บทที่ 3
บินลัดฟ้าสู่มหานครแห่งอำนาจ (1)
ในที่สุดก็ถึงวันเดินทาง ฉันลงจากแท็กซี่ มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบ กระเป๋าถือขึ้นเครื่องหนึ่งใบและกระเป๋าเป้ขนาดเล็กสะพายข้างหนึ่ง
คุณคิดออกไหมว่าสภาพฉันจะพะลุงพะลังขนาดไหน?
เมื่อไม่กี่วันก่อนเดินทางเจ้าหน้าที่โครงการเรียกตัวฉันไปอบรมเรื่องวิธีการเดินทางไปสหรัฐ ทั้งวิธีการดูบอร์ดดิ้งพาส วิธีการเปลี่ยนเครื่อง ฯลฯ เนื่องจากการเดินทางวันนี้ฉันต้องเดินทางคนเดียว
ความจริงฉันแอบเห็นด้วยที่ทางโครงการไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่พาเดินทางไปส่งถึงสหรัฐ เนื่องจากมันเป็นการลงทุนที่เปล่าประโยชน์มากๆ แค่นี้ทางโครงการก็เสียเงินค่าตั๋วเครื่องบินให้ฉันฟรีแล้ว ยังต้องจ่ายเงินค่าตั๋วเครื่องบินเพิ่มให้เจ้าหน้าที่อีกเกือบสามหมื่นบาท ยังไม่รวมค่าจ้างเจ้าหน้าที่อีก
ด้วยประสบการณ์ในอดีต ฉันคว้าเป้ออกท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านรอบๆประเทศไทยตั้งแต่อายุ 15 ปี นับเป็นผู้เชี่ยวชาญการขึ้นเครื่องบินระดับต้นๆสำหรับคนวัยเดียวกันทำให้ฉันไม่หวั่น
สายการบิน Thai Airways International เที่ยวบิน TG692
Departure : 07:15 Suvarnabhumi, Bangkok (BKK)
Arrival : 14:40 Incheon, Seoul
ฉันต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่เกาหลี จากนั้นก็บินต่อไปสหรัฐอเมริกา มุ่งสู่สนามบินนานาชาติลอสแองเจลิส ทางเจ้าหน้าที่บอกมาว่าโฮสแฟมิลี่จะไปรอรับหน้าเกท
Departure : 16:10 Incheon, Seoul (ICN)
Arrival : 11:10 Los Angeles (LAX)
ครั้งนี้การบินไทยใจดีเปิดเคาน์เตอร์ให้เช็คอินถึงสามเคาน์เตอร์ ฉันเดินไปเช็คอินที่ ROW G เลือกแถวที่คนต่อเข้าคิวสั่นที่สุดระหว่าง G1-G3 ไม่นานทุกอย่างก็เรียบร้อย ฉันกระชับข้าวของบางส่วนที่ไม่ได้โหลดลงใต้เครื่องไว้แน่น
ก้าวแต่ละก้าวเต็มไปด้วยความมั่นคง การตัดสินใจเดินทางครั้งนี้จะเต็มไปด้วยประสบการณ์ ฉันจะไม่เสียใจในภายหลัง เพราะนี่เป็นสิ่งที่ฉันได้เลือกด้วยตัวเอง
...จะไม่มีวันเสียใจอย่างเด็ดขาด
เครื่อง Boeing 777-200ER ค่อยๆทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ทิ้งไว้เพียงภาพอันเลือนรางของมหานครแห่งแสงสีเสียง
ด้วยระยะเวลาการเดินทางเกือบ 18 ชั่วโมง ฉันก็เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติลอสแองเจลิส (Los Angeles International Airport) แล้ว!
สนามบินนานาชาติขนาดใหญ่มีผู้คนหลายหลายเชื้อชาติเดินขวักไขว่ไปมา สาวเอเชียตัวเล็กๆอย่างฉันอาจโดนฝูงชนพัดพาไปตามกระแสได้ คิดได้ดังนั้นจึงพยายามจับรถเข็นของสนามบินไว้ให้มั่น ค่อยๆเข็นรถไปยังทางออก
...Darin Chattakarnwong
ป้ายสีสันถูกตกแต่งอย่างสวยงามเป็นชื่อของฉันถูกชูขึ้นสูง มันเป็นสิ่งที่โดดเด่นที่สุดที่พบเห็นหลังเดินออกมาจากประตู
“That’s Darin! (นั่นดารินทร์นี่)”
“Where is she!? There are a lot of people here (อยู่ไหนล่ะ? ที่นี่คนเยอะไปหมด)”
ฉันพยายามปรับตัวให้ชินกับภาษาอังกฤษรัวเร็วทีได้ยิน เบื้องหน้ามีผู้ชายสูงโปร่งสองคน คนแรกมีรูปร่างกำยำกว่าคนที่สอง แต่คนที่สองมีใบหน้าหล่อเหลาคมสันกว่าคนแรก
“สวัสดีค่ะ พวกคุณคือครอบครัวสมิธที่รับอุปถัมภ์หนูใช่ไหมคะ?”
ภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันราวกับเจ้าของภาษาแท้ๆถูกถ่ายทอดออกมาจากสาวเอเชียตรงหน้า ชายหนุ่มทั้งสองนิ่งไปด้วยความตื่นตะลึง
เรื่องนี้มานั่งคิดๆดู โปรเจค Hacker นี้เป็นโปรเจคสั้น คิดว่าจะไม่ติดเหรียญค่ะ แต่ก็จะอัพเนื้อหาไม่หมดเช่นกัน จะอัพต่อเรื่อยๆเท่าที่อัพได้ค่ะ ตอนนี้มีขายแล้วทาง Meb และช่องทางอื่นๆนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=48994