ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ ซีโน่ นายเสร็จหรือยัง ทำไมช้าจัง ” เสียงมาร์คัสตะโกนเรียกผมจากหน้าห้อง
“ สักครู่นะ มาร์คัส ” ผมมองดูตัวเองในกระจกเสื้อแจ็คเก็ตหนังกับกางเกงยืนสีดำนี่เหมาะกับผมจริงๆ ระหว่างที่ชื่นชมตัวเองนั่นผมก็รีบมัดผมสีดำยาวของตัวเองให้เรียบรอย แล้วรีบเดินไปเปิดประตูออกจากห้อง ผมมาร์คัสยืนรออยู่หน้าประตู
“ ฉันหล่อหรือยัง ” ผมหันหน้าไปถามมาร์คัสเขาพยักหน้าแล้วทำหน้าหน่ายๆ
“ นายอยากได้เหยื่อแบบไหนที่เต็มใจหรือไม่เต็มใจ ” มาร์คัสถามผม
“ นายกล้าถามฉันอยู่หรอ ฉันแต่งตัวจัดเต็มซะขนาดนี้ต้องออกล่าเหยื่อที่เร้าใจอยู่แล้ว ” ผมส่งยิ้มให้กับมาร์คัส
“ งั้นตามฉันมา ” มาร์คัสพูดแล้วเดินนำผมลงบันไดที่ปูพรมสีแดง พอเดินถึงด้านล่างเห็นมอมม่อนกำลังเล่นมือถืออยู่ที่โซฟา ภายในชั้นล่างเป็นห้องรับแขกตกแตงด้วยเฟอร์นิเจอร์สีแดงพื้นผนังห้องสีขาวดูสะอาดตา แมมม่อนหันมามองหน้าผมพร้อมส่งยิ้ม แล้วพูดว่า
“ ดีใจที่นายกลับมา ลู- ”
“ ซีโน่ ให้เรียกเขาว่า ซีโน่ ” มาร์คัสรีบพูดตัดหน้า
“ ซีโน่ ” แมมม่อนพูดแล้วยิ้มแต่ตาสีเขียวจ้องมองที่มาร์คัส
“ ได้เวลาแล้ว แมมม่อน ออกไปกันล่าเหยื่อกันเถอะ ” มาร์คัสเหลียวหน้าไปพูดกับแมมม่อน แมม่อนพยักหน้าแล้วเดินนำผ่านประตูหน้าบ้าน แต่ออกมาจากนอกบ้านผมกลับหลังหันไปดูลักษณะบ้านแต่ต้องตะลึง หน้าบ้านงั้นหรอ หน้าคฤหาสน์ถึงจะถูก มาร์คัสหันมามองสีหน้าผมที่กำลังอ้าปากค้างแล้วพูดว่า
“ นี่ คฤหาสน์ของแมมม่อน นายลืมไปแล้วหรอ ว่าแมมแม่นเป็นบาปอะไร ” มาร์คัสและแมมม่อนยิ้มให้ผมพร้อมกัน จู่ๆรถหรูอย่างซีมูลีนสีดำก็มาจอดอยู่ตรงหน้า แมมม่อนเดินตรงไปเปิดประตูให้ผมกับมาร์คัสเดินขึ้นรถแล้วแมมม่อนหนังเบาะหน้าของผม
“ ไปที่ไหนครับท่าน ” คนขับรถถามแมมม่อน
“ Baphomet Club” แมมม่อนตอบคนขับ
“ รับทราบครับ ” แล้วขับรถตอบ แล้วรถหรูก็เคลื่อนที่ไปได้ซัก5นาทีก็หยุด
“ ถึงแล้วครับ ทุกคน ” เสียงแมมม่อนพูดขึ้นพร้อมเปิดประตูลงรถ
“ ห๊ะ !!” ผมอุทานอย่างเพราะถ้าเหลียวหลังไปเห็นก็เห็นรั้วคฤหาสน์ของแมมม่อนติกับคลับนี่เอง มาร์คัสส่ายหัวแล้วเปิดประตูลงรถผมรีบลงตามไป เห็นป้ายแสงไฟสีแดงเข้มตระง่าอยู่ครงข้างทาง
“ นายจะขึ้นรถมาทำไม ทำไมไม่เดิน ” ผมถามแมมม่อน
“ ก็คนมันรวย ก็ต้องโชว์สักหน่อย ” แมมม่อนพูดแล้วยิ้มแบบทำเป็นเท่ห์ ผมพูดอะไรไม่ออกเลยเงียบแล้วรีบๆเดินตามหลังมาร์คัสไปแล้วต่อท้ายด้วยแมมม่อนที่มัวชักช้าเพราะทำเป็นเท่ห์ บัดนี้ตรงหน้าผมเต็มไปด้วยแสงไฟหลากสีบนลานกว้างที่มีผู้คนมากมายทั้งชายและหญิงกำลังเต้นและดื่มกันอย่างเมามันส์ เสียงเพลงเร่งจังหวะเร็วขึ้นเหมือนชักชวนดึงดูดผมให้ผมเดินเข้าไป ขณะที่สายตาผมกำลังร่ายมองผู้คนที่อยู่ตรงหน้านั้นต้องสะดุ้งกับสาวน้อยผมดำเข้มเป็นธรรมชาติเธอกำลังยิ้มกำลังกระซิบข้างหูเพื่อนสาวของเธอแล้วส่งสายตามาที่ผมอย่างเขินอาย ผมยิ้มกว้างให้เธอพร้อมเดินตรงไปหาสาวน้อยผมดำแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมาร์คัสดึงแขนผม
“ ระวังเธอให้ดี ” มาร์คัสพูดพร้อมส่งสายตาไปมองที่สาวผมดำนิรนาม ผมยิ้มเยาะทำไมมาร์คัสต้องระแวงสาวน้อยน่ารักด้วยมันทำให้ผมสนใจเธอมากขึ้น
“ เข้าใจแล้วน่า ” ผมตอบมาร์คัสไปอย่างลวกๆ ผมรีบเดินดึ่งตรงไปหาเธอขณะที่เธอกำลังหัวเราะและคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน
“ สวัสดีครับ ” สาวน้อยผมดำหันหน้ามามองที่ผม เธอขยับริมฝีปากของเธอยิ้มหวานตาเธอเป็นกระกายสีเทา
“ สวัสดีค่ะ ” เสียงใสกังกังวานตอบผม ให้ตายเหอะทำไมเธอน่ารักอย่างนี้นะ
“ ผมชื่อ ซีโน่ครับ คุณ….”
“ มาเรียค่ะ ยินดีที่รู้จักนะค่ะ ซีโน่ ” เธอส่งยิ้มที่ดูอบอุ่นให้ผม
“ ยินดีที่รู้จักเช่นกันครับ ”
“ คุณอยู่ที่ไหนค่ะ ฉันไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลย ” เธอถามผมด้วยน้ำเสียงสงสัย
“ อ่อ ผมเพิ่งมาอยู่แถวนี้ได้ไม่นานครับ ”
“ งั้นคุณก็ไม่เคยรู้สินะ ว่าหอนาฬิกาของเมืองนี้สวยมากในตอนกลางคืน ”
“ จริงหรอครับอยากลองไปเห็นซักครั้งจัง แต่จะเป็นเกียรติมากถ้าได้ไปกับผู้หญิงน่ารักอย่างคุณ ” เธอได้ยินแล้วหัวเราะเบาๆ
“ ก็ได้ค่ะ ฉันจะพาคุณเที่ยวในนามของเมืองนี้แล้วกัน ” เธอพูดเสร็จก็หยิบขวดไวน์มารินใส่แก้วแล้วยื่นให้ผม
“ แด่มิตรภาพ ” เธอยื่นแก้วของเธอมาชนแก้วผม พร้อมส่งยิ้มกรุ้มกริ่ม
มาเรีย