รถยุโรปคันใหญ่มาจอดเทียบหน้าตึกแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพ รุ่งตะวันชี้ให้ดูชื่อบริษัท RANDP ที่แปะป้ายบอกไว้ว่าอยู่ตรงชั้นไหนแล้วพาชายหนุ่มขึ้นลิฟต์ไปโดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่าสีหน้าชายหนุ่มนั้นบึ้งตึงขึ้นทุกๆชั้นที่ลิฟต์ทะยานขึ้นไปจนถึงชั้นที่เป็นที่หมาย
รุ่งตะวันกวาดตามองออฟฟิศกว้างที่ทั้งชั้นนั้นเป็นของบริษัทเธออย่างภูมิใจ ก่อนจะหันไปยิ้มกว้างอวดคนข้างตัว
“นี่ละความฝันของฉัน บริษัทของฉัน”
“รุ่ง...!”
เสียงร้องทักดังมาจากผู้ชายที่ก้าวยาวๆออกมาพลางรวบกอดหญิงสาวเอาไว้อย่างยินดี
“รุ่ง....คุณกลับมาเมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกผมเลย”
พิธานกดจมูกแนบไปกับแก้มใสนั้น จนหญิงสาวดิ้นขลุกขลักพลางพยายามผลักตัวชายหนุ่มให้ออกห่าง เพราะยังเกรงใจตำแหน่งอย่างเป็นทางการของคุณผู้ปกครองที่ยืนจ้องคนทั้งคู่จนไฟลุกท่วมดวงตาคู่ดุนั้นแล้ว
“ฉันเพิ่งมาถึงค่ะพีต้า เลยอยากจะแวะมาดูบริษัทแล้วก็มาเซอร์ไพร์สคุณ เอ่อพีต้าคะ นี่คุณปกเกียรติผู้ปกครองฉันเองค่ะ”
ร่างสูงใหญ่ตามเชื้อชาติพันธุ์เบี่ยงดวงตาสีน้ำตาลทองออกมาจ้องมองผู้ชายอีกคนที่ยืนกอดอกหน้าบึ้งพลางส่งสายตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อมาที่เขา หากพิธานทำใจดีสู้เสือก่อนจะยื่นมือออกไปเพื่อแสดงอาการทักทาย
“สวัสดีครับ....ผมพิธาน เป็นแฟนของรุ่ง”
“รุ่ง?....” ปกเกียรติทวนอย่างประหลาดใจ .... ดูเหมือนว่าคนทั้งคู่จะไม่มีความลับต่อกันแล้ว นั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มสมน้ำหน้าตัวเอง...รุ่งตะวันคงคิดว่าพิธานเป็นคนเดียวที่รักเธอที่ตัวตนที่แท้จริงของเธอ โดยมองข้ามเขาไปโดยสิ้นเชิง ทั้งๆที่เขายอมรับเธอ และเป็นคนให้โอกาสเธอได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
“เข้าไปข้างในกันเถอะ ผมจะพาคุณไปแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก”
พิธานเอ่ยกับทั้งคู่ ก่อนจะจูงมือรุ่งตะวันลากเข้าไปที่ออฟฟิศด้านใน จนปกเกียรติต้องขบกรามแน่น...หญิงสาวดูมีความสุขดีเมื่ออยู่กับแฟนหนุ่มของเธอ...เธอมีอนาคตและมีคนที่รักที่พร้อมจะดูแล ...แล้วเขามาทำอะไรที่นี่
ชายหนุ่มหันหลังกลับเข้าลิฟต์ไปทันที มือที่กดปิดประตูลิฟต์ย้ำๆราวกับต้องการให้ภาพบาดตาบาดใจที่เขาเห็นอยู่นั้นมันหายไปเมื่อบานประตูเหล็กหนาเลื่อนมาปิดทุกอย่างไว้จากสายตาของเขา
..................................................................................................................................................
“นี่มันดีกว่าที่ฉันคิดเอาไว้อีกนะคะพีต้า คุณทำให้มันสมบูรณ์แบบมาก”
รุ่งตะวันเอ่ยด้วยดวงตาพราวอย่างมีความสุขสมหวังเมื่อตามชายหนุ่มเข้ามาในห้องทำงานของเขา ที่พิธานจัดอีกวางโต๊ะทำงานเคียงข้างกัน ร่างสูงเดินมาโอบซ้อนหญิงสาวจากข้างหลังไว้ทั้งตัวพลางเอ่ยกระซิบคำหวาน
“ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้พวกเราอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข แต่งงานกับผมนะรุ่ง...พวกเราจะได้อยู่ด้วยกันเสียที”
รุ่งตะวันหน้าซีดลงเมื่อชายหนุ่มหมุนตัวเธอกลับมาประจันหน้ากัน ดวงตาหวานซึ้งของเขาทำเอารุ่งตะวันพูดอะไรไม่ออก เธอจะกล้าบอกความจริงเขาไปได้อย่างไรกันว่า ตอนนี้เธอไม่อยู่ในสถานะที่จะแต่งงานกับใครได้
“ขอเวลาฉันหนึ่งปีได้มั้ยคะพีต้า....ฉันขอไปจัดการเรื่องที่บ้านให้เรียบร้อยก่อน แล้วฉันสัญญาว่าฉันจะมาแต่งงานกับคุณ”
“1 ปี นานขนาดนั้นเลยเหรอ”
พิธานโอดครวญจนหญิงสาวหยิกให้เบาๆอย่างหมั่นไส้ ....
“รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางก่อนนะคะ แล้วพวกเราจะได้อยู่ด้วยกัน”
.........................................................................................................................................
รุ่งตะวันกลับถึงบ้านในเวลาหัวค่ำจนป้านวลรีบวิ่งเข้ามาหาหญิงสาวด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก
“คุณหนู คุณหนูไปไหนมาคะ คุณปกกลับมาก็เอาแต่หน้าบึ้งตึงจนใครก็เข้าหน้าไม่ติด นี่หมกตัวอยู่ในห้องทำงานตั้งนานแล้วไม่ยอมออกมากินข้าวกินปลาทั้งแต่บ่าย....ทะเลาะกันมาหรือคะ”
“เปล่านี่จ๊ะป้า...อยู่ในห้องทำงานใช่มั้ย เดี๋ยวหนูไปดูให้เองค่ะ”
หญิงสาวยิ้มให้ป้านวลอย่างปลอบโยน ก่อนจะเดินเลี่ยงขึ้นไปที่ห้องทำงานของชายหนุ่มชั้นบน และเพียงแค่เธอเคาะประตู เสียงเกรี้ยวกราดก็ตวาดลั่นทะลุออกมา
“บอกว่าอย่าขึ้นมากวนไง ไสหัวออกไปให้หมด”
“ฉันเองค่ะ คุณเปิดประตูให้ฉันหน่อยได้มั้ยคะคุณปก ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”
เสียงภายในดูจะนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่ประตูจะกระชากออกอย่างแรงจนรุ่งตะวันสะดุ้ง ใบหน้าปกเกียรติดูเคร่งเครียดจนแทบจะกลายเป็นคลั่งในความรู้สึกของรุ่งตะวัน จนเธอคิดว่าควรจะเปลี่ยนใจเอาไว้คุยเรื่องที่ตั้งใจไว้ทีหลังดีกว่า หากแขนแข็งแกร่งนั้นก็กระชากเธอเข้าไปในห้องทำงานก่อนจะปิดประตูเสียงดังสนั่นจนหญิงสาวคอหดอย่างหวาดกลัว
“ทำไม...หรือว่าจะขอออกไปต่อกับให้หมอนั่น”
“คุณนี่ขี้พาลจริงๆเลย หนีกลับมาก่อนแล้วก็มาโวยวายใส่ฉันแบบนี้ มันก็ไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไหร่นะคะ”
“แล้วจะให้ผมยืนดูพวกคุณพร่ำพลอดรักกันหรือยังไง ผมไม่ได้เป็นคนใจกว้างขนาดที่ยืนดูภรรยาตัวเองสวีทกับผู้ชายอื่นได้หรอกนะ”
“ก็เรื่องนี้แหละที่ฉันอยากจะคุยกับคุณ”
รุ่งตะวันวกเข้าเรื่องก่อนที่ชายหนุ่มจะยิ่งโมโหใส่เธอไปมากกว่านี้ ดวงตาเข้มจ้องเธออย่างหาเรื่องพลางเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“คุณบอกว่าถ้าฉันยอมทำเด็กหลอดแก้วให้คุณ แล้วคุณจะปล่อยฉันไป คุณจะหย่าให้ฉัน”
ปกเกียรติกำหมัดแน่นพลางกัดฟันเอ่ยถามต่อ....
“แล้วยังไง....”
“หมอจะนัดเราเข้าไปเตรียมตัวอีกครั้งเมื่อไหร่คะ ฉันอยากให้เรื่องนี้จบเร็วๆ”
“ถ้าคุณอยากจบเรื่องนี้เร็วๆก็ไม่ต้องรอหมอนัดไปที่โรงพยาบาลหรอก....เดี๋ยวหมอปกเกียรติคนนี้จะจัดการ ‘ทำเด็กหลอดแก้ว’ ให้คุณเอง”
และก่อนที่รุ่งตะวันจะได้ทันทำความเข้าใจกับคำพูดของชายหนุ่ม ร่างแบบบางของเธอก็ถูกลากตามแรงกระชากของคนตัวสูงออกไปยังห้องนอนที่ติดๆกันกับห้องทำงาน คราวนี้หญิงสาวรู้ชะตาตัวเอง...หากร่างแบบบางที่ถูกกระชากหายเข้าห้องไปนั้นดูจะไม่สามารถหลบหนีจากมืออันแข็งแกร่งของปกเกียรติได้เลย....