ต้นเรื่อง
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1470502&chapter=1
“อื้อ พูดอะไร ไม่น่าฟังเลย” ใบหน้าหล่อเหลาฉายยิ้มร้าย เรือนร่างสูงเพรียวของเด็กชายวัยสิบเก้าหยัดกับฟูกเย็นจงใจเคลื่อนเสียดสีกับอีกคนราวกับจะเผาเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ขวางกั้นให้มอดไหม้เป็นจุลด้วยสัมผัสเร่าร้อนราวกับจะจุดไฟได้นั้น เสียงแหบพร่าครางอย่างพึงใจยามได้บดแนบศูนย์รวมอารมณ์ลงกลางช่วงขาเรียวที่ถูกจับให้อ้าออก แบคฮยอนกลืนกลีบปากกลั้นเสียงคราง ดวงหน้าอ่อนใสซับสีระเรื่อทั้งอายทั้งเขินทั้งซ่านไหวกับริ้วอารมณ์ที่ถูกคนอ่อนวัยกว่าปลุกปั่น อากาศเย็นจัดแต่ไรผมเหนือหน้าผากเล็กกลับซึมชื้นไม่ต่างจากขมับได้รูปของคนที่กำลังออกแรงเหนือร่าง เผลอปล่อยตัวเองให้ครางเพียงครั้งเดียวก็ถูกจับตัวให้พลิกตัวตะแคง ปาร์คชานยอลไม่ทิ้งความร้อนในนิสัยและอารมณ์ เขาแว่วเสียงโลหะกระทบกันเพียงไม่กี่วินาทีก็ถูกความเย็นรุกลามร่าง หันไปเพียงแค่เผยอปากก็กลายเป็นเสียงครางที่หลุดออกมาแทน
“อา...”
“มะ ไม่ได้ มัน ฝืนไป” คนอย่างปาร์คชานยอลหรือจะฟัง
“ร้อนชะมัด ข้างในตัวพี่ อา ผมจะละลายแล้ว” มือหยาบของเด็กหนุ่มซ้อนขาเล็กขึ้น คล้องไว้ด้วยลำแขนแข็งแรง เปิดช่องทางอ่อนนุ่มให้รับเขาเข้าไปง่ายขึ้น ถึงไม่ง่ายเขาก็มีวิธีทำให้ง่าย อะไรก็ต้านความปรารถนาในร่างกายนี้ของเขาไม่ได้แล้ว กระทั่งชานยอลเองก็ไม่คิดห้ามตัวเอง แม้จะได้ยินเสียงครางเครือเพราะความทรมานแต่ความกระสันอยากและความขุ่นเคืองในร่างมันก็สั่งให้เขาเดินหน้า เร่งให้ความฝืดเคืองนี้ผ่านไปแล้วมอบความสุขสมทดแทนให้ต่อจากนี้ ความสุขที่จะระเบิดเราทั้งคู่ออกเป็นเสี่ยง ๆ เหมือนประกายพลุบนท้องฟ้า
“อื้อ ชานยอล อย่าเพิ่ง อ๊ะ อย่า มัน ไม่ได้”
“เข้าไปเกือบหมดแล้ว”
“เด็กบ้า”
“ถ้าด่าอีกโดนทำแรงแน่” นี่เขาใจดียอมต่อเวลาให้แล้วนะ ใจดีแค่ไหนที่ไม่จับกระแทกตั้งแต่วินาทีแรกที่จมเข้าไปมิดร่าง แล้วที่ค้อนเขาอยู่นี่รู้ไหมว่าตรงนั้นมันรัดเอา ๆ ผู้ชายสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ไม่มีใครใจดีทนอย่างชานยอลหรอกนะคนดี ในใจเขาเถียงแต่ปากนั้นไม่ว่างเว้นจากผิวเนื้อหอม จูบไปทั่วทุกที่ที่ต้องการ แบคฮยอนขยับนิดเดียวก็ถูกรั้งเข้ามาพร้อมสะโพกเพรียวที่กระทุ้งเข้ามาหนัก ๆ พร้อมการข่มขู่
“แล้วถ้ายังทำเหมือนไม่อยากให้ผมกอด คืนนี้ก็ไม่ต้องนอนมันจนเช้านั่นแหละ”
“คนเอาแต่ใจ”
“ลงโทษไง”
“พี่ไม่ได้ทำอะไรผิด”
“พี่ผิด”
“อ๊า อะ ๆ ๆ อา อย่า อะ ชานยอล”
“ถูกแล้ว ครางชื่อผม เรียกหาผม นั่นคือสิ่งที่พี่ต้องทำแบคฮยอน” เขาบิดร่างจนหลุดจากท่อนแขนคร้าม หากตะกายไปข้างหน้าได้แค่สองจังหวะก็โดนตามติดเล่นงานจนต้องฟุบหน้าทรุดคาเตียง แข้งขาอ่อนแรงเพราะคลื่นความเสียวซ่านที่เกิดทุกจังหวะการตอกอัดเข้ามากระทบ สะโพกถูกคนข้างหลังรั้งขึ้นสูง เสื้อคอเต่าตัวบนถูกถกเพราะเด็กเอาแต่ใจอยากจูบอยากขบฟันขย้ำแผ่นหลัง เสียงทุ้มต่ำครางแหบพร่า ทั้งสบถทั้งครวญครางและที่ไม่ขาดการชื่นชมรสรักที่ได้รับจากร่างอวบอิ่ม อารมณ์รักของเด็กสิบเก้านั้นเร่าร้อน รุนแรง แฝงความดิบเถื่อนหากก็เต็มไปด้วยความปรารถนาอันแสนเอาแต่ใจ ปรารถนาที่จะครอบครองคนที่ทำให้หัวใจตนสั่นไหวตั้งแต่รอยยิ้มแรกที่ได้รับ
“ชานยอล ได้โปรด...”
“ไม่” เขาว่าด้วยรู้ความนัยจากน้ำเสียงออดอ้อนนั้น ร่างเพรียวถอนตัวออกจับร่างขาวจัดพลิกหงายก่อนจะทิ้งริมฝีปากบดเคล้าปากบางพร้อมดันท่อนเนื้อร้อนลึกเข้าไปในร่างเล็กอีกครั้ง
“ฮือ ชานยอล อ๊ะ ชานยอล อา จะ จะ...”
“ไปพร้อมกัน” เขาบอกแบบนั้นและทำให้แบบนั้นโดยไม่มีรีรอ ไฟรักที่แผดเผาสองร่างเต็มกำลังลุกโชนจนเกินจะดับ ชานยอลเกร็งร่าง กระชั้นจังหวะสอดใส่จนเสียวไปทั้งมือทั้งขา ฟังเสียงหวานครางรับก็กระหน่ำใส่ไม่ให้ขาดตอน สองตาพร่าพรายหยาดน้ำและลมหายใจก็เริ่มขาดห้วง ชานยอลกระชากมือจากสะโพกงอนสอดรั้งร่างเล็กเข้ากอด รัดด้วยกำลังสองแขนยามหยัดตัวเข้าไปในจุดที่ลึกสุด แนบแน่นสุดแล้วปลดปล่อยทุกหยาดหยดออกมารับความหฤหรรษ์
“อาห์ แบคฮยอน แบคฮยอน อาาาา” ครวญทั้งที่ตาพร่าเบลอ แว่วเสียงหวานครางประสานด้วยอารมณ์เดียวกันก็คลายยิ้มกับซอกคอขาว เขานั้นสุขยิ่งกว่าสุขแต่ที่พึงใจยิ่งกว่าคือการได้ทำให้คนรักสุขสมด้วยกัน แม้ตอนแรกจะขืนบังคับหน่อย ๆ ก็เถอะนะ (ไม่หน่อยแล้วไหม?)
นอนฟังเสียงหัวใจกันจนห้องนอนกว้างกับเข้าสู่ความสงบอย่างแท้จริง ร่างนุ่มเริ่มยุกยิกแต่ขยับมากไม่ได้หรอก เขากดทับไว้หนึ่งแถมอะไร ๆ ก็ยังค้างคากันไว้ ยังไม่ได้ถอนออก
“ชานยอล ชะ ช่วย ลุกก่อนได้ไหม”
“ได้แต่ต้องหลังจากทำสัญญาแล้ว”
“สัญญาอะไร?”
“คราวหน้าจะไม่มีการอ้างเหตุผลอย่างวันนี้อีก ต่อให้ผมบอกว่าจะไปดูหนังหรือกำลังอยู่ในโรงหนังพี่ต้องโทรบอก ถ้ารับสายตอนนั้นไม่ได้จริง ๆ ผมจะโทรกลับเอง ตกลงไหม” ไม่ตกลงได้หรือไงเล่า คนฟังได้แต่ผงกหัวรับเงียบ ๆ หลังจากชั่งใจดูแล้วว่าเรื่องที่อีกฝ่ายขอไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงจะทำแล้วก็ไม่ใช่เรื่องตามใจแบบไร้เหตุผล ก็ถ้ามันช่วยให้อีกฝ่ายไม่โกรธไม่งอนไม่อาละวาดเขาก็ยินดีทำนะ ก็พอรู้แหละว่าชานยอลขอสัญญาเพราะเป็นห่วง
“พูดออกมาด้วย”
“ตกลงครับ”
“ตกลงแล้วทำตามด้วยนะ ไม่งั้นล่ะก็...”
“โหดจัง อ๊ะ ปาร์คชานยอล!” ดันสะโพกใส่หน้าตาเฉย คนที่ทั้งเขินทั้งอายก็ได้แต่หน้าร้อน ประท้วงเสียงสั่นยามดวงตาคมเข้มหรี่มอง หมายมาด
“บอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าด่าอีกจะโดนอะไร”
“ด่าอะไร? พี่ไม่ได้ด่านะ”
“ว่าใครโหดล่ะ”
“ก็ว่า ไม่ได้ด่า ฮื้อออ ไม่เอานะชานยอล” คิดว่าคนอย่างปาร์คชานยอลจะฟังไหม แน่นอนว่าไม่ บ่อยครั้งที่แบคฮยอนก็ลืมย้ำกับตัวเองว่านิสัยอันโดดเด่นไม่แพ้หน้าตาหล่อ ๆ ของปาร์คชานยอลนั้นคือเผด็จการและเอาแต่ใจขั้นสุด!
(กลับไปอ่านต่อที่ Dek-D นะคะ)