“เมียจ๋า.....จะรีบลงมาทำไมจ๊ะแล้วเดินไหวเหรอ” ช้างถามเมียสาวหลังจากค่ำคืนที่ผ่านมาหล่อนต้องรับมือกับเขาที่เต็มไปด้วยพละกำลังดุจดั่งพญาช้างสาร
“พี่ช้าง...ทะลึ่งอีกแล้วนะ” หนูเล็กค้อนตาคว่ำ หล่อนแทบจะไม่อยากก้าวเดินแต่ก็จำต้องแข็งใจไว้ไม่แสดงอาการออกมา
ชายหนุ่มลุกจากเก้าอี้ปรี่เข้ามาหาคนตัวเล็กพอถึงตัวก็เข้าไปช้อนอุ้มพามานั่งที่โต๊ะอาหารที่เตรียมพร้อมไว้แล้ว
“พี่กำลังจะลงมายกอาหารไปให้อยู่พอดี หิวล่ะสิ” ช้างให้เมียสาวนั่งบนตักกว้างกอดเอวเอาไว้หลวม ๆ ซุกไซ้ดอมดมจนโดนประท้วง เขาจึงต้องหยุด จิ้มไส้กรอกส่งเข้าปากจิ้มลิ้มที่อ้ารับอย่างเต็มใจ
“เว่อร์เกินไปแล้ว...หนูเล็กไม่ได้พิการนะคะ” หญิงสาวค้อนให้อย่างหมั่นไส้หลังจากเคี้ยวไส้กรอกกลืนลงคอไปแล้ว…ยอมรับว่าอายยังไม่กล้ามองหน้าเขาตรง ๆ แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่ารู้สึกดีไม่น้อย
ชายหนุ่มมีแต่รอยยิ้ม...เรียกว่ายิ้มจนหุบไม่ลงก็ว่าได้ ตั้งใจว่ากินอาหารเช้าเสร็จเมื่อไหร่ จะอุ้มเมียไปส่งถึงเตียงนอนพร้อมทั้งเก็บค่าบริการให้หนำใจ
“ลูกพี่ครับ...ลูกพี่” เสียงจ้อนตะโกนนำหน้าเข้ามาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึง
“อะไรของมึงนักหนาวะไอ้จ้อน...” ช้างบ่นอย่างขุ่นเคือง ไอ้นี่มาเมื่อไหร่ หมายถึงก้างชิ้นใหญ่ ที่คอยขัดขวางความสุขของเขาอยู่ร่ำไป…แค่ได้ยินเสียงมันคนบนตักก็ลงไปนั่งเก้าอี้ข้าง ๆ แล้ว
“จ้อนจะไปแล้ว....เลยมากราบลาจะหอบผ้าไปอยู่คอกม้าแล้วนะครับ” เด็กหนุ่มยิ้มแฉ่ง
“ไอ้เวร...มึงไปแค่นี้พูดอย่างกับจะไปตาย”
“ก็แค่ไปลามาไหว้...จ้อนผิดตรงไหนคร๊าบบบบ” เด็กหนุ่มบ่นทำหน้าตาซังกะตาย...พอมีเมียก็ลืมจ้อน...ฮึ...
“แค่นั้นจริง?”
“ก็...แบบว่า.....” เด็กหนุ่มกระมิดกระเมี้ยน
“เอ้า....เอาไป...แล้วอย่าลืมที่สั่งด้วยล่ะ” ช้างหยิบแบงค์พันหลายใบออกจากกระเป๋าส่งให้จ้อน อีกฝ่ายฉีกยิ้มจนแทบจะถึงใบหู ก่อนจะวิ่งปรู๊ดจากไปไม่มีความอาลัยอาวรณ์ลูกพี่มันเลยสักนิด…แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องสะดุ้งเมื่อหันมาสบตาวาววับของเมียสาว
“พี่ช้าง ไปเอาเงินมาจากไหน” หญิงสาวถามเสียงแข็ง หล่อนไม่ได้เสียดายเงินที่ให้จ้อน แต่โมโหว่าอุตส่าห์เก็บริบทุกอย่าง ยังจะไปหามาได้จากตรงไหน
“เอ่อ...ในเซฟ” ชายหนุ่มตอบอ้อมแอ้ม
“กุญแจอยู่ที่หนูเล็ก” หญิงสาวบอกเสียงเข้ม
“อ๋อ...อันนี้เอามาจากเซฟแล้วก็ลืมไว้ในโต๊ะทำงานของพี่ตั้งนานแล้วจ่ะเมียจ๋า” เฮ้อ...กูมาถึงจุดนี้ได้ยังไงวะ....ยัยเมียหน้าเลือด.....
“แน่ใจนะคะ ว่าไม่ได้ยักยอกมาจากในไร่” หนูเล็กแค่นต้องการดัดนิสัยสามีจอมกะล่อนที่บังอาจมาหลอกหล่อนก่อน ตั้งแต่วันแรกที่เหยียบที่นี่ ต่อไปจะได้ไม่กล้า
“แน่นอนที่สุดจ่ะ” ชายหนุ่มยิ้มเรี่ยราดพยายามเอาใจ
“ช่างเถอะ...ว่าแต่พี่ช้างสั่งให้จ้อนไปทำอะไรคะ”
“เมียพี่นี่ฉลาดจริง ๆ แม่คุณเอ้ย....” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างชื่นชม รั้งร่างบางกลับมานั่งตักพลางก้มลงหอมแก้มนิ่มหลายฟอด
“ว่าไงล่ะคะ หวังว่าคงจะไม่มีความลับกับหนูเล็กใช่ไหมคะ”
“ไม่มีจ่ะเมียจ๋า ใครจะกล้า...พี่สงสัยว่ายังมีใครที่ไร่ติดต่อกับไอ้หาญณรงค์อีกหรือเปล่าก็เลยให้มันคอยสังเกตสังกาดูก็เท่านั้นเอง ไหน ๆ มันก็อยากจะไปเลี้ยงม้าที่นั่นอยู่แล้ว”
“จ้อนจะไม่เป็นอันตรายใช่ไหมคะ” หญิงสาวนึกเป็นห่วง หล่อนเอ็นดูเด็กหนุ่มเหมือนน้องชายแท้ ๆ
“มันกะล่อนขนาดนั้น เอาตัวรอดได้สบาย”
“เชอะ...ลูกพี่คงถ่ายทอดวิชาให้ไปเยอะล่ะสิ”
“โธ่...อย่าใส่ความกันสิจ๊ะ...พี่ช้างออกจะซื้อซื่อ....” ชายหนุ่มทำตาปริบ ๆ ขอความเห็นใจ ยังไม่รู้ตัวว่ายิ่งทำให้เมียหมั่นไส้มากขึ้นไปอีก
“จ้า....พี่ช้างของหนูเล็กซื่อมากค่ะ...แล้วทำไมวันนี้ยังไม่ไปทำงานซักทีล่ะคะ”
“ขอหยุดงาน นอนกอดเมียหนึ่งวัน”
“ทำแบบนี้ก็จับผู้ร้ายไม่ได้สักทีสิคะ...หนูเล็กไม่อยากเป็นหม้ายนะคะ”
“เพราะหนูเล็กรักพี่ช้างมากใช่ไหมครับ....พี่ช้างซาบซึ้งน้ำตาจะไหลแล้วเนี่ย...” ชายหนุ่มอมยิ้ม แววตาแพรวพราวอยากจะให้รางวัลเมียสาวที่พูดถูกใจ
“ใครว่าล่ะคะ...หนูเล็กลำบากใจเลือกไม่ถูกว่าสามีคนต่อไปจะเลือกแนวไหนดีต่างหาก”
“หนูเล็ก !...ถ้าชอบหลายแนวลองกับพี่นี่แหละ...เอาแบบเถื่อน ๆ ก่อนดีไหม”
ชายหนุ่มโกรธจนเลือดขึ้นหน้า...หยามกันชัด ๆ ร่างบางถูกยกขึ้นพาดบ่าเดินดุ่ม ๆ กลับขึ้นห้องนอน ถึงแม้หญิงสาวจะร้องตะโกนดิ้นรนให้ปล่อยก็ไม่เป็นผลมีแต่เสียงฟาดก้นแน่น ๆ ดังเป็นระยะ จนกระทั่งหายลับเข้าห้องไป.....จนกระทั่งบ่ายก็ไม่มีใครเห็นหน้าคู่ผัวเมียข้าวใหม่ปลามัน......