มินทิราจัดแจงร่างเอกสารปึกหนาเข้าไปให้ประธานเกื้อเซ็นต์ .... เอกสารปึกนี้แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยค่านายหน้าของเธอ แต่หญิงสาวจะไม่ทนกับกานต์อีกต่อไป...
นายเกื้อมองดูเอกสารปึกใหญ่ที่มินทิราเอามาให้เซ็นพลางขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“นี่ผมเข้าใจอะไรผิดหรือคุณเข้าใจอะไรผิด.... ผมบอกว่า ผมจะเซ็น 1 ครั้งต่อ 1 คืน นี่ยกมาทั้งปึกนี่คิดดีแล้วใช่มั้ย”
หนุ่มใหญ่เอ่ยกับหญิงสาวร่างเล็กตรงหน้าพลางอมยิ้มอย่างขำขันอย่างแท้จริง ... มินทิราหน้าแดงก่ำ หากรีบรัวลิ้นปฏิเสธทันควัน
“เปล่าค่ะ ไม่ใช่ๆๆๆ คือ เอกสารปึกนี้ให้ท่านประธานอ่าน ...แต่ที่ต้องเซ็นมีแค่ฉบับเดียว....”
เกื้อกลั้นยิ้มจนแก้มสองข้างบุ๋มลงไปเป็นรอยลักยิ้ม ที่เมื่อมินทิราเผลอเหลือบมองแล้วก็ได้แต่กรีดร้องในใจอีกครั้ง ... น่าร้ากกกกกก .....หญิงสาวไม่แปลกใจเลยที่ว่าทำไมตอนหนุ่มๆประธานเกื้อถึงฮอตฮิตติดเพลย์บอยสังคมในยุครุ่งเรืองนัก ขนาดตอนนี้มีตีนกามาทักทายบ้าง แต่ระดับความตึงของหน้านี่สูสีกับคุณกานต์มากมาย
“อันไหนที่ต้องเซ็น...ขอดูก่อน”
ประธานเกื้อเอ่ยกำชับมินทิราที่ยังยืนเงอะงะอยู่ ...หญิงสาวรีบยื่นหนังสือแต่งตั้งเธอเป็นผู้ช่วยของกานต์และมีอำนาจลงนามแทนในกรณีที่กานต์ไม่มาทำงานส่งให้ชายหนุ่ม ก่อนจะกลับมายืนก้มหน้ารอฟังผล
เกื้ออ่านหนังสือที่มีรายละเอียดเพียงไม่กี่บรรทัดอย่างหนักใจ .... ถ้าหากจะแลกกำไร 50% กับกานต์แล้ว ถึงอย่างไรเขาก็ยังเลือกกานต์
“ผมไม่ผ่าน.... คุณกลับไปแก้ไขเอกสารมาก่อน ถึงอย่างไรผู้มีอำนาจลงนามต้องเป็นกานต์คนเดียว ส่วนเรื่องที่แต่งตั้งคุณเป็นผู้ช่วยกานต์ ผมโอเค ... คุณจะมีสิทธิ์ตัดสินใจทำการได้ทุกอย่างแทนกานต์ แต่กานต์ต้องเป็นคนเซ็นทุกครั้ง”
“แต่ว่าคุณกานต์ ....”
“หมดสิทธิ์ครั้งที่ 1 แล้ว หรือคุณต้องการใช้สิทธิ์ครั้งที่ 2 เลย”
ประธานเกื้อถามกรุ้มกริ่ม มินทิรารีบปฏิเสธทันควันก่อนจะรีบเอาเอกสารไปแก้เพื่อนำกลับมาให้ท่านประธานเซ็น ...
“เอาวะ...แค่จับปากกาเซ็น ฉันมีวิธีจัดการกับมือนายได้แน่ๆ ไอ้บ้ากามกานต์!”
..............................................................................................
ทันทีที่ประธานเกื้อจรดปากกาเซ็นแต่งตั้งให้เธอเป็นผู้ช่วย หญิงสาวก็วางแผนจัดการดัดหลังคู่แค้นทันที ....
“ดิฉันขอร้องท่านประธานอีกสักอย่าง ....”
“ครั้งที่สอง...หรือจะให้เบิ้ลรวดเดียวกับครั้งแรกคืนนี้เลย” ประธานเกื้อถามราวกับคุยเรื่องธุรกิจทั่วไป หากมินทิราหน้าแดงก่ำ แต่ก็ยังคงพูดต่ออย่างไม่ยอมเสียแผน
“ตัดบัตรเครดิตทั้งหมดของคุณกานต์ ....ขอเดี๋ยวนี้เลยนะคะ ดิฉันจะไปดักจัดการคุณกานต์ที่หน้าคอนโด ยังไงวันนี้คุณกานต์ก็ต้องเข้ามาเซ็นเอกสารพวกนี้”
ประธานเกื้อเพียงยิ้มมุมปากก่อนจะเรียกตุ๊กตาเข้ามา ....
“คุณตุ๊กตา จัดการระงับบัตรเครดิตทุกบัตรของเจ้ากานต์ทีนะ อ้อ...ขอด่วน เอาชนิดที่แม้กระทั่งเอทีเอ็มก็กดไม่ได้เลยนะครับ ... รอบนี้ผมจัดหนักเอาจริง”
ประธานหนุ่มสั่งใบหน้ายิ้มๆหากดวงตาวาววับ...พลางจ้องไปที่มินทิราอย่างพึงพอใจ... งานนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งฝูงก็คราวนี้
......................................................................................................
เสียงกดกริ่งหน้าห้องที่ดังขึ้นถี่ๆ ทำให้ร่างขาวราวนางแบบที่กำลังลงสนามควบม้าแข่งชะงักไปอย่างแปลกใจ ....ใครกันที่มากดกริ่งห้องเธอแบบนี้ ...หากคนที่เป็นม้าให้ควบอยู่ข้างล่างสูดริมฝีปากพลางร้องเรียกหาจ๊อกกี้เสียงกระเส่า
“แซนดี้จ๋า...หยุดทำไมที่รัก ม้ายังไม่เข้าเส้นชัยเลย”
“มีใครมากดกริ่งหน้าห้องก็ไม่รู้ค่ะเบบี๋”
“ช่างมันเถอะ...มาต่อเร็วๆเลย เดี๋ยวไม่ทันม้าตัวอื่นนะที่รัก ...”
“แต่แซนดี้รำคาญ...”
แม่นางแบบลุกขึ้นพรวดพราดจนพ่อม้านอนร้องครวญครางอย่างแสนเสียดาย พลางพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างยากเย็น ... ครั้นพอเห็นหน้าคนที่เดินตามแซนดี้เข้ามา ชายหนุ่มก็ต้องร้องเสียงหลง
“นี่เธอยังตามมารังควานฉันอีกเหรอเนี่ยยัยเตี้ย ขนาดไล่ให้ไปหาพ่อฉันแล้วยังกล้ากลับมาที่นี่อีกหรอ”
“ฉันไปหาพ่อคุณมาแล้ว .... สวัสดีคุณแม่หรือยังล่ะคุณลูกเลี้ยง”
มินทิราเอ่ยเสียงเยาะ พลางไล่มองชายหนุ่มอย่างรังเกียจ
“ฉันเจอคุณทีไรไม่เคยมีเสื้อผ้าอยู่ครบเลย....ลุกขึ้นไปทำงานได้แล้ว”
“ไม่ไป แล้วใครเป็นแม่ฉัน อย่างเธอน่ะเหรอ พ่อฉันไม่มีวันแต่งด้วยเด็ดขาด อย่างมากก็แค่...คุณแม่ข้ามคืน”
“คุณกานต์!.... มันจะมากไปแล้วนะ”
มินทิราโมโหเลือดขึ้นหน้า กำลังจะกระโจนเข้าตะปบหน้าชายหนุ่ม หากแม่แซนดี้รีบถลาเข้ามาขวาง
“นี่เธอ....ฉันว่าเธอเลิกยุ่งกับคุณกานต์ดีกว่า เขาระดับไหนแล้ว ลูกจ้างอย่างเธออย่ามายุ่งดีกว่า”
“ฉันไม่ได้อยากจะยุ่งแค่อยากจะมาเตือนดีๆเท่านั้น ... ถ้าอยากมีเงินใช้แล้วละก็ ให้มาทำงานกับฉัน...ฉันจะให้เงินไว้ใช้เป็นครั้งคราว”
มินทิราเอ่ยเยาะ หากกานต์ยังฟังแล้วงงๆ
“หมายความว่ายังไง ... นี่เธอคงไม่ได้ไปบอกพ่อฉัน....”
“บอกลาบัตรเครดิตของคุณได้เลย พ่อเพลย์บอยสายเปย์ อย่าลืมพกเหรียญล่ะ เพื่อฉุกเฉิน”
มินทิราอมยิ้มอย่างแสนสำราญเมื่ออีกฝ่ายหน้าเปลี่ยนสีได้ราวกับฉายแสงใส่ ก่อนจะหันหน้ามากล่าวทิ้งท้าย
“อย่าลืมมาหาฉันนะ...รับรองมีงาน มีเงิน!”
..................................................................................................................