“ทำไมแกไม่จับหล่อนเอาไว้ตอนที่หล่อนกำลังจะหนีออกไป!” เสียงตะโกนด่าดังลั่นขึ้นในบ้านหลังหนึ่งจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องหันไปมอง ชายวัยกลางคนสองคนยืนโต้เถียงกันอยู่ในห้องรับแขกสีหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด
ไมเคิลที่ตามหาตัวหลานสาวกลับมาไม่ได้ก็โมโหจนแทบอยากจะเขวี้ยงทุกอย่างที่อยู่ใกล้ๆมือของเขาให้แตก เพราะยัยผู้หญิงบ้านั่นแท้ๆทำให้เขาต้องชวดเงินไปถึงห้าร้อยปอนด์ แล้วหลังจากนี้เขาจะไปเอาเงินจากไหนมาใช้
เพล้ง!
แจกันที่โชคร้ายใบหนึ่งถูกทุ่มลงพื้นจนแตกละเอียด
“ขนาดโดนวางยาอยู่ยัยนั่นก็วิ่งไวอย่างกับลิง แค่วิ่งตามก็แทบจะไม่ทันอยู่แล้ว!” ฝ่ายซีโน่เองก็ตะโกนอย่างเลือดขึ้นหน้า “อีกอย่างมันเป็นหน้าที่ของแกที่จะต้องไปตามหาตัวเธอกลับมา” เขาขึ้นเสียงตอบโต้กลับ เสียเวลาของเขาแท้ๆแทนที่จะได้เปิดซิงสาว เขากลับต้องมานั่งช่วยตัวเองทั้งคืน
“ฮึ่ย! ให้ตายสิวะ” ไมเคิลกระฟัดกระเฟียด เตะตู้หนังสือที่อยู่ใกล้ๆเป็นการระบายอารมณ์
“ฉันคิดผิดจริงๆที่จะซื้อบริการจากนาย” ซีโน่ทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา “แล้วจะเอายังไงต่อ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนเราก็ยังไม่รู้ ไม่แน่นะบางทีหล่อนอาจจะกำลังแจ้งความเราข้อหาพยายามข่มขืนอยู่ก็ได้”
ไม่ได้สุขสมใจแถมยังเสี่ยงถูกจับเข้าตารางอีกหรือเนี่ย
“ยัยผู้หญิงคนนั้นไม่แจ้งความเราหรอกน่า อย่างน้อยๆฉันก็เป็นลุงของมันนะ มันไม่อยากให้ฉันเสียประวัติหรอกเชื่อสิ” ไมเคิลกระดกเหล้าเพียวๆจากขวดที่วางตั้งอยู่ใกล้ๆ “ยังไงเธอก็ต้องกลับมาแน่ เพราะของๆเธอทั้งหมดอยู่ที่นี่”
เมื่อถึงตอนนั้นเขาจะจับเธอรวบหัวรวบหาง ไม่ให้หนีรอดออกไปได้เลยคอยดู
-------------------------------------------------------------------------------------------
เวลาล่วงเลยไปจนพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน โลเวลล์กลับขึ้นมาบนเพ้นท์เฮ้าส์ของตัวเองก็เห็นหญิงสาวที่เพิ่งจะมาเป็นแม่บ้านให้เขาหมาดๆกำลังถอดปลอกหมอนและผ้าคลุมเบาะโซฟาออกมา ผ้าผืนใหญ่สีขาวคาดดำแทบจะคลุมตัวหล่อนจนมิด
“นั่นคุณกำลังทำอะไรอยู่น่ะครับ” โลเวลล์เดินเข้าไปใกล้ๆพลางเอ่ยปากถาม
“ฉันคิดว่าจะถอดปลอกหมอนกับผ้าคลุมนี่ไปซักน่ะค่ะ”
“จะซักทำไมล่ะครับ ผมไม่เห็นว่ามันสกปรกตรงไหน” โลเวลล์สงสัย แม้แต่จุดเปื้อนจุดเดียวยังไม่มีให้เห็น แล้วหล่อนจะถอดออกไปซักทำไม
“ถึงจะยังไม่สกปรก แต่มันอาจจะมีเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็นอยู่นะคะ” หล่อนดึงปลอกหมอนใบสุดท้ายออกมา “อีกอย่างมันก็เป็นงานของแม่บ้าน... ไม่ใช่เหรอคะ?” เธอไม่เคยเป็นแม่บ้านมาก่อนแต่พอจะรู้ว่าแม่บ้านคือคนที่คอยทำความสะอาดบ้านให้เจ้านายซึ่งเธอมักเห็นอยู่บ่อยๆในหนังยุคโรแมนติก “ฉันคิดว่าจะซักผ้าห่มกับผ้าปูที่นอนด้วยนะคะ”
“เรื่องซักผ้าเอาไว้ก่อนเถอะนะครับ ถึงมันจะเป็นงานของแม่บ้านแต่ผมก็ไม่ค่อยชอบให้ซักมันบ่อยๆหรอกนะครับ มันจะรู้สึกกระด้างผมไม่ชอบ” โลเวลล์นั่งลงบนโซฟาแล้วใส่ปลอกหมอนกลับเหมือนเดิม “อีกอย่างแม่บ้านคนก่อนก็ซักและทำความสะอาดให้ผมทุกซอกทุกมุมก่อนที่จะลาออกแล้วละะครับ”
“งั้นเหรอคะ... แล้วอย่างนี้ยังจะมีงานอะไรให้ฉันทำอีกล่ะค่ะเนี่ย”
“เดี๋ยวมันก็มีเองล่ะครับ แต่ตอนนี้ผมจะพาคุณไปดูห้องของคุณก่อน” ชายหนุ่มจับมือเรียวบางของหญิงสาวแล้วพาเดินไปที่ห้องๆหนึ่ง เขาเปิดประตูออก เป็นห้องขนาดเล็กๆเมื่อเทียบกับห้องอื่นๆ ภายในห้องมีโต๊ะ เตียง ห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น
“นี่ห้องของฉันเหรอคะ” ห้องออกโทนสีขาวชมพู มีหน้าต่างบานใหญ่ซึ่งสามารถทำให้มองเห็นวิวสวยๆจากมุมสูงได้ เป็นห้องที่สวยงามและน่ารัก เธอชอบมันมาก!
“ห้องนี้เป็นห้องของแม่บ้านน่ะครับ” ห้องแม่บ้านขนาดเล็ก ลำพังแค่โลเวลล์เข้าไปยืนข้างในก็สามารถทำให้มันดูคับแคบไปได้โดยถนัดตา “คุณชอบห้องนี้รึเปล่าครับ”
“ชอบซะยิ่งกว่าชอบอีกค่ะ เป็นห้องที่น่ารักมากๆเลย ดูวิวข้างนอกนั่นสิคะ... นี่ถ้าฉันไม่ได้ขึ้นลอนดอนอายล่ะก็ ฉันก็คงจะไม่เสียดายแล้วล่ะคะ” พัณณิตาชะโงกมองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นคล้ายกับเด็กๆ
“สูงมากๆเลยนะคะ”
“ครับ ก็ตึกของผมสูงที่สุดในอังกฤษแล้วนี่” โลเวลล์ยืดอกพูดอย่างภูมิใจ ไม่บ่อยนักที่เขาจะโอ้อวดตัวเองเช่นนี้
“ว้าว! อย่างนั้นเชียวเหรอคะ... สุดยอดไปเลยค่ะ” โลเวลล์คล้ายกับจะเห็นแสงประกายระยิบระยับออกจากดวงตาหวานๆของเธอ
“ตึกของผมสูงกว่า 1,400 ฟุตเชียวนะครับ” เมื่อได้รับคำยกยอจากหญิงสาว ชายหนุ่มก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเขาลอยได้ “ห้องของคุณเนี่ยถ้าตีเป็นตัวเงินล่ะก็อาจสูงถึงสิบล้านปอนด์เลยก็ได้นะครับ”
“หา!?” ความตื่นเต้นหายวับไปเหลือแต่ความตื่นตะลึง
สะ... สิบล้านปอนด์? สิบล้านปอนด์เท่ากับห้าร้อยล้านบาทเชียวนะ พระเจ้า! ตอนนี้เธอไม่กล้าจะแตะต้องอะไรอีกแล้ว
“เออ... มันแพงขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ถึงแม้จะรู้ว่าเพ้นท์เฮ้าส์บนชั้นสูงๆไม่เคยมีที่ไหนถูก แต่เธอก็ไม่คิดว่ามันจะแพงขนาดนี้
“ผมลงทุนก่อสร้างตึกนี้ด้วยเงินถึงห้าร้อยห้าสิบล้านปอนด์เชียวนะครับ เมื่อเทียบกันแล้วค่าห้องของคุณมันยังไม่ถึงสองเปอร์เซ็นด้วยซ้ำ” โลเวลล์พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ
“คือ... แล้วมันจะดีเหรอคะ ที่ให้ฉันมานอนในห้องแพงๆขนาดนี้” ถ้าเธอเผลอทำผนังของเขาเปื้อนขึ้นมา เธอจะต้องชดใช้ค่าเสียหายเท่าไรกัน
“จะเป็นไรล่ะครับ แม่บ้านของผมทุกคนก็เคยนอนในห้องนี้”
นี่เขาสติไม่ดีหรือไง!?
“ถ้าฉันเกิดทำข้าวของๆคุณเสียหายล่ะคะ ฉันคงไม่มีปัญญาชดใช้ให้คุณแน่ๆ... ฉันว่าฉันคงไม่เหมาะที่จะเป็นแม่บ้านให้คุณแล้วล่ะคะ” ต่อให้เธอทำประกันชีวิตซักสิบล้านก็อาจจะไม่พอชดใช้ให้เขาด้วยซ้ำ
“เหมาะสิครับ คุณเหมาะสำหรับหน้าที่นี้ ส่วนเรื่องถ้าคุณทำอะไรเสียหายล่ะก็ถึงตอนนั้นแล้วค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน” โลเวลล์หัวเราะเมื่อเห็นปฏิกิริยาของหล่อน ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นละก็พวกเขาจะยิ่งพยายามตีสนิทกับเขามากขึ้น แต่เธอกลับตรงกันข้าม “ตอนนี้ผมชักหิวแล้วล่ะ คุณช่วยไปทำอะไรมาให้ผมกินหน่อยได้ไหมครับ”
“เออ...” ตอนนี้แม้แต่จะก้าวเดินซักก้าวเธอยังไม่กล้า
“วางใจเถอะครับ คุณตัวเบาเกินกว่าจะทำให้พื้นในห้องของผมยุบได้”
--------------------------------------------------------------------------------------------
กริ๊ง! กริ๊ง!
เสียงโทรศัพท์เครื่องบางดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่บนเตียงกว้างสะดุ้งตื่นขึ้นมา โลเวลล์ควานมือไปหาโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆแล้วกดรับสายโดยที่ไม่ดูว่าเป็นใครโทรมา
“ฮัลโหล... สวัสดีครับ”
(ฮัลโหล ฮันนี่... นี่ไอรีนเองนะคะ) เสียงเจื้อยแจ้วทว่าแสบแก้วหูดังขึ้นจากปลายสาย
“คุณไอรีนเองเหรอครับ คุณโทรหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่า” ทันทีที่รู้ว่าเป็นใครโทรมาเขาก็แทบอยากจะวางหูใส่ทันที
(ไอรีนแค่รู้สึกเหงาน่ะค่ะก็เลยอยากจะชวนฮันนี่ไปเที่ยวไนต์คลับด้วยกันซักหน่อย)
“คุณไอรีนครับ ตอนนี้ผมนอนแล้ว... ไม่อยากจะออกไปไหนทั้งนั้นแหละครับ ขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ” โดยไม่รอหล่อนตอบกลับมา เขาก็วางสายแล้วกดปิดเครื่องทันที
ยัยผู้หญิงคนนี้น่ารำคาญจริงๆ
โลเวลล์มองเวลาที่หน้าปัดนาฬิกาแล้วขยี้ศีรษะด้วยความหงุดหงิดใจ ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงเมื่อรู้สึกหิวน้ำ เขาเดินออกมาจากห้องนอน แสงสว่างพลันสว่างวาบขึ้นโดยอัตโนมัติจากหลอดไฟระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว โลเวลล์เดินลงมาจากชั้นสอง
ป่านนี้เธอจะหลับไปแล้วหรือยังนะ?
โลเวลล์มองไปยังห้องของแม่บ้าน นึกถึงร่างน้อยที่อยู่ภายใน ความหงุดหงิดทั้งหมดสลายหายไปในพริบตา
ใบหน้าตอนหลับของหล่อนจะต้องน่าดูมากแน่ๆ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งเคลิ้ม ริมฝีปากหนากระดกยิ้มเล็กน้อย
“คิดบ้าอะไรของแกวะไอ้โลเวลล์!” ชายหนุ่มสะบัดศีรษะเพื่อไล้ความคิดบ้าๆออกไปจากสมอง เขาเดินตรงเข้าไปในห้องครัวหยิบน้ำในเหยือกขึ้นมาดื่ม
แกร๊ก!
เสียงเปิดประตูดังขึ้นเบาๆ ทำให้โลเวลล์ชะโงกหน้าออกมามองเห็นร่างน้อยในชุดเสื้อยืดแขนยาวของเขาเดินงัวเงียโงนเงนคล้ายกับคนละเมอออกมาจากในห้อง หล่อนเดินตรงเข้ามาหาเขา
“คุณยังไม่นอนอีกเหรอคะ?” พัณณิตาเอ่ยเสียงเบา แสงไฟแหย่แยงจนเธอแสบตา
“ผมเพิ่งตื่นน่ะครับ” โลเวลล์มองหน้าสะลึมสะลือของหญิงสาว “ดื่มน้ำหน่อยไหมครับ”
“ก็ดี ขอบคุณนะคะ” เธอหยิบเหยือกน้ำแล้วกระดกดื่มต่อจากเขา โลเวลล์ที่กำลังจะหยิบแก้วให้ถึงกับชะงัก
นี่มันจูบทางอ้อมชัดๆ!
ชายหนุ่มเหลือบมองริมฝีปากอวบอิ่มที่กดอยู่ตรงบริเวณขอบปากของเหยือกแก้ว จินตนาการเลยเถิด เขาค่อยๆกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากลำบาก หัวใจเต้นระรัวเหมือนกลองในงานวันเปิดกีฬา “คุณตื่นขึ้นมาดึกๆทำไมครับ”
“พอดีคิดถึงเรื่องของคุณลุงแล้วฉันก็นอนไม่ค่อยหลับน่ะค่ะ” หญิงสาวยิ้มอ่อนๆให้เขา “ฉันลองคิดกลับในอีกมุมหนึ่งดู ไม่แน่นะคะที่คุณลุงทำแบบนั้นก็เพราะอาจจะคิดถึงคุณป้าก็ได้” หลายคนมักบอกเธอเสมอว่าเธอหน้าตาเหมือนคุณป้าสมัยตอนที่ยังสาวๆ พัณณิตาพยายามมองโลกในแง่ดี
“ถึงขนาดวางยาปลุกเซ็กส์หลานสาวของตัวเอง ผมว่าเขาคงจะไม่แสนดีขนาดนั้นหรอกมั้งครับ ผมว่าอย่างน้อยๆเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์จะต้องมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน” เขาฟันธงได้!
“...” เธอเม้มปาก ที่เขาว่ามันก็มีส่วนที่เป็นไปได้แต่เธอก็ไม่เชื่อว่าคุณลุงจะเห็นแก่เงินมากกว่ามิตรภาพในครอบครัว “ฉันไม่คิดว่าคุณลุงจะเห็นแก่เงินขนาดนั้นหรอกนะคะ”
“ช่างเถอะครับ ยังไงเรื่องมันก็เกิดขึ้นมาแล้ว ผมดีใจนะครับที่คุณหนีรอดออกมาได้จนมาเจอผม” โลเวลล์หัวเราะเบาๆแล้วลูบเส้นผมที่ยาวนุ่มของเธอ “พรุ่งนี้บ่ายๆผมจะพาคุณกลับไปเอาของนะครับ”
“พรุ่งนี้เลยเหรอคะ! ฉันคิดว่าจะเป็นอีกสองวันซะอีก”
“ผมจะไปกับคุณด้วย... ไม่ต้องกังวลหรอกนะครับ” เขาเอ่ยเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของเธอ “แต่ว่าตอนนี้คุณควรจะกลับไปนอนได้แล้ว... แล้วพรุ่งนี้เช้าคุณจะได้ตื่นขึ้นมาทำอาหารอร่อยๆเหมือนที่คุณทำให้ผมทานเมื่อตอนเย็นยังไงล่ะครับ”
“ได้ค่ะ งั้นราตรีสวัสดิ์นะคะ”
“ราตรีสวัสดิ์ครับ” ชายหนุ่มจ้องมองแผ่นหลังของหญิงสาวที่หายเข้าไปในห้อง
---------------------------------------------------------------------------------------
มาอัพให้อ่านกันต่อเลย... แหมๆ เพิ่งจะมาอยู่ด้วยกันไม่กี่วันป๋าแกก็เริ่มออกอาการเสียแล้ว ฮ่าฮ่า
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ด้วยนะคะ
รักนักอ่านทุกท่านคะ