ซ่อนลิขิตรัก บทที่ 10
" คำตอบบ้าอะไรของเธอ ใบข้าว! " สิงหาถามใส่เสียงดัง หลังจากที่เขาพาเธอกลับมาที่ออฟฟิศในไร่ " ตอบอะไรออกมารู้จักอายบ้าง "
" ก็คุณอยากรู้ไม่ใช่หรือไงว่าฉันทำอะไรบ้าง ฉันก็ตอบให้แล้วไง! " ใบข้าวตอบกลับไปเสียงดังไม่แพ้กัน " แล้วอยากจะถามด้วยมั้ยล่ะว่าหลังจากฉันแก้ผ้าแล้วฉันทำอะไรอีก " ใบข้าวถามมองตาเขียวใส่
สิงหาเอาลิ้นดุนแก้มตัวเอง คิ้วของขมวดกันแน่น " นี่เธอตั้งใจจะกวนโมโหฉันใช่มั้ย ใบข้าว "
" ใช่! แล้วจะทำไม " ใบข้าวตอบ เชิดหน้าขึ้นอย่างท้าทาย สิงหากระตุกยิ้มเหี้ยม ก้าวเข้าไปคว้าแขนของใบข้าวขึ้นมา
" งั้นตอบสิ ว่าหลังจากเธอแก้ผ้าแล้วเธอทำอะไรต่อ " สิงหาถามดึงใบข้าวเข้ามาที่ตัว ใบข้าวหน้าแดงจัดทั้งโกรธทั้งอายกับคำถามของสิงหามือข้างหนึ่งยันอกเขาไว้ " ตอบสิ! ฉันถามเธออยู่นะ ใบข้าว " สิงหาแกล้งโน้มใบหน้าลงมาใกล้
" ฉันจะทำอะไรหลังจากแก้ผ้ามันก็เรื่องของฉัน! " ใบข้าวพยายามสะบัดให้หลุดจากสิงหา " ปล่อยนะ คุณสิงห์ ฉันจะกลับไปทำงาน! "
" อย่าพึ่งซิ! จะรีบไปไหน " สิงหาจงใจดันใบข้าวติดไปกับกำแพง มือข้างหนึ่งยันหัวไหล่ใบข้าวกดไว้ไม่ให้หนี " เธอไปไหนไม่ได้จนกว่าจะให้คำตอบฉัน "
" จะทำอะไร ปล่อยฉัน! " ใบข้าวพยายามดึงมือของสิงหาที่กดไหล่เธอไว้ออก แต่มือแกร่งของสิงหากลับยิ่งกดเธอจนหัวไหล่ติดกับกำแพง " คุณสิงห์! ฉันเจ็บ! "
" ปากเก่งนักไม่ใช่หรือไง ทำไมไม่ตอบล่ะ "
" คุณนี่มันโรคจิตหรือไง จะอยากรู้ไปทำไมว่าฉันทำอะไรหลังจาก -- " ใบข้าวกัดปากตัวเองแน่น พอเอาเข้าจริงๆเธอก็กระดากอายเหมือนกันที่พูดแบบนั้นออกไป ก็ตอนที่พูดน่ะมันกำลังโมโหคนบ้าตรงหน้าอยู่เลยพูดไปไม่ทันคิด แต่มาตอนนี้พอถูกไล่ต้อนเข้าเธอก็อายนะ " เรื่องของฉัน คุณไม่เกี่ยว! "
" อ้าว เมื่อกี้ยังกล้าบอกต่อหน้าคนอื่นเลยนิว่าแก้ผ้า ทีตอนนี้อยู่กับฉันแค่สองคนทำไมถึงไม่กล้าพูดล่ะว่าทำอะไรต่อหลังจากเธอแก้ผ้า " สิงหาไล่ต้อน จงใจใช้สายตาโลมเลียไปตามร่างกายของใบข้าว " เอาจริงๆ ฉันก็ชักอยากจะเห็นซะแล้วสิว่าเวลาที่เธอแก้ผ้า จะเป็นยังไงน้า ~ "
" ไอ้บ้า! ไอ้ทุเรศ! ไอ้โรคจิต! " ใบข้าวตวาดใส่ สีหน้าเกรี้ยวกราดพยายามดิ้นให้หลุด " ปล่อยฉัน! ไอ้บ้าเอ้ย! " ใบข้าวยกขาขึ้นเตะไปที่หน้าแข้งของสิงหาเต็มแรง
" โอ๊ย! ใบข้าว! " สิงหาคำราม เขาปล่อยใบข้าวแล้วจับหน้าแข้งตัวเองทันที " ฉันเจ็บนะ! "
" ดี! สมน้ำหน้า! " ใบข้าวใช้โอกาสนี้วิ่งหนีออกมาเจอกับมะลิที่เดินตามหาเธออยู่
" โดนนายสิงห์ทำโทษอะไรหรือเปล่า ใบข้าว " มะลิถามสีหน้าเป็นกังวล ใบข้าวส่ายหน้า
" ไปทำงานกันเถอะ " ใบข้าวชวนมะลิ จากนั้นทั้งสองก็กลับเข้าไร่ส้มไป
" เรื่องที่เกิดขึ้น ใบข้าว คิดว่าเป็นใครเหรอ " มะลิถามระหว่างที่พวกเธอกำลังช่วยกันเก็บส้ม
" ไม่รู้สิ บางทีฉันอาจจะเผลอไปเหยียบเท้าใครเข้าก็ได้มั้ง " ใบข้าวตอบไม่ใส่ใจ เธอวางผลส้มลงในลัง ปากบอกออกไปแบบนั้นก็จริงแต่ในใจก็คิดเหมือนกันว่าใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้ จะว่าบังเอิญก็ไม่ใช่ ทุกอย่างมันดูพุ่งเป้ามาที่เธออย่างที่มะอึกกับยะขิ่นตั้งข้อสังเกตเพราะไม่ว่าเธอจะลงไปทำงานที่แปลงไหนแปลงนั้นต้องมีปัญหาหลังจากที่เธอทำงานเสร็จแล้วทุกครั้ง
" ฉันว่าเธอมันเป็นตัวซวยมากกว่านะ " ช่อเดินเข้ามาพร้อมกับลูกไล่สองคนที่เห็นอยู่ด้วยกันประจำ " ได้ข่าวว่าเข้าแปลงไหนแปลงนั้นมีอันต้องพินาศเลยไม่ใช่เหรอ "
ใบข้าวพ่นลมฮึ ให้ตายเถอะ นี่มันวันทวงหนี้ของเจ้ากรรมนายเวรหรือไงนะ เธอยืนมองช่อพูดต่อไป " แล้วนี่นายสิงห์เขาให้เธอมาทำงานในไร่ส้มนี่ ไม่กลัวหรือไงนะว่าพรุ่งนี้ส้มทั้งไร่อาจจะไม่เหลือให้เก็บเลยก็ได้ " ช่อว่าหันไปหัวเราะคิกคักกับเพื่อนสองคน
" ฉันว่านายสิงห์คงไม่ต้องกลัวว่าส้มจะไม่มีให้เก็บหรอกนะ แต่นายสิงห์คงต้องกลัวหน่อยแล้วว่าคนงานในไร่ของเขาเอาแต่ใช้ปากพูดมากกว่าใช้มือทำงานนะ พี่ช่อ " ใบข้าวยิ้มหวานส่งให้ก่อนจะยกลังไม้ที่เก็บส้มเต็มแล้วขึ้นมา " ไปก่อนนะจ๊ะ พี่ช่อ เดี๋ยวนายสิงห์มาตรวจงาน ฉันยังไม่อยากล้างคอกวัวหนึ่งอาทิตย์น่ะจ้ะ " พูดจบใบข้าวก็เดินถือลังออกจากตรงนั้นไป
" วันนี้ทำได้ดีเลยนะ ใบข้าว " วิทย์เอ่ยปากชม เขามองส้มในลังที่ใบข้าวพึ่งทดลองเก็บมาได้สามวันใบข้าวก็เก็บได้เยอะขึ้นแถมผลส้มไม่ช้ำแล้วด้วย
" แน่นอนอยู่แล้วค่ะ คุณวิทย์ ฝีมือใบข้าวเลยนะคะเนี่ย " ใบข้าวหยิบช่อผลส้มที่ตัดมาเป็นพวงขึ้นมา เธอมองผลส้มในมืออย่างภูมิใจ " ผลส้มพวกนี้เก็บแล้วไปขายที่ไหนเหรอคะ คุณวิทย์ "
" ส่งให้กับมอร์นิ่งพลาซ่า เชียงใหม่มาร์เกต แล้วก็ส่งไปที่ตลาดผลไม้ทั้งจังหวัดเชียงใหม่กับจังหวัดอื่นด้วยครับ " วิทย์ตอบ " ส้มที่ไร่เรืองกิจเกษมมีชื่อเรื่องกลิ่นหอมอ่อนๆกับความหวานนะครับ ผลผลิตที่ออกมาแต่ละครั้งไม่เคยพอกับความต้องการของตลาดเลยล่ะครับ "
" ขนาดนั้นเลยเหรอคะ " ใบข้าวถามพลางยกผลส้มขึ้นดมเป็นอย่างที่วิทย์ว่าจริงๆนั่นแหละ เธอได้กลิ่นหอมอ่อนๆของส้มติดอยู่ที่ผิวของมัน
" ลองชิมดูสิครับ ผมรับรองว่าใบข้าวจะต้องไม่เคยกินที่ไหนมาก่อนแน่ " วิทย์แกะส้มส่งให้ใบข้าว
" จะดีเหรอคะ คุณวิทย์ " ใบข้าวมองซ้ายมองขวา " เดี๋ยวอีตาสิงห์บ้า เอ้ย ไม่ใช่ นายสิงห์ของคุณวิทย์มาเห็นเข้าคุณวิทย์จะถูกนายนั่นขย้ำเอานะคะ " วิทย์ขำพรืดกับประโยคของใบข้าว
" ใบข้าวไม่ตัองห่วงครับ นายสิงห์ไม่ว่าอะไรหรอกครับ ผลไม้ในไร่คนงานเก็บกินได้แค่ห้ามเอาไปขายข้างนอกนั่นเป็นกฎของที่นี่ครับ " วิทย์ยิ้มส่งส้มให้ใบข้างที่ยอมหยิบกลีบส้มชิ้นหนึ่งใส่เข้าปาก
" หืม! คุณวิทย์ ส้มอะไรเนี่ย " ใบข้าวเคี้ยวงึมงำ นัยน์ตาโตเป็นประกายเหมือนกับเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ เธอเอื้อมมือไปหยิบกลีบส้มอีกชิ้นที่วิทย์ส่งให้ " หวานมากเลยค่ะ อร่อยจัง "
" ใช่มั้ยครับ ผลส้มรุ่นใหม่ของที่นี่ทั้งหมดเป็นความสำเร็จของนายสิงห์เลยล่ะครับลงทุนลงแรงแล้วก็ทดลองอยู่หลายครั้งกว่าจะได้ผลที่กลิ่นหอมแล้วก็หวานอร่อยแบบนี้ "
ใบข้าวพยักหน้าไปด้วยกินผลส้มที่เหลือไปด้วย " นายสิงห์ของคุณวิทย์นี่ก็ทำอะไรได้มากกว่าสั่งนะคะเนี่ย "
" เธอมีปัญหาอะไรกับคำสั่งของฉันงั้นเหรอ " เจ้าของไร่เรืองกิจเกษมเดินเข้ามาที่ด้านหลัง ใบข้าวไม่กล้าหันไปมองเธอรีบส่งผลส้มคืนให้วิทย์
" ใบข้าวไปทำงานก่อนนะคะ คุณวิทย์ " ใบข้าวทำปากขมุบขมิบบอกก่อนจะเดินหนีสิงหาไปอีกทาง สิงหาเดินตาม
" นี่คุณมาเดินตามฉันทำไมเนี่ย คุณสิงห์ " ใบข้าวหันไปแหวใส่
" ใครเดินตามเธอ? " สิงหาย้อนถามสีหน้ากวนโมโหใบข้าว เขายืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงไว้ " ที่นี่ไร่ของฉันฉันจะเดินไปตรงไหนก็ได้มันเป็นสิทธิ์ของฉัน " ใบข้าวมองตาขุ่นใส่ มือกำแน่นนับหนึ่งถึงสิบไว้ในใจ
" งั้นก็เชิญคุณเดินไปตรงไหนของไร่ตามสะดวกเถอะค่ะ! " ใบข้าวเดินเลี่ยงหนีไปอีกทางแต่สิงหาก็ยังเดินตามเธออยู่
" โอ๊ย! คุณสิงห์!! นี่คุณตั้งใจจะยั่วโมโหฉันหรือไงกัน " ใบข้าวหันไปกรี๊ดใส่ สิงหากระตุกยิ้ม
" ที่นี่ไร่ของฉัน ฉันจะเดินตามคนงานที่พังแปลงผลไม้ฉันไม่ได้หรือไง " สิงหาว่า ใบข้าวกัดปากแน่นที่นับเลขไว้ในใจก็จำไม่ได้แล้วว่านับถึงเลขที่เท่าไหร่ เธอสาวเท้าเดินตรงเข้าไปหาสิงหา
" คุณยอมรับแล้วสินะ ว่าคุณคิดว่าฉันเป็นทำน่ะ! " ใบข้าวเสียงดังใส่ " ฉันจะบอกให้ฟังนะว่าฉันไม่ได้เป็นคนทำ! แล้วอย่ามาเดินตามฉันอีก!! " ใบข้าวหมุนตัวหันหลังกลับแล้วเดินเร่งเต็มฝีเท้า แต่ถึงอย่างนั้นสิงหาก็ยังเดินไล่ตามเพราะช่วงขาที่ยาวกว่าเลยทำให้สิงหาแทบไม่ต้องเร่งฝีเท้าเท่าใบข้าวที่ขาแทบจะขวิดกันอยู่ สุดท้ายใบข้าวก็วิ่งหนีสิงหาแทนก่อนจะหลบไปอยู่หลังโรงเก็บอุปกรณ์
" ไวชะมัด เผลอแป๊บเดียว " สิงหามองไปรอบๆไม่เห็นใบข้าวแล้ว
" นายสิงห์ครับ นายสิงห์ " คนงานกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหา
" มีอะไร " สิงหาถาม
" ลุงเหมยบอกว่าจัดการกับต้นที่ถูกทำลายเมื่อเช้าเรียบร้อยแล้วครับ นายจะให้ทำอะไรต่อ "
" เดี๋ยวฉันไปดูต่อเอง " สิงหาว่าสายตายังคงมองไปรอบๆ หาใบข้าว
" นายหาใครอยู่ครับ "
" ไม่มี ไปทำงานเถอะ " สิงหาพูด จากนั้นเขาก็เดินกลับไปที่แปลงอนุบาลเมล่อน ใบข้าวที่แอบดูอยู่ก็ลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
" เฮ้อ ~ คนบ้าอะไรอย่างกับผี ตามหลอกหลอนได้ตลอดเวลา " ใบข้าวบ่นอุบพลางทรุดตัวลงนั่งตั้งใจจะหายเหนื่อยก่อนแล้วค่อยลุกไปทำงานแต่สุดท้ายใบข้าวก็เผลอนั่งหลับไปตรงนั้นจริงๆจนกระทั่งเธอสะดุ้งตื่นเพราะเสียงร้องโวยวายระคนกับเสียงกรี๊ดกร๊าดของเด็กๆ
ใบข้าวมองไปรอบๆ พลางเดินหาต้นตอของเสียง ไม่ใช่แค่เสียงโวยวาย เสียงกรี๊ดกร๊าด แต่ยังมีเสียงร้องไห้ระคนอยู่ด้วย ในที่สุดใบข้าวก็เห็นกลุ่มเด็กๆที่เป็นลูกคนงานสี่ห้าคนจับกลุ่มยืนล้อมเป็นวงกลมแล้วกำลังสนุกสนานกับการปาดินใส่ใครสักคนที่นั่งอยู่ตรงกลางวง ใบข้าวรีบวิ่งเข้าไปห้าม
" พวกเธอทำอะไรกันน่ะ! " ใบข้าวเข้าไปคว้ามือของเด็กชายคนนึงไว้ในมือของเด็กชายไม่ได้ถือดินเหมือนคนอื่นแต่กลับถือไข่ไว้ คนถูกจับได้ตกใจเผลอบีบไข่ในมือแตก
" อี๋ ~ แหวะ "
" ไข่เน่าแตก "
ทั้งวงแตกฮือรวมถึงใบข้าวที่ปล่อยมือจากเด็กชายทันที เด็กคนอื่นๆวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง ใบข้าวคว้าคอเสื้อของเด็กชายที่ดูท่าทางแล้วคงเป็นหัวโจกไว้ได้ " พวกเธอเล่นอะไรกันเนี่ย " ใบข้าวถามยกมือขึ้นปิดจมูก กลิ่นของไข่เน่าลอยฟุ้ง เธอหันไปมองคนที่นั่งยองๆอยู่ตรงกลางวงเนื้อตัวอีกฝ่ายเลอะเทอะดินเต็มตัว ยังไม่ทันได้คำตอบเจ้าตัวก็สะบัดแล้วรีบวิ่งหนีตามเพื่อนไปอีกคน
" โถ่เอ้ย! หนีไปจนได้ " ใบข้าวเดินเข้าไปหาหญิงชราที่นั่งกอดเข่าอยู่ตรงนั้น " ยายเยื้อนคะ " ใบข้าวเรียก เยื้อนเงยหน้ามองใบข้าวด้วยสีหน้าเลื่อนลอย
" ใคร " อีกฝ่ายถามเสียงแห้ง ใบข้าวเม้มปากบางเธอทรุดตัวลงนั่งข้างๆ
" ใบข้าวเองค่ะ ยายเยื้อน " ใบข้าวตอบพลางเอื้อมมือไปจะหยิบเศษใบไม้ที่ติดอยู่ที่ผมองเยื้อน อีกฝ่ายสะดุ้งหนีออกมาด้วยท่าทีลนลาน
" อย่า! อย่าทำฉัน! ฉันกลัวแล้ว " เยื้อนร้องยกมือขึ้นพนม
" ยายเยื้อน ยายเยื้อน " ใบข้าวเข้าไปจับมือไว้ " ไม่เป็นไรนะคะ ยายเยื้อน ไม่เป็นไรแล้ว ไม่มีใครทำอะไรยายเยื้อนแล้วนะคะ พวกเด็กๆไปหมดแล้ว " ใบข้าวปลอบพลางเอามือลูบที่แขนอย่างเบามือให้หญิงชราหายกลัว " ไม่เป็นอะไรนะคะ ยายเยื้อน " ใบข้าวส่งยิ้มหวานให้ " ใบข้าวช่วยเช็ดให้นะคะ "
เยื้อนนั่งนิ่งมองใบข้าวที่เอาผ้าพันคอของตัวเองมาเช็ดหน้าเช็ดแขนที่เลอะดินออกให้อย่างไม่รังเกียจ " แย่จริงเชียว ทำไมถึงได้รังแกคนแก่แบบนี้นะ ถ้าเจออีกล่ะก็ ใบข้าวจะจับมาตีก้นให้เข็ดเลย " ใบข้าวบ่น
" แล้วคนที่อู้งานมา ฉันควรทำโทษยังไง ใบข้าว "
ใบข้าวสะดุ้งโหยงแล้วก็ลงความเห็นว่าสิงหา เรืองกิจเกษมน่ะไม่ใช่คนเขาน่ะเป็นผีที่ล่องลอยไปมาไปทั่วไร่เรืองกิจเกษม ใบข้าวหันไปมองเธอลุกขึ้นยืนพลางพยุงเยื้อนให้ลุกขึ้นตาม
" มาทำอะไรที่นี่ " สิงหาถามมองเยื้อน " แล้วยายเยื้อนเป็นอะไร "
" ก็เด็กแถวนี้น่ะสิแกล้งปาดินใส่แก นี่ถ้าฉันไม่มาเห็นไม่รู้ว่าสภาพยายเยื้อนจะเป็นยังไง " ใบข้าวตอบ
" พูดดีไป ไม่ใช่ว่ามางีบหลับหรอกนะ " สิงหายวนใส่ ใบข้าวถลึงตามอง
" นี่คุณสิงห์! แทนที่คุณจะมาว่าฉันว่าอู้งาน คุณควรจะไปอบรมเด็กในไร่คุณให้รู้จักเคารพผู้ใหญ่นะ ดูสิ ยายเยื้อนแกแก่ขนาดนี้ยังมารังแกได้ -- สงสัยว่าจะติดนิสัยเสียเจ้าของไร่มาล่ะมั้ง " ใบข้าวว่า คิ้วของสิงหากระตุกที่ถูกว่าใส่แบบนั้น
" กอหญ้า! " จู่ๆยายเยื้อนก็โพล่งออกมา ทั้งใบข้าวและสิงหามองเยื้อนทันที หญิงชรามองหน้าใบข้าวก่อนจะคว้าแขนของเธอไว้ " กอหญ้า -- กอหญ้า ต้องไป! เดี๋ยวนี้! " ไม่ใช่แค่จับแขนอย่างเดียวเยื้อนยังบีบแขนของใบข้าวไว้แล้วดึงเธอให้เดิน " เร็ว! กอหญ้า! "
" ยายเยื้อนครับ! " สิงหาเข้ามาจับแขนของหญิงชราไว้ มือข้างหนึ่งของเขาจับเแขนอีกข้างของใบข้าว " เธอไม่ใช่กอหญ้าครับ เธอชื่อใบข้าวครับ ยายเยื้อน -- ปล่อยมือนะครับ " สิงหามองด้วยสายตาเชิงสั่งทำเอาอีกฝ่ายมองสลับใบข้าวกับสิงหา
" นี่ใคร " ยายเยื้อนชี้นิ้วไปที่สิงหา
" ผมสิงห์ครับ ยายเยื้อน ปล่อยแขนใบข้าวก่อนนะครับ " น้ำเสียงราบเรียบของสิงหาทำให้ยายเยื้อนยอมปล่อยแขนใบข้าว สิงหามองรอยเล็บของยายเยื้อนที่จิกลงบนผิวเนื้อของใบข้าวจนเกิดเป็นรอย
" เป็นอะไรมั้ย " เขาถาม ใบข้าวที่ยังดูตกใจอยู่รีบตอบ
" อ่อนี่ ไม่เป็นอะไร " ใบข้าวไม่ใส่ใจ
" กลับไปทำงานได้แล้ว " สิงหาสั่ง ใบข้าวยืนนิ่งมองหญิงชราที่กลับไปอยู่ในอาการเหม่อลอยเหมือนเดิม " ไปสิใบข้าว หรือเธออยากจะทำงานล่วงเวลาด้วยการเก็บเศษใบไม้ทั้งไร่อีก! " สิงหาทำตาดุใส่ ใบข้าวมองค้อนกลับก่อนจะสะบัดหน้าหันหลังเดินกลับออกไป
ถึงจะเดินออกมาแล้วแต่ใบข้าวก็ยังติดอยู่กับคำพูดของยายเยื้อน เมื่อกี้เธอไม่ได้หูฝาดไปแน่ๆยายเยื้อนเรียกชื่อเธอว่ากอหญ้าถึงสามครั้ง พี่สาวเธอเคยอยู่ที่นี่จริงๆ แล้วที่ยายเยื้อนพูดว่าต้องไปเดี๋ยวนี้น่ะ หมายความว่ายังไงกัน
" ใบข้าว!! " สองเสียงประสานเรียกพร้อมกัน ใบข้าวหันไปมองมะลิที ยะขิ่นที
" ยะขิ่น มะลิ มีอะไรเหรอ " ใบข้าวถาม
" นายสิงห์ให้มาตามไปที่ออฟฟิศแน่ะ " ยะขิ่นตอบ ใบข้าวเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับคำ
" เดี๋ยวฉันไป ว่าแต่มะลิมีอะไรเหรอ " ใบข้าวถาม
" นายบอกให้ไปเดี๋ยวนี้เลย ใบข้าว " ยะขิ่นว่า
ใบข้าวถอนหายใจออกมา " รู้แล้วๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละ มะลิมีอะไรเดี๋ยวฉันกลับมาคุยด้วยนะ " ใบข้าวทิ้งงานตัวเองที่ทำอยู่เดินไปหาสิงหาที่ออฟฟิศคนเดียว
" ยะขิ่น ทำไมนายสิงห์ถึงเรียกใบข้าวไปที่ออฟฟิศเหรอ " มะลิถาม ยะขิ่นส่ายหน้า
" ไม่รู้สิ แต่เห็นให้เรียกเจ้าพวกน้ำแข็งไปด้วยล่ะ "
" สงสัยจะไปก่อเรื่องอะไรกับเจ้าเด็กพวกนั้นอีกล่ะสิ " ช่อเดินเข้ามาข้างหลังว่า สีหน้าไม่ชอบใจ " ตั้งแต่เข้ามาในไร่ก็มีแต่ปัญหา มีแต่เรื่องไม่เว้นวัน เป็นตัวปัญหาชัดๆเลย "
" พี่ช่อพูดเกินไปแล้วนะ ใบข้าวไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย " มะลิเถียงแทน
" ไม่ใช่ฉันคนเดียวสักหน่อยที่คิด เธอเองก็คิดใช่มั้ยล่ะ ตั้งแต่ยัยนั่นเข้ามาที่นี่ จุดสนใจก็ไปรวมอยู่ที่ยัยนั่นหมดแม้กระทั่งนายสิงห์ " ช่อกระตุกยิ้มเยาะ " ระวังหน่อยน้า มะลิ ทั้งๆที่พยายามมาตั้งนานแต่นายสิงห์ไม่ได้สนใจเลยผิดกับยัยใบข้าวมาทีหลังแต่โดนเรียกบ่อยๆแบบนี้ ไม่แน่ว่ายัยนั่นอาจจะได้นายสิงห์ไปก่อนเธอนะ "
" พูดอะไรออกมาน่ะ พี่ช่อ พูดเหมือนกับว่ามะลิจะ -- " ยะขิ่นยังพูดไม่จบ
" หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ ยะขิ่น " มะลิร้องก่อนจะร้องไห้วิ่งหนีไป
" ดูสิ มะลิเสียใจเลยเห็นมั้ย "
" ย่ะ ฉันเห็น แต่ที่ไม่เห็นน่ะคือแกต่างหาก ยะขิ่น " ช่อว่าก่อนจะชวนเพื่อนสองคนกลับไปทำงานต่อ ทิ้งให้ยะขิ่นเกาหัวตัวเองจากนั้นเขาก็วิ่งตามมะลิไป
******
สวัสดีค่ะ รี้ดที่น่ารักทุกคน
ไรท์พานายสิงห์กับใบข้าวมาเสิร์ฟให้แล้วน้า ~
เอ๊ะ เอ๊ะ ยังไงกันทำไมยายเยื้อนถึงเรียกใบข้าวว่ากอหญ้า ยายเยื้อนเป็นใครกันเกี่ยวข้องยังไง กอหญ้าหายไปไหน ที่ไร่เรืองกิจเกษมยังมีปริศนาอะไรซ่อนอยู่อีก รวมลุ้นไปด้วยกันนะคะ ^^
ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกการติดตาม และทุกข้อความของทุกคนอย่างมากเลยนะคะ รี้ดทุกคนคือกำลังใจสำคัญของไรท์จริงๆ >________<