Ep.1
Planil talk.
K.Pub
"มึงแดกช้าๆก็ได้ ยังไงคืนนี้มึงได้เมาแน่ๆ ไม่ต้องรีบแดกขนาดนั้นก็ได้=_=" ฉันหันไปพูดปรามยัยเมย์หรืออีเมย์ทันทีพร้อมกับแย่งแก้วเหล้าในมือของมันมา เพื่อไม่ให้มันดื่มแบบหนักๆ เพราะตั้งแต่ที่พนักงานเอาเหล้าเข้ามาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ มันก็เล่นแดกคนเดียวจนเหล้าเกือบจะหมดไปขวดนึงแล้ว! ถ้าไม่เบรกมันไว้นี่มีหวังเมาตั้งแต่นักร้องยังไม่ขึ้นเวทีแน่!! และอีเมย์เนี่ยมันก็เป็นเพื่อนที่สนิ๊ทสนิทของฉันเองค่ะ เราเป็นเพื่อนกันมากตั้งแต่เด็กๆ พ่อแม่ก็เป็นเพื่อนกัน เราก็เลยค่อนข้างที่จะสนิทกันมาก และจะรู้ความลับของกันและกันแทบทุกเรื่อง แล้วก็จะใช้คำหยาบคุยกันจนเป็นเรื่องปกติ!
อ้อ! แล้วไม่ได้สนิทกันแค่สองคนนะคะ มีอีแอรี่อีกคนหนึ่ง อีนี่มันเป็นหญิงเทียมหรือเรียกง่ายๆก็กระเทยนั่นแหละค่ะ กับอีแอรี่นี่เพิ่งจะมารู้จักกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่ความสนิทนี่บอกเลยว่าระดับแอดวานซ์เลยล่ะค่ะ! ไปไหนไปกันตลอด ขนาดฉันจะไปกับผู้มันยังจะไปด้วยเลยคิดดู!!55555
"ไม่! กูจะแดก! มึงไม่ต้องมาห้ามกูเลยนะ กูเสียใจ!! มันแม่ง!ทำแบบนี้กับกูได้ยังไงวะ!.ฮรือออๆTT" อีเมย์พูดพร้อมกับเอื้อมมือมาแย่งแก้วเหล้าของมันคืนไป คืองี้ค่ะ...สาเหตุที่มันต้องมาร้องไห้ฟูมฟายอยู่แบบนี้ ก็เพราะว่ามันพึ่งโดนแฟนที่มันคบมา4ปี บอกเลิกเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา และเหตุผลที่เลิกก็ปัญญาอ่อนมาก! เขาบอกมันว่า...เขากับมันอยู่ห่างกันเกินไป เขากลัวมันมีคนอื่นก็เลยชิ่งบอกเลิกก่อน นี่แหละค่ะเหตุผล!! ทุกคนคิดว่าปัญญาอ่อนปะ!?
"ก็แค่ผู้ชายคนเดียว มึงจะให้ค่ามันขนาดนั้นดิวะ!" จริงๆแล้วฉันเข้าใจมันนะคะ แต่ไม่อยากให้มันฟูมฟายเพราะผู้ชายไม่มีค่าคนนั้นไปมากกว่านี้ ฉันอยากให้มันเข้มแข็งมากกว่า
"มึง~ แต่กูรักมันT^T"
"กูรู้ว่ามึงรัก แต่มึงช่วยมีสติมากกว่านี้หน่อยได้มั้ย? ตอนนี้ต่อให้ฟูมฟายจะเป็นจะตายยังไงมันก็ไม่มาสนใจมึงหรอก นู้น! ป่านนี้มันคงสมสู่อยู่กับอีตัวไหนแล้วก็ไม่รู้!!" จริงๆนะคะ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคนเรามันจะเลิกกันด้วยเหตุผลที่ว่าห่างกันเกินไปได้ง่ายขนาดนี้ มันต้องแอบมีคนอื่นอยู่แล้วล่ะ!
"มึง~ ฮรือๆๆT^T" และเหมือนคำพูดของฉันมันจะไปกระตุ้นต่อมน้ำตาของมันให้ไหลออกมามากกว่าเดิม เพราะพอฉันพูดจบอีเมย์มันก็เบ้ปากพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างหนักทันที
"มึงอย่าร้อง" ตอนนี้ฉันไม่รู้จะพูดจะปลอบมันยังไงแล้วล่ะค่ะ ฉันไม่เคยปลอบใครเลยจริงๆ ส่วนมากก็มีแต่ด่า ด่าให้สำนึกแล้วก็จะหยุดร้องไห้ไปเอง แต่ครั้งนี้ฉันคงพลาดเพราะยิ่งพูดแรงมันก็ยิ่งร้องหนักเข้าไปอีก...เอาไงดีวะเนี่ย!?
"ฮรือๆๆๆๆ T^T"
"เมย์มึงใจเย็นๆนะ อ่ะนี่เหล้า! มึงอยากกินเท่าไหร่มึงกินเลยนะ ถ้ามึงเมาเดี๋ยวกูกับอีแอร์จะแบกมึงกลับเอง" ฉันพูดพร้อมกับยัดแก้วเหล้าที่พึ่งชงใหม่ๆใส่มือของมัน ซึ่งมันก็รับไปถือไว้แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดร้องไห้ได้ง่ายๆ =_= แล้วก็เหมือนมีเสียงสวรรค์มาโปรดฉันเลยค่ะ เมื่ออีแอรี่เดินเข้ามาที่โต๊ะพร้อมกับหมุนฟลูเทิร์น2รอบ ก่อนจะพูดทักทายขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดัดจริตตามนิสัยตุ๊ด!
"ฮายชะนี~ รอแอรี่นานมั้ยคะ...!?" พอทักทายจบมันก็ต้องรีบหันมามองหน้าฉันอย่างมีคำถามทันทีเมื่อเห็นอีเมย์กำลังร้องไห้จะเป็นจะตายอยู่
"เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง ตอนนี้มึงช่วยทำให้มันหยุดร้องก่อนได้มั้ยวะ?" ฉันขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆอีแอรี่ก่อนจะพูดกับมันเบาๆ จากนั้นมันก็พยักหน้ารับรู้แล้วหันไปมองหน้าอีเมย์สักพัก ก่อนจะเริ่มพูดกับมัน
"นี่ชะนี~ เป็นอะไรคะ? ร้องไห้ทำไม?"
"ฮึก! ฮรือๆT^T" อีเมย์ไม่ตอบและยังคงก้มหน้าร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตายต่อ
"งั้นเอางี้!! มึงอยากร้องมึงก็ร้องให้มันสุดๆไปเลยค่ะ อยากร้องแค่ไหนมึงก็ร้องเลย หยุดร้องเมื่อไหร่ค่อยเล่าให้กูฟังก็ได้กูไม่รีบ เดี๋ยวกูกับอีนิลจะส่องผู้รอ~"
"จะดีหรอวะมึง?" ฉันขยับเข้าไปกระซิบถามอีแอร์อีกครั้ง เมื่อมันพูดจบ
"เออดี! เชื่อกูสิ! เดี๋ยวมันก็หยุดร้องเอง มันร้องไม่ได้ทั้งคืนหรอก"
"เออๆ เอางั้นก็ได้วะ" ห่วงเพื่อนก็ห่วงอยู่นะคะ แต่มันก็จริงอย่างที่อีแอร์มันว่านั่นแหละ เดี๋ยวมันคงหยุดร้องเอง ปล่อยให้มันนั่งอยู่กับตัวเองน่าจะดีที่สุดแล้วในตอนนี้
อ่าส์...พล่ามกันไปตั้งนาน~ ระหว่างรออีเมย์ฉันขอแนะนำตัวเลยแล้วกันนะคะ5555 สวัสดีค่ะทุกคน~ ฉันชื่อปลานิลนะคะ เรียนจบปริญญาตรีมาเกือบๆ1ปีแล้ว กำลังจะเริ่มหาทำงาน ที่เริ่มทำงานช้าก็เพราะฉันขอที่บ้านว่าหลังเรียนจบฉันอยากเที่ยวเพื่อพักผ่อนสมอง หาประสบการณ์ชีวิตก่อน ซึ่งที่บ้านก็โอเคไม่ว่าอะไร แล้วไม่ใช่ว่าบ้านฉันรวยหรอกนะคะ ก็พอมีกินมีใช้ไม่ขัดสนนี่แหละค่ะ อิอิ
ฉันกับอีเมย์เป็นเด็กต่างจังหวัด แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พ่อฉันกับพ่อของมันต้องย้ายเข้าทำงานในกรุงเทพเพื่อปรับตำแหน่ง ฉันกับมันก็เลยต้องได้ย้ายเข้ามาอยู่และต้องเข้ามาเรียนในกรุงเทพอย่างช่วยไม่ได้
แต่พอตอนจะเข้ามหาลัยฯ ฉันกับอีเมย์ดันสอบได้ที่เดียวกัน เป็นมหาลัยฯดังต่างจังหวัดที่อยู่แถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็เลยต้องไปเช่าหออยู่ที่นู้น4ปีเต็มๆ ไม่ค่อยได้กลับมากรุงเทพฯด้วย เพราะช่วงเทศกาลพ่อกับแม่ท่านก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัดกัน ฉันกับอีเมย์ก็เลยไปเจอพวกท่านที่บ้านแทน ไม่ต้องวนกลับเข้ากรุงเทพ
แล้วก็ได้มาเจอกระเทยแรดๆอย่างอีแอรี่ตอนเรียนมหาลัยฯนี่แหละค่ะ นางเป็นเด็กเทพแต่สอบติดมหาลัยฯ ต่างจังหวัดก็เลยได้มาเรียนไกล
และตอนนี้หลังจากฉันกับอีเมย์จะเริ่มทำงานกันอย่างจริงๆจังๆ ก็เลยจะมาหางานทำกันที่กรุงเทพฯ พึ่งมาถึงวันนี้สดๆร้อนๆเลยค่ะ งานก็ยังไม่ได้หา แต่โดนอีแอรี่เจ้าถิ่นจอมร่านชวนมาเที่ยวที่รังเก่าของมันซะก่อน ซึ่งก็คือที่นี่แหละ! แล้วมันยังโม้อีกนะว่าที่นี่ผู้งานดีมาก!! และฉันซึ่งเป็นผู้ที่ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ก็ต้องตกลงมาสิคะจะรออะไร อิอิ!
แต่ก่อนออกมาอีเมย์ก็เจอแฟนบอกเลิกซะก่อน ฉันเลยไม่รู้ว่ามันนี้ฉันจะได้ดูผู้หรือดูมันแทน
"นั่นเลยค่ะชะนี! กูจะแนะนำโต๊ะนั้นให้มึงรู้จักไว้เป็นบุญต่อมความแรดของมึง" อีแอรี่พูดพร้อมกับชี้ขึ้นไปยังชั้น2ของผับ ซึ่งน่าจะเป็นโซนวีไอพีของที่นี่ แล้วที่นี่ก็นะ โคตรหรูเลย! ผับที่อยู่แถวๆมหาลัยฯที่ฉันคิดว่าหรูแล้วยังเทียบที่นี่ไม่ติดเลย!!
"อ่าหะ?" ฉันพยักหน้าแล้วมองตามมือมันที่ชี้ขึ้นไปอย่างสนอกสนใจทันที ฉันก็เหมือนผู้หญิงทั่วๆไปนั่นแหละค่ะ ที่จะทำตัวกระดี้กระด๊าเวลาเจอผู้ชายหล่อๆ แต่ฉันน่าจะแตกต่างออกมาหน่อย ก็เพราะว่าฉันแค่กรี๊ดสนุกๆ ปากกล้าแค่เวลาอยู่กับเพื่อนเท่านั้น พอเอาเข้าจริงๆฉันก็ไม่กล้าอยู่ดี5555
"โต๊ะนั้นน่ะ เป็นโต๊ะประจำของเจ้าของที่นี่และผองเพื่อนของเขา ซึ่งแต่ละคนนะหล่อมากกก!!! หล่อแบบหล่อจริงๆ"
"หล่อขนาดนั้นเลย?" ฉันเลิกคิ้วถามมันไปอย่างขำๆ จะหล่อขนาดนั้นเลยหรอ?
"เออขนาดนั้นเลยค่ะ! แต่เดี๋ยวนี้เจ้าของผับและเพื่อนๆก็ไม่ค่อยมานั่งตรงนั้นแล้วล่ะ"
"อ่าว? แล้วมึงจะพูดเพื่อ!?"
"ฟังกูให้จบก่อนสิ!!"
"มึงก็พูดให้มันจบๆเลยไม่ได้หรอ?"
"เออๆ ต่อเลยนะ...ที่เจ้าของผับไม่มานั่งแล้วก็เพราะว่าเขามีครอบครัวมีลูกไปแล้วไง ก็เลยต้องให้เวลาลูกเมีย"
"อ๋อ~" แบบนี้นี่เอง คงจะรักครอบครัวมากสินะ ฮรือ~ แค่รู้แค่นี้ก็รู้สึกว่าเจ้าของผับต้องดูอบอุ่นมากแน่ๆ
"แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นไงมึง!" และอีแอร์มันก็เปลี่ยนน้ำเสียงเป็นตื่นเต้นทันทีที่จะพูดถึง
"?"
"มันอยู่ที่ทุกวันนี้โต๊ะนั้นเป็นโต๊ะประจำของใครต่างหาก!"
"ของใครวะ?"
"ก็พวกลูกๆหลานๆเจ้าของผับนั่นแหละ"
"มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วมั้ยวะ!?" ไม่เห็นแปลกเลย
"แต่คือพี่เจ้าขุนหลานเจ้าของผับหล่อมากมึงเอ้ย! หล่อแบบวัวตายควายล้มเลยล่ะ นี่ถ้ากูได้สักครั้งกูต้องเรียนได้เกียรตินิยมแน่ๆ!!"
"มึงอย่าเวอร์!=_=" ฉันล่ะเอือมกับความโอเวอร์เกินเหตุของมันจริงๆ=_= เห็นใครหล่อมันก็พูดแบบนี้ทุกครั้ง ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะเรียนไปเกรดดีขึ้นเลยสักเทอม!!
"แต่หล่อจริงๆนะมึง มึงต้องได้เจออ่ะ และไม่ใช่หล่อแค่พี่เจ้าขุนนะ คนอื่นๆก็หล่อ หล่อกันทั้งแก๊งค์เลย เดี๋ยวถ้ากูเห็นนะกูจะชี้ให้มึง"
"อย่าลืมล่ะ กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะหล่อเว่อร์วังอย่างที่มึงพูดหรือเปล่า"
"เออ แต่ตอนนี้พี่เจ้าขุนยังไม่มา ...แต่นั่นไงๆ!เพื่อนพี่เขามาละคนหนึ่ง หล่อมากๆเหมือนกัน! แต่กูบอกก่อนเลยว่าคนนี้เจ้าชู้สุดๆ เข้าถึงง่ายเป็นกันเอง และกูเคยจ้องจะกินหลายครั้งมาก!! แต่เสียดายพี่เขาไม่นิยมเพศแบบกู! แต่ถ้ามึงอยากได้มึงบอกกู กูสามารถดีลให้มึงได้!"
"ไหนวะ?" ฉันชะโงกคอมองตามมือมันไปที่ทางเข้าผับ ที่มันกำลังชี้ให้ฉันดู ฉันไล่สายตามองไปเรื่อยๆ จนไปสะดุดและหยุดอยู่ที่ผู้ชายคนหนึ่ง...เขามีหน้าตาและท่าทางคล้ายๆกับคนที่ฉันเคยรู้จัก และคุ้นเคยเป็นอย่างดี เขาคล้ายผู้ชายที่ฉันเจอครั้งล่าสุดเมื่อ5ปีที่แล้ว! และก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย! จนกระทั่งตอนนี้!! และที่สำคัญ...พอเห็นเขามันก็ทำให้ฉันหวนไปนึกถึงผู้ชายคนนั้น ...คนที่ฉันคิดว่าฉันลืมเขาได้แล้ว
"นั่นไงๆ ที่ใส่เชิ้ตสีดำๆอ่ะ เห็นปะ!? หล่อๆขาวๆที่แวะยืนคุยกับผู้หญิงนมใหญ่อยู่หน้าบาร์น่ะ หล่ออย่างเดียวไม่พอนะมึง ที่สำคัญรวยมากๆเลยด้วย!!"
"ขะ...เขาชื่ออะไรมึง?" ฉันถามมันออกไปเสียงเบาๆและพยายามปรับเสียงไม่ให้สั่น ในใจภาวนาขอให้อย่าเป็นคนเดียวกับที่ฉันกำลังคิดอยู่เลย ขอให้เขาเป็นแค่คนหน้าเหมือน หรือแค่คนที่มีลักษณะคล้ายๆกันเฉยๆก็ได้ ถึงเขาจะเหมือนมาก! เหมือนจนแทบจะเป็นคนคนเดียวกันเลย แต่ฉันขอแค่นี้จริงๆ...ได้มั้ย?
"คนนั้นน่ะชื่อ...พี่ทราฟฟิค!!"
"!!!"
ใช่เขาจริงๆด้วย...พี่ทราฟฟิคคนที่เป็นทั้งรักแรกและเป็นแฟนคนแรกของฉัน...
______________________________________