ต่อ Part
หอพักccc
ผมมองร่างสูงของไอ้พี่เสกที่อาบน้ำเสร็จเดินออกมาเนื้อตัวยังเปียกชุ่มอยู่ ทำไมไม่เช็ดตัวเองก่อนออกมานะ
หลังจากที่กินข้าวอิ่มผมก็แยกย้ายกันกับเกดและเจขอกลับหอพักโดยให้เหตุผลว่าเหนียวตัวอยากอาบน้ำแรกๆไอ้พี่เสกไม่ยอมเพราะจะนอนกับผมที่โรงแรมที่ห้องพักไอ้พี่เสก แต่ผมบอกว่าจะกลับห้องไม่มีเสื้อผ้าใส่ไอ้พี่เสกก็ยอมแต่ก็ยังเน้นคำว่านอนด้วยกันมาตลอดทาง
" อ๊ะ ทำอะไรมันเย็นนะ " ผมร้องเสียงเบาเมื่อไอ้พี่เสกเดินเอาร่างเปลือยที่เปียกชุ่มหลังจากอาบน้ำเสร็จใหม่สวมกอดจากทางด้านหลังของผมเอาคางเกยกับไหล่ผมไว้
" นี่จะใส่ทำไม หืม " เสียงทุ้มดังอยู่แถวๆซอกคอผมแต่มือทั้งสองดึงทึ้งเสื้อยืดผมจนคอย้วยมือหนาลูบไล้บริเวณหน้าท้องแบนเรียบปลุกปั่นอารมณ์ผมให้กระเจิดกระเจิง
" คุยกันก่อน " ผมหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับร่างสูงพลางพยายามหยุดมือปูไต่ของไอ้พี่เสกที่ไล่ลงไปในหัวกางเกงผ้าของผม
" อยาก....... ขอทำก่อนค่อยคุย "
ไอ้พี่เสกอ้อนวอนขอเเบบตรงๆพร้อมกับกดริมฝีปากลงแถวหัวไหล่ผมเบนหน้าหลบหนวดเคราไอ้พี่เสกที่เริ่มจะยาวทิ่มแถวซอกคอจนรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ
" กว่าจะเสร็จผมก็ไม่มีแรง " ผมบ่นอุบกับอกเปลือย
" ต่อ เราสองคนไม่ได้มีอะไรกันมาเป็น2อาทิตย์แล้วนะไม่สงสารเสกน้อยหรือ "
ไอ้พี่เสกทำเสียงออดอ้อน
" งั้นห้ามเล่นท่ายากนะ " ผมต่อรองและเดินไปนั่งลงที่เตียงนอนไอ้พี่เสกเดินตามผมแล้วผลักผมให้นอนลงราบกับที่นอนแล้วก้มกระซิบ
" ท่าไหนก็ยอมแค่xxxx ในตัวนาย "
ผมลงเอียงหน้าหนีกับคำพูดหยาบโลนด้วยความอายหลับตาลงปล่อยให้ไอ้พี่เสก จัดการกับเสื้อผ้าผมตามสบาย พอรู้สึกว่าตัวเองเปลือยเปล่าได้ไม่ทันไร
ไอ้พี่เสกก็ทาบทับร่างกายเเข็งแกร่งนั้นลงแล้วก็บรรจงประกบปากจูบผมอย่างแผ่วเบาและเลื่อนมือหนาลงไปหายอดอก ผมและลูบไล้ไปมาอย่างนุ่มนวลทำให้ผมถึงกับเคลิบเคลิ้ม
" สัมผัสมันสิ "
ไอ้พี่เสกสั่งแล้วไอ้พี่เสกก็ดึงมือผมให้ไปจับกับความตึงแข็งแกร่งที่ตรงกลางร่างสูงผมรับรู้ถึงขนาดของมันและใช้ให้มือผมรูดมันขึ้นลงอย่างช้าไอ้พี่เสกครางอืมๆออกมา
" อืม. ต่อนายรู้มั้ยว่าเรือนร่างนายมันน่าเอาสุดๆ "
ไอ้พี่เสกไม่พูดเปล่าก้มหน้าลงไปเพื่อสัมผัสกับยอดอกใช้ปลายลิ้นลากเลียวนรอบไปมาสลับกับดูดดึง
" อ๊ะ..อ่า ออ่าาา..." ผมครางเบาแอ่นร่างเบียดอกรับลิ้นร้อนมืออีกข้างเคล้าคลึงเนินอกที่เหลือมือเรียวก็จับสาวแกนกายขึ้นลงอย่างช้าๆร่างสูงจึงหยุดจับมือผมแน่น คงกลัวจะปลดปล่อยออกมา ผมแอบมองเสี้ยวใบหน้าไอ้พี่เสกอย่างหลงใหล
ผมรักผู้ชายคนนี้ ผมต้องการ ผู้ชายคนนี้ ผมคิดเลื่อนลอย
ขณะที่ไอ้พี่เสกบีบเจลป้ายลงปลายนิ้วเรียวผมรับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ผมจึงหลับตาลง
รู้สึกถึงความเย็นของเจลที่ปลายนิ้วเรียวที่กำลังกดแทรกที่ช่องทางด้านหลังผมสะดุ้งเฮือกรู้สึกเจ็บคงเพราะห่างหายไปนาน และร่างสูงก็ก้มลงใช้ลิ้นอุ่นๆไล้เลียส่วนปลายแกนกายผมที่แข็งขืนอยู่
" อ๊ะ อะอ่า ไอ พี่เสก.."
ผมครางเสียงกระท่อนกระแท่นเมื่อปากหนาและลิ้นร้อนทำงานประสานจังหวะกันอย่างช่ำชอง มือหนาอีกข้างก็บีบเค้นคลึงยอดอกของผมอย่างเมามันจนผมรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่าง
" ไม่ไหว พี่เสก พอ พอแล้ว นะ นิ้ว นิ้ว "
ผมร้องขอออกมาเหมือนส่งสัญญานบอกไอ้พี่เสกเร่งจังหวะลิ้นเร็วขึ้นและนิ้วแกร่งก็ชักเข้าออก วนถี่ยิบ
ผมกำลังจะใจขาดตายเกร็งตัวแอ่นสะโพกขึ้นมือ
ทั้งสองของผมขยุ้มผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ระบายความเสียวซ่านและกระตุกร่างปลดปล่อยออกมา
" อ๊ะ อ่าา อ่าาาาาา "
ผมครางเสียงหลงเมื่อร่างสูงถอนปากและนิ้วออกมาพร้อมกันและรับรู้ว่าบางอย่างที่ผมปลดปล่อยออกมาไอ้พี่เสกได้กลืนกินไปแล้ว..
" ชอบมั้ย "
ไอ้พี่เสกเคลื่อนตัวขึ้นมากระซิบเสียงหวาน ผมหลับตาพริ้มผงกศีรษะเป็นคำตอบจากนั้นสองขาถูกแยกออกรู้สึกถึงแกนกายใหญ่กำลังค่อยๆบุกรุกเข้ามาไร้ซึ่งอุปกรณ์ป้องกันใด ผมสูดหายใจยาวเพราะรู้สึกเจ็บ
" พี่เสกเจ็บ "
ผมเรียกชื่อพี่เสกครั้งแรกเบี่ยงร่างหลบเหมือนกำลังต่อต้านร่างสูงจึงรีบโน้มตัวลงไปกระซิบปลอบที่ข้างหูผม ใช้ริมฝีปากขบไปตรงติ่งหูเบาๆ เบนความรู้สึกของผมให้เสียวซ่านกลบเกลื่อนความเจ็บปวด
" หลับตา เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว "
ร่างสูงปลอบเอามือเกลี่ยปอยผมที่หน้าผากผมด้วยความอ่อนโยนและผมเหมือนโดนหลอกล่อ เมื่อร่างสูงเบียดสะโพกเข้าหาคราวนี้พรวดเดียวเข้าไปจนสุดทาง
" อ๊าาาาา เบาๆ ผมเจ็บ "
ผมร้องเสียงหลงออกมา
ก่อนที่ริมฝีปากบางจะถูกประกบปิดสนิทด้วยริมฝีปากของร่างสูงลิ้นของร่างสูงรุกเร้าเข้ามา
กระหวัดพันกับลิ้นของผมอย่างรวดเร็วค่อยๆกระตุ้น ความรู้สึกวาบหวามให้ผมเคลิบเคลิ้มแล้วเริ่มขยับสะโพกเข้าออกช้าๆเนิบๆและเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ
" อ๊ะ อ่าาาาวว....อือ...อือ....อาาาา " สองขาของผมก็ตวัดไปที่กลางหลังสะโพกของไอ้พี่เสกแน่น
แอ่นร่างขึ้นตอบรับจังหวะกระแทกของร่างสูงที่โหมบุกเข้าใส่ร่างผมอย่างแรง ทำให้ผมรู้สึกสะท้านไปทั่วร่าง
" อ๊ะ อ่าาาา อืม .... พี่เสก เบาๆ "
ผมครางประท้วงสองแขนยื่นไปโอบรัดที่กลางหลังของไอ้พี่เสกให้โน้มตัวลงมาหา ผมสบตากับสายตาคมของไอ้พี่เสกจ้องมองผมไม่ขยับเลยต่างจากสะโพกด้านล่างที่ผ่อนจังหวะลงและก้มลงกระซิบเสียงสะท้าน
" รักมั้ย "
ไอ้พี่เสกถามแผ่วๆพร้อมกับขยับถอนแกนกายออกมาครึ่งหนึ่ง และค่อยไล้เลื่อนเข้าไปใหม่อย่างช้าๆทำให้ผมแทบคลั่งเพราะความอึดอัดคับแน่นทรมานนั่น
" ระ รัก รักมาก "
ผมตอบและยิ่งเหมือนเร่งเร้าอารมณ์ของร่างสูงไอ้พี่เสกยกยิ้มอย่างพอใจ
" แล้วจะแต่งสวยไปยืนจับมือกับผู้ชายอีกมั้ย "
ไอ้พี่เสกถามแล้วกดสะโพกเข้าพรวดทีเดียวเต็มแรงตอนนี้เหมือนผมกำลังโดนสอบสวนคดีพิเศษอยู่รึไง เนี่ย
" อ๊ะ อ่าา มะ ไม่แล้ว... วว " ผมตอบเสียงหลง
" ดีมาก เด็กดีเดี๋ยวพี่เสกจะให้รางวัล "
พูดจบไอ้พี่เสกก็ก้มลงจูบและเริ่มขยับสะโพกเร่งเร็วใส่เเรงเต็มลูกสูบความเสียวซ่านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆกลบเกลื่อนความเจ็บปวดไป
" พี่เสก พี่เสก... ไม่ไหววว ใจจะขาด อ่าาาาาาา ..."
ความรู้สึกที่รุนแรงนี้กำลังจะปลดปล่อยไอ้พี่เสกก้มลงประทับจูบ บดขยี้ริมฝีปากไปกับริมฝีปากบางนุ่มของผมอย่างเร่าร้อนขณะเดียวกันก็เร่งกำลังที่สะโพกควงบดขยับสะโพกอย่างถี่ยิบเสียงพั่บพั่บดังกึกก้องอื้ออึง
และผมก็เกร็งเล็บจิกแผ่นหลังของไอ้พี่เสกแน่นส่งเสียงร้องออกมาสุดเสียงเมื่อความรู้สึกเสียวซ่านนั้นระเบิดปะทุขึ้น
" อาาาาาา...อืออ....อืออออ.. " สองขาตวัดรัดไปที่สะโพกแข็งแรงของไอ้พี่เสกพ่นหลั่งน้ำรักออกเปรอะหน้าท้องเนียนของตัวเอง ส่วนเสียงไอ้พี่เสกครางต่ำด้วยความเสียวซ่านไม่แพ้ผม กระแทกกระทั้นย้ำ เข้าออกสองสามทีก็รู้สึกถึงการฉีดพุ่งเข้าไปในช่องทางด้านหลังของผมไอ้พี่เสกหอบหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อยจนตัวอ่อนเหงื่อไหลชุ่มไปทั่วร่างฟุบร่างหนาลงบนตัวผม
ผ่านไปสักพักไอ้พี่เสกไม่มีท่าทีว่าจะถอนกำลังออกจากป้อมปราการผมแถมยังรู้สึกเหนอะหนะน้ำรักตัวเองบริเวณหน้าท้องที่ไอ้พี่เสกนอนทับอยู่
" รักมากหวงมากรู้มั้ย "
เสียงทุ้มกระซิบบอกรักพร้อมกับไล้มือหนาไปตามริมฝีปากผมสายตาคมจ้องมองผมนิ่ง
ตึก ตัก ตึก ตัก
เสียงหัวใจของผมที่กําลังเต้นแรงข้างในพองโตอัดแน่นเหมือนกับลูกโป่งความรู้สึกเหมือนได้ล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ ช่วงเวลาที่เคืองหรือโกรธงอนกัน ผมกลัว กลัวว่าจะไม่ได้ยินคำๆนี้จากปากไอ้พี่เสกอีก
" รักมากแค่ไหน " ผมถามแล้วคลี่ยิ้มหวานออกมา
" อืม. ได้อีกสักน้ำสองน้ำก็คงจะให้คำตอบได้ "
ไอ้พี่เสกตอบทำสายตากรุ้มกริ่มมือหนาเริ่มไล้วนตามร่างกายส่วนล่างของผม
" ไอ้พี่เสก อือ... ขี้โกง "
ผมครางเบายกแขนเรียวขึ้นคล้องคอร่างสูง
" จะทำอีกเหรอ "
ร่างสูงตอบอือ อือ และขยับเลื่อนตัวลงและเริ่มบทรักอันตื่นเต้นเร่าร้อนอีกครั้ง
ส่วนผมก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะว่าผมเองก็ต้องการ...
เช้าวันใหม่เสียงเหมือนกุกกักๆเหมือนมีอะไรกระทบกับประตูกระจกริมระเบียงผมค่อยลืมตาขึ้นมองนาฬิกาตั้งโต๊ะ 9โมงเช้า แล้วมองไอ้พี่เสกนอนหลับอยู่ข้างๆผมค่อยๆขยับตัวหยิบท่อนแขนยาวที่พาดเกยกับเอวผมออกอย่างช้าๆเพราะกลัวไอ้พี่เสกจะตื่นเมื่อคืนหลังจากจบเกมรักไอ้พี่เสกก็อุ้มผมไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายผมแกล้งเดินไม่ไหว
และก่อนนอนผมก็ออดอ้อนเอาคำบอกรักหวานๆและสั่ง ให้ไอ้พี่เสกกอดผมทั้งคืน ไม่คิดว่าจะทำจริงๆ
คนเราไม่มีทางรู้ว่า ความรัก ความสุข จะอยู่กับเรานานแค่ไหนเพราะฉะนั้นช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันพยายามกอบโกยความสุขเอาไว้ ผมขอเจ้าเล่ห์เห็นแก่ตัวนิดนึง ผมคิดและยิ้มออกมา
ลุกขึ้นยืนด้วยอาการเมื่อยล้าตามลำตัวรู้สึกเจ็บเสียดๆบริเวณช่องทางด้านหลังทั้งที่มีอะไรกันก็บ่อยทำไมร่างกายยังไม่ชินอีกนะ
แต่เมื่อคืนไอ้พี่เสกเหมือนจะสุดยอดกว่าทุกครั้ง เร็วแบบนุ่มนวลช้าแต่ร้อนแรงหรือเพราะหายห่างไปนาน เกือบ2อาทิตย์รึเปล่านะ พลางคิดถึงคำพูดหยาบโลนชวนxxของไอ้พี่เสกเมื่อคืน ทำให้หน้าผมร้อนขึ้นมา
คนบ้าอะไรจะหื่นโอลิมปิกขนาดนี้
แล้วผมก็เดินไปเปิดประตูกระจกอุ้มเอาแมวตัวอ้วนตัวต้นเหตุของเสียงนั้นขึ้นมาและเดินไปนั่งลงข้างๆเตียงแล้วไอ้พี่เสกก็ขยับตัวลุกขึ้นลงมานั่งข้างๆผมเอามือหนามาเคาะเบาๆที่หัวเจ้าโบ้ที่นึง
" สำออย ออดอ้อน " ร่างสูงพูดลอยขึ้นมาแล้วก้มลงหอมแก้มผมทีนึงผมเอามือลูบแก้มตัวเองป้อยๆอะไรนี่นึกว่าหอมก็หอม อายเป็นเหมือนกันนะไอ้พี่เสก
" ว่าผมรึว่าแมว "
ผมถาม เพราะตอนนี้โบ้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงของผมไปแล้ว แถมยังเอาเข้ามานอนในห้องด้วยส่วนไอ้พี่เสกก็มองแบบเคืองๆแต่ก็ไม่พูดอะไร
" แล้วทำแบบนั้นรึเปล่าล่ะ "
ไอ้พี่เสกถามจ้องหน้าผมนิ่ง ผมไม่ตอบได้แต่อมยิ้ม คงรู้ถึงความเจ้าเล่ห์ของผมเมื่อคืน ผมรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีกลัวไอ้พี่เสกถามจี้เรื่องที่ผมแกล้งออดอ้อนเมื่อคืน
" ผมขอเอาโบ้ไปงานแต่งพี่นัทด้วยได้มั้ย "
ผมขอเพราะว่าผมกับไอ้พี่เสกต้องไปงานแต่งพี่นัทที่เชียงใหม่3วัน จะฝากเพื่อนก็ทำงานกันหมด
" ได้สิ "
อนุญาติด้วยอะ ใจดีเกินคาดแฮะ ผมคิด
" เย้ๆขอบคุณ " ผมร้องออกมาด้วยความดีใจ
" ทำไมต้องดีใจขนาดนั้นด้วยวะ " ไอ้พี่เสกถาม
" ก็กลัวโดนว่านี่ " ผมตอบเสียงอ่อยไอ้พี่เสกยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ
" ต่อ พร้อมจะฟังเรื่องที่มึงยังไม่รู้รึยัง "
ไอ้พี่เสกเอ่ยผมพยักหน้ารับ อืมๆ
แล้วไอ้พี่เสกก็เล่าเรื่องยาวที่ปิดบังผมไว้ ทั้งหมดเป็นเรื่องส่วนตัวผมทั้งนั้นเลยและที่สำคัญคือเรื่องทั้งหมดคือเรื่องที่ผมปิดบังไอ้พี่เสกเหมือนกัน
เรื่องหนี้ เรื่องแม่เรื่องบ้านเรื่องเครื่องติดตามที่กำไลข้อมืออีก มันเยอะมากมันทำให้ผมยังซ็อคอยู่
ผมขยับตัวออกห่างจากไอ้พี่เสกทันทีส่ายหน้าไปมาเหมือนคนเสียสติ
" ต่อ ขอโทษที่ทำไปไม่ได้บอกก่อน ขอโทษที่ปิดบังอย่าโกรธนะ "
ไอ้พี่เสกพูดเสียงแผ่วๆเหมือนคนกำลังรู้สึกผิด
" ไม่ ไม่รู้ไม่โกรธแต่นั่นมันเรื่องส่วนตัวของผม "
ผมยังส่ายหน้าตอบปฏิเสธ ผมบอกไม่ถูกว่ารู้สึกแบบไหนทั้งดีใจเสียใจน้อยใจปนกันไป
" แต่มึงเป็นคนรักกู ต่อมึงเป็นเมียกู กูจะทน ดูมึงกับแม่ลำบากได้ไงกูจะไม่ให้มึงลำบากอีกแล้ว
ต่อไปนี้กูจะปกป้องมึงเองกูเรียนรู้แล้วตอนที่ทะเลาะกันกับมึงกูแทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับงานก็ทำไม่รู้เรื่องกูคิดถึงมึงตลอดเวลา "
ไอ้พี่เสกพูด
" ส่วนเรื่องเครื่องติดตามที่กำไลนั้นกูห่วงมึงกลัวไอ้พวกเจ้าหนี้มึงไม่ยอมปล่อยมึงเพราะว่ามันจะเอามึงไปขายมึงก็รู้พวกนั้นมันทำได้ทุกอย่าง "
ไอ้พี่เสกอธิบายยาว ใช่ผมรู้ ผมเคยเจอกับพวกมันแล้วแต่ผมนั้นยังนั่งนิ่งอยู่กับคำสารภาพนั่นไอ้พี่เสกพูดได้ดีมากซึ้งใจจนน้ำตาผมเริ่มคลอ
คำว่ากูจะปกป้องมึงเอง น้ำตาที่คลออยู่ก็ไหลออกมาทันที
" ไอ้พี่เสกรักผมจริงๆใช่มั้ย "
ผมถามทั้งน้ำตา ไอ้พี่เสกพยักหน้ารับไอ้พี่เสกรู้ทุกเรื่องไม่รังเกียจที่ครอบครัวผมเป็นแบบไหนแถมยังบอกว่าจะปกป้องผม
" จะปกป้องผมไปตลอดใช่มั้ย " ไอ้พี่เสกก็พยักหน้ารับอีก
" ต่อไปห้ามโกหกผมอีกมีอะไรก็ให้คุยกันผมเองก็จะไม่ปิดบังผมกลัว พี่จะทิ้งผม ผมกลัวพี่เสกเบื่อผมกลัวไปหมดทุกเรื่อง "
ผมสารภาพทั้งน้ำตา
" คิดมากน่า " ไอ้พี่เสกพูดปลอบผม
" ไม่คิดมากได้ไงผมรักพี่มากกว่าที่พี่รักผมอีก "
ผมจะโกนออกมาเสียงดังจนไอ้โบ้ที่นอนนิ่งในมือผมขยับตัว ร้องเหมี๊ยวๆ
" เด็กโง่เอาอะไรมาวัดว่ามากกว่าน้อยกว่าหือ! "
" ผมรู้ละกัน " ผมตอบทำหน้าตาขึงขังใส่ไอ้พี่เสก
" หรอ คร้าบพ่อคนเซ้นส์ดีว่าแต่คำว่าพี่เมื่อกี้นี้ชอบจัง เรียกไปตลอดได้มั้ย "
ไอ้พี่เสกบอกยิ้มๆ
" ไม่ได้หรอกมันขึ้นอยู่กับการกระทำของพี่ ระดับอารมณ์ความรู้สึกของผม ถ้าอยากได้ยินบ่อยๆก็ทำตัวดีๆห้ามโกหกกันอีก "
ผมตอบหน้าบึ้งตึง
" ระดับอารมณ์แบบไหนครับ "
ไอ้พี่เสกถามสุภาพจนผม รู้สึกขนลุกไม่ชินกับคำพูดแบบนี้
" ก็ถ้าอารมณ์พิศวาสมาก ก็เรียกพี่ "
" อารมณ์ปกติ ก็ไอ้พี่เสก "
" ไม่พอใจหน่อยก็ ไอ้เสก "
" ถ้าถึงขั้น มึงกู ก็....นะ คงรู้ว่าระดับไหน "
ผมบอกอธิบายยิ้มกริ่ม
" เออ เข้าใจยากว่ะ ...... เลิกตอนนี้ทันมั้ย "
ไอ้พี่เสกบอกด้วยท่าทียิ้มทะเล้น
" ลองดูสิ อย่าคิดว่าผมจะปล่อยไปง่ายๆนะ ไอ้พี่เสก " ผมพูดจบแล้วไอ้พี่เสกก็หัวเราะออกมา
" โบ้ แกเป็นพยานด้วยนะเจ้านายแกพูดอะไรไว้ "
ไอ้พี่เสกบอกแมวเหมียวตัวอ้วนที่นอนอยู่บนตักผม
แล้วต่างก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำแต่งตัวไอ้พี่เสกบอกว่าต้องไปงานศพญาติช่วงบ่าย ส่วนผมนั้นต้องเตรียมเสื้อผ้าก่อนเดินทาง
" เดี๋ยวครับ " ผมเรียกไอ้พี่เสกไว้ก่อนที่จะออกจากห้อง
" มีอะไรรึเปล่า "
ไอ้พี่เสกหันมาถามผมเดินไปหยิบสูทสีดำ ที่แขวนอยู่แล้วเดินเอาไปยื่นให้ไอ้พี่เสกไม่รับแต่กางแขนทั้งสองออก
" ทำหน้าที่หน่อยดิ " ผมก็เลยจัดการใส่เสื้อสูทให้ไอ้พี่เสกยิ้มออกมา
" เห้อ! มีเมียมันดีแบบนี้นี่เอง "
ไอ้พี่เสกพึมพำออกมาเปิดประตู
" เอ่อ ผมเป็นผู้ชายอาจจะทำได้ไม่ดี "
ผมบอกสิ่งที่อึดอัดในใจออกไปวันหน้าผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
" เชื่อใจไอ้พี่เสกของมึงนะต่ออย่าคิดมากเรื่องสถานะตัวเองอีก เราสองคนมาเรียนรู้ไปพร้อมๆกันดีกว่าให้เวลาเป็นตัวกลาง "
ไอ้พี่เสกพูดแล้วก้มลงจูบที่ริมฝีปากผม
" สำหรับกูแล้วถึงกูจะเป็นคนง่ายๆแต่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ได้เข้าใจมั้ยต่อแค่มึงคนเดียว "
ไอ้พี่เสกพูดท่าทีจริงจังแล้วเดินออกจากห้องไป..
เชื่อใจ ไว้ใจ ผมยังต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย
แล้วผมก็ไปสะดุดกับซองกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะผมหยิบขึ้นมาแกะดูข้างในเป็นโฉนดที่บ้านผมและหนังสือสัญญาที่ทำขึ้นเพื่อไม่ให้เจ้าหนี้หน้าเลือดนั่นเอายุ่งวุ่นวายกับผมอีก ทำให้ผมน้ำตาซึมออกมาผมรู้แล้วว่าผมนั้นคงจะปกป้องใครไม่ได้
แล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความยาวกดส่งหาไอ้พี่เสกทันที
เห้อ!บางทีการที่มีอะไรกันก่อน แล้วมาเริ่มเรียนรู้กันมันก็ไม่ได้แย่เสมอไปนะผมจะสู้และรักษาความรักของผมไว้ได้มั้ยนะ
เสก Part
ขอบคุณนะครับที่เข้ามาในชีวิตของผม ขอบคุณมากสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเพื่อผม ผมคงไม่มีอะไรตอบแทนคุณ นอกจากคำนี้
ผุน_ รัก_ ขม
(อย่าตอบกลับนะครับ แค่ยิ้มรับ ก็พอ)
ผมหลุดยิ้มออกมาออกมาเมื่ออ่านข้อความจบ เดาว่าคงเห็นโฉนดที่ผมวางไว้แล้ว รู้สึกโล่งใจที่เป็นต่อไม่โกรธหรือตีโพยตีพายมาก อาจจะยังเคืองๆอยู่
ผมบอกออกไปหมดเเล้วเรื่องที่ปิดบังไว้ ผมไม่อยากโกหกมันเหนื่อยที่ต้องคิดตามคำพูดตัวเองตลอด
ว่าแต่อะไรคือ ผุน รัก ขม ผมคิดแล้วก็ยังงงอยู่
" มีอะไรดีหรือครับคุณเสก " เสียงของคนขับรถผมถามขึ้นคงเห็นว่าผมนั่งยิ้มแย้มอยู่กับนายจอมือถือของตัวเอง
" ว่าแต่พี่พลช่วยแปลคำว่า ผุน รัก ขม ให้ผมฟังหน่อยสิครับ " ผมถามคนขับรถคนสนิท
" ง่าย มากครับก็แค่ผวนคำกลับ "
พี่พลตอบแล้วผมก็คิดตาม
" ผุน รัก ขม ผม รัก คุณ "
ผมลองท่องเป็นคำออกมาแล้วก็รู้ความหมายทำให้ผมยิ้มออกมาอีกครั้ง
" คุณเสกจะเอาไปสารภาพกับสาวที่ไหนหรือครับ "
พี่พลคนขับรถถามผม
" ผมถูกสารภาพต่างหากล่ะ " ผมตอบยิ้ม
" คุณเสกต้องล้อเล่นผมเล่นแน่ๆเลย นั่นมันคำสารภาพของผู้ชายนะครับ คำว่าผมรักคุณ "
พี่พลบอกตามที่ตัวเองเข้าใจ
" ฉันพูดจริง "
ผมตอบยิ้มกับท่าทีของคนขับรถที่ทำท่าตกใจไม่ใช่นายคนแรกหรอกที่ทำท่าตกใจแบบนี้ ตั้งแต่เพื่อนผมหรือคนรอบข้างผมรู้ว่าผมคบผู้ชายเป็นแฟนทุกคนต่างก็มีท่าทางแบบนี้ทั้งนั้น
คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าคนที่คุณเดินผ่านคุณ ทุกวันวันหนึ่งเค้าจะได้มานอนข้างคุณ
คนที่คุณเกลียดจนแทบจะไม่อยากเจอ วันหนึ่งคุณแทบจะทนรอไม่ไหวที่จะได้เห็นหน้าเค้า
พลางคิดถึงหน้าที่ตัวเองที่จะต้องทำนช่วงบ่ายเมื่อไหร่จะมืดวะอยากกลับไปเจอเจ้าของข้อความยาวที่เขียนคำสารภาพแบบกำกวมนั่นจังเลย.. อยากเจอๆ
เช้าวันเดินทางผมกับคนอื่นๆยืนรอไอ้นนนัทที่หน้าร้านกาแฟจุดนัดพบก่อนเดินทางหลังจากที่ผมหยุดบ่นเรื่องนั่งรถตู้ไปเชียงใหม่ เพราะผมบอกว่ามันไกลน่าจะนั่งเครื่องบินไปสะดวกสบายกว่าแต่ ไอ้เจ้าสาวมือใหม่อย่างไอ้นัทมันไม่ยอม บอกว่า อยากให้นั่งไปด้วยกันเก็บความทรงจำไว้ และลงคะเเนนเสียงแล้วมีเเค่ผมกับไอ้นนเท่านั้นที่เเย้งส่วนเพื่อนคนอื่นรวมทั้งเป็นต่อก็เห็นด้วยกับไอ้นัท เมื่อทุกคนมาครบก็ขึ้นรถกันและออกเดินทางทันที
เบาะยาวด้านหลังเหมือนเดิมไอ้ต้นกับไอ้กิจกำลังนั่งซบกันอยู่ด้านข้างๆมีไอ้กรนั่งทำหน้านิ่งๆอยู่ ส่วนผมนั่งคู่กับเป็นต่อ แฟนผม ทั้งที่ตอนเเรกไอ้เก่งบอกว่าจะนั่งกับผมไหนกลายว่าไปนั่งหน้ากับคนขับแทน
ส่วนชินนั้นเบาะคู่คนเดียวที่มีไอ้โบ้เเมวอ้วนของเป็นต่อนั่งอยู่บนตัก
ด้านหน้าสุดเป็นนัทนนท์ที่นั่งดูนิตยสารงานแต่งกันอยู่ถึงจะรู้สึกอิจฉาอยู่นิดๆที่มันได้แต่งงานแต่ผมก็ไม่คิดมากเพราะว่าสำหรับผมกับต่อ เรายังต้องเรียนรู้กันอีกเยอะไหนจะสังคมของพวกผมทั้งสองอีกหน้าที่การงานอีก
" นี่ ไอ้พี่เสกพี่เก่งเงียบแปลกๆเนาะว่าปะ? "
เป็นต่อเอียงตัวเข้ามาหาผมพร้อมกระซิบถาม
" พี่จะไปว่าอะไรมันได้เล่า "
ผมตอบกวนออกไปหน้าตาเฉย
" ไอ้พี่เสก เล่นไม่รู้เวลาเลยนะ "
เป็นต่อพูดเสียงดังออกมาทุกคนที่หันมามองที่ผมและเป็นต่อแล้วเป็นต่อก็โค้งศรีษะลงบอกขอโทษออกไป
" เป็นเพื่อนกันก็หัดสังเกตคนรอบข้างถามไถ่กันบ้างสิ "
เป็นต่อกระซิบเสียงเบาหรือว่ามันมีปัญหากันกับเมียผมเองก็ยุ่ง กับงานที่ภูเก็ตแต่ก็พอรู้ว่าไอ้เก่งกับเมียช่วงนี้มันทะเลาะกันบ่อยๆแต่มันก็บอกว่าช่วงนี้เมียมันท้องคงจะหงุดหงิดเป็นเรื่องธรรมดา
ไอ้เก่งมันเป็นไร
ผมพิมพ์ข้อความกดส่งไปหาไอ้กร ที่นั่งอยู่ด้านหลังสักพักก็ไอ้กรก็ตอบกลับมา
ถามเองดิ
ผมเป็นคนเชื่อเพื่อนครับคนตรงไปตรงมา
" ไอ้เก่งมึงเป็นอะไรรึเปล่าเมียกูเป็นห่วงมึง "
ผมถามเสียงดังขึ้นทุกคนหันมามองผมทันที เหมือนเห็นด้วยกับคำถาม ผม ส่วนเป็นต่อนั่งอ้าปากค้างอยู่คงเพราะคำว่าเมียที่ผมพูดออกมา
" กู ยังโอเครบอกเมียมึงด้วย " ไอ้เก่งตอบกลับมา
" เออ แต่หน้ามึงไม่โอนะรึว่าอด! "
ผมถามเป็นต่อเอามือตีที่เเขนผมทันที เหมือนห้ามไอ้เก่งหันมาชูนิ้วกลางให้ผม
" ไอ้กร มันอดมาเป็น20ปีหน้ามันยังดูสดชื่นกว่ามึงตอนนี้อีก "
ผมบอกโดยพาดพิงถึงเพื่อนอีกคน
" มึงรู้ได้ไงว่ากูอด "
ไอ้กรตอบเสียงเรียบแล้วเพื่อนๆทุกคนก็ร้องออกมาพร้อมกัน
" เห้ย!.!."
" อย่าบอกนะว่าๆมะมึงเสียไปแล้ว "
ไอ้เก่งพูดตะกุกตะกักมองหน้าไอ้กร
" ตอนไหนเมื่อไหร่ "
ไอ้ต้นถามเร็วส่วนไอ้กิจจ้องเขม็งไปที่แฝดพี่ตัวเองเหมือนกับไม่เชื่อถ้าไอ้กรมันปิดจบความรัก20ปีของมันได้เพื่อนๆทุกคนคงดีใจ เพราะว่าต้องไม่ต้องทนอึดอัดกับอาการกระอักกระอ่วนแบบนี้โดยเฉพาะ นนท์นัท สองผัวเมียที่กำลังจะจัดงานแต่งงานขึ้นและถ้ามันสมหวังจริงๆไล่นับลำดับญาติไม่ถูกเลยล่ะ
" เสือร้ายซุ่มเงียบนี่หว่า " ผมพูดยิ้มๆไอ้กรก็ส่งยิ้มพิฆาตมาให้ผม
" มึงเองก็ไม่ต่างจากไอ้กร " ไอ้นัทหันมาตำหนิผม
" อ้าว นัฐพลช่วงนี้ดูบวมขึ้นนะท้องรึเปล่า "
ผมถามแกล้งไอ้นัทกลับเพราะว่ามันไม่ชอบให้เรียกชื่อจริงและไม่ชอบให้ใครบอกว่าอ้วน!
" ปากดี "
ไอ้นนว่าผมแทนไอ้นัทมีเป็นเดือดเป็นร้อนแทนกันด้วย น่ารักจริงๆนะ ผมคิด
" ไม่ดีแต่ปากหน้าตากูก็ดีด้วย " ผมเถียง
" ปากเสียมากกว่า " ไอ้กิจเหน็บผม
" ดีหรือเสียต้องถามเป็นต่อ "
ไอ้เก่งเอ่ยขึ้นยิ้มๆเป็นต่อที่นั่งทำหน้านิ่งอยู่หน้าเหวอทันทีเมื่อถูกโยนคำถามมา
" บอกทุกคนไปสิ " ผมก้มกระซิบ
" เอ่อ คือไอ้พี่เสกดีทุกอย่างรวมทั้งปากดีด้วย "
เป็นต่อพูดจบทุกคนในรถก็หัวเราะออกมา เป็นต่อมึงชมใช่มั้ยนั่น คำพูดกำกวมแบบนั้น
ผมรับรู้ถึงกลิ่นอายของความสุขมันอบอวลไปทั่วรถตอนนี้ผมมีความสุขมากที่สุด มันมากจนผมรู้สึกกลัวว่า นี่มันคือความจริงหรือความฝันกันแน่นะ ผมจึงเอื้อมมือไปจับมือเรียวของเป็นต่อขึ้นมาแล้วจูบเบาๆมืออุ่นๆของเป็นต่อบอก ยืนยันได้ว่าทุกอย่างมันคือความจริง
" อยู่ข้างๆกันตลอดไปนะ "
ผมพึมพาออกมาเสียงเบาๆ
" เห้ เกรงใจพวกกูบ้างนะแม่มๆกลางรถตู้เลยนะมึง "
ไอ้กิจส่งเสียงดังมาจากด้านหลังได้ยินกันหมดแล้วมั่งนั่น ได้ยินก็ยิ่งดีจะได้มีสักขีพยานเพิ่ม ผมคิด
" ก็อบคำพูดที่กูคิดไว้ก่อนเข้าหอมาอีก คิดเองไม่เป็นรึไงวะ "
ไอ้นัทหันมาต่อว่าผมทำท่าหงุดหงิดใส่เเล้วเสียงหัวเราะเพื่อนๆทุกคนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนหน้าเนียร์กรจ้าแต่ยังอยู่ที่งานแต่งงานนนท์นัทส่วนเสกต่อก็จะเบรคก่อนยังไงก็ติดตามนะอย่าเพิ่งเบื่อๆ 🙏🙏
1 ไลค์ เพื่อเป็นกำลังใจให้นักเขียน
1 คอมเมนท์ เพื่อแนะนำติชม
❤️ ขอบคุณคร้า ❤️
แอบแปะอิมเมจเป็นต่อตอนตื่นนอนนิดนึงเซ็กซี่ม้ากกก 😆😆