รุ่งเช้า
"แอ้~" เสียงริกเตอร์ส่งสัญญาณร้องปลุกเเม่เหมือนทุกๆเช้า และดูเหมือนว่าคนเป็นแม่ยังนอนหันหลังหลับปุ๋ยไม่รู้สึกอะไร อากาศเย็นจากลมธรรมชาติคงทำให้เธอรู้สึกสดชื่นและสบายตัว
"ไม่ร้องรบกวนแม่นะริก" มือหนาลูบศีรษะเล็กลูกชายที่กำลังนอนคว่ำหน้า แนบแก้มนิ่มกับแผงอกกว้างในตอนเช้าตรู่ ปกติจะเป็นแม่ของเขาที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกชายหลังริกเตอร์ตื่นนอนในช่วงตีห้าทุกวัน ทว่าเมื่อคืนนี้เธอคงอ่อนเพลียเพราะเขาสูบเอาเรี่ยวแรงเธออีกรอบจนไอเดียร์แทบหลับคาห้องน้ำ
"แอ้~" ริกเตอร์ยิ้มแฉ่งปีนลงจากลำตัวหนาหมายจะคลานไปหาแม่ และนั่นก็ทำให้ชาริทดีดตัวลุกรีบคว้าตัวลูกกลับ เขายังอยากให้เธอพักผ่อนเต็มที่ ก่อนจะต้องตื่นขึ้นมาเลี้ยงลูกระหว่างเขาไม่อยู่ ยิ่งช่วงนี้ริกเตอร์กำลังอยู่ในวัยคลานเก่ง แถมยังคว้าสิ่งของเพื่อยืนขึ้นเดินไม่อยู่นิ่ง
"อื้อ~" เสียงครางงัวเงียจากคนนอนหลับเรียกความสนใจจากชาริทและลูกชายให้หันขวับมองต้นเสียงในตอนที่เธอพลิกแคงหน้ามาฝั่งเขาและริกเตอร์ แสงสว่างจากด้านนอกทำให้เธอต้องปรือตาขึ้นในที่สุด ใช้เวลานานนับนาทีกว่าจะโฟกัสภาพตรงหน้า แล้วพบว่ามาเฟียหนุ่มและลูกชายกำลังมองมาที่เธอ
"ฉันกับลูกกวนเธอเหรอ"
"หืม?" คิ้วมนสวยขมวดเข้าเล็กน้อย นี่เธอต้องหูฝาดไปแล้วแน่ๆที่เขาแสดงออกเหมือนกับว่ากำลังแคร์ ทั้งที่เขาจะสามารถเอะอะโวยวายยังไงก็ได้โดยไม่ต้องเกรงใจ เมื่อเห็นว่าเขายังรอเอาคำตอบจึงส่ายหน้าปฏิเสธเบาๆ
มือเล็กดันตัวลุกขึ้นนั่งพลางปิดปากหาววอด เสียงคลื่นซัดสาดด้านนอกส่งผลให้เธอไล่สายตาไปหยุดที่หน้าต่าง จึงทำให้รู้ว่าอากาศเย็นที่ได้รับไม่ใช่เครื่องปรับอากาศแต่เป็นเพราะเขาเปิดหน้าต่างออกจนกว้างทำให้ ลมด้านนอกพัดโกรกเข้ามาให้ความเย็นฉ่ำ
"ลูกตื่นทำไมนายไปปลุกฉันล่ะ" เธอเสยผมปรกหน้าขึ้นพอลวกๆ แล้วโน้มตัวไปคว้าตัวลูกชายมานั่งบนตัก ไอเดียร์เอียงคอสำรวจแพมเพิสลายใหม่ที่เธอจำได้แม่นว่ามันไม่ใช่ชิ้นเมื่อคืน
"ฉันเปลี่ยนให้ลูกเอง" สีหน้างุนงงของเธอทำให้เขาต้องเป็นฝ่ายเฉลย
"นายทำเป็นด้วยเหรอ"
"เคยเปลี่ยนให้หลาน"
"จริงสิ! พ่อนายไม่ซีเรียสเหรอที่ฉันมาอยู่บ้านนายแบบเนี้ย อีกอย่างพวกนายก็รวยมากด้วย ไม่คิดว่าฉันจะจับนายหรอกเหรอ" เธอรู้ว่าไม่ควรถามเขาออกไปตรงๆ แต่สิ่งที่มันค้างคาใจอย่างน้อยก็ควรจะได้รู้จากปากชายหนุ่ม เพราะถึงพ่อของเขาไม่มีท่าทีแสดงออกคัดค้าน ก็ไม่ได้แปลว่าข้างในจะคิดแบบนั้น
"พ่อแม่ฉันรวยอยู่ ใช้ไม่หมดหรอก" เขายื่นมือไปบีบแก้มนุ่มของลูกชายเมื่อเห็นริกเตอร์มองตาแป๋วเหมือนกำลังฟังเธอและเขาสนทนากัน
"ฉันก็เห็นในละครเยอะแยะ ใครๆก็ต้องกลัวผู้หญิงมาจับลูกตัวเองกันทั้งนั้น" พระเอกกับนางเอกถูกกีดกันเพราะฐานะที่ห่างกันราวฟ้ากับเหว ความรักต่างชนชั้นมันมักเต็มไปด้วยคราบน้ำ
เดี๋ยวนะ! เธอกับเขาก็ไม่ใช่พระเอกกับนางเอกเสียหน่อย ไม่ได้รักกันด้วยซ้ำทำไมต้องคิดไปไกลถึงขนาดนั้น
"พูดเหมือนเธอใช้เงินฉัน?"
"ก็คนอื่นอาจจะคิดแบบนั้น ก็นายรวยหนิ ...แล้วนี่นายจะออกไปทำงานตอนไหน"
"สองสามทุ่ม"
"ทำงานดึก?"
"อืม" เขาพยักหน้าให้ก่อนดันตัวลุกขึ้นเดินไปคว้าผ้าขนหนูเข้าไปอาบน้ำ ระหว่างนั้นเธอก็ให้นมลูกชายรอแล้วสลับเป็นฝ่ายไปอาบหลังจากเขาทำธุระเสร็จสรรพ
ชาริทพาลูกชายมาอาบน้ำด้านล่าง โดยมีเจอาร์คอยช่วยอีกแรงเพราะทั้งสองยังไม่คุ้นชินในการเลี้ยงเด็กเท่าที่ควร
แสงแดดด้านนอกช่วยให้ความรู้สึกอบอุ่นเมื่อลูกน้อยได้ลงเล่นน้ำก็หัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี กำปั้นน้อยๆตีกับผิวน้ำในขณะที่ผู้เป็นพ่อค่อยๆลูบไล้เจลอาบน้ำสำหรับเด็กอย่างเบามือ เสื้อเชิ้ตที่เขาพับแขนขึ้นก็พลอยเปียกน้ำไปด้วย
เจอาร์ชะงักเล็กน้อยหลังเจ้านายสวมเสื้อยืดให้กับลูกชาย จากนั้นนั่งพับแขนเสื้อเล็กโดยมีริกเตอร์นั่งอยู่บนตักหันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน
Rrrr Rrrr Rrrr
โทรศัพท์หรูแผดเสียงดังขึ้น เรียกความสนใจให้ริกเตอร์ชะเง้อคอมองหาต้นเสียงด้วยความอยากรู้ ผู้เป็นพ่อยังให้ความสนใจพับแขนเสื้อชั้นสุดท้ายเสร็จพอดี
"พาริกไปหาแม่ก่อน เดี๋ยวกูคุยโทรศัพท์ก่อน" เขาส่งลูกชายให้กับมือขวาคนสนิทแล้วเอื้อมมือไปกดรับ ใช้เวลาสนทนากับปลายสายอยู่นานสองนาน ก่อนจะได้บทสรุปแล้ววางสายในตอนที่ไอเดียร์ลงมาจากชั้นสองพร้อมกับอุ้มลูกชาย
"ชาริท นี่นายพับเเขนเสื้อให้ลูกเหรอ" ไอเดียร์ทำสีหน้าไม่พอใจ พร้อมกับคลี่แขนเสื้อที่ถูกพับให้คลายออกเป็นปกติ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
"อืม ทำไม"
"ลูกยังเด็กอยู่ อีกอย่างพับแบบนี้มันเหมือนพวกนักเลง"
"เธอจะเลี้ยงให้ลูกหน่อมแน้มหรือไง"
"โธ่... ลูกฉันทั้งคน ฉันก็อยากให้เขาเป็นเด็กดีไม่เกเร นายคงไม่เข้าใจหรอก" ผู้ชายเย็นชาอย่างเขาจะไปรู้สึกอะไร
"ริกเป็นผู้ชาย ลูกผู้ชายก็ต้องสามารถปกป้องน้องได้"
"แต่ริกไม่ได้มีน้อง" ไอเดียร์แย้ง
"ก็ให้มีซะสิ"
"พูดอะไรของนาย" หญิงสาวเสียงดังเล็กน้อย แล้วปลีกตัวออกในทันที โดยชาริทไม่รู้เลยว่าใบหน้าจิ้มลิ้มแดงซ่านด้วยความรู้สึกบางอย่าง
.
.
ไอเดียร์เหลือบมองชาริทป้อนข้าวลูกอย่างทุลักทุเลเมื่อริกเตอร์คลานหนีบ้างกลิ้งตัวไปมาบ้างส่งผลข้าวบดเปรอะเปื้อนไปตามแก้มนิ่ม จนเธอกลัวว่าลูกจะสำลักข้าวออกเพราะไม่ยอมอยู่นิ่ง แต่จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะในเมื่อนานครั้งเขาถือมีเวลาอยู่กับลูกแบบนี้ ก็ปล่อยมาเฟียหนุ่มได้ทำหน้าที่พ่อบ้าง
ตรงข้ามกับความคิดชายหนุ่ม เขาไม่อยากผูกพันกับริกเตอร์เลย เพราะถ้าเมื่อไหร่รู้สึกหวงแหนและผูกพันมากกว่านี้ เกรงว่านั่นจะกลายเป็นจุดอ่อนของเขาไปในทันที ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอนาคตจะต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับใคร
ในสังคมของเขามันมักไม่ได้ดั่งใจไปเสียทุกเรื่อง แม้เคยเข้าใจผิดว่าพ่อกับแม่รักกันตั้งแต่แรก พอผลสรุปเฉลยออกมากลับตาลปัตร พ่อและแม่ของเขาอยู่ด้วยกันเพียงเรื่องธุรกิจไร้ซึ่งความรัก ...กลัวเหลือเกินว่าวันหนึ่งจะมีจุดจบแบบนั้น
Rrrr Rrrr Rrrr
โทรศัพท์หรูแผดเสียงดังอีกครั้งหลังจากวางไปได้ไม่ถึงชั่วโมง ชาริทตวัดสายตาส่งสัญญาณบอกเจอาร์นำโทรศัพท์มาให้กับมือ เขาพ่นลมหายใจพรืดยาวเมื่อนึกถึงยังไม่ทันไรเบอร์ผู้เป็นแม่ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ สุดท้ายจำต้องกดรับอย่างเลี่ยงไม่ได้
"ครับ"
[ริทอยู่ไหน!] ประโยคคำถามเสียงแข็งกระด้างบ่งบอกถึงความไม่พอใจ มารดาคงรู้เรื่องทั้งหมดจากปากของพ่อเขาแล้ว
"ผมออกมาทำงานข้างนอก"
[ออกไปทำงานหรือพาเมียไปเที่ยวกันแน่]
"..." ชาริทใช้ความเงียบเป็นคำตอบ
[ออกมาเจอม๊าที่หน้าบ้านพัก ตอนนี้!]
______________________________________
อย่าหาค้างเชียว