มินทิราขับรถมาทำงานแต่เช้าอย่างสบายใจ แม้ว่าเมื่อคืนต้องเสียเงินไปโดยใช่เหตุหากอย่างน้อยวันนี้ชายหนุ่มน่าจะไม่กล้าเข้ามาหาเรื่องเธออีก
กานต์นั่งมองเลขาตัวเล็กของเขาที่เดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยใบหน้าชื่นมื่นแล้วยิ่งหงุดหงิด ...พลังเข่าทำลายล้างของหญิงสาวทำเอากานต์เที่ยวแบบไม่สบายตัวจนสุดท้ายชายหนุ่มต้องยอมยกธงขาวกลับคอนโดไปแบบห่อเหี่ยวหัวใจ
“อารมณ์ดีเหลือเกินนะคุณ... วันนี้จะลากผมไปทัวร์นรกที่ไหนอีกล่ะ”
กานต์แขวะข้ามโต๊ะมาเมื่อเห็นมินทิราเริ่มกางสมุดนัดหมาย หญิงสาวยิ้มมุมปากให้หนึ่งที ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น
“วันนี้คงเป็นทัวร์สวรรค์ค่ะ เพราะคุณทวีชัยต้องการให้คุณไปร่วมวางแผนงานอีเวนท์และเลือกนางแบบที่จะมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของกระเป๋าที่จะวางขายล็อตใหม่”
“นางแบบ .... สวรรค์จริงๆด้วย... งานนี้ผมจะคัดให้สุดฝีมือเลยครับคุณเลขา โทรหาคุณทวีชัยเลย ...ด่วน!”
กานต์สั่งตาประเป็นประกาย จนมินทิราเบะปากใส่อย่างหมั่นไส้ หากก็ยอมทำตามที่ชายหนุ่มบอกแต่โดยดี พร้อมกับเดินเอาแฟ้มรายชื่อนางแบบและดาราสาวมากมายมายื่นให้ถึงที่
“กระเป๋าของเราเน้นความหรูหรา และนำแฟชั่น รายชื่อนางแบบและดาราที่ฝ่ายการตลาดเสนอชื่อมาส่วนใหญ่เลยจะเป็นระดับท๊อป แต่ดิฉันกับคุณวาสิตา เอ่อ คุณตุ๊กตาน่ะค่ะ เห็นตรงกันว่าควรจะลดงบประมาณในส่วนนี้ลงบ้างเลยตัดดาราที่ค่าตัวสูงมากออกไป คุณกานต์ลองคัดให้เหลือสักห้าคน แล้วค่อยเอาชื่อเข้าที่ประชุมเพื่อโหวตกันอีกทีก็ได้ค่ะ”
มินทิราเอ่ยอย่างเป็นการเป็นงานตามแบบฉบับเลขามืออาชีพ หากเจ้านายร่างสูงมัวแต่ไล่เมมเบอร์โทรศัพท์ของนางแบบสาวอย่างไม่ใส่ใจ จนมินทิราต้องเอ่ยย้ำอีกครั้ง
“คุณกานต์...คัดพรีเซ็นเตอร์มาให้ดิฉันด้วยค่ะ เบอร์พวกนี้ไม่ต้องเมม...เพราะมันเป็นเบอร์ผู้จัดการ”
“อืมม...ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมหาทางจนได้แหละ”
“งั้นไม่ต้องคัดมันแล้ว” มินทิราว่าพลางแย่งแฟ้มออกมาจากมือชายหนุ่มจน กานต์ร้องเสียงหลง
“เฮ้ย! ได้ไงกันคุณ ผมยังดูไม่ครบทุกคนเลย”
“ฉันว่ารอผลโหวตจากที่ประชุมเลยดีกว่าค่ะ เชิญไปนั่งรอที่ห้องประชุมได้เลยนะคะเจ้านาย”
มินทิราเอ่ยพลางเดินกลับไปที่โต๊ะก่อนจะยกหูโทรศัพท์หาหัวหน้าฝ่ายการตลาดทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้กานต์ได้โต้แย้งใดๆทั้งสิ้น
.......................................................................
“ผมเสนอให้เลือก จิดาภา นางเอกสาวดาวรุ่ง เพราะทั้งสวย น่ารัก และที่สำคัญเธอเพิ่งเปิดธุรกิจของตัวเอง ดูมีทั้งลุคของนางเอกและเจ้าของกิจการ เหมาะกับแบรนด์กระเป๋าของเรามาก”
กานต์จิ้มรูปดาราสาวที่ตัวเองเมมเบอร์เอาไว้อย่างชอบใจ ... หากในที่ประชุมยังคงเงียบกริบ จนประธานเกื้อต้องเอ่ยถาม
“มีใครเสนอพรีเซ็นเตอร์คนอื่นอีกมั้ย”
“ดิฉันเสนอ นางแบบที่ชื่อ แซนดี้ ค่ะ”
วาสิตา หรือ ตุ๊กตา เอ่ยขึ้นพลางหันไปสบตากับประธานเกื้อและกานต์ก่อนจะเอ่ยเหตุผล
“ประการแรก เราต้องการเซฟต้นทุนค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ คุณแซนดี้จึงเหมาะที่สุด ประการที่สอง คุณแซนดี้เป็นนางแบบระดับแถวหน้าเหมือนกัน และเธอเป็นลูกครึ่ง มีลุคที่ดูอินเตอร์ที่จะช่วยต่อยอดให้เราไปทำตลาดในประเทศอื่นๆได้ด้วย อย่าลืมนะคะว่าเรากำลังจะวางแบรนด์กระเป๋าล็อตนี้ขายในตลาดสากล ทั้งยุโรปและอเมริกาด้วย”
ประโยคท้ายๆดูเหมือนวาสิตาจะเน้นกับประธานเกื้อเป็นพิเศษ จนมินทิราสังเกตได้ หากประธานเกื้อกลับเอ่ยขัดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ให้จิดาภา และ แซนดี้เข้ามาเทสต์หน้ากล้อง ...แล้วลองทำโปสเตอร์มาให้ผมดูว่าใครจะเหมาะสมกว่า แล้วเรามาโหวตกันอีกครั้งในการประชุมครั้งหน้า....วันนี้พอแค่นี้ก่อน”
เกื้อเอ่ยปิดการประชุมก่อนจะลุกออกไปพร้อมกับนายทวีชัยที่หอบเอกสารเกี่ยวกับการวิเคราะห์ตลาดตามประธานไปติดๆ วาสิตาเห็นดังนั้นก็รีบจะตามออกไปเช่นกันหากมินทิรารีบดักไว้ก่อน
“พี่ตุ๊กตาคะ มิ้นว่ามิ้นจำได้นะคะว่าท่านประธานเคยคุยๆกับพวกเราไว้ก่อนว่าอยากได้ลุคอินเตอร์ๆแบบที่พี่ตุ๊กตาว่า แต่ทำไมวันนี้ท่านประธานเกิดเปลี่ยนใจกระทันทันคะ หรือว่าท่านอยากเปลี่ยนคอนเซ็ปต์อะไรใหม่”
วาสิตาหันมายิ้มให้เลขารุ่นน้องพลางตอบอย่างกลางๆ
“ท่านอาจจะอยากลองเห็นภาพโปสเตอร์เปรียบเทียบเพื่อดูความเหมาะสมก่อนอย่างที่แจ้งก็ได้ค่ะ แต่น้องมิ้นไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ เดี๋ยวพี่กับคุณทวีชัยจะลองปรึกษาท่านประธานดูอีกครั้งนะคะ”
ร่างเพรียวของวาสิตาเลี่ยงออกไปอย่างรีบร้อนเมื่อเห็นนายทวีชัยเข้าไปคุยกับท่านประธานเกื้อในห้องทำงานแล้ว มินทิราจึงได้แต่หันไปมองกานต์อย่างเบื่อหน่าย .... หรือพ่อลูกจะเทคะแนนโหวตให้นางเอกมากกว่านางแบบก็ไม่รู้
..........................................................................................
เสียงกดชัตเตอร์ที่รัวไม่หยุด ทำให้สองร่างที่กำลังโพสต์ท่าพร้อมกับถือกระเป๋าใบหรูในแบบต่างๆขยับเปลี่ยนท่าตามที่ช่างภาพต้องการ จนกระทั่งได้ยินเสียงห้าวของชายหนุ่มร่างสูงที่เดินถือแก้วน้ำหวานมาเสิร์ฟถึงห้องรับรอง
“พักดื่มน้ำกันก่อนนะครับสาวๆ...นี่สำหรับคุณครับคุณจิดาภา”
กานต์ยื่นแก้วน้ำให้นางเอกสาวพลางส่งสายตาเป็นประกายระยับจน ร่างระหงของแซนดี้ต้องรีบถลาเข้ามาเกาะแขนชายหนุ่มไว้อย่างไม่พอใจ
“กานต์คะ...แล้วของแซนดี้ล่ะ”
“นี่ค่ะของคุณแซนดี้ น้ำส้มจากเกาหลีที่คุณแซนดี้ชอบเป็นพิเศษไงคะ”
มินทิรารีบเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์เมื่อเห็นว่าแม่นางแบบอกภูเขาไฟกำลังจะเดือดปะทุอยู่มะรอมมะร่อ
แซนดี้ที่ไม่ชอบน้ำส้มสักเท่าไหร่ หากความนัยที่แฝงมาในประโยคของเลขาสาวของกานต์ทำให้เจ้าหล่อนยอมรับน้ำส้มแก้วนั้นมาแต่โดยดี
“แซนดี้ดีใจนะคะที่กานต์สั่งเลขาให้เตรียมน้ำส้มแบบที่แซนดี้ชอบไว้ให้”
“คุณอยากได้อะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าครับ”
กานต์ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจคู่ขาเก่า หากนางเอกใหม่ตรงหน้าดึงความสนใจชายหนุ่มไปหมด เพราะหญิงสาวแกล้งกระพือคอเสื้อที่คว้านลึกของตัวเองพลางเอ่ยตอบเสียงหวาน
“จีด้าร้อนค่ะคุณกานต์ รบกวนคุณกานต์ช่วยพัดให้หน่อยจะได้หรือเปล่าคะ”
“ร้อนเหรอ ... งั้นฉันจะพัดให้แทนแฟนฉันเอง”
แม่สาวอกภูเขาไฟไม่รอช้าเงื้อกระเป๋าหรูในมือของตัวเองฟาดไปยังแม่นางเอกจอมอ่อยแบบไม่ออมมือ หากมินทิราไวกว่ารีบเอาตัวไปขวางเอาไว้จนกระเป๋าฟาดใบหน้าหญิงสาวเต็มๆ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เสียงห้าวร้องตะโกนขึ้นอย่างไม่พอใจ ก่อนที่ร่างของบุรุษผู้เป็นประธานของเคเคกรุ๊ปจะตรงดิ่งเข้ามายังกลุ่มสาวๆ กานต์ที่จับตัวแซนดี้เอาไว้รีบกันหญิงสาวออกมา เกื้อจึงรีบตรงเข้าไปหามินทิราที่โดนกระเป๋าฟาดจนหน้าแดงไปทั้งแถบ
“เป็นอะไรหรือเปล่ามินทิรา...ไปกับผมที่ห้องพยาบาลดีกว่า ...คุณตุ๊กตาจัดการที่นี่ให้เรียบร้อย แล้วก็ฝากบอกทีมงานด้วยว่าผมต้องการพรีเซนเตอร์มาสร้างแบรนด์ ...ไม่ใช่มาทำลายแบรนด์”
เกื้อสาดสายตาเข้มไปยังสองนางแบบและลูกชายตัวแสบ ก่อนจะประคองพามินทิราออกไปทำแผลโดยไม่สนใจสายตาอยากรู้อยากเห็นที่จ้องมาที่พวกตนอย่างไม่ปิดบัง
“วันนี้รบกวนทีมงานทุกคนให้เลิกงานก่อนเวลานะคะ ... ส่วนคุณจิดาภาและคุณแซนดี้ ทางบริษัทจะติดต่อไปอีกครั้งนะคะว่าคุณจะได้งานนี้หรือเปล่า ... คุณทวีชัยส่งแขกด้วยค่ะ”
วาสิตาจัดการสลายไทยมุงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่กานต์ได้จังหวะชิ่งจากสองสาวออกไปทันที
“กานต์ คุณจะไปไหนคะ กลับมาเคลียร์กับแซนดี้ก่อนนะ”
นางแบบสาวมือตบทำท่าจะเดินตามชายหนุ่มออกไปหากวาสิตามาขวางไว้ทันควัน
“รบกวนไปกับทีมงานของเราด้วยค่ะคุณแซนดี้... ท่านประธานคงไม่ชอบใจนักถ้าคุณจะทำตัวไม่เหมาะสมอย่างเมื่อครู่นี้”
วาสิตาเอ่ยเน้นเสียงเข้ม จนแซนดี้ต้องเดินตามจิดาภาและทีมงานออกไป ... วาสิตามองภาพความวุ่นวายแล้วก็ได้แต่หนักใจ พลางเหลียวตามกานต์ที่รีบดิ่งไปที่ห้องพยาบาลอย่างครุ่นคิด... งานนี้ไม่รู้ว่าข่าวที่จะตามมาจะมาช่วยดันหรือช่วยดับผลงานของเคเคกรุ๊ปกันแน่....