ตึกสูงระฟ้าใจกลางย่านธุรกิจ ทำเลทองของกรุงเทพมหานคร รายล้อมด้วยคอนโดมิเนียมสุดหรู ห้างสรรพสินค้าแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ประดับด้วยป้ายโฆษณาราคาสูงลิบหลากหลายขนาด
หญิงสาวกดลิฟต์ไปยังชั้น 18 ของบริษัท ก้องไพศาลเกียรติ คอร์เปอเรชั่น จำกัด อาคารกระจกทรงโมเดิร์นสูง 30 ชั้นที่ตั้งตระหง่านอยู่บนถนนสุขุมวิทตอนต้น เพียงไม่นานลิฟต์ก็เปิดออกยังแผนกข้อมูล สื่อและประชาสัมพันธ์
เพชรพราวมองรอบๆ อย่างไม่ค่อยชินตา โต๊ะทำงานที่ยังร้างไร้เจ้าของ ไร้เสียงหัวเราะ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ป้าแม่บ้านน่าจะมาเปิดเตรียมไว้ หญิงสาวตรงไปยังมุมโปรดที่สามารถมองวิวกรุงเทพฯ ได้โดยไม่มีตึกสูงมาบดบังสายตาแม้แต่น้อย
“หวังว่าคงจะไม่มีตลอดไปนะ” หญิงสาวบ่นพึมพำ
เธอนึกถึงคำที่พ่อชอบพูดถึงชีวิตคนทำงานในเมืองว่า ‘แบบนี้แหละชีวิตที่พ่อไม่ชอบ รถติด มลพิษ ความวุ่นวาย การแข่งขัน’ ชีวิตแบบนี้เธอก็ไม่ชอบเหมือนกัน แต่เธอก็อยากหาประสบการณ์ก่อนที่จะต้องช่วยดูแลธุรกิจอัญมณีแทนพี่ชายตัวดีที่หนีไปเป็นหมอไกลถึงเชียงใหม่
“จ๊ะเอ๋! คุณน้อง นั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวเหรอจ๊ะ” มลฤดีแตะไหล่หญิงสาวที่กำลังเหม่อลอย
“โธ่! พี่มล ตกใจหมดเลย” ดีนะเนี่ยไม่เผลอมือเร็วหรือปากไว ยิ่งคนกำลังคิดอะไรเพลินๆ
“ก็พี่เห็นพราวนั่งใจลอยมองไปนอกหน้าต่างมาสักพักแล้ว เห็นบ่นอะไรพึมพำๆ คนเดียวก็เลยคิดว่าคุยกับพี่ เอ … หรือว่ากำลังคิดถึงหนุ่มคนไหนอยู่รึเปล่าน้า...” เสียงกระเซ้าที่ลากยาวทำเอาคนถูกแซวถึงกับทำหน้าไม่ถูก ถึงแม้เพื่อนร่วมทีมอย่างมลฤดีจะไม่เคยเห็นหนุ่มหน้ามนคนที่กล่าวถึง แต่เธอก็มั่นใจว่ารุ่นน้องหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้ไม่มีทางที่จะโสดสนิทอย่างแน่นอน
“มีที่ไหนล่ะคะ พี่มล ไม่มี๊” เพชรพราวปฏิเสธเสียงสูงปรี๊ดทะลุเพดาน แก้มแดงระเรื่อทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่เขินอายคนตรงหน้าที่มองอย่างจับผิดเสียมากกว่า
“ใครจะไปเชื่อละเนี่ย ผู้ชายตาถั่วเท่านั้นแหละถึงจะมองข้ามน้องสาวคนสวยของพี่ไปได้ ถ้าพี่เป็นผู้ชาย สวยๆ ใสๆ อย่างนี้ไม่มีทางรอดพ้นเงื้อมมือพี่ได้หรอก” มลฤดีทำท่าทางเหมือนแวมไพร์ที่กำลังกระหายเลือดและมองเธอเป็นถุงเลือดถุงโต
“ตลกอ่ะพี่มล ทำท่าอะไรเนี่ย” เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายและแวมไพร์จำเป็นหัวเราะคิก
“ว่าแต่ เช้านี้กินอะไรมารึยัง มากินหมูปิ้งกับพี่ดีกว่า ร้านอร่อยเจ้าเดิมเจ้าเด็ด มลฤดีคอนเฟิร์ม” มลฤดี สาวกราฟฟิก นอกจากฝีมือการถ่ายภาพที่หาตัวจับยากแล้ว ความสามารถพิเศษในการสรรหาอาหารร้านเด็ดก็ดีงามไม่แพ้กัน
“ว้าว! หมูปิ้งร้านนี้ ไม่ได้ทานมานานแล้ว ขอบคุณค่ะ พี่มล” มลฤดียื่นถุงข้าวเหนียวหมูปิ้งที่มีไอน้ำเกาะรอบถุงมาให้ แต่ยังไม่ทันได้จัดแจงใส่ปาก เสียงทักทายจากหนุ่มหน้าสวยก็มาทำลายความสงบของมื้อเช้าลงทันที
“เฮลโหลววววว คุณน้องทั้งสอง” หนุ่มเกือบสาว แต่สวยกว่าสาวทั้งแผนกรวมกัน ทักทายด้วยน้ำเสียงอันคุ้นเคย กวิน วิน หรือวินนี่ เดินด้วยท่าทางประหนึ่งอยู่บนแคตวอล์กพร้อมกวัดแกว่งกระเป๋า แบรนด์เนมใบหรู ในขณะที่อีกมือถือแก้วกาแฟยี่ห้อดัง
“สวัสดีค่ะทุกคน นั่น!!! ฉันตาฝาดมั้ยเนี่ย ยัยพราวมาเช้า วันนี้ฝนคงตก ฟ้าคงถล่มแหงๆ” หญิงสาวอีกคนเดินตามกวินมาติดๆ วางกระเป๋าโน้ตบุ๊กกลางโต๊ะอาหารด้วยท่าทางเหนื่อยหอบทั้งๆ ที่เพิ่งเดินออกจากลิฟต์
“แหม เพื่อนก็ จะทักทายกันดีๆ ไม่ได้เชียวหรือจ๊ะ” เพชรพราวเคี้ยวข้าวเหนียวหมูปิ้งตุ้ยๆ และเหล่มองเหมือนเป็นการยั่วยวนปลายฝนที่กำลังมองหมูปิ้งอย่างตาโต
“วิน ปลาย กินหมูปิ้งกัน เจ้าอร่อยเจ้าเดิม มล…”
“มลฤดีคอนเฟิร์ม” กวินและปลายฝน ประสานเสียงล้อเลียนคำพูดติดปากของมลฤดี
“แซวกันใหญ่ละ จะกินไม่กิน ฉันซื้อมาเผื่อคนละชุด”
“ปลายไม่มีทางพลาดแน่นอนค่ะ” ปลายฝนคนเดิมเพิ่มเติมคือน้ำหนักที่มีแต่จะเพิ่มขึ้นในทุกวันรับหมูปิ้งมาอย่างไม่อิดออด
“ไม่เอาล่ะมล เดี๋ยวอ้วน นี่ดูพุงของฉันสิ ฮือ...” ทุกคนก้มลงมองพุงมโนของกวินอย่างพร้อมเพรียงกัน กวินผลักถุงหมูปิ้งออกเหมือนเซเลปดาราบางคนที่กลัวอะไรแปลกๆ และหยิบถุงกระดาษอาหารเฮลตี้ที่ทุกคนเห็นเป็นประจำทุกเช้า แต่น่าจะไม่ถูกจริตกับสาวๆ ชาวบุฟเฟ่ต์ที่เหลือ
“พี่วินไม่เอา งั้นปลายขอสองเลยนะคะ หิวมากเลยวันนี้” ปลายฝนจัดการหมูปิ้งถุงแรกหมดไปอย่างรวดเร็ว เธอคว้าถุงหมูปิ้งของกวินมาครองด้วยท่าทางเหมือนได้เหรียญทองโอลิมปิก
“กลิ่นอะไรน่ะ หอมเชียว”
“สวัสดีค่ะ บอส” ลูกทีมประสานเสียงพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
เมธาวี หัวหน้าทีมคนเก่ง เจ๊ใหญ่แห่งวงการสื่อสารมวลชน ข่าววงในซุบซิบกันว่า เธอเป็นถึงหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทและว่ากันว่าเป็นถึงเพื่อนสนิทของท่านประธานและภรรยา แต่คำถามที่หลายคนยังคงสงสัยว่าถ้าเป็นเช่นนั้นจริงทำไมเธอถึงไม่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารแต่กลับเป็นเพียงหัวหน้าแผนกเช่นนี้
“บอส ทานหมูปิ้งด้วยกันมั้ยคะ”
“ไม่ดีกว่า ขอบใจนะมล พี่ทานมาเรียบร้อยแล้ว แต่ท่าทางปลายคงหิวมากล่ะสิ” บอสมองหน้าปลายฝนที่กำลังเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอ็นดู
“มล บอสเค้าสายเฮลตี้อย่างฉัน ไม่ใช่สายเอฟวี่ติงอย่างพวกเธอหรอก ใช่มั้ยคะบอส” กวินออกเสียงสำเนียงภาษาอังกฤษอย่างมีจริต
“ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกวิน พี่ก็ทานได้แต่ไม่บ่อย” ถึงแม้อายุอานามของเมธาวีจะล่วงเลยจนเกือบเข้าเลข 5 แต่การดูแลสุขภาพทั้งโยคะ ฟิตเนส อาหารชีวจิต ทำให้กาลเวลาไม่สามารถทำลายความสวยและความเป๊ะของเธอได้
เพชรพราวมองทุกคนด้วยความสุข เธอโชคดีที่เมื่อสองปีที่แล้วยอมตามปลายฝนไปสัมภาษณ์งาน ทั้งๆ ที่วันนั้นเธอหิวจนตาลายหลังจากเรียนวิชาการแปลติดกัน 3 ชั่วโมงรวด เธอจึงได้มีโอกาสทำงานกับหัวหน้าที่น่ารักแบบนี้ หัวหน้าที่เข้าถึงลูกน้อง ไม่ใช่หัวหน้าที่คอยจิกกัดหรือทำตัวเป็นชนชั้นสูงที่ลูกน้องเข้าไม่ถึง นอกจากนั้นยังทั้งผลักทั้งดันสอนงานให้อย่างไม่หวงวิชา เป็นหัวหน้าไอดอลที่เรียกได้ว่ามีทั้งพระเดชและพระคุณครบสูตร