ซ่อนลิขิตรัก บทที่ 21
" ใบข้าวล่ะครับ คุณน้า " สิงหาถามหาใบข้าวกับบุหลันหลังไม่เห็นเจ้าตัวอยู่ที่โต๊ะอาหารเช้า " เข้าไร่ไปแล้วเหรอครับ -- อรุณสวัสดิ์ครับ พ่อ " ประโยคหลังเขาทักทายตุลาที่กำลังดื่มกาแฟอยู่
" หนูใบข้าวเข้าไร่ไปแล้วค่ะ เห็นว่าจะไปดูต้นสาลี่สักหน่อย " บุหลันตอบ
" อ่อครับ "
สถานการณ์ในบ้านเรืองกิจเกษมกลับสู่ภาวะปกติ สิงหาเข้าไปขอโทษตุลากับบุหลันที่ทำให้เดือดเนื้อร้อนใจ ในขณะที่ทั้งสองก็ปลอบโยนสิงหาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
" เป็นลูกผู้ชายกล้าทำต้องกล้ารับนะ สิงห์ " ตุลาเอ่ย
" ผมเข้าใจที่พ่อสอนนะครับ ผมยอมรับว่าวันนั้นผมเมามากและอาจจะขาดสติจนเผลอทำอะไรแบบนั้นลงไป แต่-- ผมกล้าพูดว่าผมไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นอีกเลยจนถึงตอนที่เธอมาบอกว่าท้องกับผม " สิงหาบอกสีหน้าเคร่งเครียด
" คงต้องรอให้คลอดก่อนแล้วพิสูจน์ดีเอ็นเอนั่นแหละ " ตุลาว่า
" ต้องรอนานขนาดนั้น แล้วหนูใบข้าวจะรู้สึกยังไงคะ คุณตุลา " บุหลันแย้ง คำพูดของเธอไม่มีใครตอบอะไรได้
" ผมจะพิสูจน์ให้ได้ว่าเด็กในท้องนั่นไม่ใช่ลูกผม "
" สิงห์ ลูกคิดยังไงกับหนูใบข้าว " ตุลาถามเสียงขรึม สายตาพินิจดูท่าทีของลูกชาย
" ตอนแรกผมกับใบข้าวเราแต่งงานกันเพราะสถานการณ์บังคับ แต่พออยู่มาเรื่อยๆด้วยกันแบบนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าถ้าวันนึงผมต้องเสียเธอไป ผมจะทนได้มั้ย "
" ถ้าลูกรู้สึกแบบนั้น ลูกต้องให้ความเชื่อมั่นนะว่าหนูใบข้าวเค้าจะสามารถฝากชีวิตไว้กับลูกได้น่ะ สิงห์ " ตุลาเอ่ย สิงหารับคำพ่อหนักแน่น
" ครับพ่อ "
ตอนที่พวกเขากำลังรออาหารเช้าขึ้นโต๊ะมะลิก็เดินเข้ามาพร้อมกับปิ่นโตอาหาร
" อรุณสวัสดิ์ค่ะ นายใหญ่ นายแม่ " มะลิยกมือไหว้พลางยิ้มแย้มทักทายตุลากับบุหลันที่ทั้งสองรับไหว้อย่างเสียไม่ได้ บุหลันไม่อยากพูดด้วยเลยเดินกลับเข้าไปในครัว
" พอดีมะลิไปขอยืมครัวป้าขวัญทำอาหารเช้ามาให้นายใหญ่กับนายแม่ทานน่ะค่ะ " มะลิยืนกระมิดกระเมี้ยน " เป็นข้าวต้มหมูสับค่ะ เมื่อเช้ามะลิแพ้ท้องอยากทานอะไรร้อนๆ คิดว่าลูกคงอยากทาน " มะลิลูบท้องตัวเองแล้วยิ้มอายๆออกมา
" นั่งสิ " ตุลาว่า มะลิรีบเดินเข้ามาที่โต๊ะจะมานั่งข้างๆสิงหา
" ตรงนั้นที่ใบข้าว เธอห้ามนั่ง " สิงหาสั่ง สีหน้าเย็นชา มะลิหน้าเจื่อนลง
" หาที่นั่งสิ มะลิ " บุหลันเดินเข้ามาที่โต๊ะบอกน้ำเสียงเรียบพลางวางจานอาหารเช้าลงตรงหน้าสิงหา มีป้าเปรี้ยวถือจานของตุลากับบุหลันออกมาวาง
สิงหามองจานอาหารตัวเองด้วยสีหน้าประหลาดใจ ที่วันนี้เป็นคลับแซนวิชปกติแล้วอาหารเช้าของบ้านเรืองกิจเกษมจะเป็นอาหารไทยซะส่วนมาก
" หนูใบข้าวเป็นคนทำค่ะ " บุหลันยิ้ม " เป็นคนขอว่าจะทำอาหารเช้าเองเลยนะคะ "
" น่าตาน่าทานเชียว นานๆ ทานอาหารเช้าแบบฝรั่งก็ดีเหมือนกันนะ คุณบุ " ตุลาว่า บุหลันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
" แล้วข้าวต้ม นายใหญ่ นายแม่จะทานเลยมั้ยคะ เดี๋ยวมะลิ ไปใส่ชามมาให้ค่ะ " มะลิพูด
" อ่อ โทษทีนะ มะลิ -- เช้านี้มีอาหารแล้วน่ะ " บุหลันว่า " ขอบใจที่ทำมาให้ แต่ถ้าเธอกับลูกอยากทานก็หยิบชามในครัวมาใช้ได้นะ " บุหลันยิ้มอ่อนมะลิพยักหน้ารับกำลังจะเดินไปที่ครัว
" อาหารเช้าของผมให้ป้าเปรี้ยวใส่กล่องไปส่งที่ออฟฟิศผมหน่อยนะครับ คุณน้า -- ผมจะเข้าไปดูแปลงต้นสาลี่ " สิงหาลุกขึ้นยืนยกมือไหว้ตุลากับบุหลันโดยไม่มองมะลิเลย
" เอ้า งั้นเราก็ทานกันเลยนะ คุณบุ " ตุลาลงมือทานอาหารเช้าพร้อมกับบุหลันโดยไม่ได้สนใจมะลิที่เดินถือปิ่นโตของตัวเองเข้าไปในครัว
ขณะเดียวกันคนถูกถามถึงเข้าไร่มาแต่เช้า ใบข้าวเดินไปสำรวจแปลงต้นสาลี่ที่เธอเคยลงกล้าปลูกไว้ดูเหมือนว่าต้นของมันสูงขึ้นกว่าครั้งแรกซะอีก ใบข้าวยิ้มออกมานึกขำตัวเองในวันนั้นที่ลงกล้าปลูกแบบไม่เต็มใจแนวต้นสาลี่เฉไปเฉมาไม่เป็นระเบียบแถมเกือบทำให้กล้าของสาลี่ที่ได้มาเสียหายอีก สิงหาโมโหเธอมากจนสั่งให้เธอรื้อแล้วทำใหม่พอคิดถึงตรงนี้แล้วรอยยิ้มของใบข้าวก็พลันเลือนหายไปจากใบหน้ารู้สึกอีกทีเหมือนว่าดวงตาจะเปื้อนน้ำอีกครั้ง
ใบข้าวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ทำไมเธอถึงรู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องที่สิงหาเป็นพ่อของเด็กในท้องมะลิ ทำไมเธอถึงโกรธสิงหาที่เขาโกหกเธอว่าเรื่องระหว่างเขากับมะลิจบลงไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้หัวใจของเธอเจ็บร้าวไปหมด
" อ้าว คุณใบข้าว มายืนทำอะไรตรงนี้คะ " ใจแม่ของน้ำแข็งเดินมาพอดี เธอร้องถามใบข้าว " เอ๊ะ! หรือว่าไอ้น้ำแข็งมันไปก่อเรื่องอีกใช่มั้ยคะ คราวนี้มันไปทำอะไรอีกคะ คุณ "
ใบข้าวส่ายหัว " น้ำแข็งไม่ได้ทำอะไรค่ะ น้าใจ -- ข้าวแค่มาดูว่าต้นสาลี่เป็นยังไงบ้างเท่านั้นเองค่ะ "
ใจถอนหายใจโล่งอก " แล้วไป นึกว่ามันไปก่อเรื่องอีกแล้ว "
" ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ แต่หลังนี้ต้องลุ้นเอา " ใบข้าวแซวยิ้มๆ ใจขำรวน
" จริงค่ะ ไอ้ลูกคนนี้ก็เหลือเกิน ซนจนป่วนคนอื่นไปหมด " ใจว่า ก่อนจะช่วยใบข้าวถอนวัชพืช " น้าขอบคุณๆใบข้าวมากเลยนะคะที่ลงไปช่วยไอ้น้ำแข็งมัน " ใจเอ่ยด้วยสีหน้าซาบซึ้ง " ถ้าไม่ได้คุณลงไปช่วยป่านนี้เจ้าลูกชายตัวดีของน้าคงเป็นผีเฝ้าสระบัวไปแล้ว อีกอย่างน้าก็ต้องขอโทษคุณใบข้าวด้วยนะคะที่ก่อนหน้านี้ทำไม่ดีกับคุณ ทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณเลยแต่กลับไปเชื่อคำคนอื่นก่อนที่จะทำความรู้จักกับคุณ น้าละอายใจเหลือเกินค่ะ " ใจพูดด้วยดวงตารื้นน้ำ
" อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะ น้าใจ -- ตอนนี้น้ำแข็งก็ปลอดภัยแล้ว เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปไม่ต้องคิดมากนะคะ ข้าวไม่ได้คิดอะไรแล้ว " ใบข้าวยิ้มกว้าง ใจยิ้มตามก่อนจะชวนกันคุยเรื่องทั่วไป
" แหม แรกๆคุณใบข้าวนี่ดูร้ายกาจไม่เบาเลยนะคะ ในไร่นี้ไม่มีใครกล้างัดข้อกับนายสิงห์เลยสักคนมีก็แต่คุณคนเดียวนี่แหละ -- ดูตอนนี้สิคะ ใครจะรู้ว่าจะมาลงเอยกับนายสิงห์ได้ จะว่าไปคุณกับนายสิงห์ก็สมกันนะคะ " ใจพูดไปเรื่อย
" ไม่หรอกค่ะ " ใบข้าวยิ้มฝืนๆออกมา ใจเห็นสีหน้าเศร้าๆของใบข้าวก็เอ่ยขึ้น
" น้าเห็นใจคุณนะคะ เรื่องนังมะลิที่มัน -- " ใจไม่กล้าพูดต่อใบข้าวพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้ใจพูดต่อ " เรื่องที่นังมะลิมันท้อง ส่วนตัวน้าคิดว่านายสิงห์ไม่ใช่คนที่จะไม่มีความรับผิดชอบแบบนั้นนะคะ น้าอยู่ที่นี่มานานรู้ว่านายสิงห์เป็นคนยังไง เรื่องงานในไร่กับคนงาน นายสิงห์เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย พูดคำไหนคำนั้น เรื่องความรับผิดชอบนายสิงห์เองก็ถือเป็นอันดับหนึ่ง -- เรื่องส่วนตัวก็อย่างที่รู้มาแหละค่ะ เที่ยวเล่นดื่มตามประสาคนหนุ่มยังโสด แต่เรื่องที่จะทำผู้หญิงท้องนี่น้าไม่คิดว่านายสิงห์จะปล่อยให้ตัวเองถูกผูกมัดแบบนี้หรอกนะคะ "
" ทำไมเหรอคะ นายสิงห์เองก็ออกไปนอนกับผู้หญิงข้างนอกเหมือนกันนิคะ จะแปลกอะไรถ้าเค้าจะนอนกับ -- " ใบข้าวไม่อยากเอ่ยชื่อมะลิออกมา " ถ้านายสิงห์จะนอนกับมะลิจนตั้งท้อง " สุดท้ายใบข้าวก็กลั้นใจพูดชื่อคนที่เธอเกลียดออกมาจนได้
" อุ๊ย! " ใจอุทานออกมาก่อนจะหันไปมองรอบๆไม่เห็นใครนอกจากตัวเองกับใบข้าวก็พูดด้วยเสียงที่เบาลง " เรื่องนั้นมันก็ใช่ค่ะ นายสิงห์เจ้าชู้ก็จริงแต่ว่าก็มีที่รักจริงอยู่คนนึงนะคะ "
" ใครเหรอคะ "
" ผู้หญิงคนนึงที่เคยทำงานในไร่นี้ค่ะ ปกตินายสิงห์ไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนงานหญิงต่อให้มีอ้ายอีที่ไหนมาเสนอตัว นายสิงห์ก็ไม่สนใจแต่ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่มาทำงานเป็นผู้ช่วย นายชอบผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เจอครั้งแรกเลยค่ะ "
คำตอบของใจทำเอาลมหายใจของใบข้าวติดขัด " ผู้หญิงคนนั้นเขาเป็นคนยังไงเหรอคะ " ใบข้าวถาม " แล้วชื่ออะไรเหรอคะ น้าใจ "
" เอ๋ ชื่ออะไรนะ "
ใบข้าวเม้มปากแน่นกลั้นใจรอคำตอบจากใจ
" รู้สึกจะชื่อกอหญ้านะคะ "
ใบข้าวเหมือนถูกมนตร์สะกด นิ่งฟังใจพูดถึงพี่สาวตัวเอง " คุณกอหญ้าเป็นคนสวยค่ะ หน้าหวานๆ ยิ้มสวยๆ น้าว่าผู้ชายคนไหนเห็นแล้วไม่ชอบต้องมีปัญหาที่สายตาแน่ค่ะ " ใจว่า " นายกับคุณกอหญ้าคบกัน นายรักคุณกอหญ้ามากเลยนะคะจนใครๆก็คิดว่านายต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้แน่ๆ แต่ว่า -- "
" แต่อะไรเหรอคะ น้าใจ " ใบข้าวถามสีหน้าตื่นเต้น แต่ใจไม่ทันได้สังเกตเลยตอบใบข้าว
" แต่ว่ามีคนงานในไร่เค้าลือกันค่ะว่าผู้หญิงคนนั้นแอบสวมเขาให้กับนายสิงห์ "
" ไม่จริงอ่ะ!! " ใบข้าวโพล่งออกมาจนใจตกใจ ใบข้าวรีบพูด " ข้าวหมายถึงว่าเรื่องแบบนี้คุณสิงห์ไม่น่าจะปล่อยให้เกิดขึ้นน่ะค่ะ แล้วคนงานในไร่เค้าลือว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้คบแค่นายสิงห์คนเดียวแต่ยังคบกับใครอีกคนเหรอคะ " ใบข้าวสะกดกลั้นความอยากรู้อยากเห็นเอาไว้ คนงานในปางไม้ของเมฆาพูดถูกเรื่องที่กอหญ้าพี่สาวเธอมาทำงานที่ไร่เรืองกิจเกษมแต่ไม่เคยบอกเลยว่าพี่สาวเธอเป็นคนรักของสิงหา แล้วดูเหมือนจากที่ฟังใจเล่าตอนนี้พี่สาวเธอกำลังเจอข้อหาคบซ้อน มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน
" ใช่ ก็คบซ้อนอยู่กับอ้ายมูลลูกชายของยายเยื้อนนั่นแหละ "
" ต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆค่ะ น้าใจ พี่กอ -- " ใบข้าวชะงักทันทีที่ใจมองเธอด้วยความสงสัย " ข้าวไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะกล้าทำเรื่องแบบนี้น่ะค่ะ แล้วทำไมทุกคนถึงคิดว่าพี่ เออคุณกอหญ้าคบคุณสิงห์แล้วก็อ้ายมูลลูกชายยายเยื้อนคะ "
" บอกตามตรงนะคะว่าน้าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เห็นแต่พูดๆกันว่าคุณกอหญ้าดูสนิทสนมกับอ้ายมูลมาก แถมยังมีคนเคยเห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันตามลำพังสองต่อสองตอนนายสิงห์ไม่อยู่ด้วยค่ะ "
" พอลือกันไปแบบนี้อ้ายมูลก็เลยโดนมองว่าจะเนรคุณเจ้านายเพราะยายเยื้อนแกก็ทำงานที่นี่มานานตั้งแต่สมัยนายใหญ่ดูแลไร่เอง ยายเยื้อนแกเลยไม่ชอบคุณกอหญ้าเพราะคิดว่ายั่วนายสิงห์ไม่พอยังมายั่วลูกชายแกให้เสียคนอีก "
" แต่ว่าทั้งสองคนก็ยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้มีอะไรกัน เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้นเพราะตอนนั้นคนที่ทำงานอยู่ในออฟฟิศไม่ใช่แค่คุณวิทย์คนเดียวแต่ยังมีคุณกอหญ้าแล้วก็อ้ายมูลที่เป็นคนสนิทของนายสิงห์ รองจากลุงเหมยทำงานอยู่ด้วยกันจะว่าไปแล้วสามคนนั้นเค้าก็สนิทกันอยู่เหมือนกัน อ้ายมูลจะพูดเก่งกว่าคุณวิทย์เลยชอบชวนคุณกอหญ้าที่เรียบร้อยคุยเล่นน่ะค่ะ -- นายสิงห์เองก็เชื่อใจอ้ายมูลกับคุณกอหญ้าเลยไม่ได้ติดใจเรื่องนี้ "
" จนกระทั่งคุณกอหญ้ามาขอลาออกจากที่นี่เพราะว่าต้องตามน้องสาวไปอยู่เมืองนอก ทีแรกนายสิงห์ไม่ยอมให้ไปตั้งใจจะแต่งงานกับเธอ แต่ได้ยินมาว่าคุณกอหญ้าปฏิเสธไม่ยอมแต่ง แต่ว่าจะกลับมาแต่งงานด้วยหลังจากที่น้องสาวตัวเองเรียนจบ "
ใบข้าวนิ่งฟังแทบลืมหายใจขณะที่ใจเล่า
" จากนั้นมาก็ไม่มีใครได้ข่าวของคุณกอหญ้าอีกเลยค่ะ นี่ก็จะสามปีได้แล้วนะคะที่เธอไม่กลับมาที่นี่อีกเลย "
" ไม่กลับมาเลยเหรอคะ แล้วคุณกอหญ้าไปเมืองนอกจริงๆใช่มั้ยคะ " ใบข้าวถาม ใจยกคิ้วสูงมอง
" ก็ต้องจริงสิคะ นายสิงห์เป็นคนไปส่งเองที่สนามบิน " ใจตอบ " และถ้าไม่ได้ไปก็ต้องกลับมาหานายสิงห์แล้วค่ะนี่เล่นหายไปสามปีไม่มีจดหมายหรือติดต่ออะไรกลับมาเลย ช่วงนั้นนายสิงห์เองก็ทำใจไม่ได้เอาแต่กินเหล้าลูกเดียวสงสัยว่าคงได้ผัวใหม่ที่เมืองฝรั่งแล้วล่ะคะ สงสารก็แต่นายสิงห์ที่ต้องนั่งรออยู่ฝ่ายเดียว "
ใบข้าวเม้มปากแน่นอยากจะพูดออกไปเหมือนกันว่าพี่สาวเธอไม่ได้มีสามีฝรั่งที่ไหนเลย แต่เธอก็ต้องเงียบไว้และก็ไม่คิดถือสากับความคิดของใจที่คิดออกมาแบบนั้น ถ้าเป็นเธอที่อยู่ทางนี้ก็คงคิดแบบนี้เหมือนกัน
และถ้าเป็นจริงตามที่ใจเล่ามาก็หมายความว่ากอหญ้าไม่ได้แต่งงานกับผู้ชายคนไหนตามที่คุณหญิงณัชชาแม่ของเธอบอก และก็ไม่ได้ไปเมืองนอกกับเธอตามที่คนทางนี้เข้าใจ ถ้าไม่ใช่ทั้งสองอย่างนี้ก็หมายความว่ากอหญ้าหายตัวไปที่สนามบินงั้นเหรอ ใบข้าวคิด เกิดอะไรขึ้นกับพี่กันแน่ พี่กอหญ้า!
ใบข้าวกัดปากเป็นเชิงคิดหลังจากที่ได้คุยกับใจแม่ของน้ำแข็งไปแล้วเธอก็ได้รู้เรื่องราวพี่สาวของเธอมากขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องที่พี่สาวเธอมาทำงานที่นี่แต่ยังมีเรื่องราวระหว่างพี่สาวเธอกับสิงหาอีก พวกเขาสองคนเป็นคนรักกันมาก่อนเรื่องนี้น่ะมันทำให้เธอช็อคกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดตอนนี้เลย
สิงหากับพี่กอหญ้าเป็นคนรักกันอย่างนั้นเหรอ พวกเขาคงจะรักกันมากสินะ พี่กอหญ้าถึงได้มีความสุขมากแบบนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเธอขอร้องให้พี่สาวตามไปอังกฤษกับเธอ กอหญ้าคงไม่ต้องมาหายตัวไปแบบนี้ เธอเองก็ไม่ต้องมาตามหากอหญ้าถึงไร่เรืองกิจเกษมนี่ ไม่ต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักเธอ มันควรจะเป็นพี่สาวเธอ กอหญ้าที่จะได้ใช้ชีวิตแต่งงานกับสิงหาอย่างมีความสุข พอคิดถึงตรงนี้น้ำตาของเธอก็ไหลออกมา ใบข้าวไม่แน่ใจว่าความรู้สึกของเธอตอนนี้จะเรียกว่าอะไร เสียใจที่เป็นคนทำให้กอหญ้าต้องพลัดพรากจากคนรัก หรือกำลังเกลียดตัวเองที่กำลังอิจฉาพี่สาวตัวเองที่ได้เป็นคนรักของสิงหากันแน่
ฮึก -- ฮึก
ใบข้าวยืนสะอึกสะอื้นอยู่ตามลำพังจนกระทั่งโยธินที่เข้ามาตรวจอาการยายเยื้อนทุกวันพุธเดินมาหาเธอ
" ใบข้าวมาทำอะไรตรงนี้ครับเนี่ย "
ใบข้าวรีบเช็ดน้ำตาตัวเองออกอย่างลวกๆ โยธินที่เห็นท่าทางแบบนั้นก็รีบเดินเข้าไปดูทันที
" ใบข้าว! ร้องไห้ทำไมครับ" เขาร้องถามอย่างตกใจ ใบข้าวที่ยิ่งเห็นท่าทีตื่นตระหนกของหมอโยก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม ตอนนี้เธอก็เหมือนเด็กเล็กๆที่วิ่งแล้วหกล้มพอพ่อแม่เข้ามาโอ๋ก็จะยิ่งร้องไห้มากกว่าเดิม
ใบข้าวปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้นความรู้สึกที่เก็บกักเอาไว้มานานก็ถูกปล่อยออกมาต่อหน้าโยธิน ใบข้าวนั่งเช็ดน้ำตาตัวเองที่ค่อยๆเบาบางลงหลังจากที่น้ำตาไหลเป็นทำนบแตกนานหลายนาที
" ดีขึ้นบ้างหรือยังครับ ใบข้าว " โยธินที่นั่งอยู่ด้วยรอจนใบข้าวหยุดร้อง เขาจึงถามด้วยสีหน้าอ่อนโยน ใบข้าวสูดน้ำมูกพลางขยี้จมูกตัวเองเบาๆก่อนจะพยักหน้า
" ขอบคุณหมอโยนะคะ ที่นั่งอยู่ดูใบข้าวร้องไห้เป็นเพื่อนน่ะค่ะ " คำพูดประชดประชันตัวเองของใบข้าวทำเอาโยธินหลุดหัวเราะออกมา
" ฮ่า ฮ่า ตลกจังครับ ใบข้าว เมื่อกี้ยังนั่งร้องไห้เป็นเผ่าเต่าอยู่เลย จู่ๆก็เปลี่ยนโหมดเล่นตลกซะแล้ว ฮ่า ฮ่า -- คุณนี่จี้ดีจัง " โยธินขำเป็นวรรคเป็นเวรจนใบข้าวอดหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้
" หมอโยเส้นตื้นเกินไปแล้วนะคะ "
" ก็มันอดขำไม่ได้นิครับ " โยธินยิ้มกว้าง ใบข้าวยิ้มตามทั้งๆที่ยังมีคราบน้ำตา " ดีขึ้นจริงๆแล้วใช่มั้ยครับ "
ใบข้าวพยักหน้ารับจากใจจริง " ขอบคุณอีกครั้งนะคะ หมอโย "
" ด้วยความยินดีครับ "
" ว่าแต่อาการวันนี้ของยายเยื้อนเป็นยังไงบ้างคะ แกมีโอกาสจะกลับมาเป็นปกติมั้ยคะ "
" ร่างกายแข็งแรงปกติดีครับ ส่วนเรื่องจิตใจต้องบำบัดอย่างจริงจังครับ พี่สิงห์เคยพยายามพาแกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วนะครับ แต่แกไม่ยอมอาละวาดซะจนใครก็เอาไม่อยู่ " โยธินว่า " ยายเยื้อนแกติดที่นี่มากไม่ยอมไปท่าเดียวเพราะคิดว่าถ้าแกไปจากที่นี่แล้วลูกชายแกกลับมาจะไม่เจอแกน่ะครับ "
" น่าสงสารจัง -- ที่อาการแกไม่ปกติแบบนี้ก็เพราะรู้ว่าอ้ายมูลลูกชายแกเสียใช่มั้ยคะ "
โยธินพยักหน้า " เหมือนจิตใต้สำนึกแกบอกว่าอ้ายมูลแค่ไปทำงานให้นายสิงห์เหมือนทุกครั้งแล้วเดี๋ยวเดียวก็กลับ แต่ความจริงคืออ้ายมูลจะไม่กลับมาหาแกอีกแล้ว เรื่องนี้พี่สิงห์ก็เสียใจมากไม่แพ้กันที่มาสูญเสียคนสนิทของตัวเองไปเลยพยายามดูแลยายเยื้อนให้ดีที่สุด "
" อ้ายมูลจมน้ำที่สระบัวท้ายไร่ตายใช่มั้ยคะ " ใบข้าวถามหลังจากได้ฟังเรื่องมาจากใจแม่ของน้ำแข็งมาบ้างแล้ว
" ครับ -- ใครจะไปคิดว่าผู้ชายที่แข็งแรงอย่างอ้ายมูลจะมาจมน้ำตายในสระบัวนั่น ตั้งแต่นั้นมาพี่สิงห์ก็สั่งห้ามทุกคนเข้าใกล้สระบัวเด็ดขาดคงกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยน่ะครับ "
" ทำไมผู้ชายแข็งแรงอย่างอ้ายมูลถึงจมน้ำตายได้คะ เกิดอุบัติเหตุเหรอคะ หมอโย "
" ครับ น้ำท่วมปอดทำให้ขาดอากาศหายใจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ชันสูตรว่าอย่างนั้น -- ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ในที่เกิดเหตุ มีแต่ขวดเหล้าขาวตกอยู่ที่ท่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเลยสันนิษฐานว่าที่อ้ายมูลตกน้ำอาจเป็นเพราะดื่มจนเมาเลยตกน้ำน่ะครับ " โยธินว่า " แต่ว่ามันก็ค่อนข้างเป็นเรื่องแปลกสำหรับทุกคนที่ได้ยินว่าอ้ายมูลดื่มเหล้าจนไม่ได้สติแบบนั้น "
" ทำไมเหรอคะ ปกติอ้ายมูลดื่มหรือเปล่าคะ "
" อ้ายมูลไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ ไม่แตะต้องของอบายมุขทุกอย่างเลยครับ เรียกว่าเป็นผู้ชายที่ยังช่วยเชิดหน้าชูตาให้ผู้ชายอย่างพวกผมได้เลยครับ " โยธินพูดยิ้มเศร้า " ใครหลายคนเลยไม่ค่อยจะเชื่อว่าอ้ายมูลจะตกน้ำตายเพราะดื่มเหล้า แต่ในเมื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ ชันสูตรศพแล้วไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าถูกทำร้าย ตำรวจเลยปิดคดีนี้ว่าเป็นอุบัติเหตุครับ "
" อ่อๆ " ใบข้าวรับคำ " ข้าวได้ยินคนในไร่คุยกันน่ะค่ะว่ามีคนเห็นผีสาวแถวสระบัว " ใบข้าวเอ่ย " ตามความเห็นของหมอโย หมอคิดยังไงกับเรื่องนี้คะ "
โยธินมองใบข้าวที่ตีหน้าซื่อถาม " ถามคนที่เชื่อวิทยาศาสตร์อย่างผมเนี่ยนะครับ ใบข้าว " ใบข้าวพยักหน้ารับโยธินพ่นลมฮึ " ผมก็ต้องไม่เชื่อสิครับ ผีสางหรือวิญญาณน่ะมีจริงที่ไหน ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สักหน่อย ผีสาวที่ทุกคนลือกันผมว่าอาจจะเป็นยายเยื้อนก็ได้นะครับ " โยธินว่าอย่างใช้ความคิด " ลูกชายแกตายที่นั่น แกอาจจะคิดถึงเลยออกมาหาที่สระตอนกลางคืนจนถูกเข้าใจผิดน่ะครับ "
" จริงด้วย หมอโย! " ใบข้าวยืนขึ้นพลางปรบมือให้โยธิน " ผีสาวที่ทุกคนเห็นตรงริมสระบัวต้องเป็นยายเยื้อนที่คิดถึงอ้ายมูลลูกชายแน่ๆ หมอโยนี่ฉลาดปราดเปรื่องจริงๆ " ใบข้าวชมเปาะโยธินพลางยิ้มกริ่ม ด้วยความที่ใบข้าวมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายสามคนทำให้เธอคุยกับโยธินถูกคออย่างรวดเร็วจนกระทั่งเลยเวลามาพอสมควร
" จะกลับเลยมั้ยคะ หรือว่าจะแวะไปหาคุณพ่อกับคุณน้าก่อนดี " ใบข้าวถามระหว่างที่เดินไปทางบ้านใหญ่
" แวะทักทายคุณอาทั้งสองก่อนครับ แต่ผมคงต้องขอตรวจอาการของใบข้าวก่อนครับ " โยธินว่ายิ้มๆ ใบข้าวยกคิ้วสูงขึ้นข้างหนึ่ง
" แต่ใบข้าวไม่เป็นอะไรนิคะ ทำไมต้องตรวจ " เธอทำหน้าสงสัย
" ต้องตรวจครับ ขอโทษนะครับ " โยธินพูดพลางยื่นมือไปจับที่แก้มของใบข้าว " ขอบตาแดงช้ำแบบนี้ ไม่ได้มาจากร้องไห้เมื่อกี้ มีเส้นเลือดฝอยในตา แก้มไม่มีเลือดฝาด อาการเหล่านี้มาจากการอดนอน -- ช่วงนี้นอนไม่หลับเหรอครับ ใบข้าว " โยธินถามเสียงนุ่ม มือของเขาจับแก้มของใบข้าวอย่างอ่อนโยน
" ไอ้หมอ! "
สิงหาเรียกแค่คำเดียวก่อนจะซัดหมัดใส่โยธินจนล้มไปที่พื้น ใบข้าวร้องอย่างตกใจรีบถลาเข้าไปห้ามสิงหาที่กำลังบวกอีกหมัดใส่โยธิน
" คุณสิงห์! พอได้แล้ว! " ใบข้าวเอาตัวเข้าไปขวางหน้าโยธินไว้ " อย่าทำอะไรหมอโยนะ คุณสิงห์! " ใบข้าวมองสิงหาอย่างขุ่นเคือง
" ถอยไปนะ ใบข้าว! ฉันจะอัดมันโทษฐานที่มันทำรุ่มร่ามใส่เธอ! " สิงหาแหวใส่พยายามจะเข้าไปหาโยธินที่ลุกขึ้นยืนเขาจับไปที่ปากของตัวเองมีเลือดไหลออกมา
" เดี๋ยวครับ พี่สิงห์ -- พี่กำลังเข้าใจผมผิดนะครับ " โยธินว่าพลางขยับปากตัวเองเพื่อทดสอบว่าขากรรไกรยังใช้งานได้ปกติอยู่มั้ย " ผมเห็นท่าทางใบข้าวไม่ค่อยสบายเลยจะแค่ดูอาการใบข้าวให้เท่านั้นเองครับ "
ประโยคท้ายของโยธินทำสิงหาเปลี่ยนท่าที " ไม่สบายตรงไหน ใบข้าว เจ็บตรงไหน ตัวร้อนมีไข้มั้ย " เขาเดินเข้าไปหาใบข้าวแล้วเอาหลังมือแตะไปที่หน้าผากของเธอ
" ฉันไม่เป็นอะไร " ใบข้าวปัดมือของสิงหาออกพลางถอยหลังหนีสิงหาที่ขยับเข้ามาใกล้
" ใบข้าว " สิงหาเห็นอาการรังเกียจของใบข้าวที่มีต่อเขาก็รู้สึกเจ็บร้าวที่หน้าอก ตั้งแต่มะลิเดินเข้ามาบอกท้องกับเขาก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมสำหรับเขากับใบข้าว เธอทำตัวห่างเหินใส่เขา ไม่เข้าใกล้เขาอีกเลย เธอขอร้องให้ตุลาและบุหลันอนุญาตให้เธอไปนอนห้องนอนแขกแทนที่จะนอนในห้องของเขา ใบข้าวไม่เรียกเขาว่าพี่สิงห์อีกแล้ว มีแต่คำพูดที่เย็นชาและไร้ความรู้สึก
" นายสิงห์คะ! " มะลิเดินเข้ามาข้างหลัง " มะลิไม่ค่อยสบายเลยค่ะ " มะลิยืนทอดสายตามองมาที่ใบข้าวเผยรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก
ใบข้าวมองกลับอีกฝ่ายด้วยสายตารังเกียจนึกชิงชังความใจดีของตัวเองตอนที่อีกฝ่ายพยายามจะผูกคอตาย ถ้ารู้ว่าอีกฝ่ายจะรอดมาเพื่อประกาศว่าเด็กในท้องเป็นลูกของสิงหา เธอก็นึกอยากย้อนเวลาให้มะลิผูกคอตายไปทั้งแบบนั้นนั่นแหละ
สิงหาทำเหมือนไม่ได้ยิน เขาเรียกชื่อใบข้าวพลางสืบเท้าจะเดินเข้าไปหาเธอแทน
" นายสิงห์เมื่อกี้มะลิลื่นด้วยนะคะ ไม่รู้ท้องจะเป็นอะไรมั้ย " มะลิพูดพลางลูบท้องตัวเอง
" ไปดูเธอเถอะค่ะ ตอนนี้เธอต้องการคุณนะคะ คุณสิงห์ " ใบข้าวบอกแค่นั้นแล้วก็เดินหนีไปอีกทาง สิงหาได้แต่มองตามรู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าครั้งนั้นเสียอีก
" นายสิงห์ มะลิ -- "
" เลิกเรียกซะที รำคาญ!! " สิงหาหันไปตวาดใส่มะลิจนอีกฝ่ายตกใจหน้าซีด เขาหันไปมองมะลิด้วยสายตาชิงชังและยิ่งมองท้องเธอด้วยความรังเกียจ " ถ้าเธอจะลื่นแล้วแท้งฉันก็ไม่สนใจหรอก เพราะยังไงเด็กนี่ก็ไม่ใช่ลูกของฉัน " สิงหาพูดอย่างคนใจร้าย ถึงจะรู้ดีว่าเด็กในท้องไม่ได้มีความผิดอะไร แต่คนที่ผิดคือผู้หญิงคนนี้ที่กล้าเอาลูกใครไม่รู้มาบอกว่าเป็นลูกของเขา " ไอ้หมอดูที ฉันจะออกไปข้างนอก! " สิงหาหันไปสั่งโยธินที่ดูงุนงงแต่ก็พยักหน้ารับแล้วมองดูสิงหาเดินหนีออกไปอีกคน
โยธินหันมาทางมะลิ " ให้ผมตรวจหน่อยนะครับ "
มะลิส่ายหน้าทั้งน้ำตา " ไม่เป็นไรค่ะ หมอ " เธอก้มหน้าลงลูบท้องตัวเอง " อดทนไว้นะ ลูกแม่ พ่อเค้าค้องยอมรับลูกสักวัน "
***********
สวัสดีค่า มาแล้วน้า ไรท์มาอัพให้สองตอนรวดเลย ^^
ขอให้สนุกและมีความสุขกับการอ่านนะคะ