ซ่อนลิขิตรัก บทที่ 20
" สวัสดีครับ คุณสิงหา " ภูผา ลักษณาธิการเอ่ยทักทายด้วยท่าทีไมตรี ใบหน้าของเขาเผยยิ้มออกมา
" สวัสดีครับ คุณภูผา " สิงหาทักทายกลับ คำพูดและสีหน้าของสิงหายิ่งตอกย้ำความชัดเจนว่าผู้ชายที่ยืนอยู่หลังใบข้าวคือภูผาคู่หมั้นของเธอจริงๆ ใบข้าวยืนหน้าซีดไม่กล้าหันกลับไปมอง เธอขยับเดินเข้าไปหาสิงหาจับมือของเขาไว้แน่น
สิงหาไม่ได้ถามว่าใบข้าวเป็นอะไรทำไมมือถึงได้เย็นเฉียบขนาดนี้ เขากอบกุมมือเธออย่างให้เธอรู้สึกปลอดภัยภูผาที่เห็นสิงหาดูแลผู้หญิงอย่างเอาใจใส่ก็พูดขึ้น
" มาเที่ยวเหรอครับ คุณสิงหา "
สิงหาไม่ตอบ ภูผาพูดต่อ " อะไรก็ตามที่ทำให้คุณสิงหาแห่งไร่เรืองกิจเกษมออกมาจากไร่ได้ผมถือว่าต้องเป็นอะไรที่ดีแน่เลยใช่มั้ยครับ " สายตาภูผามองมาที่ใบข้าว แค่เห็นข้างหลังก็รู้แล้วว่าข้างหน้าคงสวยไม่น้อยเลย ยิ่งเห็นอาการหวงแหนของสิงหาด้วยแล้วก็ยิ่งชัดว่าตัวเขาคิดไม่ผิด แต่ว่าดูคุ้นตาชอบกล ภูผาคิด
" จะไม่แนะนำ -- ให้รู้จักหน่อยเหรอครับ ผู้หญิงที่ทำให้คุณออกจากป่ามาเดินเล่นในเมืองได้ " ภูผาถาม
ใบข้าวคว้าอกเสื้อของสิงหาแล้วจับมันแน่น เธอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ หัวใจเต้นรัวแรงอย่างหวาดกลัว ถ้าภูผาจับได้ว่าเธออยู่กับสิงหาไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง
" ไม่สะดวกครับ ผมขอตัว " สิงหาถอดหมวกของเขาออกแล้วสวมให้ใบข้าวแทน " ไปกันเถอะ " ตอนที่สิงหากำลังจะพาใบข้าวเดินออกมา ภูผาก็เดินตรงเข้ามาคว้าไหล่ของใบข้าวไว้ เธอร้องกรี๊ดออกมาเบาๆก่อนจะรีบโผเข้ากอดสิงหาทันที
" จะทำอะไร! " สิงหาจับข้อมือของอีกฝ่ายไว้ แสดงความไม่พอใจออกมาทางสายตา เขาดึงมันออกจากไหล่ของใบข้าว " มาเถอะ " สิงหาโอบไหล่ใบข้าวแล้วพาเธอเดินออกมาจากตรงนั้น
ใบข้าวถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงนั่งอย่างหมดแรง ไหล่ตรงที่ถูกจับสั่นน้อยพอสิงหาจับ เธอก็สะดุ้งเฮือก
" ไม่เป็นไรนะ " สิงหาลูบปลอบอย่างอ่อนโยน
" เรากลับบ้านกันนะ พี่สิงห์ "
ตั้งแต่กลับมาถึงบ้านใบข้าวก็เอาแต่เหม่อหรือไม่ก็เงียบ สติของเธอหลุดลอยไปถึงคำพูดของคุณหญิงณัชชาคนเป็นแม่ที่ทิ้งท้ายไว้ว่าจะให้ผู้ชายคนนั้นหาเธอให้เจอต่อให้ต้องพลิกเชียงใหม่ก็ตามดูเหมือนความจริงจะขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นอีก เธอไม่รู้ว่าภูผาจำเธอได้มั้ย แต่แค่ข้างหลังคงจำไม่ได้หรอกเธอเองก็แทบไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับภูผาจนถึงแค่เห็นข้างหลังก็จำได้แบบนั้น ใบข้าวคิด
" คุณใบข้าวน้ำเดือดแล้วค่ะ " ป้าเปรี้ยวเรียก ป้าเปรี้ยวเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เห็นเรื่องการช่วยน้ำแข็งที่กำลังจะจมน้ำของใบข้าวสำคัญกว่าเรื่องข่าวลือที่ไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือเปล่ากำลังเรียกเธอ ใบข้าวปล่อยความคิดลอยออกไปไกลจนไม่ได้ยินที่ป้าเปรี้ยวเรียก
" คุณใบข้าวคะ!! " ป้าเปรี้ยวสะกิดดึงให้ใบข้าวออกจากภวังค์
" คะ ป้าเปรี้ยว " ใบข้าวหันกลับมามอง
" น้ำเดือดแล้วค่ะใส่กุ้งได้เลย " ป้าเปรี้ยวบอกอย่างใจเย็นกับลูกมือตัวเองที่บุหลันฝากฝังไว้
" อ่อ ขอโทษค่ะ " ใบข้าวค้อมหัวให้ป้าเปรี้ยวแล้วเอากุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ใส่ลงหม้อเพื่อเตรียมทำต้มยำกุ้งเป็นอาหารมื้อเย็น
" ระวังนะคะ หม้อกำลังร้อน "
ขาดคำป้าเปรี้ยวมือของใบข้าวก็พลาดไปโดนหม้อ " โอ๊ย! " ใบข้าวชักมือกลับอย่างรวดเร็วกุมมือตัวเองแน่น
" เป็นอะไรหรือเปล่าคะ คุณใบข้าว -- นังหวานรีบไปเอากล่องยามาเร็ว " ป้าเปรี้ยวหันไปสั่งลูกสาวตัวเองที่รีบวิ่งกุลีกุจอเข้าไปในบ้าน ทั้งป้าเปรี้ยว หวานและแตงตกลงที่จะปฏิบัติกับใบข้าวให้เหมือนกับเจ้านายของตัวเอง
" เกิดอะไรขึ้น " สิงหาถามเขาเดินเข้ามาในครัวหลังได้ยินเสียงป้าเปรี้ยวสั่งลูกสาว สิงหาเห็นใบข้าวยืนกุมมือตัวเองอยู่ " ขอดูหน่อย " สิงหาเดินมาถึงตัวใบข้าว เธอยื่นมือให้
" เจ็บมั้ย " สิงหาถามระหว่างที่ทายาให้เธอ ใครจะรู้ว่ามือหนาคู่นี้ของสิงหาเวลาที่ทายาให้เธอจะมือเบาขนาดนี้
" เจ็บตอนโดนเมื่อกี้ ตอนนี้หายแล้ว " ใบข้าวว่า
" ใจลอยคิดอะไรอยู่ ใบข้าว " สิงหายกมือใบข้าวขึ้นมาเป่าลมเบาๆให้เธอ ใบข้าวรู้สึกเคอะเขินกับอาการของสิงหาที่ทำแบบนี้ให้เธอนี่ก็นับเป็นครั้งที่สองแล้ว
" พี่สิงห์นี่มือเบากว่าที่คิดนะคะเนี่ย เวลาทำแผลให้ไม่รู้สึกเจ็บเลย "
" ใบข้าวตอบไม่ตรงคำถามอยู่นะ " แววตาของสิงหามองใบข้าวราวกับเครื่องสแกน " ทำไมถึงกลัวผู้ชายคนนั้น " เธอเม้มปากบางๆก่อนตอบ
" เรื่องที่เขาทำมันทำให้ใบข้าวกลัวนิ จู่ๆก็เข้ามาประชิดตัวแบบนั้น " ใบข้าวตอบความจริงกับสิงหาไป เผลอยกมือจับไปที่ไหล่ข้างที่ภูผาจับเธอ
ในเวลาปกติถ้าไม่ได้อยู่กับสิงหาเธอคงไม่กลัวภูผาคนนั้นหรอก แต่ตอนนี้เธอมาอยู่กับสิงหาที่ไร่เรืองกิจเกษมแถมยังอยู่ในฐานะภรรยาของเขาด้วย ถ้าผู้ชายคนนั้นรู้เข้าจะเป็นยังไง ใบข้าวไม่ได้กลัวอีกฝ่ายโกรธแต่กลัวว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นการจุดชนวนให้ภูผาทำอะไรมากกว่าเดิมก็ได้
" แล้วตอนนี้ยังกลัวอยู่หรือเปล่า " สิงหายื่นมือไปปัดปอยผมที่ร่วงลงมาละข้างแก้มไปทัดหูของเธอ ใบข้าวส่ายหน้าแล้วยิ้มหวานให้
" ไม่กลัวแล้วค่ะ " เธอจับมือของสิงหาไว้ มองตาของเขาราวกับจะอ้อนวอน " พี่สิงห์สัญญาอะไรกับใบข้าวได้มั้ยคะ "
" สัญญาอะไรคะ " สิงหาถาม
" พูดว่าสัญญาก่อน " ใบข้าวย้ำ เธอยื่นนิ้วก้อยให้เขา สิงหามองนิ้วก้อยที่เคียงข้างนิ้วนางข้างซ้ายข้างที่เธอใส่แหวนแต่งงานของเขาไว้ ตอนที่เขากำลังจะเกี่ยวก้อยใบข้าว…เหมยก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในบ้าน
" นายครับ นาย เกิดเรื่องแล้วครับ "
" มีอะไรลุงเหมย " สิงหาถาม เขากับใบข้าวมองท่าทีลนลานของตาเฒ่าประจำไร่ด้วยความสงสัย
" นังมะลิครับ นาย -- นังมะลิมันผูกคอตาย! "
" อะไรนะ!! " สิงหาลุกขึ้นยืนทันที ขณะที่ใบข้าวยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจก่อนที่ทั้งสองคนจะรีบวิ่งตามลุงเหมยไป
" มีคนไปเห็นมันกำลังแขวนคอพอดีก็เลยช่วยลงมาไว้ได้ทัน แต่ว่าตกลงมาจากเก้าอี้ขาเลยแพลงครับ นายสิงห์ " เหมยเล่าเหตุการณ์จริงให้ทั้งสองฟัง สิงหาอยากหาอะไรฟาดตาเฒ่านี่จริงๆโทษฐานทำให้แตกตื่นจนตกอกตกใจกันไปหมด ใบข้าวเองก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ได้เกิดเหตุร้ายแรง
" นายสิงห์มาแล้ว "
กลุ่มคนงานเปิดทางให้สิงหากับใบข้าวเข้าไปดูมะลิที่กำลังนั่งร้องไห้ซบอกป้าขวัญอยู่ มียะขิ่นกำลังนวดข้อเท้าให้ด้วยอาการเป็นห่วงเป็นใย
" เป็นยังไงบ้าง มะลิ " ใบข้าวเอ่ยถามทันที ถึงจะไม่ชอบที่มะลิแทงข้างหลังเธอ แต่ตามหลักมนุษยธรรมการถามด้วยความเป็นห่วงกับคนที่พึ่งผ่านความตายมาก็สมควรที่จะทำ ใบข้าวคิด
มะลิเอาแต่ส่ายหน้าแล้วร้องไห้
" โชคดีไม่เป็นอะไร ยะขิ่นมันเห็นซะก่อนเลยช่วยลงมาได้ค่ะ นายสิงห์ " ป้าขวัญยังอคติกับใบข้าวเลยไม่ยอมพูดกับเธอ " นี่ตอนช่วยลงมา ขาดันพลิกเดินไม่ไหวค่ะ นาย -- คงต้องพาไปโรงบาล "
สิงหาพยักหน้ารับ " งั้นยะขิ่นอุ้มมะลิขึ้นรถที ฉันจะพาไปโรงพยาบาล " ยะขิ่นพยักหน้ารับคำช้อนมะลิอุ้มขึ้นแล้วรีบไปที่รถของสิงหาทันที ใบข้าวมองดูจุดที่มะลิใช้เป็นที่แขวนคอก่อนสายตาเธอจะเจอกับคำแปงที่เธอกับเด็กสาวไม่ได้พูดคุยกันอีกเลยนับตั้งแต่ครั้งนั้น ใบข้าวส่งยิ้มให้แต่คำแปงกลับหลบหน้าแล้วเดินหนีไปท่าทางเหมือนคงไม่อยากคุยกับเธอแล้ว ใบข้าวคิดรู้สึกเสียใจและเสียดายที่จะไม่ได้คุยกับคำแปงอีก จากนั้นเธอก็เดินสิงหาไปที่รถ
" ใบข้าวไปด้วยนะคะ พี่สิงห์ " ใบข้าวบอก สิงหาพยักหน้ารับแล้วสั่งให้ยะขิ่นย้ายมะลิไปนั่งที่เบาะหลังแทน
" ผมไปด้วยได้มั้ย นาย " ยะขิ่นถามสีหน้าร้อนรน
" พี่ยะขิ่นไม่ต้องไปหรอกจ้ะ มีนายสิงห์อยู่แล้วทั้งคน พี่รอฟังข่าวอยู่ที่นี่นะ " มะลิแทรกขึ้นแล้วยิ้มให้ยะขิ่น
" รอที่นี่แหละ ยะขิ่น -- ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียว ใบข้าวก็ไปด้วย ไปแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับ " สิงหาหันไปพยักหน้าให้ใบข้าวขึ้นรถ ยะขิ่นได้แต่รับคำแล้วมองดูสิงหาขับรถออกไป เมื่อถึงโรงพยาบาลบุรุษพยาบาลจัดแจงให้มะลินั่งบนรถเข็นก่อนจะพาเข้าห้องฉุกเฉินทันที
สิงหาถึงกับถอนหายใจออกมาเขายกมือขึ้นเสยผมตัวเอง ใบข้าวเห็นอาการก็เข้าไปลูบแขนปลอบ " ไม่เป็นอะไรแล้วนะคะ พี่สิงห์ "
" โชคดีจริงที่มีคนไปเห็น ไม่งั้นไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง " สิงหายิ้มบางๆเขาดึงมือใบข้าวมากุมไว้ " พอดีเกิดเรื่องขึ้นซะก่อนเลยไม่ทันรู้เรื่องเลยว่าใบข้าวอยากให้พี่สัญญาเรื่องอะไรเหรอ " เขาจับไปที่แก้มของเธอ ใบข้าวยิ้มกว้างดีใจที่สิงหาไม่ได้ลืมเรื่องนี้
" เอาไว้ถึงบ้านแล้วใบข้าวบอกนะคะ "
" ได้สิ " สิงหานึกอยากจะหอมแก้มคนยิ้มหวานให้เขาตรงนี้จริงๆถ้าไม่ติดว่าอยู่ในโรงพยาบาลก็คงทำไปแล้วและพอดีกับที่คุณหมอเดินออกมาพร้อมบุรุษพยาบาลที่เข็นมะลิออกมา ขาข้างที่เจ็บถูกพันผ้าไว้เรียบร้อยแล้ว
" ญาติคนไข้ครับ "
" ครับ -- เธอเป็นคนงานในไร่ผมครับ " สิงหาบอกกับคุณหมอ
" อาการข้อเท้าแพลงไม่มีอะไรน่าห่วงนะครับ กระดูกไม่หักไม่ร้าว เอ็นไม่ฉีกแต่แนะนำงดออกแรงหนักๆสองสามวันก่อนนะครับ ทายานวดบ่อยๆ อาจจะหายช้ากว่าทานยาแต่ก็ดีกว่าทานยาครับ " คุณหมอพูดพลางมองไปที่มะลิแล้วยิ้มให้ " ระยะนี้ต้องระวังเรื่องทานยาของคนไข้นะครับ เพราะเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ เดี๋ยวยังไงให้คุณพยาบาลจัดยาสำหรับทาภายนอกให้นะครับ ผมขอตัว "
ใบข้าวมองมะลิที่กำลังจะเริ่มร้องไห้ออกมา จู่ๆเธอก็รู้สึกหนาวเยือกขึ้นมา
*******
" อ้าว มัวแต่ร้องไห้อยู่นั่นแหละ นังนี่ แล้ววันนี้จะรู้เรื่องมั้ยว่าใครเป็นพ่อเด็กในท้องแก นังมะลิ " ป้าขวัญถามไปเอ็ดไป มะลิก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม บุหลันมองหน้าตุลาแล้วถอนหายใจ หลังจากทั้งคู่กลับมาจากกรุงเทพก็รู้ข่าวคนงานตั้งท้องแล้วพยายามฆ่าตัวตายหลายทีเพราะไม่กล้าบอกว่าใครเป็นพ่อเด็ก นี่ก็นั่งซักไซ้ไล่เรียงถามกันมาจะครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่รู้ว่ามะลิท้องกับใคร
" จะต้องร้องไห้ไปถึงเมื่อไหร่กัน มะลิ " บุหลันถามอย่างอ่อนใจ " บอกเสียทีเถอะ ว่าท้องกับใครจะได้จัดการเป็นเรื่องเป็นราวให้พ่อเด็กมารับผิดชอบไป "
" หนูบอกไม่ได้ค่ะ นายแม่ เขาต้องไม่ชอบแน่ที่หนูพูดออกไป " มะลิสะอึกสะอื้น
" ใครกัน! " ตุลาถามเขาเองก็เริ่มจะไม่พอใจที่ต้องเสียเวลามานั่งฟังมะลิร้องไห้เอาแต่พูดประโยคเดิมซ้ำๆ
" นายใหญ่ๆ มะลิขอโทษ มะลิบอกไม่ได้จริงๆค่ะ ถ้ามะลิบอกไปนายสิงห์ต้องไม่ชอบใจเรื่องนี้แน่ค่ะ " มะลิพูดละล่ำละลัก น้ำตาไหลอาบแก้มไม่หยุด ทั้งตุลาและบุหลันที่ได้ยินประโยคท้ายพร้อมกัน
" นายสิงห์เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้!! " ตุลาถามเสียงเข้ม บุหลันรีบหันไปสั่งหวานให้คนไปตามสิงหามาทันทีและขอยาดมจากป้าเปรี้ยวมาถือไว้ในมือ
" ฉันถามว่านายสิงห์เกี่ยวอะไรด้วย!! " ตุลายืนขึ้นถามทันทีสีหน้าถมึงทึง ป้าขวัญหันไปมองมะลิทันทีออกอาการหวาดกลัว
" แกอย่าบอกนะว่าลูกในท้องแกเป็นลูกนายสิงห์น่ะ " ป้าขวัญร้องเสียงหลง
" โอ๊ย! จะเป็นลม " บุหลันหายใจเฮือกรีบดมยาดมยกใหญ่ ป้าเปรี้ยวพร้อมอยู่แล้วรีบสะบัดพัดในมือไปมา ตุลาถลึงตามองอย่างไม่เชื่อ
" ป้าขวัญ ฮือ ~ " มะลิร้องไห้โฮหันไปมองตุลากับบุหลัน " นายใหญ่ นายแม่ มะลิขอโทษค่ะ มะลิไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้เลย " มะลิก้มลงกราบ " ได้โปรดเห็นใจมะลิกับลูกด้วยนะคะ "
" เกิดอะไรขึ้นครับ พ่อ คุณน้า -- แล้วนี่ปัาขวัญกับมะลิมาทำอะไรที่นี่ครับ " สิงหาเดินเข้ามาพร้อมกับใบข้าวมองหน้าทุกคนไปมายิ่งเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของตุลาเขาก็ยิ่งแน่ใจว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่
" คุณสิงห์ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงกันคะ " บุหลันร้องถาม
" คุณน้าเกิดอะไรขึ้นคะ " ใบข้าวรีบเข้าไปนั่งข้างๆ บุหลันหันมามองใบข้าวด้วยความสงสารเธอบีบมือใบข้าวแน่น
" มีเรื่องอะไรกันครับ พ่อ " สิงหาถามพลางมองมะลิที่กำลังร้องไห้อยู่ " มีเรื่องอะไร มะลิ เธอพูดอะไรออกไปกับพ่อกับคุณน้าฉัน "
" สิงห์!! " ตุลาเรียกชื่อลูกชายเสียงดัง " อย่าพูดแบบนี้นะ สิงห์ "
" มะลิมาพูดอะไรกับพ่อครับ " สิงหาถามกลับ สีหน้าของเขาเคร่งเครียดไม่แพ้กัน ความตึงเครียดเริ่มทวีคูณเมื่อมะลิร้องไห้ไปพูดไป
" นายสิงห์ มะลิขอโทษค่ะ มะลิไม่ได้ตั้งใจ มะลิไม่ได้อยากให้เรื่องเป็นแบบนี้เลย "
" เธอพูดบ้าอะไร มะลิ ฉันไม่เข้าใจ "
" มะลิท้องค่ะ มะลิท้องกับนายสิงห์ค่ะ "
ไม่รู้อย่างไหนที่กรีดลึกลงไปในหัวใจของใบข้าวได้มากกว่ากันระหว่างเสียงร้องไห้โฮของมะลิหรือประโยคที่มะลิบอกว่าเธอท้องกับสิงหา ใบข้าวยกมือขึ้นปิดปากตัวเองราวกับจะกันเสียงร้องกรี๊ดของตัวเอง
สิงหายืนนิ่งขึงราวกับถูกตรึงไว้เขารีบหันไปมองใบข้าวเป็นคนแรก เธอนั่งนิ่งราวกับรูปปั้นสีหน้าไม่แสดงอะไรออกมา สิงหาหันไปคว้าแขนของมะลิขึ้นมาแล้วกึ่งเดินกึ่งลากมะลิออกไปด้านนอกท่ามกลางเสียงร้องห้ามของทุกคน
" อย่ามากล่าวหากันนะ เด็กในท้องนี่ไม่ใช่ลูกของฉัน! ฉันไม่รับเป็นพ่อหรอกนะ!! " สิงหาผลักมะลิออกไปให้พ้นหน้าบ้าน
" นายสิงห์ ~ โฮ อย่าทำแบบนี้กับมะลิเลยนะคะ เด็กในท้องนี่เป็นลูกของนายสิงห์จริงๆ -- เรานอนด้วยกันนะคะนายสิงห์! " มะลิคว้าแขนของสิงหาไว้ เธอกรีดร้องขอความเห็นใจจากสิงหาที่กำลังเดือดดาลเขาดึงแขนมะลิออกแล้วเหวี่ยงเธอออกไปจนเกือบล้ม
" สิงห์!! "
ท่ามกลางความตึงเครียดที่ปะทุถึงขีดสุดสิงหาถูกตุลาตบหน้าเพื่อเรียกสติ บุหลันหวีดร้องออกมา
" คุณสิงห์!! "
สิงหาเอาลิ้นดุนแก้มตัวเอง เขาหันมามองตุลา " ที่พ่อตบเพราะต้องการเรียกสติแกนะ พ่อไม่เคยสอนให้แกไม่เป็นลูกผู้ชายนะ สิงห์ " ตุลาเองก็รู้สึกผิดที่ตีลูกชายตัวเอง
" คุณตุลา ใจเย็นก่อนนะคะ -- คุณสิงห์ เจ็บมั้ยคะ โถ่ๆ ทูนหัวของน้า " บุหลันเข้าไปลูบแก้มของสิงหาที่ปรากฎเป็นริ้วแดง " หนูใบข้าว น้าฝากดูพี่เค้าทีนะจ๊ะ " บุหลันหันไปเรียกใบข้าว เธอพยักหน้าแล้วเดินเข้ามาพาสิงหาออกไป
" นายแม่! แล้วเรื่องลูกของมะลิกับนายสิงห์ " มะลิถามพลางจับท้องตัวเอง " นายแม่ จะให้มะลิทำยังไงคะ "
บุหลันมองมะลิด้วยสายตาที่เยือกเย็น " รอก่อนนะ เอาไว้ให้คุณสิงห์ตั้งสติได้ก่อนว่าเขาไปนอนกับเธอตอนไหนเราจะกลับมาพูดเรื่องนี้กันอีกที " บุหลันว่าพลางหันไปชวนตุลาเข้าบ้าน
ขณะเดียวกันใบข้าวที่กำลังเอาผ้าขนหนูสะอาดๆชุบน้ำอุ่นๆมาประคบให้สิงหาอย่างเบามือ สิงหาเอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา
" โกรธคุณพ่ออยู่เหรอคะ พี่สิงห์ " ใบข้าวรวบรวมสติที่ยังเหลืออยู่ถามออกไป ตอนนี้จิตใจเธอก็แทบจะไม่หลงเหลือแล้วหลังจากเหตุการณ์ของมะลิ สิงหาส่ายหน้าเขาหันกลับมามองใบข้าวแล้วจับมือเธอไว้เขาทำท่าเหมือนจะพูดอะไรออกมาแต่ถูกใบข้าวชิงพูดก่อน
" พี่สิงห์นี่ดวงไม่ดีเรื่องผู้หญิงเลยนะคะ " ใบข้าวแซวยิ้มๆ เธอพยายามทำให้เหมือนเป็นปกติ " ก่อนหน้านี้ก็ต้องยอมจำใจแต่งงานกับใบข้าวเพราะถูกใบข้าวแกล้ง " เธอเลื่อนมือออกจากมือของสิงหาแสร้งทำทีเป็นเอาผ้ามาชุบน้ำเพื่อประคบให้เขา " นี่จู่ๆก็กำลังจะได้เป็นพ่อคน แต่ว่าเรื่องนี้ต่างกับเรื่องของใบข้าวตรงที่เรื่องนี้กลับเป็นเรื่องจริง " ใบข้าวเม้มปากตัวเองก่อนจะค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา
" ดีใจด้วยนะคะ " เธอพูดทั้งๆที่ไม่ยอมมองหน้าสิงหา
" ไม่ๆ ใบข้าว " สิงหาบอกปัด เขาจับมือเธอที่กำลังเอาแต่บิดผ้าไปมาแล้วดึงเธอจะเข้ามากอดแต่ใบข้าวกลับผุดลุกหนีเขา
" ฉันขอไปทำงานก่อนนะคะ คุณสิงห์ " พูดจบใบข้าวก็รีบเดินออกจากห้องไปเพราะกลัวสิงหาจะเห็นหยดน้ำตาที่ร่วงลงมาจากดวงตาของเธอ
เรื่องที่มะลิท้องกับสิงหากลายเป็นประเด็นร้อนของไร่เรืองกิจเกษมไม่ใช่แค่เพราะสิงหาเป็นพ่อของเด็กในท้องมะลิ แต่พวกเขายังพูดถึงสถานะต่อจากนี้ของมะลิว่าจะเป็นยังไงในเมื่อสิงหาแต่งงานกับใบข้าวแล้ว
" นังมะลิมันท้องก่อนที่นายสิงห์จะแต่งงานกับใบข้าว มันหมายความว่ายังไงรู้มั้ย พวกเอ็ง " ป้าขวัญเปิดประเด็นบทสนทนากับกลุ่มคนงานในช่วงเวลาอาหารกลางวัน ทุกคนส่ายหน้า
" ก็หมายความว่านังมะลิเป็นเมียหลวงส่วนใบข้าวมาทีหลังก็เป็นเมียน้อยน่ะสิเว้ย " ป้าขวัญหัวเราะอย่างสะใจ " ข้าล่ะสะใจจริงๆ คิดดูนะทำตัวแรดอยากได้นายสิงห์เป็นผัว อ่อยจนเขายอมแต่งงานเป็นไงล่ะ สุดท้ายเขาก็ไม่เอามาเอานังมะลิทำเมียอีกคนจนตั้งท้อง "
เสียงฮือฮารับคำอย่างเห็นด้วย แต่กลับมีใครคนนึงเดินเข้ามาพูด
" อ้าว ถ้าเป็นอย่างที่ป้าว่าก็เท่ากับว่านังมะลิก็แรดเหมือนกันน่ะสิ เพราะเห็นเงียบๆแบบนี้ก็อ่อยผู้ชายจนตั้งท้องเลยนะ "
" โถ่ อีช่อ ไม่รู้อะไรอย่าพูดเลย " ป้าขวัญจุ๊ปาก " นังมะลิน่ะเหรอแรด วันๆเอาแต่ทำงานในไร่ กับผู้ชายก็ไม่ค่อยคุยด้วย ชายตามองใครบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ผิดกับแม่นั่นถึงเนื้อถึงตัวคนงานผู้ชายในไร่แทบจะทุกคน กับไอ้ยะขิ่นไอ้มะอึกก็หัวเราะคิกคักจนทุเรศลูกตา ไม่รู้ว่าสวมเขาให้นายสิงห์บ้างหรือเปล่า "
" ป้าพูดอะไรแบบนั้นน่ะ " คำแปงเดินออกมาจากด้านหลังครัวมาได้ยินพอดี " พี่สาวไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย ที่สนิทกับพวกพี่ยะขิ่นกับพี่มะอึกก็เพราะพี่สาวคุยง่ายเป็นกันเองต่างหากล่ะ "
" เหอะ นังคำแปง อะไรของเอ็ง นี่แกเจ็บไม่รู้จักจำนะแกเองก็โดนมันทำร้ายมานะยังคิดจะไปเข้าข้างมันอีกเหรอ " ป้าขวัญตวาดใส่หลานสาวตัวเอง " ผู้หญิงดีๆที่ไหนจะหัวร่อต่อกระซิกกับผู้ชายไม่เลือกหน้าแบบนั้น "
" บางทีสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้ ฉันน่ะ -- " คำแปงทำท่าจะพูดอะไรออกไปแต่ถูกป้าขวัญแหวกลับมา
" ฉันอะไรของแก กลับไปล้างจานไป๊! "
คำแปงได้แต่ส่งสายตาขุ่นเคืองกลับไปให้ป้าขวัญที่หันกลับมาพูดกับช่อต่อ " จะบอกอะไรให้นะ นังช่อ นังมะลิกำลังจะเป็นนายหญิงคนใหม่ ลูกของมันก็เป็นทายาทของนายสิงห์ แกเองก็ระวังไว้เถอะเคยไปทำอะไรไม่ดีกับนัง เอ้ยคุณมะลิไว้ ระวังจะถูกเฉดหัวออกจากไร่นี่นะเว้ย!! "
" มึงเองก็ระวังไว้เถอะ! นังเมียปากพล่อย พูดจาถึงนายลับหลังแบบนี้สงสัยคงไม่อยากเก็บปากไว้กินน้ำพริกซะแล้วล่ะมั้ง อีขวัญ!! " ตาเฒ่าเหมยเข้ามาไล่คนงานที่สุมหัวกันอยู่ให้ออกไปทำงาน มองตาเขียวใส่เมียตัวเอง
" พูดดีเป็นศรีแก่ปากนะมึง พูดชั่วระวังปากจะมีสี "
*********
สวัสดียามเย็นวันอาทิตย์ค่า รี้ดทุกคน ^^
ไรท์กลับมาอัพแล้ว กลับมาพร้อมมาม่า แล้วก็คงจะเป็นมาม่าชามโต ฮ่าๆๆ ตอนนี้บอกได้เลยว่าขนาดว่าไรท์เขียนเองก็อยากด่าคนมากกว่า 1 อัตรา แล้วรี้ดล่ะคะอยากด่าใคร มาเม้นกันได้เลย
ไรท์จะขออนุญาตลาสองวันนะคะ แล้วจะกลับมาอัพให้อีกครั้งในวันพุธค่ะ
ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกการติดตาม ทุกการรอคอยและทุกข้อความมากๆนะคะ
แล้วเจอกันค่ะ