ซ่อนลิขิตรัก บทที่ 19
เรื่องการจับกิ่วกับม้งที่บุกรุกเข้ามาในไร่เพื่อวางเพลิงทำให้สิงหาเพิ่มเวรยามในตอนกลางคืนมากขึ้นเพราะไม่รู้ว่าภูผาจะส่งใครมาทำอะไรอีก ไม่ใช่แค่งานในไร่ที่สิงหาต้องดูแลแต่เขากับติณณภพยังขึ้นเขาไปคุยกับพวกกะเหรี่ยงในหมู่บ้านที่ทั้งสองรู้จักเพื่อให้เป็นหูเป็นตาสอดส่องพวกซาปาอีกแรง
" เป็นยังไงบ้าง คุณสิงห์ " ใบข้าวเอ่ยถามสิงหาทันทีที่เขากลับมาถึงไร่ เธอเดินตามเขาเข้ามาในออฟฟิศ " คนที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงยอมช่วยเรามั้ย "
สิงหามองใบหน้าของคนตื่นเต้นเห็นก็รู้ว่าใบข้าวร้อนใจยิ่งกว่าเขาซะอีก เขาพยักหน้า " พวกเขาจะช่วยจับตาดูพวกซาปา และถ้ามีข่าวอะไรเกี่ยวกับพวกนั้น สงกับคนในหมู่บ้านกะเหรี่ยงจะส่งข่าวมาบอกทันที " สิงหาว่าสีหน้าเคร่งขรึม " ถ้าจะเล่นงานไอ้ภูผาคงต้องเริ่มที่ซาปานี่ก่อน "
ใบข้าวพยักหน้ารับ ถึงจะสิงหาจะบอกว่าไม่ต้องห่วงเรื่องของเขากับไร่แต่เธอก็ยังกังวลกับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไม่ได้
" คิดอะไรอยู่ ใบข้าว "
" ฉันคิดว่าภูผาคนนั้นจะไม่มีวันยอมรามือไปจากไร่เรืองกิจเกษมแน่ ถ้าเขายังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ "
" ดูเธอจะเข้าอกเข้าใจไอ้หมอนี่มันดีนะ ใบข้าว -- รู้จักมันด้วยเหรอ " ประโยคของสิงหาที่พูดออกมาทำเอาใบข้าวอึกอัก
" ฉันก็แค่ฟังมาจากลุงเหมยเล่านั่นแหละ อีกอย่างคนพวกนั้นก็มาหาคุณถึงที่นี่ แสดงว่าภูผาอะไรนั่นคงอยากได้ที่ดินตรงนั้นของคุณมาก ถ้าเป็นแบบนี้พวกเขาก็คงไม่ยอมให้คุณแข็งข้อกับเขาเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ "
สิงหายิ้มฮึกับเหตุผลของใบข้าว เขาเอื้อมไปหยิกแก้มของใบข้าวด้วยควาหมั่นเขี้ยว
" โอ๊ย! คุณสิงห์ ฉันเจ็บนะ " ใบข้าวร้องหน้านิ่วเธอยกมือตีไปที่มือของสิงหา
" เธอนี่ช่างพูดเหมือนกับที่ -- " สิงหาหยุดพูดแค่นั้น เขายอมปล่อยมือออกจากแก้มนุ่มนิ่มของเธอ คนโดนหยิกยกมือลูบแก้มตัวเองส่งตาเขียวให้
" ช่างพูดเหมือนกับที่อะไรล่ะคุณ ทำไมไม่พูดต่อให้จบ " ใบข้าวถามลูบแก้มตัวเองไปมา
" ฉันจำไม่ได้ล่ะ -- ไหน ดูสิ ว่าแก้มแดงหรือเปล่า " สิงหาบอกปัดๆก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง เขาจับมือของเธอที่ลูบแก้มตัวเองอยู่ออกแล้วดึงเธอเข้ามาใกล้ตัว สิงหายืนพิงไปกับขอบโต๊ะทำงานแล้วโอบเอวเธอไว้มองดูแก้มแดงระเรื่อที่ไม่ได้มาจาการที่เขาหยิกเธอหรอก แต่มันเป็นอาการเขินอายของใบข้าวที่อยู่ใกล้เขาในระยะประชิด " โห แดงเลยนะเนี่ย" สิงหาแกล้งร้องออกมาพลางใช้นิ้วโป้งลูบวนแก้มนวลเนียนอย่างเบามือใบข้าวมองค้อนใส่เพราะรู้ว่าสิงหาแกล้งเธออีกแล้ว
" ไม่ต้องแล้ว ฉันจะกลับไปทำงาน " ใบข้าวว่าจับมือของสิงหาออกจากแก้มเธอแต่สิงหากลับจับมือนั้นไว้ มือข้างซ้ายที่ยังมีแหวนแต่งงานอยู่บนนิ้วนางของเธอ สิงหายิ้มกว้าง " ยิ้มอะไรของคุณ คุณสิงห์ " ใบข้าวถาม เธอเองก็เก้อเขินเหมือนกันที่ยังใส่แหวนแต่งงานติดนิ้วอยู่ตลอดเวลา
" ก็ยิ้มดีใจที่เธอยังสวมมันอยู่น่ะสิ "
" ต้องสวมซิ ของสำคัญของคุณแม่คุณนิ " ใบข้าวตอบเบือนหน้าหนีไม่กล้าสบตาสิงหาเป็นโอกาสให้เขาได้ขโมยหอมแก้มเธอเต็มๆ
" คุณสิงห์! "
" พี่สิงห์สิ "
ใบข้าวเม้มปากแน่นมองสายตากรุ้มกริ่มของสิงหาแล้วอยากจะกรี๊ดดังๆ ตั้งแต่คืนนั้นสิงหาก็ไม่ปล่อยโอกาสให้หัวใจของเธอได้พักบ้าง เขาคอยหาเรื่องแกล้งเธอแบบนี้อยู่เรื่อย
" ไม่เรียก! "
" ถ้าไม่เรียกก็จะหอมแก้ม " สิงหายิ้มเจ้าเล่ห์พลางยื่นหน้าเขาไปใกล้ใบข้าว เธอหลุดร้องห้ามออกมา
" อย่านะ! "
" นายสิงห์คะ " ประตูออฟฟิศเปิดออกมะลิยืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าของเธอรู้สึกผิดที่เข้ามาขัดจังหวะของสิงหากับใบข้าว แต่ใบข้าวพอรู้เบื้องหน้าเบื้องหลังของมะลิแล้วเธอก็รู้ว่านั่นเป็นแค่หน้ากากที่ฉาบเอาไว้บนหน้าจริงของอีกฝ่าย
" มีอะไรเหรอ มะลิ ทำไมจะเข้ามาไม่เคาะประตูก่อน " สิงหาถาม
" มะลิขอโทษค่ะ นายสิงห์ " มะลิเม้มปากเบาๆ เธอมองสิงหาทีใบข้าวที ใบข้าวเห็นแบบนั้นเลยพูดขึ้น
" ท่าทางคงอยากคุยกับพี่สิงห์แค่สองคน " ใบข้าวผุดยิ้มพรายออกมา เธอหันไปส่งตาหวานใส่สิงหาต่อหน้ามะลิ " งั้นใบข้าวไม่กวนพี่สิงห์แล้วดีกว่าค่ะ ต้องกลับไปช่วยคุณน้าทำอาหารมื้อเย็นด้วย " ไม่ใช่แค่ส่งตาหวานให้แต่ยังยิ้มหวานให้เขาด้วย สิงหาอมยิ้มรู้ดีว่าใบข้าวแกล้งทำต่อหน้ามะลิ " คุยเสร็จแล้วรีบกลับไปที่บ้านนะคะ วันนี้มีของโปรดของพี่สิงห์ด้วย น้ำพริกหนุ่ม ปลาสลิดทอด แกงจืดลูกรอกค่ะ "
สิงหาพยักหน้ารับยิ้มๆ " ได้สิ เดี๋ยวพี่รีบกลับนะครับ " คนเจ้าเล่ห์ฉวยโอกาสนี้กดจมูกหอมลงไปบนแก้มของใบข้าวสูดความหอมเข้าเต็มปอดต่อหน้ามะลิ ใบข้าวหันมาถลึงตาใส่ สิงหาแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วปล่อยให้ใบข้าวเดินออกจากออฟฟิศไป ส่วนตัวเขาเองก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้หยิบแฟ้มเอกสารออกมาตรวจ
" ว่ามาสิ มีอะไร "
" ทำไมนายสิงห์ถึงแต่งงานกับใบข้าวทั้งๆที่นายสิงห์ไม่ได้รักใบข้าวคะ " มะลิถาม
สิงหาเงยหน้าขึ้นมาจากแฟ้มเอกสารมามองมะลิที่กำลังยืนร้องไห้อยู่ เขาถอนหายใจ " เรื่องของฉันๆจะแต่งงานกับใครก็ไม่เกี่ยวกับเธอ " สิงหาไม่สนใจน้ำตาของมะลิอีกฝ่ายกัดปากแน่นกับท่าทีเย็นชาของนายสิงห์
" มะลิรู้นะคะว่าที่นายสิงห์แต่งงานกับใบข้าวเพราะแค่อยากให้มะลิตัดใจจากนายสิงห์ " มะลิพูด สิงหาถอนหายใจออกมา เขาตัดสินใจลุกออกจากเก้าอี้ทั้งๆที่พึ่งนั่งไปได้ไม่ถึงห้านาทีพลางรวบแฟ้มเอกสารหอบขึ้นมาเตรียมตัวออกจากออฟฟิศ แต่กลับถูกมะลิรั้งแขนไว้
" มะลิรักนายสิงห์นะคะ มะลิจะไม่ตัดใจจากนายสิงห์ ถึงนายสิงห์จะแต่งงานแล้วก็ไม่เป็นไร มะลิยอมเป็นเมียน้อยหรือจะให้มะลิเป็นเมียเก็บของนายสิงห์ก็ได้! มะลิจะไม่ไปวุ่นวายกับใบข้าวเลยค่ะ! "
" พูดบ้าอะไรของเธอ มะลิ! " สิงหาสะบัดแขนของมะลิออก เขาถอยห่างจากมะลิออกมามองดูเธอราวกับเธอเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ
" มะลิยอมทุกอย่างเลยนะคะ นายสิงห์ ไม่ต้องเปิดเผยก็ได้ ขอให้มะลิได้อยู่กับนายสิงห์นะคะ " มะลิเข้ามากอดแขนของสิงหาไว้ ร้องห่มร้องไห้ " มะลิรักนายสิงห์นะคะ "
" พอได้แล้ว มะลิ! " สิงหาดึงมะลิออก " ฉันบอกแล้วไงว่าเรื่องของฉันกับเธอจบกันแค่คืนนั้นเราไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันอีก "
" ทำไมทีกับนังใบข้าว นายสิงห์ถึงยอมแต่งงานกับมัน "
" อย่าเรียกจิกใบข้าวแบบนั้นและห้ามเรียกว่ามัน " สิงหาคำรามใส่ ส่งสายตาดุดัน " ที่ฉันแต่งงานกับใบข้าวเพราะฉันอยากแต่งงานกับเค้า และใบข้าวจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ฉันรักไม่ใช่ผู้หญิงคนอื่น! " สิงหาพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น จากนั้นเขาก็เดินออกจากออฟฟิศไปทิ้งให้มะลิร้องไห้อยู่ตามลำพัง
" พรุ่งนี้พ่อกับน้าเราจะลงกรุงเทพไปเยี่ยมป้ายุนะ " ตุลาบอกกับลูกชายหลังจบอาหารมื้อเย็น สองพ่อลูกออกมานั่งคุยกันที่ม้านั่งนอกชานบ้าน
" ย่ายุเป็นอะไรเหรอครับ พ่อ " สิงหาถามยกขวดเบียร์ขึ้นดื่ม ย่ายุเป็นพี่สาวของปู่ของเขาแต่เพราะย่ายุย้ายไปแต่งงานที่ต่างประเทศได้สามีเป็นคนต่างชาติอยู่หลายปีทางฝั่งสิงหาที่มีศักดิ์เป็นหลานเลยไม่ได้สนิทสนมกันมากนัก
" ไม่ได้เป็นอะไรหรอก ก็แค่จะบอกข่าวเรื่องงานแต่งของหลานชายแกนั่นแหละ "
" อ่อครับ แล้วพ่อกับคุณน้าจะไปอยู่กี่วันครับ "
" คงสักสี่ห้าวันนั่นแหละ จะถือโอกาสสังสรรค์กับเพื่อนเก่าที่กรุงเทพด้วยซะเลย " ตุลาตอบ สิงหาพยักหน้ารับ " แล้วเราเป็นไงบ้างล่ะ " ตุลาถาม สิงหาที่ยกขวดเบียร์ขึ้นดื่มได้แค่อึกเดียวก็ถามกลับ
" อะไรเหรอครับ พ่อ "
" ก็หนูใบข้าวน่ะสิ ถึงตอนนี้แล้วคิดยังไง " สีหน้าเคร่งขรึมของคนเป็นพ่อเอ่ยถาม แววตาสุขุมมองลึกลงไปดวงตาของลูกชายคนโต
" เป็นอย่างที่ได้ฟังมาครับ " สิงหาตอบยิ้มๆ แต่คำตอบของเขากลับทำให้คนเป็นพ่อทำหน้าสงสัย
" ไม่รู้ได้ฟังอะไรมา แต่เห็นจากสีหน้าแล้วก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีสินะ " ตุลาว่า
" ครับพ่อ ถ้าทุกอย่างลงตัวผมจะเล่าให้ฟังเองนะครับ "
ตุลาพยักหน้ารับพอดีกับที่บุหลันกับใบข้าวเดินถือถาดใส่ถ้วยบัวลอยมะพร้าวอ่อนออกมาด้วย
" ทำเองเหรอ หนูใบข้าว " ตุลารับถ้วยมาจากบุหลัน ใบข้าวส่ายหัว
" เปล่าค่ะ คุณพ่อ ข้าวแค่ช่วยคุณน้าคนกะทิเท่านั้นเองค่ะ "
" ทำเองหมดเลยค่ะ คุณตุลย์ คุณสิงห์ -- สอนแค่แป๊บเดียวก็ทำได้แล้ว " บุหลันว่าหันไปยิ้มเอ็นดูให้ใบข้าว เธอยิ้มแก้มแดง
" ผมก็สงสัยอยู่ว่าทำไมวันนี้แป้งบัวลอยถึงได้ดูเล็กบ้างใหญ่บ้าง ที่แท้ก็เธอเป็นคนปั้นนี่เอง " สิงหาว่าเสียงเยาะแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ตักบัวลอยที่ใบข้าวทำเข้าปาก คนทำบัวลอยนั่งทำหน้าลุ้นว่าคนกินจะพูดว่าอะไร " ก็อร่อยดี " สิงหาว่า
" จริงเหรอ คุณสิงห์ " ใบข้าวร้องถามอย่างดีใจพอเห็นเขาพยักหน้ารับอีกครั้งเธอก็ยิ่งดีใจกว่าเดิม " เย้ๆ ดีใจจังเลยค่ะ คุณพ่อ คุณน้านี่น่ะเป็นเมนูแรกในชีวิตข้าวเลยนะคะที่ทำได้แล้วมีคนชมว่าอร่อยน่ะ " เธอหันไปพูดกับตุลาและบุหลันด้วยสีหน้าตื่นเต้น ก่อนจะหันกลับมาที่สิงหา " คุณห้ามหลอกฉันนะ คุณสิงห์ "
" ฉันจะหลอกเธอไปทำไม ให้คุณพ่อคุณน้าตัดสินก็ได้ " สิงหามองไปทางตุลากับบุหลันที่เริ่มตักบัวลอยเข้าปากแล้วเหมือนกัน ทั้งสองต่างยกนิ้วให้ " เป็นไง สามผ่าน แบบนี้เปิดร้านบัวลอยขายได้เลยนะ " สิงหาเอ่ยปากแซวใบข้าวที่ยังตื่นเต้นดีใจไม่หยุดกับการทำบัวลอยครั้งแรกในชีวิต
" อย่ามาแซวนะ คุณสิงห์ ถ้าฉันเปิดร้านจริงล่ะก็ต้องโด่งดังเป็นพลุแตกแน่ ถึงเวลานั้นอย่ามาขอกินฟรีก็แล้วกัน " เธอย่นจมูกใส่เขา สิงหากระตุกยิ้มแล้วดึงแขนใบข้าวเบาๆให้คนที่ยืนอยู่มานั่งที่ตักของเขา
" นี่! จะทำอะไรน่ะ คุณสิงห์ " ใบข้าวพยายามจะลุกขึ้นแต่ถูกสิงหากอดเอวไว้แน่น เธอหันไปมองตุลากับบุหลันที่ยิ้มให้เธอกับสิงหา " คุณพ่อ คุณน้าอยู่ตรงนี้ด้วยนะ ไม่อายหรือไง " ใบข้าวหันกลับไปถลึงตาใส่พลางตีไปที่หน้าอกของสิงหา " คุณสิงห์! "
" ทำไมยังเรียกว่าคุณสิงห์อยู่อีกล่ะ หนูใบข้าว -- เรียกพี่สิงห์ซิ " บุหลันเอ่ยปาก ใบข้าวอึกอักตอบไม่ถูกเธอหันไปมองสิงหาที่ยิ้มเย้ยกลับมาเหมือนกับจะบอกเธอว่าทำตามที่คุณน้าพูดซิ ใบข้าวเม้มปากแน่น
" เรียกพี่สิงห์ซิครับ ใบข้าว " สิงหาทำเสียงล้อเลียนใส่ ใบข้าวหันไปเหยียดยิ้มให้มือวางบนอกของสิงหา
" ได้ซิคะ พี่สิงห์ " ใบข้าวหยิกที่หน้าอกของเขาอย่างแรงจนสิงหาร้องโอ๊ยลั่น ใบข้าวรีบลุกหนีทันที " ข้าวขึ้นข้างบนก่อนนะคะ คุณพ่อ คุณน้า " พูดเสร็จเธอก็รีบวิ่งหนีขึ้นชั้นสองไปทันที
" คุณสิงห์แกล้งน้องอีกแล้วนะคะ " บุหลันทำเสียงดุใส่ สิงหาหัวเราะเบาๆก่อนจะขอตัวเดินตามใบข้าวขึ้นไป
" ใบข้าว " สิงหาเคาะประตูเรียกอยู่ที่หน้าห้องนอนตัวเอง " ใบข้าว เปิดประตูหน่อย "
ใบข้าวยืนอยู่หลังประตูอีกฝั่ง " คืนนี้คุณไปนอนห้องน้องชายคุณแล้วกัน ฉันจะนอนที่นี่คนเดียว " ใบข้าวว่า
" พูดอะไรน่ะ ใบข้าว ขืนทำแบบนั้นคุณพ่อคุณน้ามาเห็นก็ได้เป็นเรื่องหรอก " สิงหาพูด " เปิดประตูที ใบข้าว "
" คุณก็บอกคุณพ่อกับคุณน้าคุณไปซิ ว่าคุณไม่สบายหรืออะไรก็ได้ แค่นี้คุณพ่อกับคุณน้าก็ไม่ถามแล้ว " ใบข้าวว่าเสียงกระเง้ากระงอด หลายคืนที่ผ่านมาเธอสามารถเอาตัวรอดจากสิงหามาได้ก็จริงแต่เธอเองก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองจะต้านทานความรู้สึกตัวเองที่มีต่อสิงหาไปได้อีกนานแค่ไหน
" โกหกไม่ดีนะ ใบข้าว " สิงหายืนรอที่หน้าประตูอย่างใจเย็น " อีกอย่างฉันให้สัญญาแล้วนิว่าจะไม่ทำจนกว่าเธอจะยอมน่ะ "
ประตูเปิดออกทันทีใบข้าวยืนหน้างอใส่เขาอยู่ สิงหาเดินเข้ามาในห้อง " ไม่ใช่กับแค่เรื่องนี้ คุณต้องสัญญาด้วยว่าจะไม่ทำแบบที่ผ่านมาด้วยถ้าฉันไม่อนุญาตก็ห้ามทำ "
สิงหายกคิ้วสูงขึ้นข้างหนึ่งมอง " ทำแบบนี้ทำยังไง หืม " เขาสืบเท้าเดินเข้าไปใกล้ใบข้าว
" ก็ทำรุ่มร่ามใส่ฉันน่ะสิ " ใบข้าวแหวกลับพลางถอยหลังออก
" รุ่มร่ามแบบไหนกันนะ " สิงหาทำเฉไฉแกล้งเดินเข้าไปใกล้ใบข้าว ยิ่งเขาเดินเข้าไปหาเธอใบข้าวก็เดินถอยหลังหนีเขาเหมือนกัน
" ก็รุ่มร่ามแบบนี้ไง! " ใบข้าวว่าเสียงสั่นหวั่นใจกับท่าทีของสิงหา เธอถอยหลังจนหลังชนเข้ากับโต๊ะ " ถอยออกไปนะ คุณสิงห์ " เธอใช้สองมือยันไหล่ของเขาไว้ตอนที่เขายกตัวเธอขึ้นวางบนโต๊ะ ใบข้าวมองตาขุ่นใส่
" โกรธเหรอ " สิงหาทอดสายตาถาม เขาเอาหน้าผากแตะกับของเธอ ระยะที่ห่างกันเพียงแค่นี้ทำให้ทั้งสองสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ใบข้าวส่ายหน้า " งั้นงอนพี่เหรอครับ " น้ำเสียงถามอย่างออดอ้อน
ใบข้าวส่ายหน้า " ไม่โกรธไม่งอน พี่ก็ทำแบบนี้ได้ใช่มั้ย " สิงหาไม่รอคำตอบกดจูบที่แก้มของใบข้าวเจ้าตัวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้สิงหากดจูบย้ำๆที่แก้มสัมผัสกลิ่นหอมอ่อนๆจากผิวกายที่เหมือนกับเด็กแรกเกิด ริมฝีปากค่อยๆเคลื่อนจากแก้มไปอย่างช้าๆก่อนมันจะแตะลิ้มชิมริมฝีปากที่น่าทะนุถนอมเหมือนกลีบกุหลาบ
" พอแล้ว " ใบข้าวยกมือแตะห้ามที่ริมฝีปากของสิงหา นัยน์ตาหวานเยิ้มเพราะเคลิ้มในรสจูบ สิงหายิ้มกับท่าทีของใบข้าวเขาดึงมือเธอมาจูบเบาๆ
" พรุ่งนี้วันหยุด คุณพ่อคุณน้าไม่อยู่ เราเข้าเมืองกันมั้ย "
" เข้าๆ " ใบข้าวยิ้มหวานตอบรับ
ใบข้าวออกอาการลิงโลดที่ได้เข้าเมืองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ตัดสินใจก้าวเท้าเข้ามาในไร่เรืองกิจเกษมเพื่อตามหากอหญ้าพี่สาวนี่ก็สามเดือนกว่าแล้ว คนเคยใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ทั้งที่กรุงเทพและที่ลอนดอนมาก่อนพอต้องเปลี่ยนไปใช้ชีวิตในไร่ห่างไกลเมืองแรกๆก็รู้สึกเบื่อที่ชีวิตไม่มีสีสันแต่พออยู่ในไร่จนเริ่มชินกับวิถีชีวิตแบบเชื่องช้าไม่เร่งรีบใบข้าวก็หลงรักชีวิตแบบนี้เข้าให้ เพราะอย่างนั้นพอถึงเวลาที่ได้กลับเข้าเมืองมาจริงๆทุกสิ่งรอบตัวเธอก็ดูน่าเบื่อสำหรับเธอ
" ตอนจะออกจากไร่ยังทำหน้าดีใจอยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงทำหน้าเหมือนอยากกลับบ้านอย่างนั้นล่ะ " สิงหาถามระหว่างที่พวกเขานั่งทานข้าวกันอยู่ในร้านอาหาร
" ไม่รู้เหมือนกันตอนแรกก็ดีใจจริงๆนั่นแหละ แต่ว่าพอมาเดินได้สักพักก็เริ่มเบื่อแล้วอ่ะ อยากกลับไปเดินดูต้นส้มต้นเมล่อน ต้นสตรอว์เบอร์รี และก็ทุกอย่างในไร่มากกว่า " ใบข้าวว่า " แบบนั้นสนุกกว่าตั้งเยอะ เดินเพลินจนลืมเวลาไปเลยล่ะ "
สิงหายิ้มฮึออกมา " ขนาดนั้นเลย "
" ใช่! ขนาดนั้นเลย "
" ถ้างั้นกินข้าวเสร็จก็กลับเลยมั้ย ได้มือถือใหม่แล้วนิ " สิงหาแกล้งถาม ใบข้าวส่ายหน้าเร็ว
" อย่าพึ่งได้มั้ย คุณ -- เออ " ใบข้าวออกอาการเก้อเขิน " พี่สิงห์ " เธอเรียกอ้อมแอ้มรู้สึกขัดเขินพาลนึกอยากตัดลิ้นตัวเองที่รับปากกับบุหลันไปแล้วว่าเธอจะเรียกสิงหาว่าพี่สิงห์
" เมื่อกี้จะว่าอะไรนะ " สิงหายิ้มกริ่ม ใบข้าวพ่นลมฮึยอมเห็นแก่คุณน้าก็ได้
" อย่าพึ่งรีบกลับได้มั้ย พี่สิงห์ " เธอทำหน้าอ้อนวอน
" ไหนว่าเบื่ออยากกลับไร่แล้วไง "
" ก็ข้าวได้ยินมาว่ามีร้านไอศกรีมชื่อดังจากญี่ปุ่นมาเปิดร้านที่เมืองไทย และเห็นว่าที่เชียงใหม่นี่ก็เป็นสาขาแรกเลยด้วย เราไปชิมกันก่อนน้า พี่สิงห์ "
สิงหามองคนช่างพูดที่ยิ้มอ้อนให้เขา บทจะทำตัวน่ารักขึ้นมาก็ทำเอาเขาอยากเก็บเธอขังไว้ที่ไร่ไม่อยากให้ใครเห็น ตอนนี้ไม่ว่าใบข้าวจะเดินไปทางไหนก็มีแต่หนุ่มๆเหลียวมองเขาหวงทุกอย่างที่เป็นของใบข้าวไม่อยากให้ใครมองเธอ
" บ้าจริง ใบข้าว! กินอะไรเลอะเทอะขนาดนี้ " สิงหาหงุดหงิดใส่ใบข้าวหลังละสายตาแค่หันไปจ่ายเงินค่าไอศกรีมก็มีหนุ่มๆมาขายขนมจีบให้จนเขาต้องทำตาขวางใส่กลับไป เขาเช็ดคราบไอศกรีมที่เปื้อนอยู่มุมปากของใบข้าวออก
" พี่สิงห์หงุดหงิดอะไรคะ ทำไมต้องทำหน้าดุด้วย " ใบข้าวถามยังไม่รู้ตัว
" ยังจะมาถามอีก " สิงหาแหวใส่ " ใครให้ทำตาเล็กตาน้อยใส่คนอื่น เห็นแล้วมันหงุดหงิดเข้าใจมั้ย "
" เฮอะว่าแต่คนอื่น ทีตัวเองยังยิ้มหวานใส่สาวๆเลยนิ " ใบข้าวแหวกลับไปบ้าง เธอเองก็ไม่ชอบใจเหมือนกันที่มีสาวๆมาทำชม้ายชายตาใส่สิงหาแล้วดูเจ้าตัวเองก็ไม่ระวังเรื่องนี้ยังยิ้มกลับไปให้อีก
" คราวหน้าจะไม่พาออกมาอีกแล้ว จะขังไว้ในไร่เลย " สิงหาแยกเขี้ยวใส่ ใบข้าวแลบลิ้นใส่กลับ
" ก็ลองดู! "
" หน็อยแน่ะ กล้าแลบลิ้นใส่เหรอ " สิงหาหยิกแก้มทั้งสองข้างของใบข้าวจนเธอร้องกรี๊ดใส่
" พี่อิ๊ง! อ้าวเอ็บอ้ะ "
สิงหาหัวเราะกับใบหน้าฉุนเฉียวของใบข้าวที่ถูกเขาหยิก
" คุณสิงหาหรือเปล่าครับ! "
สิงหาที่กำลังหยอกล้ออยู่กับใบข้าวเงยหน้าขึ้นมา รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเขาค่อยๆเลือนหายไปคงไว้แต่สีหน้าเคร่งขรึม นัยน์ตาอ่อนโยนที่มองใบข้าวพลันเปลี่ยนเป็นดุดันเมื่อเจอกับคนตรงหน้า
" ภูผา! "
********
เอาแล้วๆ ทำไงดีล่ะ ออกมาจากไร่ก็ได้เรื่องเลยนะ ใบข้าว ~ การเผชิญหน้ากันแบบที่ไม่ทันได้ตั้งตัวครั้งนี้จะเป็นยังไงต่อไปน้า
เรื่องของกอหญ้ายังเป็นปริศนาในเงามืดต่อไป มะลิที่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิงหา เธอจะทำอะไรต่อจากนี้ เรื่องราวของซ่อนลิขิตรักยังดำเนินต่อไป มาเอาใจช่วยทั้งคู่กันด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกการติดตาม ทุกข้อความและทุกการคอยของทุกคนมากๆนะคะ
ขอให้มีความสุขและสนุกกับการอ่านค่ะ