ซ่อนลิขิตรัก บทที่ 25
สิงหาดึงผ้าห่มมาคลุมตัวให้ใบข้าวที่นอนหันหลังให้เขาก่อนจะขยับตัวลุกออกจากเตียง ใบข้าวเม้มปากแน่นกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเอง สิงหาได้ในสิ่งที่เขาต้องการไปแล้วต่อจากนี้เธอจะทำยังไงต่อ -- ใบข้าวนิ่วหน้าเล็กน้อยรู้สึกความร้อนที่ข้อเท้าเธอผุดลุกขึ้นนั่งมองสิงหาที่กำลังเอาผ้าขนหนูที่ชุบน้ำร้อนมาประคบที่ข้อเท้าให้เธอข้างที่ถูกเขากดนั่นแหละ
" ทำอะไรน่ะ " ใบข้าวถามเสียงอู้อี้เธอดึงข้อเท้ากลับแต่สิงหาจับไว้ไม่ยอมปล่อย " ปล่อยนะ " เธอสั่งหน้านิ่วน้อยๆรู้สึกเจ็บระบมตรงที่สิงหาประคบให้ " จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ! " ใบข้าวแหวใส่พอไม่เห็นทางที่สิงหาจะหยุด เธอก็ล้มตัวลงนอนตามเดิมสิงหามองอาการคนขี้งอนก็ยิ้มออกมาก่อนจะขยับขึ้นไปบนเตียงเข้าไปกอดเธอแล้วจูบเบาๆที่หัวไหล่กลมมนทั้งรักทั้งรู้สึกผิด
" พี่ทำให้เจ็บมากหรือเปล่า ใบข้าว " สิงหาถาม ใบข้าวยกหลังมือเช็ดน้ำตาตัวเอง เธอหันมามองเขา
" พี่สิงห์ก็ได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว ยังมาถามอีกทำไม " ใบข้าวถามทั้งน้ำตา สิงหากอดกระชับ
" พี่ขอโทษ -- "
ใบข้าวดันสิงหาออก " จะเอาข้าวกลับไปคืนผู้ชายคนนั้นเลยมั้ย เอาไปคืนแล้วก็บอกไปเลยว่าพี่สิงห์ทำอะไรไว้กับข้าว ผู้ชายคนนั้นต้องเจ็บใจแน่ๆ " คำพูดประชดประชันออกจากปากคนที่กำลังร้องไห้ มือที่ยันไหล่ของเขากำลังสั่น
" ไม่ๆ " สิงหาจับมือใบข้าวมากุมไว้ " พี่ขอโทษที่พูดจาไม่ดีใส่ใบข้าวแบบนั้น ตอนนั้นพี่โกรธมาก ยกโทษให้พี่ได้มั้ย " สิงหารวบกอดใบข้าวไว้ " ขอโทษที่ทำให้เจ็บปวด "
ใบข้าวพยายามดิ้นจากอ้อมกอดของสิงหา เธอทั้งรักทั้งเกลียดผู้ชายคนนี้ในเวลาเดียวกัน เกลียดที่เขาอ่อนโยนกับเธอในเวลาที่เธออ่อนแอมันทำให้หัวใจเธอพ่ายแพ้ เธอรักทุกอย่างที่เป็นของสิงหา เรืองกิจเกษมแม้แต่หัวใจของเขา
" เรื่องที่ข้าวเป็นใคร พี่สิงห์จะพูดเองหรือจะให้ข้าวถาม " ใบข้าวมองตาสิงหาที่นิ่งเงียบ " ตั้งแต่เมื่อไหร่ " เป็นครั้งแรกที่เขาไม่ยอมตอบเธอ
ใบข้าวนึกไม่ออกเลยว่าทำไมเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ สิงหารู้แต่แรกแล้วว่าเธอเป็นใครแต่ยังยอมให้เธออยู่ที่ไร่ ในหัวมีแต่คำถามว่าทำไม ใบข้าวหยุดดิ้นแล้วเธอทั้งเหนื่อยทั้งเพลียเธอหลับตาลงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาแล้วพลิกตัวกลับไปนอนอีกด้าน สิงหาตามไปกอดไว้ " ข้าวเหนื่อยแล้วค่ะ พี่สิงห์ "
" พี่ขอนอนกอดแบบนี้นะ " สิงหาพูดไม่มีเสียงตอบรับจากใบข้าว สิงหากดจูบเบาๆที่เส้นผมของใบข้าวแล้วนอนกอดเธออยู่แบบนั้นไปตลอดคืน
" ข้าวมีธุระด่วนน่ะค่ะ เลยต้องรีบกลับ " ใบข้าวบอกกับคุณหญิงณัชชาผ่านมือถือ ปลายทางเอาแต่ส่งเสียงแหลมไม่พอใจใส่เธอหลังจากที่เธอหายตัวไปเมื่อคืนทั้งที่ร้านอาหารและก็ไม่กลับไปที่โรงแรมอีกด้วย
" ใบข้าว ทำไมทำตัวเหมือนเด็กแบบนี้ จู่ๆก็หนีหายไปและนี่โรงแรมก็ไม่กลับ ทำตัวแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน! "
" ข้าวขอโทษค่ะ คุณแม่ แต่มันเป็นธุระด่วนจริงๆ ข้าวเลยต้องรีบออกมา "
" ธุระด่วนอะไรกันถึงกับต้องทิ้งแม่ทิ้งภูผาไป ข้าวคิดบ้างหรือเปล่าว่าพี่ภูของลูกเค้าจะคิดยังไงที่เราทำแบบนี้ "
" ช่างเขาสิคะ! " ใบข้าวสวนกลับยังเจ็บใจไม่หายที่ถูกอีกฝ่ายจูบมาแบบนั้น
" ใบข้าว!! "
" ใบข้าวไม่ได้ชอบ ไม่ได้รักผู้ชายคนนั้นและก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับเขาด้วย! ถ้าคุณแม่ยังไม่เลิกที่จะยัดเหยียดข้าวให้ผู้ชายคนนั้นอีก ข้าวจะหนีไปให้ไกลกว่าเดิม! " ใบข้าวพูดอย่างหมดความอดทน
" ใบข้าว! นี่ยอมรับแล้วใช่มั้ยว่าลูกหนีการแต่งงานกับคุณภูผาอยู่น่ะ " คุณหญิงณัชชากรีดเสียงแหลมใส่ ใบข้าวเม้มปากแน่นก่อนจะพูดออกมา
" คุณแม่เลิกเซ้าซี้ข้าวเรื่องนี้ได้แล้วค่ะ แค่นี้นะคะ! ข้าวต้องไปทำงานแล้ว " ใบข้าวตัดสายทิ้งก่อนจะผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ แล้วหันกลับไปทำงานใส่ปุ๋ยในแปลงสตรอว์เบอร์รีต่อแต่ถึงอย่างนั้นใบข้าวก็ทำได้แค่นั่งเหม่อตักปุ๋ยเข้าออกใส่ถุงไม่ลงดินสักที
หลังจากเมื่อคืนเธอก็จงใจตื่นสายรอให้สิงหาออกไปก่อนแล้วเธอถึงได้เข้าไร่มาหมกตัวอยู่ที่แปลงนี้เพื่อหลบหน้าสิงหา ตลอดทั้งคืนจนถึงเช้านี้เธอพยายามหาคำตอบว่าทำไมสิงหาถึงให้เธออยู่ที่ไร่เรืองกิจเกษมต่อทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นใคร ทำไมถึงยังแต่งงานกับเธอทั้งๆที่รู้ว่าเธอเป็นคู่หมั้นของภูผา หรือที่เขายอมแต่งเพราะต้องการเอาคืนภูผา -- คิดถึงตรงนี้น้ำตาเม็ดโตก็ร่วงลงมา ใบข้าวรีบเช็ดน้ำตาออก ใช่ เขาทำแบบนี้เพราะเพื่อสิ่งนี้แหละ
" อ้าว ใบข้าว! " วิทย์ร้องทักอย่างแปลกใจตอนเขาเห็นเธอในแปลงสตรอว์เบอร์รี " ผมนึกว่าใบข้าวจะกลับมาเย็นๆสักอีก ได้ยินว่าไปนอนค้างข้างนอก "
ใบข้าวทำหน้าให้เป็นปกติ เธอหันไปยิ้ม " พอดีเปลี่ยนใจน่ะค่ะ เลยกลับมาตั้งแต่เมื่อคืน "
" นายสิงห์ไปรับเหรอครับ "
ใบข้าวพยักหน้า " คุณวิทย์มีอะไรเหรอคะ ถือแฟ้มเอกสารมาจะไปไหนเหรอคะ " ใบข้าวมองแฟ้มในมือของวิทย์
" อ่อนี่ ผมจะเอาให้นายสิงห์ตรวจสอบเอกสารจัดซื้อพวกปุ๋ย วัสดุการเกษตรแล้วก็เมล็ดพันธุ์น่ะครับ แต่ว่านี่ยังไม่เจอตัวเลย -- กำลังคิดว่าจะเดินไปที่บ้านใหญ่น่ะครับ " วิทย์ว่า " ใส่ปุ๋ยอยู่เหรอครับ มาผมช่วย " วิทย์ย่อตัวลงนั่งชันเข่าข้างหนึ่งข่วยใบข้างใส่ปุ๋ย
" ขอบคุณค่ะ -- คุณวิทย์อยู่ที่นี่มานานหรือยังคะ ข้าวได้ยินมาว่าคุณวิทย์สนิทกับอ้ายมูลลูกชายยายเยื้อน -- เรื่องของอ้ายมูลน่าเศร้าจังเลยนะคะ "
" ครับ ผมกับอ้ายมูลทำงานให้นายสิงห์ด้วยกันแล้วก็ยังมีกอหญ้าอีกคน "
ใบข้าวพยายามทำหน้าให้เป็นปกติตั้งใจฟังที่วิทย์พูด " เราสามคนทำงานให้นายสิงห์ อ้ายมูลดูเรื่องการกระจายสินค้าส่งไปให้คู่ค้า ส่วนผมกับกอหญ้าช่วยกันดูเรื่องสั่งซื้อพวกปุ๋ย เมล็ดพันธุ์พวกนี้แหละครับ "
" อ่อค่ะ "
" จะว่าไปแล้วเรื่องที่นายสิงห์แต่งงานกับใบข้าว ผมยังตกใจเลยนะครับ " วิทย์เอ่ย ใบข้าวยิ้มเจื่อนนึกถึงเหตุที่ทั้งเธอและสิงหาต้องแต่งงานกัน " นายสิงห์ไม่ได้คบกับผู้หญิงคนไหนจริงๆจังๆมาตั้งแต่ตอนกอหญ้าลาออกจากที่นี่แล้วน่ะครับ คิดๆไปแล้วตอนนั้นผมยังคิดว่านายสิงห์จะแต่งงานกับกอหญ้าเลยครับ และก็คิดว่านายสิงห์คงจะรอกอหญ้ากลับมาเพื่อแต่งงานกันซะอีกแต่กลับแต่งงานกับใบข้าวไปซะอย่างนั้น -- ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น "
" ไม่เป็นไรค่ะ คุณวิทย์ " ใบข้าวยิ้มกลบเกลื่อน " แล้วคนชื่อกอหญ้าเค้าไม่กลับแล้วเหรอคะ "
วิทย์นิ่งไป " ผมคิดว่าเธอคงไม่กลับแล้วล่ะครับนี่ก็สามปีกว่าแล้ว นายสิงห์ช่วงแรกๆก็เฮิร์ทหนักเหมือนกันครับที่กอหญ้าไม่ติดต่อกลับมา แต่ว่าระยะหลังมาคงทำใจได้แล้วล่ะครับ "
" ค่ะ " ใบข้าวรับคำเสียงหงอย
" แต่โชคดีนะครับที่กอหญ้าเขาลาออกไปก่อนที่อ้ายมูลจะเสีย ไม่งั้นเธอคงเสียใจมาก สองคนนั้นเค้าสนิทกันน่ะครับ " วิทย์เสริมเมื่อเห็นสีหน้าฉงนของใบข้าว " สนิทจนถูกเข้าใจผิด สองคนนั้นเค้านับถือเป็นพี่เป็นน้องกัน กอหญ้าเป็นพี่สาวที่น่ารักสำหรับอ้ายมูลน่ะครับ " วิทย์ถอนหายใจ " ผมเองก็เสียใจกับเรื่องของอ้ายมูลเหมือนกัน ใครจะไปคิดว่าอ้ายมูลคนที่ไม่กินเหล้าคนนั้นจะตายเพราะกินเหล้าแล้วจมน้ำตาย "
" สงสารก็แต่ยายเยื้อนนะคะ " ใบข้าวพูด วิทย์พยักหน้ารับ " จริงสิ ข้าวถามอะไรคุณวิทย์ได้มั้ยคะ คือปกติอ้ายมูลใส่นาฬิกาหรือเปล่าคะ "
วิทย์เป็นฝ่ายทำหน้าฉงนใส่ใบข้าวบ้าง " ไม่ใส่นะครับ รายนั้นบอกว่ามันเกะกะตอนเวลาทำงาน -- มีอะไรหรือเปล่าครับ ใบข้าว "
" ไม่มีค่ะ " ใบข้าวยิ้ม " เดี๋ยวใบข้าวต้องเข้าไปที่บ้านใหญ่ คุณวิทย์จะฝากเอกสารพวกนี้ให้พี่สิงห์เลยมั้ยคะ "
วิทย์ทำท่าลังเลตอนนั้นเองที่มือถือของเขาดัง " แป๊บนึงนะครับ " วิทย์ลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์เดินห่างจากใบข้าวไปไม่ไกล
" ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวจัดการให้ "
ใบข้าวยืนรอวิทย์คุยโทรศัพท์เสร็จเขาเดินกลับมาที่เธอ " ถ้าอย่างนั้นผมฝากด้วยนะครับ ใบข้าว -- พอดีผมมีธุระต้องไปทำ "
" ยินดีค่ะ ว่าแต่จะออกไปข้างนอกเหรอคะ คุณวิทย์ " ใบข้าวถามน้ำเสียงเรื่อยๆ วิทย์พยักหน้า
" ผมไปนะครับ "
" ค่ะ "
ใบข้าวเดินกลับออกมาจากแปลงสตรอว์เบอร์รีพร้อมกับแฟ้มเอกสารที่วิทย์ฝากไว้ตอนนั้นเองที่เธอได้ยินเสียงบทสนทนาระหว่างคนสองคน
" มึงพูดจริงป่ะเนี่ย ไอ้ขิ่น " มะอึกถามเสียงเกือบดังแต่ถูกยะขิ่นเอามือปิดปากไว้
" เบาสิวะ ไอ้มะอึก เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้ากูก็ซวยตายห่าพอดี " ยะขิ่นคำรามใส่ มะอึกพยักหน้าหงึกหงัก ยะขิ่นถึงปล่อยมือออก
" แล้วยังไงวะ ทำไมเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ไอ้ขิ่น " มะอึกถามเสียงเบาลง " แล้วทำไมมึงถึงพึ่งมาบอก! " สีหน้าของอีกฝ่ายถมึงทึงมองเพื่อนสนิทอย่างไม่เชื่อสายตา
" กูไม่รู้จะพูดยังไง กูก็ไม่คิดว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้ " ยะขิ่นตอบอย่างขวัญเสีย
" แล้วมึงไปพูดกับมันยังว่าทำแบบนี้คนอื่นเค้าเดือดร้อนนะเว้ย มึงก็เห็นว่าบ้านใหญ่เกือบแตก นายสิงห์กับใบข้าวต้องผิดใจกันอ่ะ " มะอึกว่า
" กูบอกแล้วว่ากูจะรับผิดชอบลูกในท้องมันเอง กูเป็นคนทำนังมะลิมันท้อง แต่มันบอกว่ากูว่ากูไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น มันจะดูแลตัวเองแต่ใครจะไปคิดวะว่ามันจะให้นายสิงห์รับเป็นพ่อเด็กในท้องอะ "
" ที่พูดมาจริงเหรอ ยะขิ่น มะอึก " ใบข้าวเดินโผล่ออกมากลางวงสนทนาทำเอายะขิ่นกับมะอึกตกใจหน้าเหวอ
" ใบข้าว!! "
***
" จะไปงานวัดกับไอ้โต้ง!? " ป้าเปรี้ยวทวนคำเสียงแหลมใส่ลูกสาว สีหน้าของคนเป็นแม่ถมึงทึง
" ให้ฉันไปเถอะนะ แม่ นานๆทีจะมีงานวัดมาจัดแถวนี้ซักที " หวานว่า
" ไอ้งานวัดแถวๆนี้ที่แกว่ามันอยู่ห่างจากที่นี่ไปตั้งสามกิโลเลยนะเว้ย นังหวาน แล้วแกจะไปกับไอ้โต้งสองต่อสองเนี่ยนะ แม่ไม่ให้ไปหรอก "
" โถ่ แม่! ใครว่าจะไปกันสองต่อสองกันเล่า ไร่นู้นเค้าก็ไปกันเยอะแยะทั้งจัน แก้ว พี่โต้ง ม่อน จ้อน ยักษ์ ทางนี้ก็ไม่ใช่แค่ฉัน ยังมีคำแปง พี่ขิ่นกับพี่มะอึกไปด้วย เห็นมั้ยว่าไม่ได้ไปสองต่อสอง ให้ฉันไปเถอะนะ แม่นะ " หวานส่งเสียงอ้อนป้าเปรี้ยวคนเป็นแม่ ใบข้าวที่เดินเข้ามาเห็นอาการหวานอ้อนป้าเปรี้ยวเลยเอ่ยถาม
" หวานอ้อนป้าเปรี้ยวขอไปเดทกับโต้งอยู่เหรอ " เธอแซวยิ้มๆรู้ดีว่าหวานกำลังกิ๊กอยู่คนงานชายที่ไร่จิรประชาภาหวานหน้าแดง
" คุณใบข้าวอย่าแซวสิคะ เดี๋ยวแม่ก็ไม่ให้หวานไปกันพอดี "
" แล้วหวานจะไปไหนล่ะ ฉันจะได้ช่วยขอป้าเปรี้ยวให้ " ใบข้าวว่า หวานทำตาลุกวาวเล่าเรื่องงานวัดให้ใบข้าวฟังคนไม่เคยไปงานวัดมาก่อนทำตาลุกวาวพอๆกับหวานก่อนจะหันไปบอกป้าเปรี้ยว
" ให้หวานไปเถอะค่ะ ป้าเปรี้ยว ข้าวก็จะตามไปด้วยเดี๋ยวจะช่วยดูแลหวานให้อย่างดีที่สุดเลยค่ะ รับรองว่าโต้งจะไม่มีวันได้แตะต้องหวานแน่นอน " ใบข้าวพูดด้วยท่าทีจริงจังทำเอาป้าเปรี้ยวพ่นลมฮึออกมา
" คุณใบข้าวเองก็อยากไปเที่ยวด้วยล่ะสิ ถึงได้พูดมาแบบนี้ "
" แหมรู้ทันเสียแล้ว " ใบข้าวยิ้มกว้าง " แต่อนุญาตใช่มั้ยคะ " ใบข้าวส่งสายตาอ้อนวอนถามป้าเปรี้ยวโดยไม่ทันระวังข้างหลังตัวเอง ตอนที่ถูกกอดก็ดิ้นหนีไม่ทันซะแล้ว
" หวานต้องให้ป้าเปรี้ยวอนุญาต ส่วนข้าวต้องให้พี่อนุญาตเท่านั้นนะ " สิงหากดจมูกจมมิดลงบนแก้มเนียนที่หอมกลิ่นแป้งเด็กของใบข้าว ทำเอาป้าเปรี้ยวกับหวานที่อยู่ตรงนั้นด้วยออกอาการเขินแทน " อรุณสวัสดิ์ครับ ที่รัก "
" พี่สิงห์!! " ใบข้าวร้องอย่างตกใจรีบจับแก้มตัวเองที่ตอนนี้ร้อนแดงไปหมด อยู่ๆก็ถูกจู่โจมแบบนี้ทำเอาเธอตั้งตัวไม่ติด แถมมาเรียกว่าที่รักอีกคงเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืนแน่ๆ " นี่มันต่อหน้าป้าเปรี้ยวกับหวานนะ "
" ไม่ถือค่ะ!! " หวานรีบพูด
" เห็นมั้ย ไม่มีใครเค้าถือหรอก " สิงหาหันไปพยักหน้าเป็นเชิงให้สองแม่ลูกออกไปข้างนอก ป้าเปรี้ยวกับหวานรีบออกไปทันที
" เดี๋ยวสิคะ ป้าเปรี้ยว หวาน แล้วอาหารเช้าล่ะ " ใบข้าวร้องแล้วไปโวยใส่สิงหา " ทำอะไรน่ะ พี่สิงห์ให้ป้าเปรี้ยวกับหวานออกไปแบบนั้นแล้วใครจะทำอาหารเช้าล่ะ "
" ก็ที่รักไงครับ " สิงหาตอบหน้าซื่อทำตาใสใส่ " แล้ววันนี้จะทำอาหารเช้าอะไรให้สามีทานเหรอครับ คุณภรรยา "
" ไม่รู้! ถ้าอยากกินก็ไปถามเมียที่ตั้งท้องดูสิ ปล่อยนะ! " ใบข้าวพยายามดันสิงหาออกแต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งกอดรัดเธอแน่นขึ้น " พี่สิงห์!! "
" ยิ่งดิ้นพี่ก็ยิ่งกอดแน่นขึ้นนะ ใบข้าว " สิงหาพูดเสียงทุ้มลึกเจือความอ่อนหวานอยู่ในที และกอดของเขาก็ไม่ได้แน่นอย่างที่เจ้าตัวพูดใบข้าวรู้สึกว่าอ้อมแขนของสิงหากอดเธอไว้ด้วยความอ่อนโยน เธอถึงยอมยืนให้เขากอด
" ทำแบบนี้ทำไมกัน คนที่พี่ควรดูแลเอาใจใส่ต้องเป็นมะลินะ คืนก่อนก็ยังอยากให้มะลิป้อนเบียร์ให้อยู่เลยนิ " ใบข้าวหันไปมองหน้าสิงหาแววตาตัดพ้อสะท้อนออกมา เธอยังเคืองเรื่องเมื่อคืนที่สิงหาให้มะลิเข้ามาในบ้านพัก สิงหาโน้มใบหน้าลงมาจนหน้าผากแนบติดกับหน้าผากของใบข้าว
" คืนก่อนพี่ไม่รู้ว่ามะลิเข้ามาได้ยังไง พี่ขอโทษที่ทำให้โกรธ พี่ไม่ได้สนใจเค้าอีกแล้วนะคนที่พี่จะดูแลมีแค่คนที่พี่แต่งงานด้วยนะ ใบข้าว " สิงหาว่าสบลึกลงไปในดวงตาของเธอ " ใจคอจะยังโกรธกันไปแบบนี้ ไม่ยอมพูดจากันไปแบบนี้ไปตลอดเลยเหรอ ใบข้าว " เขาถาม
" ยังไงสักวันเราก็ต้องกลายเป็นคนไกลกันอยู่ดี " ใบข้าวเบือนหน้าหนีดวงตาของสิงหาแต่เขากลับจับแขนเธอแล้วให้เธอหันกลับมามองเขา สิงหาโอบเอวเธอไว้
" พี่ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นหรอกนะ "
ใบข้าวเม้มปากแน่นไม่รู้ว่าที่สิงหาพูดมาจากความรู้สึกของเขาจริงๆหรือเปล่า
" อ้าว! คุณสิงห์ทำไมมาอยู่ในครัวนี่ได้ล่ะคะ " บุหลันร้องทัก
" คุณน้าช่วยผมหน่อยสิครับ น้องงอแงอะ ผมต้องทำยังไง " ใบข้าวถลึงตาใส่คนขี้ฟ้องที่ชิงฟ้องก่อนทั้งๆที่ตัวเขาเองทำผิดกับเธอแท้ๆ
" ข้าวไม่ได้งอแงนะคะ คุณน้า -- พี่สิงห์ต่างหากล่ะคะที่ -- " ใบข้าวเม้มปากแน่นไม่กล้าพูดต่อ แก้มของเธอแดงจัดจนไปถึงใบหู ท่าทางแบบนั้นคนอาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างบุหลันได้แต่อมยิ้ม อาการหยอกเย้าแหย่ของทั้งคู่ทำให้มะลิที่เดินเข้ามากระแอมเรียกให้หันกลับมามองเธอ
" มาทำไม " สิงหาถาม ใบข้าวจับแขนของสิงหาไว้พลางส่งสายตาเป็นเชิงห้าม " ผมออกไปรอที่โต๊ะกับพ่อนะครับ" สิงหาเดินผ่านมะลิออกไปข้างนอก มะลิได้แต่มองตาม
" มีอะไรหรือ มะลิ มาแต่เช้าเชียว " บุหลันถามไม่ได้มองอีกฝ่าย
" มะลิมาช่วยนายแม่ทำอาหารเช้าน่ะค่ะ " มะลิเดินเข้ามาในครัว " ใบข้าวมีอะไรให้มะลิช่วยมั้ยจ๊ะ "
ใบข้าวอยากตอบไปใจจะขาดว่าช่วยไปไกลๆ แต่บุหลันช่วยตอบกลับไปให้แทน " ไม่เป็นไรหรอก ในนี้มันแคบอยู่หลายคนมันอึดอัด "
มะลิหน้าเสีย ทีแรกใบข้าวคิดจะสงสารแต่พอนึกถึงสิ่งที่อีกฝ่ายเธอก็โยนความสงสารของเธอทิ้งไป
" เมื่อกี้น้าได้ยินว่าหนูใบข้าวจะไปงานวัดกับหวานเหรอจ๊ะ " บุหลันถาม
" ใช่ค่ะ ข้าวไม่เคยไปเที่ยวงานวัดเลย คุณน้าอนุญาตให้ไปมั้ยคะ " ใบข้าวเอ่ยถามด้วยสีหน้าอ้อนวอน บุหลันมองเลยไปที่สิงหา
" นู้นแน่ะ ผู้ปกครองเรา ทำไมไม่ถามพี่เค้าดูล่ะจ๊ะว่าอนุญาตมั้ย " บุหลันส่งต่อให้สิงหา ใบข้าวหันกลับไปมองสีหน้ายิ้มๆของอีกฝ่ายก่อนจะหันกลับมาที่บุหลัน " ขอคุณน้าหรือคุณพ่อก็เหมือนกันใช่มั้ยคะ " เธอหันไปทำตาปริบๆใส่ตุลา
" แน่ะ กลัวพี่เค้าจะไม่ให้ไปงั้นสิถึงได้หันมาอ้อนพ่อกับอ้อนน้าน่ะ " ตุลาว่า " สิงห์ว่าไงล่ะ อนุญาตให้น้องไปได้มั้ย"
" ก็ถ้าวันนี้ยิ้มหวานๆ เรียกพี่สิงห์อย่างนั้นพี่สิงห์อย่างนี้ ผมก็ยอมครับ " สิงหาพูดส่งสายตาล้อเลียนใบข้าวที่ย่นจมูกใส่
" พี่เค้าบอกแบบนี้ ถ้าอยากไปก็ต้องยอมแล้วนะจ๊ะ หนูใบข้าว " บุหลันแซวยิ้มทำเอาใบข้าวได้แต่ยิ้มเขินๆ
" มะลิขอไปด้วยได้มั้ยคะ นายสิงห์ " มะลิแทรกกลางบทสนทนาขึ้นมา เธอเอามือลูบท้องตัวเอง " ลูกของเราก็อยากไปด้วยนะคะ "
" ฉันว่าอย่าเลยดีกว่านะ มะลิ กำลังท้องกำลังไส้ยิ่งท้องอ่อนๆอยู่แบบนี้ยิ่งต้องระวัง " บุหลันเอ่ย
" นั่นสิ เกิดเป็นอะไรขึ้นมา เธอจะเอาอะไรมาต่อรองล่ะ มะลิ " ตุลาว่าเสียงขรึมทำเอามะลิอ้าปากค้างน้อยๆเหมือนปลาถูกทุบ
" ผมอิ่มแล้วครับ จะเข้าไร่พร้อมกันเลยมั้ย ใบข้าว " สิงหาหันมาถาม ใบข้าวส่ายหน้า
" พี่สิงห์ไปก่อนได้เลยค่ะ เดี๋ยวข้าวช่วยคุณน้าเก็บชามล้างก่อน "
" ไม่เป็นไร หนูใบข้าว เดี๋ยวทางนี้น้ากับป้าเปรี้ยวช่วยกันจัดการเอง ถ้าอิ่มแล้วก็เข้าไร่ไปพร้อมกับพี่เค้าเลย "
ใบข้าวพยักหน้ารับ " ขอบคุณค่ะ คุณน้า ข้าวไปก่อนนะคะ " ใบข้าวลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินออกไปข้างนอกพร้อมกับสิงหา
" นั่งสิ เดี๋ยวพี่ช่วยผูกเชือกรองเท้าให้ " สิงหาว่า ใบข้าวทำหน้าฉงน
" ไม่ต้องหรอก ข้าวผูกเองได้ " ใบข้าวบอกปัดหยิบรองเท้ามานั่งใส่
" มานี่พี่ทำให้ " สิงหาย่อตัวลงนั่งระดับเดียวกับใบข้าวแล้วผูกเชือกรองเท้า " พี่อยากผูกเชือกรองเท้าให้แค่ใบข้าวกับลูกสาวของเรา "
ใบข้าวเม้มปากแน่นพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา " ทำแบบนี้คิดว่าข้าวจะหายโกรธเหรอ " เธอปัดมือของสิงหาออก สิงหายกคิ้วสูงมองก่อนจะยิ้ม
" ก็ไม่คิดว่าจะหายโกรธได้ทันที แต่แค่พูดกับพี่ๆก็ดีใจแล้ว " เขาผูกเชือกรองเท้าให้เธอต่อจนเสร็จ " ไปทำงานกันเถอะ " สิงหายื่นมือให้เธอจับ
" ใบข้าว " มะลิเรียก ทั้งใบข้าวและสิงหาหันกลับไปมอง มะลิเองก็มองมือของสิงหาที่จับมือของใบข้าวเอาไว้ " นายสิงห์ มะลิขอคุยกับใบข้าวหน่อยได้มั้ยคะ " มะลิมองอย่างอ้อนวอน
" ถ้าจะคุยอะไรกับใบข้าวให้คุยต่อหน้าฉัน " สิงหาว่า
" ไม่เป็นไรค่ะ พี่สิงห์ -- ข้าวก็อยากคุยกับมะลิเหมือนกัน " ใบข้าวมองมะลิกลับด้วยสายตาเย็นชา สิงหาลังเลแต่พอเห็นสีหน้าจริงจังของใบข้าวเขาถึงยอมปล่อยให้เธอคุยกับมะลิ
ใบข้าวเดินนำมะลิไปที่สนามหญ้าหน้าบ้าน " มีอะไรก็พูดมาเถอะ " ใบข้าวเป็นคนพูดก่อน สีหน้าของมะลิดูเศร้าหมองแต่ใบข้าวกลับไม่สนใจเพราะพึ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้เดี๋ยวนี้เองว่ามันเป็นแค่ฉากหน้าของผู้หญิงคนนี้ " และอยู่ต่อหน้าฉันก็เลิกตีหน้าสองหน้าได้ล่ะ มะลิ "
มะลิที่ทำหน้าเศร้าอยู่ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มที่ไม่มีความหมาย " ในเมื่อรู้แล้วว่าฉันต้องการอะไร ก็ช่วยหลีกทางให้ฉันทีซิ ใบข้าว " มะลิค่อยๆย่างเท้าเดินเข้าไปหาใบข้าวพลางลูบท้องตัวเองไปด้วย " ถือว่าสงสารเด็กในท้องเถอะนะ เขาต้องการพ่อ เธอคงจะไม่ใจไม้ไส้ระกำกับเด็กหรอกนะ " มะลิยิ้มเศร้า
ใบข้าวผุดยิ้มที่มุมปาก " ฉันเป็นคนรักเด็กน่ะ แล้วก็อดทนเก่ง ~ ฉันรอให้เด็กในท้องเธอคลอดก่อนแล้วค่อยจับตรวจดีเอ็นเอก็ได้ถึงตอนนั้นก็คงรู้แล้วล่ะว่าเด็กในท้องใช่ลูกของพี่สิงห์มั้ย " ใบข้าวมองใบหน้าซีดเซียวของมะลิ " อ้าว อย่าพึ่งหน้าซีดไปก่อนสิ มะลิ ยังมีเวลาอีกตั้งหกเดือนกว่าเธอก็พยายามทำให้พี่สิงห์เห็นใจหน่อยแล้วกันนะ เผื่อตอนเธอคลอดลูกออกมาพี่สิงห์จะเห็นใจรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม แต่คงยากหน่อยล่ะ เพราะตอนนี้พี่สิงห์เค้าหลงฉันม๊ากมาก ทำอะไรก็ระวังหน่อยล่ะ มะลิ " ใบข้าวเหยียดยิ้มเย็นทิ้งท้ายก่อนจะเดินกลับเข้าไปในไร่ไม่สนใจมะลิอีก
**********
สวัสดีค่า รี้ดที่น่ารักทุกคน
ไรท์มาอัพพี่สิงห์กับน้องข้าวให้กันต่อเนื่องล่ะนะ ^^ หลังจากรู้แล้วว่าใบข้าวเป็นคู่หมั้นกับภูผา พี่สิงห์ก็ดูจะไม่สนใจกลับยิ่งรุกหนักขึ้น เอ๊ะๆที่ทำแบบนี้เพราะรู้สึกจริงๆหรือแค่ต้องการเอาคืนภูผาน้า … แล้วความจริงเรื่องลูกของมะลิจะถูกจัดการยังไง รอติดตามกันในตอนต่อไปนะคะ
ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกการติดตาม ทุกการรอคอย และทุกข้อความของทุกคนมากๆนะคะ
แล้วเจอกันค่ะ