ท่ามกลางความเงียบสงัดควันสีเทาตลบอบอวลเคลื่อนตัวลอยขึ้นสู่มวลอากาศไปทั่วบริเวณห้อง ตาคมเพ่งมองมันอย่างพิจารณาจนกลุ่มควันนั้นถูกกลืนหายไปกับความมืดยามค่ำคืนกลับมีใบหน้าหญิงสาวเข้ามาแทนที่พ่วงด้วยความรู้สึกตอนนี้มันกำลังตีรวนยุ่งไปหมดไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองทั้งความคิดการกระทำรวมถึงหัวใจบ้าๆ นี้..
แต่ต้องหยุดชงักความคิดทั้งหมดไว้เพราะเสียงสะอื้นไห้แผ่วๆ ของร่างเล็กที่นอนซมคดตัวใต้ผ้าห่มหนา ชายหนุ่มที่นอนพิงหัวเตียงขนาดคิงไซส์ต้องหันมามองแผ่นหลังบาง
นั้นอย่างไม่สบอารมณ์กับความเจ้าน้ำตาไม่มีใครเกิน
มือหนาเสยผมตัวเองไปด้านหลังลวกๆ มืออีกข้างที่คีบบุหรี่อยู่จัดการบดอัดปลายแทงเข้ากับกำแพงเพื่อระบายความหงุดหงิดจนหม่ำใจแล้วขยับโน้มตัวเข้าหาคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนางบำเรอ
ถ้าเธอเอาเบอร์คิมหันต์ให้เขาตั้งแต่ที่แรกเรื่องมันคงไม่ต้องถึงเตียง..เพราะตอนขอก็ขอดีๆ
“โอ๊ย..เจ็บ” ร่างเล็กสดุ้งร้องตกใจ
“หึ!.น่าเจ็บตรงไหน” เสียงหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน แล้วเอาแทงบุหรี่ที่จี้ไหล่เธอเมื่อครู่ขึ้นมาให้ดูว่ามันไม่มีไฟ พอความจริงปรากฏชัดไม่ได้ทำให้ร่างเล็กคลายความตกใจได้เลย กลับกันทำให้รู้สึกช้ำใจกับการกระทำของชายหนุ่มมากกว่าเก่าบ่อน้ำตาก็ทำหน้าที่โดยอัตโนมัติปลดปล่อยความเจ็บใจที่มีอย่างไม่อาย
“อื้อๆ!...ฮือ อื้อๆ” หน้าเรียวซุกเข้ากับหมอนใบโต หวังเพื่อให้สิ่งที่หนุนอยู่เก็บกักน้ำตาและเสียงได้บ้างเธอเกลียดผู้ชายข้างกายนี้เหลือเกิน
“ตอนนี้มันเป็นไง ให้เดา..” เสียงเรียบต้องการคำตอบจากร่างสั่นสะอื้น เขารู้ดีว่าคำถามนี้สร้างความเจ็บปวดให้เธอแค่ไหนเพราะงั้นถึงทำ.. โดยไม่สนใจเสียงช้ำใจของคนตรงหน้าแม้แต่นิดเดียวอยากร้องร้องไป สุดท้ายก็หนีจากเขาไม่ได้ก็อยู่ดี
“...” หญิงสาวไม่พูดเอาแต่คดตัวซุกหมอนใบโตอย่างเจ็บปวด
“ต้องเสียน้ำให้ได้ ถึงจะพูด?..” เสียงทุ้มรอดไรฟันกระซิบถามที่ข้างหูของร่างเล็กพร้อมกับงับเลียมันเบาๆ อย่างขมขู่
“อื้อๆ..คุณปริมคงแย่..คงเจ็บปวดไม่ต่างกับชาในตอนนี้!”
“ไม่ได้ถามหาปริม” นำ้เสียงเข้มไม่พอใจกับคำตอบมือแกร่งคว้ามับตรงทรวงอกของร่างเล็กที่นอนตะแคงบีบเค้นเต็มแรงไร้ปราณีเพื่อเป็นการลงโทษคนตรงหน้าที่กล้าบังอาจ
พูดจี้ใจดำเขา
จี้ตรงที่เขานั้นทำคนที่รักต้องเจ็บปวดเพราะการกระทำของตัวเอง..
“ปะ ปล่อยคะ อ๊ะ” เจ้าของเสียงสั่นพยายามดีดดิ้นมือหนาที่ไล้วนไปทั่วร่างบางอย่างถือวิสาสะไม่หยุดไม่หย่อน ลมหายใจที่รินรดบนต้นคอแทบจะแผดเผาให้เธอมอดไหม้ไปทุกที
“ร่อนเอวหนีไม่ต่างอะไรกับยั่วนะ..” ชายหนุ่มครางออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำทำให้เธอรู้ว่าเขาพอใจในระดับหนึ่ง ถ้าดิ้นไปคงไม่ดีต่อตัวเองแน่ๆ แต่นิ่งอยู่อย่างนี้เธอก็ต้องตกทาสอารมณ์เขาซ้ำๆ สำหรับวันนี้เธอเหนื่อยเกินทนแล้ว
“ชาไม่ได้ยั่ว”
“ว่าไง..ตอบ”
“ทำไมต้องให้ชาพูดถึงพี่คิม ทำไมคุณหมอกถึงใจร้ายแบบนี้ อื้อๆ!” ถามเขากลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือน้ำตาอาบนองเต็มหน้า การจะเอาคำตอบให้ได้ของหมอกสร้างความกดดันที่อัดแน่แกเธอจนต้องปลอดปล่อยสะอื้นร่ำไห้ยิ่งกว่าเก่า
“ทำเหมือนยากเย็นเอง..” ร่างสูงตอบอย่างไม่ยี่หระถึงเเม้ว่าคนตรงน่าจะเจ็บเจียนตายเพราะฝีมือตนก็ตาม
“…”
“ถ้าเธอไม่ได้คิดอะไรกับมันแล้ว.. เอาปากพูดเรื่องแค่นี้คงไม่ยาก” ถ้าเธอตอบเขาตั้งแต่ทีแรกคงไม่ต้องใช้กำลังแบบนี้แค่อยากจะรู้ว่านางบำเรอตัวเองคิดยังไงกับอดีตคู่หมั่น
“ชาก็ไม่เคยบอกว่าลืมพี่คิม” น้ำเสียงที่แฝงความน้อยเนื้อต่ำใจกลับทำให้คนฟังไม่พอใจกับคำพูดท้าท้ายนี้
“ให้พูดใหม่อีกที!” ชายหนุ่มตะคอกถามก่อนจะก้มลงคว้ากระชากท้ายทอยร่างบางไว้เพิ่มแรงบีบอย่างไม่กลัวว่าคนตรงหน้าจะเจ็บปวดแค่ไหน แล้วใช้นิ้วมือสอดเข้าไปในกลุ่มผมนุ่มกระชากขึ้น ทำให้ใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยน้ำตาแหงนหน้าตามแรงกระตุก
“ปล่อยชา เจ็บๆ โอ้ย...”
“เจ็บจะได้จำ อย่าคิดท้าท้าย”
“คนเลวชาเกลียดคุณ อื้อๆ สักวันจะต้องเสียใจที่ทำกับชาแบบนี้ โอ้ยเจ็บ.. ปล่อยนะ
ชาจะไม่มีวันให้อภัยคนอย่างคุณจำไว้! ”
“คนอย่างฉันไม่มีวันเสียใจ เพราะถ้าปล่อยคือเบื่อ” เสียงเข้มของชายหนุ่มกระซิบที่ข้างหู มือหนากำกลุ่มผมแน่นขึ้นว่าเก่าจนร่างบางเจ็บระบมพยายามดิ้นแต่ก็ไม่พ้นในใจ
ภวานาให้เขาเบื่อเธอในเร็ววันจะได้หลุดพ้นจากขุมนรกนี้เสียที
************************