บทที่ 1 บ้านใหม่ 50%
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….............
ท้องฟ้าแปรป่วน สักพักฝนก็กระหน่ำตกมาอย่างหนักแต่เขา เจคอป สมิธที่ต้องมาที่โรงพยาบาลชื่อดังในกรุงเทพแทนมารดาของเขา ที่มารดาของเขาเป็นคนบริจากเงินช่วยเหลือทางโรงพยาบาลต่างๆ และวันนี้มันมีประชุม ซึ่งเขาต้องมาเข้าแทนเพราะมารดาของเขาเกิดติดธุระจำเป็นกระทันหัน
“ยังอีกนานไหม สตาฟ”เขาหันไปถามลูกน้องหนุ่มด้วยเสียงที่หงุดหงิดพอสมควร เพราะเขามานั่งอยู่ในห้องนี้เกือบจะชั่วโมงหนึ่งแล้ว
“คงอีกสักพักครับนาย คงต้องรอให้ผู้อำนวนการพูดให้เสร็จก่อน”สตาฟที่พอจะรู้อารมณ์ตอนนี้ของนายตัวเองดี เพราะเจคอปไม่ค่อยชอบมานั่งรอใครนานๆ
และเวลาที่เจคอปรอก็มาถึง เมื่อประชุมเสร็จและมีการมอบเงินบริจากเจอคอปเดินออกมาจากห้องประชุมทันทีโดยไม่สนใจใคร ส่วนคนในห้องก็ไม่มีใครกล้าทักชายหนุ่มเพราะรู้กิตติศัพท์ของเขาดี
เจคอป สมิธ เป็นลูกครึ่งไทย – อิตาลี แม่ของเขาเป็นคนไทย ส่วนพ่อของเขาเป็นคนอิตาลี พวกเขามีธุรกิจที่อิตาลีแต่เขามาเปิดธุรกิจที่ไทย เขาเลยต้องมาอยู่ที่นี้ ส่วนงานที่อิตตาลีบิดาของเขาเป็นคนดูแล เขาเป็นมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในไทยและแทบอิตาลี และแน่นอนว่าธุรกิจของย่อมมีทั้งถูดกฎหมายและผิดกฎหมาย
“หืออๆๆๆ หือออ”ขนาดที่เขากำลังเดินผ่านห้องฉุกเฉินกำลังจะเดินไปที่ประตู เสียงเด็กร้องไห้นั้นมันทำให้เขาหันไปกลับมองเธอ
เจคอปมองดูเด็กสาวหน้าตาน่ารักกำลังร้องไห้ จนตาแดงขนาดเธอร้องไห้อย่างหนักมันยังไม่สามารถทำให้ความหน้ารักของเธอหายลงไปเลย
“น่าสงสารเธอจังเลย ยังเด็กอยู่แท้ ไม่น่ามาเสียพ่อกับแม่ไปเลย”และห่างออกไปไม่มากก็มีเสียงพยาบาลกำลังพูดคุยกัน
“นั้นสิคงจะเสียขวัญมากอ่ะ ที่เห็นพ่อกับแม่ตายต่อหน้าต่อตา ได้ยินมาว่าไม่มีญาติที่ไหนด้วย”เสียงหล่าวพยาบาลที่คุยกันเจคอปที่ได้ยินกลับรู้สึกสงสารเธออย่างประหลาด
ทั้งๆที่คนอย่างเขาไม่เคยจะใครอะไรแต่ขาของเขามันกลับก้าวไปหาเด็กน้อยที่กำลังนั่งร้องอยู่บนเก้าอี้
“ร้องไห้ทำไมหือ”สตาฟที่มองดูเจ้านายของตัวเองนั่งคุยกับเด็กผู้หญิงน่ารักด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยได้พูดกับใครมาก่อน ทั้งๆที่เมื่อกี้ยังอารมณ์เสียอยู่เลย
“พ่อกับแม่ทิ้งหนูไปแล้วค่ะ หือออ”เธอโพลกอดร่างหนาอย่างคนหาที่พึ่งก่อนจะร้องออกมาอย่างหนัก เจคอปที่ตอนแรกก็ตกใจ แต่ก็กอดตอบเธอไป
“ไปอยู่กับอาไหม อาจะไม่ปล่อยให้หนูต้องอยู่คนเดียว”พรพระพายเงยหน้ามองชายหนุ่มที่เหมือนเทพบุตรในละครที่เธอเคยดู เขาหล่อมากในสายตาเธอ
“อาจะไม่ทิ้งหนูไปไหนใช่ไหมค่ะ”เขามองเด็กสาวด้วยความถูกชะตา ก่อนจะพยักหน้ารับปากเธอ
“ไปอยู่บ้านใหม่กัน”เขาอุ้มเธอขึ้นเพราะเธอยังตัวเล็กทำให้เขาอุ่มเธอด้วยความสบาย ก่อนจะหันมาสั่งงานกับลูกน้องหนุ่ม
“บอกให้สตีฟมารอรับที่หน้าโรงพยาบาล แล้วนายไปจัดการเรื่องพ่อกับแม่ของเธอ และก็ประวัติของเธอด้วย”สตีฟกับสตาฟเป็นลูกน้องคนสนิทของเขาและทั้งสองคนยังเป็นพี่น้องกันอีกด้วย
“ครับนาย”สตาฟไปทำตามคำสั่งของเจ้านายหนุ่มทันที ทั้งๆที่ยังแปลกใจว่าเจ้านายของเขาเนี้ยนะจะรับดูแลเด็กสาว
เจคอปอุ้มเด็กสาวมาหน้าโรงพยาบาลและมีรถหรูเข้ามารับในขนาดที่ฝนก็ยังตกอย่างหนักเรื่อยๆ สตีฟที่ไม่ค่อยตกใจเท่าไรที่เห็นนายของเขาอุ้มเด็กสาวน่ารักออกมาเพราะเมื้อกี้ สตาฟได้บอกเขาเอาไว้แล้ว
“ชื่ออะไร”ตอนนี้เด็กสาวหยุดร้องไปแล้วแต่ยังมีสะอึกอยู่บ้าง และเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่รู้จักชื่อของเธอเลย
“พระพายค่ะ คุณอาชื่ออะไรหรอค่ะ”พรพระพายหันไปยิ้มให้กับชายหนุ่มจนเขาต้องเอามือมาลูบหัวของเธอเบาๆ
“อาชื่อเจคอป เรียกว่า อาเจคก็ได้”สตีฟที่ทำหน้าที่ขับรถยังแปลกใจกับน้ำเสียงของเจ้านายที่ดูจะอ่อนโยน เขาพึ่งเคยเห็นเจ้านายพูดอ่อนโยนแบบนี้กับเธอคนแรงถ้าไม่นับมารดากับบิดาของชายหนุ่ม
“หยุดร้องได้แล้วรู้ไหม เราต้องแข็มแข็งสิ อยู่กับอาจะมาอ่อนแอไม่ได้”พรพระพายเงยหน้ามาสพตากับชายหนุ่ม ความรู้สึกที่ได้จากผู้ชายคนนี้คือความอบอุ่น
“พระพายจะไม่ร้องค่ะคุณอา”แต่ถึงเธอจะพูดแบบนั้นออกไป แต่ตาเธอก็ยังแดงๆที่มีน้ำตาไหลออกมาอยู่ดี สติฟขับรถเข้ามาในคฤหาสน์หลังโต พอรถจอดหน้าประตูเจคอปก็เดินลงมาจากรถพร้อมกับพรพระพาย
หล่าวแม่บ้านต่างพากันแปลกใจที่เจ้านายของเขาพาเด็กน้อยน่าตั้งน่ารักมาด้วย ต่างคนต่างแปลกใจเด็กน้อยคนนั้นคือใครกัน
“ต่อไปนี้พรพระพายจะมาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะหลานสาวของฉัน”พรพระพายที่เห็นผู้ใหญ่ต่างก้มหัวให้อาหนุ่มตัวเองเธอเลยเดินไปสวัสดีทุกๆคนทำให้เหล่าแม่บ้านต่างตกใจที่คุณหนูของบ้านมาสวัสดี ด้านเจคอปที่เห็นเด็กสาวทำแบบนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ป้านมครับ ให้คนไปจัดห้องไว้สำหรับพระพายด้วยนะครับ เอาห้องที่ติดกับห้องของผม”นมอิ่มเป็นแม่บ้านใหญ่ของที่นี้ซึ่งยังเคยเลี้ยงเจคอปมาตั้งแต่เด็กๆ
“ได้เลยค่ะ คุณเจค”นมอิ่มหันไปหาเด็กสาวที่ตอนนี้กำลังยิ้มอย่างน่ารัก หล่อนรู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้มาก
“แตงโม ต่อไปนี้เธอมีหน้าที่หลักคือดูแลพระพาย หน้าที่อื่นว่างค่อยเข้าไปช่วย”แล้วเขาก็หันไปสั่งสาวใช้อีกคน แตงโม คือหลานสาวของป้านม
“เดี่ยวอาพาหนูไปดูรอบๆบ้านกัน”เจคอปเดินจูงมือหลายสาวเดินดูรอบๆบ้าน พรพระพายที่ดูตื่นตามาก เพราะที่นี้ใหญ่มาก ใหญ่กว่าบ้านเธอหลายร้อยเท่า
“พระพาย ห้องของจัดเสร็จแล้วนะ ไปดูกัน”ทั้งสองคนเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน เจคอปพาเด็กน้อยมายังห้องนอนห้องใหญ่ห้องหนึ่ง
“ชอบไหมค่ะ”เขาหันไปถามเด็กน้อยที่กำลังตะลึ่งกับความใหญ่โตของห้อง ห้องๆนี้ใหญ่เกือบเท่าบ้านของเธอทั้งหลัง
“ชอบมากเลยค่ะ”
“พรุ่งนี้พออาทำงานเสร็จ เราจะไปซื้อของตกแต่งห้อง แล้วก็ของใช้ของหนูตามที่หนูอยากได้”น้ำเสียงอ่อนโยนบอกกลับไป เขาก็ไม่ค่อยจะเข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงอ่อนโยนได้มากขนาดนี้ แต่เวลาที่หนูน้อยคนนี้ยิ้มออกมา มันทำให้มีความสุข เขารู้สึกหวงรอยยิ้มของเธอสะแล้วสิ
พอตกดึกทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน ชั้นบนของบ้านที่ตอนนี้มีเพียงแค่เจคอปกับพรพระพาย และมีลูกน้องคนสนิท สตีฟและสตาฟ เพราะเจคอปไม่ชอบให้ใครว่าวุ่ยวายตอนเวลากลางคืน
ก็อกๆๆๆ เสียงเคาๆประตูดังขึ้น ด้วยความหงุดหงิดเพราะคิดว่าคงเป็นสตีฟหรือไม่ก็คงจะเป็นสตาฟ
“เข้ามาได้”เพราะได้คำอนุญาต ประตูก็ได้เปิดออกมา
“ถ้าไม่ใช่ธุระสำคัญ ฉันฆ่าพวกแกแน่ บอกกี่แล้วว่าไม่ให้มายุ่งเวลาดึกๆ”เสียงทุ่มใหญ่พูดออกมาอย่างน่ากลัวโดยที่ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นหันมามอง
“พระพายมารบกวนคุณอาหรอค่ะ”พรพระพายที่ตอนแรกก็ตกใจเสียงหนาที่พูดเสียงดังออกมา เพราะเขาไม่เคยตะคอกเธอมาก่อน
“พระพายเองหรอ เข้ามาก่อนสิ”เจคอปที่พอรู้ว่าเป็นเด็กสาวก็ปรับเสียงให้เป็นปกติ พรพระพายเดินเข้ามาในนอนของชาบหนุ่มที่ใหญ่กว่าห้องของเธอหน่อย แต่ในนี้การตกแต่งจะออกแนวเป็นสีดำส่วนใหญ่
“พระพายนอนไม่หลับค่ะ พระพายขอนอนด้วยคนได้ไหมค่ะ”
“ได้สิ พระพายไปนอนเล่นดูโทรทัศน์ก่อนเลย เดี่ยวอาขอเคลียงานก่อน”พรพระพายที่เห็นอาหนุ่มอนุญาตจึงยิ้มออกมาก่อนจะเดินมาหาชายหนุ่มแล้วหอมแก้มของชายหนุ่มทั้งสองข้างก่อนจะไปที่เตียงนอนของชายหนุ่ม
เจคอปที่ตอนแรกตกใจเล็กน้อยที่โดนขโมยหอมแก้มเขา แต่ก็ยิ้มออกมากับความน่ารักของเธอ หันไปมองเธอบนเตียงนอนใหญ่ที่กำลังนอนดูทีวีอยู่ ส่วนเขาก็ทำงานต่อให้เสร็จ
“หาวววว”พรพระพายหาวเป็นรอบที่สิบแล้วได้มั่งแต่เธอยังนั่งดูทีวีอยู่ ตัวนั่งดูทีวีแต่ตาของเธอมันกำลังจะปิดแล้ว
“พระพายง่วงก็นอนเลย ค่อยดูต่อพรุ่งนี้”
“ไม่เอาค่ะ พระพายรอนอนพร้อมคุณอา”หึ ที่แท้ก็จะรอนอนพร้อมเขา เจคอปปิดเอกสารในมือก่อนจะเดินไปหาเด็กสาว เขาเดินไปปิดทีวีก่อนจะเดินมานอนข้างๆเด็กสาว
“นอนได้แล้ว พรุ่งนี้เดี่ยวเราจะไปซื้อของกัน”เขาล้มตัวนอนข้างๆเธอก่อนที่พรพระพายจะเข้ามานอนกอดเขา ตอนแรกก็ตกใจ แต่ต่อมาทั้งสองก็นอนกอดกันกลมจนถึงตอนเช้า
3เดือนต่อมา อาการเศร้าของเด็กสาวเริ่มหายไป มีไว้แต่ความน่ารักที่มีมากขึ้นทุกวัน ตอนนี้พรพระพายกลายเป็นคุณหนูคนโปรดของบ้านไปแล้ว ทุกคนในบ้านต่างหลงรักเธอทุกคน
“พี่แตงโม ทำไมวันนี้คุณอากลับมาช้าจัง”เด็กสาวที่ตอนนี้นั่งอยู่ในห้องรับแขก คอยมองไปนอกหน้าต่างรอคุณอากลับมายังบ้าน พูดไม่ทันไร ก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามา
“คุณอากลับมาแล้ว”พรพระพายวิ่งออกไปหน้าบ้าน เพื่อไปขาเจคอปเธอทำแบบนี้เป็นประจำทุกวัน
“ทำไมวันนี้กลับช้าจังเลย พระพายรอตั้งนานน”พอคุณอาของเธอเดินเข้ามาในบ้าน ร่างเล็กก็บ่นทันที ทุกคนต่างหัวเราะในใจที่เห็นเด็กสาวถามเจ้านายแบบนั้นไป เพราะถ้าเป็นคนอื่นถามหัวคงหลุดออกจากบ่า
“วันนี้งานยุ่งๆนะ”ต่อให้เขาเครียดเรื่องงานข้างนอกมาจากไหน แต่พอมาเห็นหน้าเด็กสาว ความเครียดนั้นก็หายไปทันที
“นั้นดีเลยค่ะ เพราะวันนี้พระพายช่วยป้านมทำกับข้าวโดย คุณอาไปกินด้วยกัน”เด็กสาวเดินจับมือเขาเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร
“ตัวแค่นี้ ไปช่วยทำหรือไปเป็นภาระป้านมเค้าหืออ”พอชายหนุ่มไม่เชื่อพรพระพายก็รีบวิ่งไปหาป้านมให้รีบช่วยเธอทันที
“ป้านม บอกคุณอาสิว่าพระพายช่วยป้านมจริงๆ”เธอรีบหาตัวช่วยเธอทันที
“ช่วยได้นิดหน่อยค่ะคุณเจค”แล้วป้านมก็หัวเราะเบาๆกับความน่ารักขี้อ้อนของเด็กสาว ตั้งแต่เด็กน้อยเข้ามาอยู่เจคอปดูเป็นคนอ่อนโยนขึ้นเยอะทั้งที่เมื่อก่อนจะติดเย็นชา
“งั้นจัดโต๊ะเลย ป้านม”แล้วอาหารก็ถูกยกมาไว้บนโต๊ะอาหารมากมาย
“เป็นไงค่ะ อร่อยไหม”เด็กสาวรอลุ่นเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกินอาหารเข้าไป
“ก็พอกินได้”
“พระพายจะทำกับข้าวกับป้านมทุกวันเลย พระพายจะได้ทำกับข้าวเก่งๆ ให้คุณอาทานดีไหมค่ะ”เธอพูดเจื้อแจ้วออกมาจนเขาอดเอ็ดดูไม่ได้ ทั้งสองคนนั่งกินข้าวกันอย่างมีความสุข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
เป็นไงค่ะบทแรก ถูกใจกันหรือเปล่า เรื่องนี้ต้องบอกก่อนว่า เจคอปจะอ่อนโยนกับหลานสาวคนเดียว ส่วนคนอื่นยังโหดเหมือมเดิมตอนนี้เอาแนวหน้ารักไปก่อน ก่อนจะมาเจอ ป๋าโหด ต้องบอกว่านางเอกพอโตมาขี้อ้อนสุดๆเลยจ้า
นามปากกา:หนามเตย