านะ?

 

โจ๊กเกอร์หนุ่มคิดในใจขณะปลดเข็มขัดและกางเกงของตัวเองอย่างใจเย็น เพราะยังไงซะ ที่นี่...และในเวลาแบบนี้ ก็ไม่มีใครมาอยู่แล้ว ส่วนร่างจิ๋วอันแสนเย่อหยิ่งนี่น่ะเหรอ? ฮึ... แค่จะพูดยังทำไม่ได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการปัดป้องที่ราวกับลูกแมวที่กำลังงัวเงียแล้วปัดคนมารบกวนแบบไม่จริงจังอีก...

 

ความร้อนอันแข็งขืนถูกส่งเข้ามาถูไถกับสิ่งที่เขากำลังปลุกเร้ามัน ในขณะที่มือหนึ่งกำลังทั้งจิกทั้งขยี้ปุ่มติ่งไตหวานๆนั่นอย่างมันมือ ส่วนอีกข้างเขาก็ทำได้เพียงแค่เป่าลมหายใจร้อนๆใส่มัน เพราะหน้ากากที่บดบังนี่ทำให้เขาไม่อาจลิ้มรสมันได้ดังใจอยาก ส่วนอีกมือที่เคยปรนเปรอร่างอันแสนงามนี่ ก็เลื่อนไถไปตามแนวเชิงกรานสู่บั้นท้ายแน่นตึงมือที่เบื้องหลัง ...แล้วบีบเคล้นมันอย่างหนักมือ ในขณะที่เขาเริ่มขยับตัวให้อารมณ์ร้อนๆของตนถูไถปลุกเร้าอีกฝ่าย

 

ได้ยินเสียงลมหายใจขาดห้วงเคล้าเสียงคราง และคำพูดขาดๆหายๆจากริมฝีปากอิ่มสีหวานนั่นเป็นอย่างดี “ยะ...”

 

ตัวตลกแสนกลช้อนหน้าขึ้นมอง พลางเอียงคอใส่ราวกับฉงนเป็นนักหนาว่าร่างนั้นจะกล่าวอะไร

 

“อย่าหยุดเหรอครับ? แม่เจ้า! นี่คุณไม่ได้ไร้เดียงสาจริงๆด้วย ฮ่ะๆๆๆ” เขากล่าวกลั้วหัวเราะ ขณะที่จัดการสอดแทรกนิ้วของตัวเองไปยังซอกกลีบเนื้อที่เปียกลื่นนิดๆ อา...มันคงจะเป็นสารคัดหลั่งจากคากุเนะที่เจ้านั่นเหลือไว้สินะครับ ...แต่พอนึกแล้ว................

 

ตอนนั้นเองที่คากุเนะพลันเริ่มก่อตัวที่เบื้องหลังของโจ๊กเกอร์หนุ่ม

 

“ตัวคุณที่โดนย่ำยีตอนนั้นมันน่ารักมากเลยล่ะ~Y น่าเสียดายจังที่หนีมาได้ อ่ะ...แต่คิดอีกที ถ้าคุณไม่หนีมาผมก็คงอดสินะครับ ...แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะฮะๆๆๆๆๆ” ชายหนุ่มหัวเราะเยาะใส่ใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้นสีระเรื่อนั่น และเพราะใกล้กันขนาดนี้นี่เองที่ทำให้เขาได้ใช้ลมหายใจเดียวกับร่างนั้น มองเห็นความโกรธาแล่นริ้วอยู่ในแก้วตาสีสวย

 

“สะ....เลว” คนตัวเล็กกว่าเค้นเสียงในลำคอ ก่อนจะสะดุ้งเฮือกหลุดเสียงครางออกมา เมื่อมีบางสิ่งบางอย่างหยุ่นๆและมีเมือกลื่นๆถูกส่งเข้ามาในช่องทางสีหวาน

 

“ไม่เอาสิครับ...ไม่พูดแบบนี้สิ.... รู้ไหมว่าเจ้าลังไม้นั่นมันหนักมาแค่ไหนน่ะ? กว่าผมจะผลักลงมาได้ก็แทบแย่แน่ะ” ตัวตลกแกล้งทำเสียงเศร้า เล่าถึงการที่อยู่ๆลังไม้ก็ร่วงลงมาจากชั้นวางที่โกดังท่าเรือนั่น

 

“!”

 

“พอดีเห็นคุณดูพะว้าพะวงอยู่...ผมก็เลยช่วยคุณให้ตัดสินใจเร็วขึ้นน่ะครับ” ตัวตลกกล่าวพลางบังคับให้คากุเนะของตนเลื้อยรัดพันแขนขาขาวนวลก่อนตนจะลุกขึ้น จิกทึ้งกลุ่มผมสีดำนุ่มอันเปียกชื้นเอาไว้แล้วจ่อแท่งเนื้อร้อนๆที่ริมฝีปากหวานน่ากินนั่น “เพราะงั้น... ให้รางวัลผม...” นิ้วแกร่งกดขยี้ริมฝีปากอิ่มจนเผยออกเพียงเล็กน้อยก็สอดนิ้วเข้าไปในโพรงปากนั้น บีบบังคับให้เปิดออก... “ด้วยนะครับ~Y” พร้อมกับกดกายเข้าไปในความอ่อนนุ่ม

 

“อื้อ!” หยาดน้ำใสพลันเอ่อล้นที่ขอบตาแสนสวยทันที เรียกเสียงหัวเราะในลำคออันแสนสำราญของตัวตลกหนุ่มได้เป็นอย่างดี

 

กับคนที่เป็นเพียงแค่ลูกแกะอันแสนอ่อนแอ ...แต่พยายามจะทำเป็นห่มหนังหมาป่าอันดุร้าย

 

ซุกซ้อนความเปราะบางไว้ภายใต้ท่าทีเย็นชาและเฉยเมย

 

จากท่าทีหยิ่งทะนงร่วงหล่นสู่สภาพอ่อนแอแต่เดิมของตน

 

แล้วตอนนี้ตัวเขาที่กำลังเป็นคนเหยียบขยี้เกราะกำบังนั่นจนไม่เหลือชิ้นดี ได้ฉุดกระชากร่างนั้นให้กลับมาสู่การเป็นเบี้ยล่างของเขาอีกครั้ง เพียงตระหนักได้ถึงสิ่งนี้ ชายหนุ่มก็พบว่ามันสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับเขามากแค่ไหน

 

ชายหนุ่มแสยะยิ้มเบื้องหลังหน้ากากตัวตลก ขณะขยับศีรษะของ ‘เบี้ย’ อันแสนน่ารักนั่นพลางกล่าวออกมาอย่างเหยียดหยาม

 

“คุณน่ะ... มันก็แค่คนที่อยากจะเป็นที่รักของคนอื่นนั่นแหละ...เพราะงั้น...ผมจะเป็นคนที่คอยรักและเอ็นดูคุณเองนะคร้าบ~Y” ชายหนุ่มเหยียดสายตาลงต่ำทอดมองเรียวปากอิ่มอ่อนนุ่มอันแสนอ่อนหวานที่ถูกบังคับให้โอบรับเขาเอาไว้อย่างหนักหน่วงจนร่างนั้นสำลักไออย่างอื้ออึง ...น้ำตาไหลอาบแก้ม อีกทั้งช่องทางอุ่นๆที่เบื้องล่างซึ่งกำลังถูกรุกรานโดนคากุเนะของเขาอีก

 

มันรู้สึกดีสุดๆไปเลยล่ะ~Y

 

จนถึงที่สุด เขาก็ปลดปล่อยหยาดอารมณ์เข้าสู่โพรงปากนั้น จนร่างเล็กกว่าได้แต่สำลักไอ ใบหน้าอ่อนเยาว์แดงเถือกนั่นเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดอารมณ์ ในขณะที่เขาบังคับให้คากุเนะยกร่างอันเย้ายวนนั่นขึ้นมา จัดให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะเจาะ แล้วก็จัดการสอดใส่กายเข้าไปในช่องทางสีหวานทันที เรียกเสียงร้องครางในลำคอด้วยความเจ็บจากร่างบางได้เป็นอย่างดี เขาบีบขยี้บั้นท้ายมนรั้งให้ยกขึ้นและกระแทกขึ้นลงอย่างรุนแรง

 

 

“ทีเดียวมันไม่พอหรอกนะครับ...สำหรับค่าเหนื่อยคราวนี้” ชายหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ไม่อาจหุบได้ลงเลยภายใต้หน้ากากนั่น “เป็นไงครับ...สู้หัวหน้าคนเก่งของคุณได้หรือเปล่าล่ะ? ฮะๆๆๆๆๆๆ” ชายหนุ่มหัวเราะเยาะร่างนั้นที่ได้แต่ไหวโยกตามแรง คอพับคออ่อน หากแต่สายตานั้นกลับวาวโรจน์ด้วยความเคียดแค้นอยู่เต็มเปี่ยมจวบจนวินาทีสุดท้ายที่ร่างนั้นสิ้นสติลงคาอกเขา โดยไม่แม้แต่จะปลดปล่อยตัวเองออกมา

 

 

 

กลับไปอ่านตอนต่อได้ที่เด็กดีนะครับ

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว