ยังไม่ทันที่พอลจะได้พูดอะไรประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกสะก่อน
“ไอ้พอล”ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาปรากฏตัวขึ้นในห้องทำงาน ขัดการสนทนาของเจ้านายกับเลขาสาว แก้วใสมองผู้มาใหม่อย่างตะลึงในความหล่อ เป็นเพื่อนกันจำเป็นต้องหล่อเหมือนกันไหมพูด
“มีธุระอะไร เข้าห้องคนอื่นควรมีมารยาทด้วย”พอลพูดออกไปด้วยเสียงหงุดหงิด
“อ้าว นี่เพื่อนนะครับ”
“มึงมีอะไร”
“ว้าว สาวน้อยคนนี้ใครวะ”
“เลขา” พอลมองเพื่อนของเข้าด้วยสายตาไม่พอใจ คิมทำเป็นไม่สนใจสายตานั้น ใช่แล้วคนที่เข้ามาในห้องทำงานของพอลคือคิม พอเข้ามาเห็นเลขาสาวอยู่ในห้องก็เกิดความแปลกใจ แถมยังมีโต๊ะทำงานอยู่ในห้องสะด้วย ปกติพอลจะไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายแต่นี่ถึงกับให้เข้ามานั่งทำงานด้วย ต้องมีอะไรพิเศษ
“อ่อ จำได้แล้วสาวสวยคนที่มีเรื่องที่ผับเราวันนั้นนี่หว่า นี่อย่าบอกนะว่าแก”คิมรู้สึกคุ้นๆหน้ากับเลขาสาวของพอล พอมองหน้าอย่างพิจารณาสักพักก็จำได้ว่าสาวสวยที่พอลสนใจวันนั้น
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น ว่าธุระของมึงมา”พอลไม่อยากพูดมากเดี๋ยวไก่จะตื่น ทางด้านแก้วใสที่ฟังสองหนุ่มหล่อคุยกันเรื่องของตนก็ขัดขึ้น แต่เป็นการขัดบทสนทนาที่อยากจะออกไปจากตรงนี้มากกว่า
“เอ่อ ดิฉันของตัวกลับก่อนนะคะ เจ้านาย สวัสดีคะ”แก้วใสอยากออกไปจากห้องนี้จะแย่ก็เอ่ยลาเจ้านายและเพื่อนเจ้านายทันที โดยไม่รอฟังเสียงอนุญาตเธอก็ก้าวเดินออกไปจากห้อง
“เดี๋ยวแก้วใส เรายังคุยกันไม่จบ”พอลเอ่ยเรียกไว้ ก่อนที่มือของแก้วใสจะจับลูกบิดประตู
“มีอะไรคะ มันผ่านเวลาเลิกงานของฉันมาสิบนาทีแล้ว”แก้วใสเอ่ยออกไปเสียงเรียบ ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์มาล้อเล่นกับเขา เธออยากกลับห้อง ไม่อยากอยู่ในห้องนี่ ภาพที่เขาจูบกับแม่ดาเนียนั้นยังติดตาเธออยู่ เธออยากไสงบสติอารมณ์สะก่อนค่อยมารบกับเขาใหม่
“รอกลับพร้อมกัน”ในที่สุดพอลก็ทนท่าทีเฉยเมยของแก้วใสไม่ไหว เขาไม่ชอบที่เธอเป็นแบบนี้ เขาชอบที่เธอยั่วยวนเขามากกว่า
“แต่คุณ”
“ไม่มีแต่ นี้คือคำสั่งกลับมานั่งลง”พอลเอ่ยเสียงเรียบเมื่อแก้วใสมีท่าทีจะปฏิเสธ แก้วใสทำหน้าฮึดฮัดแล้วกลับมานั่งที่เดิน เอาแต่ใจชะมัด
“กุมาผิดจังหวะรึป่าววะ”คิมได้แต่พึมพร่ำกับตัวเอง
“ว่าธุระของมึงมา”
“ก็ไม่มีอะไร แค่คิดถึง”น้ำเสียงหยอกล้อของคิมที่ส่งมาทำให้พอลขนลุก
“ขนลุก ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็ไสหัวกลับไปได้แล้ว”
“ไอ้นี่ กูว่าจะมาชวนมึงไปดื่มคืนนี้ และเข้าไปดูผับด้วยไอ้พีชคงโทรมาหามึงแล้วว่ามันไม่อยู่”ในที่สุดคิมก็พูดจุดประสงค์ของตัวเองออกมาเมื่อพอลไม่มีท่าทีจะเล่นด้วย สงสัยเขาจะเล่นผิดเวลา
“เรื่องแค่นี้โทรมาก็ได้”
“โว๊ะ อะไรของมึงวะเพื่อจะมาหาแค่นี้ไม่ได้”คิมโวยขึ้นที่พอลพูดแบบนั้นมันจะอะไรของมันหนักหนาแค่มาหาแต่ก่อนมาออกจะบ่อย หรือว่า คิมพูดพร้อมกับหันไปหาเลขาสาวสวยของพอลที่นั่งทำหน้าบูดบึ่งอยู่เหมือนโกรธใครมา หรือมันจะห่วงเลขาสาวคนนี่
“ไม่ใช่อย่างที่มึงคิด”พอลรีบพูดขัดขึ้นที่เห็นสายตาของคิม เขารู้ได้ทันทีว่ามันคิดอะไร ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมานานจนรู้ไส้รู้พุงกันหมด แค่มองตาก็รู้ใจ
“กูยังไม่ได้คิดอะไรเลย ตกลงมึงจะไปไหม”คิมยังถามเพื่อเอาคำตอบ
“อืมๆ แต่คงดึกหน่อยนะ”พอลตอบออกไปด้วยเสียงเนื่อยๆเขาไม่ค่อยอยากจะออกไปไหน ช่วงนี้รู้สึกว่าอะไรๆมันก็น่าเบื่อไปหมด อยู่ห้องยังอารมณ์ดีกว่าตั้งเยอะ แต่ที่รับนัดแม่สาวดาเนียนั้นเพียงแค่อยากจะปะชดแม่เลขาจอมยั่วแค่นั้นเอง แต่จะไปรึป่าวนั้นค่อยว่าอีกที
“เออ กลับก่อน ไปนะครับคุณเลขาคนสวย”ก่อนจะออกไปคิมก็หันมายิ้มกรุมกริมให้กับแก้วใสที่นั่งอยู่แก้วใสก็ได้แต่ยิ้มตอบ
“รีบไปเลย”พอลเห็นแบบนั้นเขาก็หงุดหงิดรีบไล่เพื่อนตัวแสบออกจากห้อง พอคิมออกไปจากห้องทุกอย่างก็เงียบมีเพียงสายตาของทั้งสองที่จ้องกันอยู่ จะจ้องให้ท้องรึไง จนแก้วใสรู้สึกร้อนๆหนาวๆ
“กลับได้รึยังคะ”แก้วใสเริ่มทนไม่ไหวกลับสายตาแบบนั้นเธอจึงพูดขึ้นทำลายความเงียบ
“ไปสิ”
ทั้งสองเดินออกมาจากห้องก็เห็นเรย์ยืนรออยู่ก่อนแล้วแก้วใสจึงรับเดินไปหา
“พี่เรย์หายไปไหนมาคะทั้งวันเลย”พอเดินไปถึงเรย์แก้วใสก็เอ่ยปากถาม เพราะวันนี้เธอไม่เห็นเลขาหนุ่มทั้งวัน
“เออ ไปทำธุระให้นายครับ”เรย์อธิบายให้แก้วใสฟัง
“งั้นหรอคะ งั้นกลับดีกว่าคะ อ่อ แต่ก่อนกลับพี่เรย์แวะซูเปอร์มาร์เก็ตให้แก้วหน่อยนะคะ วันนี้แก้วจะทำอาหารให้กินอีก”แก้วใสพูดเสียงเจียแจ๋วกับเรย์โดยไม่สนใจคนที่เดินตามหลังออกมา ส่วนพอลที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่กัดฟันด้วยความหงุดหงิด
“เอางั้นหรอครับ”เรย์ถามแล้วหันไปมองหน้าเจ้านาย แต่พอลก็ไม่ได้พูดอะไร ทั้งสามจึงเดินมาที่รถพอมาถึงรถแก้วใสก็เลือกที่จะมานั่งด้านหน้ากับเรย์โดยไม่บอกกล่าว
พอลเห็นแบบนั้นแล้วยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
“มานั่งข้างหลัง”พอลพูดสั่งออกไปด้วยเสียงเรียบนิ่ง แต่แก้วใสก็ไม่สนใจเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างหน้ากับเรย์โดยไม่เกรงกลัวสายตาแข็งๆที่มองมา
ใครจะสน
“ไม่คะ เป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องฉันไม่อยากเทียบชั้น”แก้วใสพูดออกไปด้วยน้ำเสียงไม่ต่างกัน พอลทำอะไรไม่ได้เมื่อแก้วใสพูดออกมาแบบนั้น ได้แต่ข่มอารมณ์เอาไว้ภายใต้ใบหน้านิ่งเฉย
“พี่เรย์อยากกินอะไรคะวันนี้”พอรถขับเคลื่อนออกมาสักพักแก้วใสก็ถามเรย์เรื่องอาหารที่จะทำโดยถามว่าชายหนุ่มอยากกินอะไร
“อืม เจ้านายอยากกินอะไรครับ”เรย์ทำหน้าคิดชักกพัก ก็หันไปถามความเห็นเจ้านายที่ทำหน้านิ่งๆอยู่
ยังไม่ทันที่พอลจะตอบแก้วใสก็พูดแทรกสะก่อน
“พี่เรย์ไม่ต้องไปถามเจ้านายเขาหรอกคะ เจ้านายคงไม่กินข้าวกับเรา”แก้วใสพูดขึ้นด้วยเสียงเรียบๆกอ่นพี่พอลจะได้อ้าปากพูด
“อืม เย็นนี่ฉันไม่ว่าง”ในเมื่อพูดออกมาแบบนี้พอลก็เลยไม่คิดจะแก้ตัว ทีแรกเขาว่าจะไม่ไปกินข้าวกับดาเนีย แต่ในเมื่อแม่เลขาตัวแสบพูดแบบนี้ก็เลยอารมณ์ขึ้น ไม่อยากให้เขาอยู่กินข้าวด้วย ไม่อยู่ก็ได้
“อ้าวเจ้านายจะไปไหนครับ”เรย์คิดสงสัยเพราะเขายังไม่รู้เลยว่าพอลมีนัดที่ไหน
“ฉันมีนัดกับดาเนีย”พอลตอบออกไป
“อ่อ นั้นก็อดกินข้าวฝีมือน้องแก้วสิครับ”เรย์พูดแหย่ออกไป ไม่รู้ว่าพอลคิดอะไรถึงออกไปกอนข้าวกับคู่ขาเก่าแบบนั้น
“ดีแล้วคะพี่เรย์ กินสองคนก็อร่อยดี”แก้วใสพูดออกไปโดยไม่สนใจใบหน้าที่บูดบึ่งของพอล
“หึ กับข้าวห่วยแตกแบบนั้นผมก็ไม่อยากกินให้เสียปากหรอ”พอลพูดออกไปแบบแรงๆเช่นกัน คำพูดของพอลทำให้แก้วในหันหน้ามามองเขาทันที
“ก็ดีคะ”หันหน้ามาพูดแค่นั้นก็หันกลับไปโดยไม่พูดอะไรต่อ เธอรู้สึกน้อยใจเสียงใจที่เขาพูดแบบนั้น พอลรู้ว่าคำพูดของเขาทำร้ายจิตใจแก้วใสแค่ไหนแต่เขาก็ไม่คิดจะถอนคำพูด ความเงียบเข้าปกคุ้มไปทั่วรถจนเรย์ขับมาถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแก้วใสเลยลงไปซื้อของ แต่ก่อนจะลงไปเธอก็หันไปพูดกับเข้านายสะก่อน
“ถ้าเจ้านายรีบก็กลับไปก่อนได้เลยนะคะฉันคงซื้อของนานกลัวจะรอไม่ไหว”แก้วใสหันมาพูดกับพอลด้วยเสียงเรียบๆพร้อมกับใบหน้านิ่งๆของเธอ แต่พอลก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาเพียงแต่มองหน้าแก้วใสแค่นั้นจนกระทั้งเธอเดินออกไป
“เอาไงดีครับเจ้านาย กลับไหม”เรย์ที่เห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้เขาก็เอ่ยแหย่คนปากแข็งสะหน่อย
“รอ”พอลพูดออกไปแค่นั้นแล้วมองไปทางที่แก้วใสเดินหายเข้าไป ผ่านไปสามสิบนาทีเธอก็เดินออกมาพร้อมกับข้าวของในมือเต็มไปหมด
ฝ่ายแก้วใสที่เดินออกมาหลังจากที่ซื้อของเสร็จเธอก็แปลกใจที่เห็นรถของพอลจอดอยู่ ทั้งที่เธอคิดว่าเขาคงกลับไปแล้ว ไม่รีบไปหาแม่ดาเนียนั้นรึไง เธอไม่อยากคิดอะไรอีกก็เดินไปที่รถแล้วเปิดประตูบอกให้เรย์มาเปิดข้างหลังเพื่อเอาของไปเก็บ เก็บเสร็จก็เดินมาขึ้นรถ
“พี่เรย์คิดได้รึยังคะว่าอยากกินอะไร”ทันทีที่ขึ้นรถแก้วใสก็ถามเรย์ต่อเรื่องที่เธอยังไม่ได้คำตอบ
“อะไรก็ได้ครับ ที่น้องแก้วทำอร่อยหมดแหละครับ”เรย์ตอบอย่างเอาใจ เพราะเข้ารู้ว่าสิ่งที่เจ้านายพูดไปคงทำร้ายจิตใจแก้วใสมาก ทั้งสองคุยกันโดยไม่สนใจคนข้างหลังที่ทำหน้าบึ่งอยู่
“ขอบคุณนะคะ แก้วสัญญาว่าจะทำสุดฝีมือจะใสใจลงไปในนั้นด้วย ฮ่าๆๆ”แก้วใสพูดไปหัวเราะไป เธอไม่ควรเก็บเอาคำพูดของพอลมาคิด คิดจะยั่วโมโหเธอหรอไม่มีทางมีแต่เธอนั้นแหละที่จะยัวโมโหเขา
พอลได้ยินแบบนั้นความหงุดหงิดยิ่งเพิ่มเเข้าไปใหญ่
“น้องแก้วนี้แม่สีเรือนสุดๆไปเลยนะครับ สวยๆสมัยนี้หาอยาก ถ้าใครได้เป็นแฟนนี่โชคดีตายเลย”เรย์เอ่ยชม เขาชมออกจากใจจริงๆเพราะสาวๆสวยๆสมัยนี้หายากที่จะสนใจทำกับข้าวส่วนมากมีแต่แต่ตัวสวยๆออกไปช็อบปิ้ง แต่แก้วใสเป็นประเภทสวยเซ็กซี่แต่ทำอาหารเป็น น่ารักจริงๆถ้าเจ้านายเขาปล่อยผู้หญิงคนนี้หลุดมือไปเขาจะสมน้ำหน้าให้มัวแต่เก็กอยู่ได้
“แล้วพี่เรย์สนใจสาวสวยโสดทำอาหารเป็นและเอาใจเก่งแบบแก้วไหมคะ”แก้วใสพูดหยอกล้อกับเรย์เล่น เธอรู้ดีว่าเรย์คิดกับเธอแค่น้องสาวและเธอก็คิดกับเรย์แค่พี่ชาย เธอแค่อยากยั่วอารมณ์คนข้างหลังเล่น
“แหม่ น้องแก้ก็อย่าล้อเล่นสิครับพี่คิดจริงนะ”เรย์ก็ไม่วายที่จะรับมุกแก้วใส
“ขับเร็วๆหน่อยไอ้เรย์ขับช้าแบบนี้เหมือนไหร่จะถึง”อารมณ์คนพาลมาเต็ม พอลเมื่อทนไม่ไหวที่เห็นทั้งสองคนพูดหยอกล้อกันแบบนั้นเขาก็เริ่มจะทนไม่ไหว
ใสใจ สนใจงั้นหรอ คิดจริงงั้นหรอ หึ พอลคิดสองคำนี้วนไปวนมา เมื่อกลางวันยังยั่วเขาอยู่เลยพอตกเย็นมายั่วไอ้เรย์ต่อผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาอารมณ์เสียงได้ดีจริงๆ
สนุกไม่สนุกติชมกันได้น๊า
ขอโทษด้วยนะคะถ้ามีคำผิดไรท์จะมาแก้ให้ทีหลังนะ
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆคะ
เข้าไปพูดคุย ทวงถามนิยายกับไรท์ได้ที่เพจนะคะ
คลิก