เมื่อเข้าแถวอะไรเสร็จฉันก็เรียนไปตามปกติมีวิชานึงอาจารย์ก็ให้เราจับกลุ่มกันกลุ่มละสี่คนฉันก็เตรียมมองหน้ากับผึ้งและกะทิแหละเพราะกลุ่มฉันมีครบเหลืออิไม้อีกคนที่นางไม่ได้มาเพราะเกิดท้องเสียหนักเลยมาไม่ไหวแต่แล้วความฝันก็ดับวูบเมื่ออาจารย์ดันพูดว่า
“เดี๋ยวอาจารย์จะจับให้เองนะเพราะให้เราจับกันที่ไรก็กลุ่มเดิมๆตลอด” ฉันและทุกคนในห้องก็ร้องไม่พอใจกันเพราะทุกคนเตรียมจับกลุ่มกันแล้ว
“ไม่ต้องมาโอดครวญกันเลย เดี๋ยวจะครูจะสุ่มตามเลขที่แล้วกัน” และความชิบหายของฉันก็มาถึงอาจารย์ก็สุ่มยังไงก็ไม่รู้ทำให้ฉันได้มาอยู่กับไอ่เชี้ยอาร์ตแล้วก็มีเพื่อนอาร์ตมันอีกคนชื่อสินแล้วก็เพื่อนฉันอินางไม้
“รู้กลุ่มกันแล้วใช่ไหมแบ่งนั่งกันตามกลุ่มเลยต้องอยู่แบบนี้ไปหนึ่งปีนะจ๊ะนักเรียนที่น่ารักของครู” พวกเราก็ต่างย้ายกันไปนั่งตามที่ของตัวเองมีเพื่อนผู้หญิงคนนึงในห้องมาทักฉัน
“วาๆแกโชคดีอะได้อะได้อยู่กับอาร์ตดัวยฉันอิจฉาแกจัง” แผนนี้เข้ามาอยู่ในหัวฉันเลย
“งั้นแกมาสลับกันปะเดี๋ยวฉันไปกลุ่มแกแล้วแกมากลุ่มฉัน” แล้วเราก็ตกลงกันเรียนร้อยเตรียมย้ายที่อยู่ดีๆอาจารย์ดันพูดขึ้น
“ห้ามย้ายหรือเปลี่ยนกลุ่มกันเด็ดขาดนะถ้าครูรู้จะหักคะแนน” ความฝันฉันที่จะสงบสุขก็ดับวูบไปกันตาแล้วรีบกลับไปนั่งอย่างเดิมแล้วก็มองหน้าเศร้าๆกับเพื่อนคนนั้นที่มาขอเปลี่ยนกลุ่มแล้วก็หันไปมองอาร์ตมันก็ทำหน้าเก๊กบวกอาฆาตตามสเต็บมันทำหน้าเหมือนโกรธว่าฉันไปโยนขยะทิ้งหน้าบ้านมันงั้นอะ
“คิดว่าหล่อมากมั่งเดี๋ยวตะคริวกินหน้าสักวัน” ฉันบ่นอุบอิบกับตัวเอง
“ว่าอะไรห้ะ นังหมูอ้วน!”
“ป่าวววววววว ใครพูดอะไรไม่มี้” ทำไมมันหูดีจังวะอิไม้ก็ดันมาท้องเสียวันนี้เห้อฉันต้องมาเจอกับอะไรก็ไม่รู้ ดีนะว่ายังเรียนแค่อาทิตย์ละครั้งไม่งั้นคงปวดหัวตายกับคนแบบนี้
“สวัสดีสินนนนน” ฉันเอ่ยทักทายเพื่อนอีกคนในกลุ่ม
เวลาก็ผ่านไปเดือนกว่าถึงช่วงวันภาษาไทยมีจัดกิจกรรมเดินแบบในตรมเกี่ยวกับความเป็นไทยและวรรณกรรมไทยห้องฉันก็เข้าร่วมกิจกรรมนี้เหมือนกันและเราก็ประชุมกันว่าจะทำในตีมอะไรดีอยู่ดีๆอาร์ตมันก็มองหน้าฉันและพูดขึ้นว่า
“ตีมนางยักษ์มะให้ไอ่วามันเดินทุกคนเห็นด้วยมะ” ทุกคนก็เหมือนเริ่มเห็นด้วยแต่ฉันนี้อายมากเพราะธรรมดาฉันก็ไม่มันใจในตัวเองอยู่แล้วแล้วก็มีเพื่อนเสนอขึ้นมาว่า
“นางยักษ์ก็ต้องมีพระอภัยนะมึงให้ใครเป็นดีวะ” แล้วเพื่อนอีกคนก็พูดขึ้นว่า
“ให้อาร์ตดิมึงมันหล่อนะเท่ด้วยเหมาะกับการที่ให้นางยักษ์กับนางเงือกแย่งมันแล้วห้องเราอาจจะได้คะแนนเสียงเยอะด้วยนะเพราะมันแฟนคลับเยอะทุกคนว่าไง” ทุกคนก็เริ่มเห็นด้วยที่จะให้อาร์ตเดินคู่กับฉันแต่อาร์ตก็ยังคงเป็นอาร์ตนางพูดขึ้นว่า
“แต่เขาให้เดินเป็นคู่นะมึงถ้าวามันเดินแล้วเอากูเข้าไปอีกไม่เป็นสามเลยหรอมันเกินที่เขากำหนดนะ” ทุกคนในห้องก็หัวเราะขึ้นกะทิก็กุมมือฉันไว้เพราะเริ่มเห็นหน้าฉันไม่โอเคเท่าไร
หัวห้องก็เลยสรุปจะให้ฉันเดินกับอาร์ตเพราะว่าลองคุยแล้วอาร์ตบอกยังไงก็ได้โอเคหมดหัวหน้าห้องเลยมาข้อร้องฉันก็เลยปฏิเสธไม่ได้เพราะทุกคนให้ห้องดันเห็นด้วยกันหมด
“มึงถ้าไม่อยากทำก็บอกนะเดี๋ยวพวกกูช่วยพูด” ผึ้งพูดขึ้นเมื่อเห็นหน้าที่ไม่มั่นใจของฉัน
“มึงทำๆไปเถอะสักครั้งในชีวิตลองๆดู รึมึงจะให้กูเดินแทนไหมก็ไม่ติดนะเผื่อจะได้ใกล้ชิดอาร์ตของกู” ไม้ที่พูดขึ้นหลังจากที่เห็นหน้าไม่มันใจของฉัน
“มันยอมให้มึงจับมือแล้วหรอถึงบอกมันเป็นของมึงอะอีสมยศ” กะทิที่อดในท่าทางดีดดิ้นของเพื่อนไม่ไหวได้เอ่ยขึ้น
“นี่หยุดเลยนะอิทิใครให้มึงเรียกอย่างนั้นต่อไปนี้ให้เรียนกูว่ามินนี่นะห้ามพูดสมยศหรือไอ่ไม้มาอีกเด็ดขาดเดี๋ยวผู้ตื่นกันหมด”
ฉันที่ได้ฟังเพื่อนๆพูดเล่นกันก็พอคลายกังวลได้นิดหน่อยแต่ก็ยังไม่มันใจในตัวเองอยู่ดี จนถึงวันงานจริงๆฉันต้องรีบมาแต่เช้าเผื่อเตรียมตัวขึ้นเดินด้วยชุดรีไซเคิลจากที่เพื่อนๆทำขึ้นพอฉันแต่งเสร็จฉันก็ไปแอบในห้องห้องนึงฉันมองกระจกฉันเหมือนนางยักษ์ของจริงเลยอะที่น่ากลัวๆแล้วหลุดออกมาจากในหนังเลย แล้วฉันก็ได้ยินเพื่อนผู้หญิงเดินคุยกันเข้ามาฉันเลยไอแอบหลังโต๊ะสอนอาจารย์
“มึงอาร์ตหล่อมากเลยเนอะยิ่งแต่งอย่างนี้ยิ่งเท่กูนี่อยากขึ้นไปเดินแบบกับอาร์ตแทนวาเลยวะคงดีน่าดู”
“มึงแต่ถ้าได้เดินด้วยแล้วแต่แบบอิวากูไม่เอานะทุเรศชิบหายไม่รู้เป็นเพราะชุดรึเพราะตัวมันเองอะโคตรน่าเกลียดอะอ้วนก็อ้วนแถมดำแล้วยังฟันห่าง”
“แต่เอ่อก็จริงวะ5555 รีบๆเอากระเป๋าเถอะกูจะไปจองที่ดูอาร์ตชัดๆ”
ฉันที่แอบฟังพวกนางคุยกันเสร็จแล้วก็ออกมามองกระจกไปด้วยมันก็จริงอย่างที่เขาพูดกันฉันเหมือนนางยักษ์จริงๆแล้วยิ่งเดินกับอาร์ตถึงจะไม่ชอบมันก็ต้องยอมรับว่ามันหล่อจริงๆในตัวมันออกมาอย่าเพอร์เฟคไม่มีขาดไม่มีเกิดแล้วยิ่งเดินกันมันฉันยิ่งไม่มันใจฉันนั่งซึมกับความคิดอยู่เพื่อนๆก็เข้ามาหา
“ว่าไงเพื่อนสาวพร้อมรึยังงงงงง พวกฉันตามหาตั้งนานทำไมมาแอบอยู่ตรงนี้” เป็นไม้ที่พูดทักทายฉัน
“มึงกูไม่พร้อมเลยวะกูอายมากเลยอะยิ่งแต่ตัวแล้วกูยิ่งดูน่าเกลียดอ้าาาา”
“มาถึงขนาดนี้แล้วมึงสู้ๆเดี๋ยวพวกกูไปเชียร์หน้าเวที” เป็นกะทิที่เอ่ยให้กำลังใจฉัน
“ใช่อิวาชีวิตมีใช้ให้คุ้มมั่นใจเข้าไว้ดูฉันเป็นตัวอย่าง” ฉันที่มองไปทางไม้แล้วหลุดขำให้กับท่ามั่นใจของนาง
“โอเคเดี๋ยวฉันจะพยายามทำให้เต็มที่นะ” ฉันเริ่มยิ่มออกจากได้กำลังใจจากเพื่อนๆ
“วาเตรียมตัวได้แล้วนะใกล้เวลาแล้ว” เป็นเพื่อนให้ห้องที่เดินเข้ามาเรียก
“งั้นเดี๋ยวพวกเราออกไปเตรียมรอดูแกหน้าเวทีนะ” ฉันก็ได้แต่ยิ้มตอบไป
พอเพื่อนๆออกไปฉันคิดว่าฉันต้องทำให้ได้มาถึงขนาดนี้แล้วสู้หน่อยสิวาแล้วฉันเลยตะโกนออกไป ”สู้โว้ยยยยยยย”
“ไม่อยากให้นอนก็บอกสิไม่เห็นต้องตะโกนเลย” เสียงของใครสักคนที่ดังลอดมาจากหลังกล่องที่เก็บของฉันว่าตอนแรกที่เข้ามาไม่มีใครแล้วนะ เลยหันไปมองปรากฏว่าเป็น...
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะติชมหรือให้กำลังใจกันได้นะเพื่อให้เก๋ามีกำลังใจเขียนต่อ 🥰❤️