"ชาริทเป็นคนใจดีนะ อยากได้อะไรก็ลองขอดู" จางเหว่ยบอกกับไอเดียร์ ในตอนที่หญิงสาวและลูกชายเดินมาส่งที่รถหลังได้ร่วมทานอาหารมื้อเย็นด้วยกันครั้งแรก ประโยคนั้นทำให้หญิงสาวกลอกตามาทางมาเฟียหนุ่มอย่างชั่งใจ
"เดินทางปลอดภัยครับ" ชาริทบอกผู้เป็นพ่อเสียงนิ่ง ไม่ได้สนใจท่าทีลอกแลกของเธอเลย กระทั่งไอเดียร์อวยพรอีกคนจางเหว่ยจึงขึ้นรถไปพร้อมกับลูกน้องหน้าตี๋จำนวนหนึ่ง
"เดี๋ยวอุ้มนายน้อยให้ครับ" เจอาร์อาสาพร้อมกับพยักหน้าตามหลังชาริท ส่งสัญญาณบอกไอเดียร์กลายๆเรื่องที่เธอต้องการร้องขอ
เธอไม่รอช้าพยักหน้าหงึกๆแล้วส่งริกเตอร์ให้กับชายหนุ่มอุ้ม ก่อนจะเร่งฝีเท้าตามหลังชาริทไป เพราะกว่าเธอจะเริ่มสตาร์ทชาริทก็ก้าวพ้นขอบประตูบ้านเข้าไปแล้ว
"นาย ฉันขอไปทะเลด้วยนะ พ่อนายบอกว่านายใจดีขออะไรก็ได้" ไอเดียร์รีบจ้ำอ้าวตามหลังคนตัวโต ราวกับว่าเขาคือเทพเจ้าตัวเลือกสุดท้ายที่เธอจะเอ่ยขอ
"แล้ว?" เขาถามกลับเสียงนิ่งสองขายังก้าวเดินอยู่
"ก็พ่อนายบอกว่านายใจดี"
"ถ้าฉันใจดี วันต่อๆไปเธอจะไม่ขอดวงจันทร์เลยเหรอ" เขาหยุดฝีเท้าแล้วเอี้ยวหน้ามายืนเท้าเอวสีหน้าไม่สบอารมณ์ ชีวิตของเขากลับไม่สงบสุขอีกเลยตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้
"นี่นายสมองกลับเหรอ เรายังอยู่ดวงจันทร์ไม่ได้" เธอเถียงกลับไปตามความคิดแววตาใสซื่อ แต่เมื่อเห็นสีหน้าดุก็รีบเม้มปากแน่นทันทีเมื่อเผลอต่อว่าเขาไปโดยไม่รู้ตัว
"ไม่เคยมีกล้าว่าฉันขนาดนี้" เขาเค้นเสียงผ่านไรฟัน สัญชาตญาณเอาตัวรอดเริ่มทำงานทำงานอัตโนมัติ
"นั่นฝนดาวตก!" เธอร้องเสียงตื่นชี้นิ้วให้เขามองไปที่หน้าต่างแต่กลับไม่เป็นผล ชาริทตวัดเเขนขึ้นกอดอกมองเด็กเลี้ยงแกะอย่างเอือมระอา
"วันนี้ไม่มีดาว"
"แฮร่!" คนจนมุมยิ้มแห้งๆเกาท้ายทอยแก้เขิน ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมหลบสายตาคม แถมยังแหงนคออ้อนวอนสุดชีวิต "ฉันชอบเที่ยวทะเล ตั้งแต่มีลูกฉันก็ไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวไหนเลย~ พ่อเทพบุตรจุดธูปช่วยเมตตาให้ฉันกับลูกไปด้วยนะๆ"
"..." เสียงมาเฟียหนุ่มกระแทกลมหายใจจนนับไม่ถ้วน เขาเบือนหน้าไปทางอื่นเหมือนพยายามข่มอารมณ์หงุดหงิด ยิ่งนับวันไอเดียร์ยิ่งไม่รู้สึกหวาดกลัวเขา ครั้นเหลือบหางตาคมมอง เธอก็กะพริบตาปริบๆ
"ชาริท~"
"โว้ย... วุ่นวาย" เขาหันหลังเดินขึ้นบันไดทำเอาหัวใจดวงน้อยอ่อนยวบเมื่อทุกอย่างไม่เป็นตามคำแนะนำของจางเหว่ย ชาริทไม่ใช่คนใจดีตั้งแต่ต้นแล้วเขาจะเมตตาเธอไปทำไม
"..." สายตาละห้อยมองตามแผ่นหลังกว้าง แม้ได้ยินเสียงเดินเข้ามาของคนด้านหลังก็ไม่สามารถเรียกความสนใจจากเธอได้เลย การถูกปฏิเสธมันคือพลังลบดีๆนี่เอง เรี่ยวแรงที่มีก็เหมือนถดถอยรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเสียดื้อๆ
"ถ้าไม่ห้ามก็แสดงว่าได้"
"ใช่เหรอ" ผู้หญิงสาวเอี้ยวหน้ากับไปเลิกคิ้วถามเจอาร์ ก่อนจะได้คำตอบทันทีที่เขาพยักหน้ายิ้มบางๆให้ ทว่าไอเดียร์กับกึ่งดีใจกึ่งไม่แน่ใจ
"เก็บเสื้อผ้าเถอะครับ ถ้าพรุ่งนี้ตื่นไม่ทันอดไปเที่ยวนะ"
"จะไม่ถูกนายนั่นถีบลงรถแน่นะพี่เจอาร์"
"รับรองครับ"
เมื่อได้รับคำตอบหนักแน่นรอยยิ้มกว้างก็ผุดขึ้นบนใบหน้าจิ้มลิ้ม ไอเดียร์ขอตัวขึ้นไปเก็บของอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะลงมารับริกเตอร์รีบไปเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ
.
.
เช้ามืด
เสียงเจ้าของร่างสูงโปร่งกระแทกลมหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เขาเหลือบมองแม่ของลูก ท่อนแขนเล็กอุ้มลูกชายให้นอนหลับไหลอยู่ในอ้อมกอดไม่ยอมวาง
"ส่งลูกมานี่" เมื่อเห็นว่าเธอยังดื้อดึงจึงยื่นมือเข้าไปช้อนริกเตอร์มานอนบนหน้าตักแกร่ง เนื่องด้วยอายุของลูกชายย่างเข้าเดือนที่เก้าไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆที่เธอจะสามารถอุ้มได้ตลอดการเดินทาง
ไอเดียร์เหลือบมองเสี้ยวหน้าคมอย่างนึกขอบคุณ ถึงเขาจะปากร้ายแต่ก็ยังพอมีน้ำใจอยู่บ้าง เธอเอนตัวไปซบศีรษะทุยเล็กกับกระจกรถเย็นๆ มองแสงไฟสลัวตามข้างทางที่รอการเติมเต็มแสงสว่างจากดวงอาทิตย์
...ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอผล็อยหลับไป รู้สึกตัวอีกทีในตอนที่ประตูอีกฝั่งเปิดออก เสียงบริบทโดยรอบปลุกให้เธอปรือตาตื่นขึ้นด้วยความงัวเงีย
"หม่ำ~ หม่ำ~" ลูกน้อยร้องหิวนมก่อนพ่อของเขาจะรับเอาขวดนมจากลูกน้องด้านนอกมาป้อนให้
ดวงตากลมกลอกมองด้านนอกฝั่งประตูรถ พบว่าลูกน้องของชาริทนำกระเป๋ามาวางไว้ทำให้ไม่สามารถเปิดออกไปตอนนี้ได้ ไอเดียร์หันกลับมามองเสี้ยวหน้าคมอย่างชั่งใจ
"นาย... ฉันอยากเข้าห้องน้ำ แต่ฝั่งฉันมันลงไม่ได้" หญิงสาวเริ่มนั่งบิดตัวไปมา แต่ชาริทกลับไม่สนใจยังคงทำหน้าที่ช่วยลูกน้อยประคองขวดนมต่อ
"ชาริท~ ฉันฉี่ใส่รถนายนะ" ไอเดียร์แกล้งขู่ ซึ่งมันก็เหมือนจะได้ผลเมื่อมาเฟียหนุ่มชักสีหน้าใส่
"มีปัญญาข้ามฉันก็ได้ลง" เขาส่งริกเตอร์ให้เจอาร์ที่ยืนรออยู่ด้านนอก โดยไม่ยอมลุกออกจากเบาะนั่งและยังกันทางทำให้เธอไม่สามารถลงจากรถฝั่งประตูของเขาได้ ความจำเป็นทำให้ไอเดียร์ตัดสินใจตะเกียกตะกายข้ามตักชาริทอย่างกล้าๆกลัวๆ
"ว้ายยย!" คนตัวเล็กร้องเสียงหลงเมื่อลำตัวผลัดตกไปนั่งบนพื้นเหยียบ ทว่าท่อนแขนและใบหน้ากลับฟุบพาดบนความเป็นชายเจ้าของตักเต็มประดา
"..." มาเฟียหนุ่มหลับตาลงอย่างปลงๆ
"ฝันร้ายแน่คืนนี้" ไอเดียร์พึมพำอย่างเจ็บใจ ค่อยผละใบหน้าแดงซ่านปนความโมโหตัวเองออกจากตัวตนของมาเฟียหนุ่ม ไม่กล้าแม้แต่เงยหน้าขึ้นสบตา
กลิ่นหอมตามเสื้อผ้าของเขาไม่สามารถดึงให้เธอหลงใหลได้ในตอนนี้ มีเพียงความอับอายขายขี้หน้าต่อสาธารณะชนโดยเฉพาะลูกน้องของชาริทที่หันขวับมามองตอนเธออุทานร้องตกใจออกไป
"ฉันไม่ใช่โรคจิตนะ"
"..." ชาริทชะงักไปในทันที เมื่อหญิงสาวพูดออกมาน้ำเสียงเศร้า ในแต่ละวันไม่รู้ว่าเขาต้องรับมือกับผู้หญิงคนนี้ยังไงดี
"ฉันอยากเข้าห้องน้ำหลบไปก่อน ค่อยเคลียร์กัน"
"นี่เธอ" เขาแทบอยากกัดลิ้นตายเมื่อไอเดียร์ดันตัวของเขาให้ลุกลงจากรถจนสำเร็จ ก่อนเธอจะวิ่งเข้าไปในบ้านพักริมทะเลโดยไม่สนใจสายตาลูกน้องของเขาเลย
______________________________________
น้อนนนนนน 555555