“คนอย่างฉันไม่มีวันเสียใจ เพราะถ้าปล่อยคือเบื่อ” เสียงเข้มของชายหนุ่มกระซิบที่ข้างหู มือหนากำกลุ่มผมแน่นขึ้นว่าเก่าจนร่างบางเจ็บระบมพยายามดิ้นแต่ก็ไม่พ้นในใจ
ภวานาให้เขาเบื่อเธอในเร็ววันจะได้หลุดพ้นจากขุมนรกนี้เสียที
ขุมนรกที่มีซาตานร้ายอย่างเขา ถ้าไม่มีคลิปเธอกับเขาที่ใช้ข่มขู่กันตลอด ก็ไม่ต้องทนกล้ำกลืนฝืนทนอยู่อย่างนี้ต้องค่อยถูกโขกสับอย่างไม่ใช่คนบ้างทีเฝ้าถามตัวเองตลอดมาหนึ่งความผิดที่เธอก่อต้องชดใช้หลายๆ ครั้งหรือไงกัน
“อย่าอ่ะ.. ได้โปรด” เสียงอ้อนวอนแผ่วอ่อนเขาอีกครั้งไม่สามารถหยุดยั้งการกระทำนั้นได้ร่างสูงคร่อมเธอไว้มือหนารวบมือบางไว้เหนือหัว อีกมือยึดท้ายทอยให้ใบหน้าหวานหันมาเผชิญกันเพียงแค่ลมหายใจกั้น ตาคู่คมจ้องสำรวจมาที่ริมฝีปากบางที่ตอนนี้เผยอออก ทำให้เห็นใบลิ้นสีชมพูระเรื่อที่สั่นระริกในโพรงปาก
“อย่า อ๊ะ..อื้ม ” เสียงหวานครางในลำคอเมื่อปลายลิ้นร้ายกดจูบอย่างดุดัน หนักหน่วง ตวัดไล่เกี่ยวพันลิ้นเล็กเร้าร้อน อุ้งมือใหญ่ของร่างสูงเลื่อนลงมาจับที่ทรวงอกอิ่มเพื่อปลุกปั่นอารมณ์เจ้าของเสียงหวานซาน ให้อยู่ในอาณัติกามอารมณ์ซาตาน
“ปฏิเสธให้ได้เหมือนปากพูด” เสียงกระซิบแหบต่ำอย่างกระทบกระเทียบดังเข้ามาในหูของร่างเล็ก จากนั้นปากหยักลึกดูดดุนซับเจ้าน้ำตาไหลลากลงมาที่ใบหูหญิงสาว
“ฮึก อ๊ะ อ้าส์” ริมฝีปากปล่อยครางออกมาไม่อาจอดกลั้นไปมากกว่านี้ได้อีก เผลอแอ่นอกรับอุ้งมือร้ายอย่างห้ามไม่ได้ ตอนนี้สติของเธอเริ่มหลุดลอยตาหวานเริ่มปรือเมื่ออารมณ์กามเข้ามาครอบนำโดยคนร่างสูงเป็นผู้นำทาง
แต่ดูเหมือนคนใจทรามจะเล่นตลกกับความรู้สึกเจ้าหล่อนเพราะมือหนาที่ทำหน้าที่เค้นคลึงร่างเล็กหยุดกระทันหันและเขายังมิวายแสยะยิ้มร้ายกาจส่งมาให้เธอเป็นการตอกย้ำความพายแพ้
“ขี้เกียจคลึง.. พอแค่นี้” เสียงทุ้มต่ำพูดอย่างไม่ใยดี ผละมืออกจากทรวงอกได้รูป แล้วลุกขึ้นเต็มความสูงจับผ้าขนหนูมาพันกายใหญ่ กำลังจะเดินไปนอกระเบียงพร้อมกับอุ้งมือใหญ่ถือซองบุหรี่ไปด้วย แต่ก้าวไม่ทันพ้นประตูต้องหยุดเดินกลางคันเพราะเสียงร้องไห้ดังลั่นของร่างบางที่สั่นเทาบนเตียง
“ฮื้อ!.คุณหมอกใจร้าย อึก..ฮื้อ!” เสียงปล่อยโฮออกมาประจานความอ่อนแอ เธอแพ้และอับอายเพียงไหนเขาจะรู้บ้างไหม
“พอฉันทำก็ร้อง หยุดก็ด่า สรุปจะเอายังไงทิชา?..”
“อึก!…”
“ช่วยพูดให้คนโง่ๆ อย่างฉันเข้าใจ ไม่ใช่เอาแต่ร้อง มันน่าเบื่อ” นัยน์ตาคมวาวโรจน์มองร่างเล็กที่ไม่เป็นสภาพอยู่บนเตียง
“อื้อ!.. ออก ไป เลย อื้อ อึก..ชาบอกให้ออกไป!” ประโยคไล่ที่ออกมาอย่างหอบเหนื่อยกับการกลั้นสะอึก พร้อมกับจับหมอนใบโตขว้างมันไปใส่ร่างสูง
“โธ่เว้ย!” หมอกสถบออกมาอย่างหัวเสียใช้เท้าเตะหมอนใบที่เธอโยนมาเมื่อครู่เพื่อระบายอารมณ์ เห้ย!..
“โอ๊ย คุณ..หมอก ” คนใจร้ายถึงกับชะงักมองหน้าซีดขาวที่นั่งเปลื่อยเปล่าอยู่บนเตียงมือบางทาบที่ใบหูตอนนี้แดงระเรื่อจากการโดนหมอนใบโตนั่นอัดใส่
“เมื่อกี้ฉัน..” หมอกจะขยับก้าวหาร่างเล็กแต่ต้องหยุดไว้เพียงแค่สองก้าว
เพราะเจอสายตาที่เจ็บปวดอย่างมหันต์ทอดมองมาที่ตน พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เจอเข้าแบบนี้คำแก้ตัวที่จะพูดก็ถูกกลืนไว้ทันที
ร่างสูงไม่รู้จะพูดไงดีให้ร่างเล็กได้เข้าใจ บอกว่าไม่ได้ตั้งใจก็ไม่ใช่..เพราะแรงอัดที่ส่งไปเมื่อครู่ก็ไม่ใช่น้อยๆ เขาแค่ต้องการเตะไปทางใดทางหนึ่งตามอารมณ์ก็เท่านั้น ไม่คิดว่าฝีเท้าตนจะดีเอาเรื่องในตอนนี้
“ออกไป !”
เมื่อถูกไล่ออกมาจากข้างนอกร่างสูงนั่งนิ่งอยู่นานที่นอกระเบียงคอนโดหรูของตัวเอง ก่อนจะควักบุหรี่ขึ้นมาสูบ พ่นควันสีเทาแข่งกับสายลมในค่ำคืน นั่งอยู่ไม่นานก็รู้สึกถึงความหนาวเหน็บมาปะทะกายหนาเป็นครั้งคราวอยากจะเดินเข้าห้องไปซุกใต้ผ้าห่มใจจะขาด แต่ต้องทนเพราะไม่อยากใกล้คนในห้องในตอนนี้ปล่อยให้เธอได้ร้องไห้สงบสติอารมณ์ไปก่อน
“ทำไม ไม่ปลุก” ประโยคอย่างไม่สบอารมณ์แรกของวัน เขาเผลอหลับอยู่ข้างนอกจนสว่างตื่นมาอีกทีก็สายแล้ว แทนที่คนในห้องจะปลุกเขาให้ตื่นแล้วสภาพผ้าขนหนูผืนแบบนี้เหมาะจะนอนตากเเดดตากลมหรือไง คิดอย่างโมโหตาคมพาลจ้องไปที่ร่างเล็กอย่างเอาเรื่อง
“ทิ ชา” เสียงเข้มไม่สบอารมณ์แต่เช้าที่เจ้าหล่อนมัวแต่ปรุงอาหารไม่สนใจหันมาหาเขา
“ค่ะ..ชาก็ไม่รู้ว่าถ้าปลุกแล้วคุณหมอกจะโมโหหรือเปล่า” หญิงสาวหันหน้ามามองคู่สนทนาอย่างช้าๆ เพราะรู้สึกปวดต้นคอ
“……”
“ชาไม่รู้ทำแบบไหนที่คุณต้องการ”
“……”
“ขอโทษแล้วกันค่ะ ถ้าทำให้ไม่พอใจ” พูดเสร็จก็วางทัพพีแล้วเดินคอตั้งผ่านร่างสูงไป
การตั้งใจทำอาหารได้หมดไปเพราะคนตรงหาเรื่องแต่เช้า อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าก็เพิ่งตื่นได้ไม่นานถ้าท้องไม่ประท้วงว่าหิวเธอก็คงไม่ตื่นเพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ใกล้เช้าแล้ว
“เดี๋ยวก่อน”
“จะหาเรื่องอะไรกันอีกคะ” เอื้อยเอ่นถามเสียงแผ่วอ่อนอย่างเหนื่อยใจ แต่ก็ไมได้หันหน้าไม่มองคนใจร้าย เลยไม่รู้เลยว่าเขานั้นเดินมาประชิดตัวเธอด้านหลังให้แล้ว
“หันมา” เสียงทุ้มต่ำที่อ่อนลง พอร่างเล็กหันมาหาเขาทั้งตัวอย่างช้าๆ โดยที่คอนั้นตั้งตรงไม่ขยับเหมือนคนมีอาการเจ็บต้นคอ ทำให้ใจดานเขามันกระตุกวูบขึ้นมาอย่างสะเทือนใจ
“เจ็บมากหรือเปล่า” มือหนาจับที่ท้ายทอยผ่านผมนุ่มอย่างเบามือ แล้วการกระทำของคนใจร้ายนี้มันเหมือนการตบหัวลูบหลัง เขากำลังจะทำให้เธอนำ้ตาซึม
ซึมเพราะเสียความรู้สึก....
“ไม่เจ็บแต่ปวดค่ะ จริงๆ เรื่องแค่นี้คุณหมอกไม่ต้องมาถามก็ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะตายจากกันแล้วหมดโอกาสแก้แค้นกัน ชาไม่ตายง่ายหรอกค่ะ ” หญิงเอ่ยคำประชดประชันเพราะเห็นสายตาคนตรงหน้าไหววูบลงมาบ้างสีหน้าสำนึกผึดแบบนี้โกหกทั้งเพ่เธอคิดแบบนั้น
“ปวดแบบไหน”
“…..”
“ฉันถาม”
“เหมือนตกหมอน”
“งั้น ฉันพาไปหาหมอ”
“ไม่ต้องก็ได้ ชาแค่รู้สึกปวดหมอนตกหมอนค่ะคุณหมอก ...คุณหมอก” หญิงสาวตะโกนไล่หลังร่างสูงที่กำลังรีบเข้าห้องน้ำ ปัง!....... เสียงปิดประตูดังลั่นอย่างเอาแต่ใจโดยไม่รอฟังคำพูดของเธอเลย
ณ โรงพยาบาลXXXXXX
“ออกไปรอที่รถก่อน ฉันมีธุระคุยกับไอ้ศึกมัน” หลังจากที่ให้หมอตรวจอาการเสร็จหมอกก็เอ่ยปากไล่คนข้างกายทันที
“ค่ะ.. งั้นทิชาขอบคุณคุณหมอนะคะ” เจ้าของดวงตาโศกตอบรับคนใจร้ายแล้วหันไปยิ้มไหว้ขอบคุณหมอหนุ่มการณ์ศึกทายาทเจ้าของโรงพยาบาลเอกชลชื่อดัง
“ครับ” การณ์ศึกรับไหว้ร่างเล็ก พอเห็นเธอเดินออกจากห้องไปแล้วสายตาสีเข้มก็เบนมาจ้องมองตัววายร้ายทันที
“ บทเรียนสำหรับเธอมันมากไปไอ้หมอก หวังว่าจะไม่มีครั้งที่สอง”
“กระดูกราวไหม ไม่ได้เป็นไรมากใช่หรือเปล่า” ถามติดกังวลแค่สงสัยเจ็บคอแข็งขนาดนั้นทำไมหมอไม่ใส่เฝือกคอให้ ตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์ครุ่นคิดอาการของร่างเล็กจนไม่ได้สนใจคำขู่กิ๊กก็อกของเพื่อนสนิทเลยแม้เเต่นิด
“ไม่ถึงขั้นนั้น” เสียงเข้มตอบแบบห้วนเริ่มรู้สึกเหนื่อยใจกับเพื่อนที่จะเอาแต่คำตอบให้ได้โดยที่ไม่สนว่าเขาพูดอะไร ถ้าเชื่อกันบ้างก็ไม่ต้องมากังวลกับเรื่องแบบนี้ สำหรับเขาถึงแม้จะไม่พอใจกันยังไงการทำร้ายผู้หญิงให้เจ็บปวดแบบนี้ไม่ใช่วิถีผู้ชายควรทำ นี่เขาทนคบกับเพื่อนเลวได้ไงถึงสองคน..
“อืม มีแค่นี้ที่จะถาม ไปละ…”
“เดี๋ยว ” นัยน์ตาสีเข้มมองคนตรงหน้าแล้วปรายตาจับจ้องไปที่เก้าอี้สื่อให้ร่างสูงที่ยืนดูนั่งลงที่เดิม
“ว่า?..”
“อาทิตย์ที่แล้วเห็นคุณหวานกับคนในบ้านไอ้คิมไปจ่ายตลาด เธออยู่บ้านนั่น?..”
“อืมคงใช่”
“คิมหันต์มันทำแบบนี้เพราะมึงหรือเปล่า ” การณ์ศึกไม่ปฏิเสธเลยว่าตอนรู้เรื่องนี้เขา ประมวลหาตัวต้นเหตุแล้วภาพใครที่โผล่เข้ามาในหัวเป็นคนเเรกถ้าไม่ใช่...
“อะไรชั่วๆ โยนมา..” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยประชดปรายตามองสูงโปร่งในชุดการว์สีขาวสะอาด อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนตัวเองมีอาชีพเป็นหมอหรือนักสืบสวน
“เพราะกูรู้จักไอ้คิมดี ต่อให้ไม่รักเมียตัวเอง อย่างมากมันก็แค่อยู่ห่างๆ เหมือนที่เคยทำ”
“.......” ปลายนิ้วแข็งเคาะโต๊ะอย่างเบาๆ เพื่อรอประโยคถัดไปจากคนเสื้อกาวน์ว่าจะกล่าวหาอะไรกันอีก
“แต่วิธีที่มันทำอยู่ตอนนี้มันไม่ต่างอะไรกับเกลียด”
“เลยนึกว่าทางนี้ทำ ?....ถ้าคิดแบบนี้ดูเหมือนมึงไม่รู้กูจักดีพอเลยนะ” หมอกตวัดสายตาครุกกรุ่นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ที่ถูกกล่าวหากันลอยๆ
แต่คำพูดของเพื่อนก็ทำให้หมอกฉุดคิดได้ไม่น้อยถ้าคิมหันต์จะใช้วิธีนี้บีบให้ปริมมาศทนไม่ได้แล้วหย่า นั้นเวลาที่ผ่านมาตั้งนานทำไมเพิ่งมาอยากให้ได้อะไรในตอนนี้..
จะว่าเขาเป็นสาเหตุก็ไม่ใช่เพราะเพิ่งเข้าหาปริมมาศอีกครั้งก็ตอนหลังที่รู้ว่าอดีตเพื่อนสนิทเอาผู้หญิงอื่นเข้าบ้าน
"เออ ขอโทษงั้นถ้าไม่ทำก็แล้วไป แค่อยากรู้เลยถาม "
"..."
“อยากรู้ทำไมไม่ถามนั้นละ...” เว้นชื่อไว้ในฐานที่เข้าใจแน่นอนเขาก็อยากรู้ให้ได้เหมือนกัน ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อยู่ๆ ใบหน้าหวานก็ลอยซ้อนเอามาในมโนภาพ ใจเขามันกระตุกสั่นหวังว่าคงไม่ใช่คนของตนเองนะที่เป็นคนสาเหตุ
“มันจะคงตอบให้ ขนาดเมื่อคืน... ” Rrrrr........ Rrrrr.......
“เมื่อคืนทำไม..ศึก” คิ้วหนาขมวดเป็นปมอย่างสงสัย
“แป๊ป โทษที” ร่างสูงโปร่งเอ่ยขอโทษเพื่อนแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นคุยทันที โดยทิ้งความสงสัยให้หมอกไว้ไม่น้อยเมื่อคืนอะไรเกิดขึ้นกับคนฝั่งนั้น
*********************************************
คําเตือนโปรดใช้วิจารณจารณ์ในการอ่าน
ผิดพลาดประการใดไรท์ของอภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ
คิมหันต์จะเงียบแล้วจัดการกับปัญญา
ต่างจากหมอกที่อารมณ์ร้ายซึ่งๆ หน้า
ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเลวกันทั้งคู่ ^^"