ชีวิตของไอเดียร์ยังวนเวียนอยู่เพียงมหาลัยวิทยาลัย ที่ทำงาน และที่บ้านจนกลายเป็นวัฏจักรชีวิตที่ซ้ำซาก เธอยังเป็นนักศึกษามีความรับผิดชอบ เป็นพนักงานดีเด่น และเป็นคุณแม่ที่เเข็งแกร่งต่อให้เหนื่อยจากการทำงานหามรุ่งหามค่ำ ก็สามารถเลี้ยงลูกน้อยต่อในช่วงเย็นได้โดยไม่ปริปากบ่นเหนื่อยเลยสักครั้ง ....ทุกวันนี้เธอก็ยังไม่ได้พบเจอกันกับพี่ชายเลย
"โทรหาพี่ดรีมดีกว่า" ว่าแล้วร่างกายก็ทำหน้าที่โน้มตัวไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปยังพี่ชายทันที สะโพกมนหย่อนลงข้างขอบเตียงเบาๆรอสายอย่างใจจดใจจ่อ
[ว่าไงเดียร์ ทานข้าวหรือยัง] เสียงปลายสายเอ่ยถามอย่างอบอุ่น
"ยังค่ะ เดียร์เพิ่งกลับจากทำงาน พรุ่งนี้พี่ดรีมว่างไหมคะ ทางคณะเดียร์หยุดสามวัน ว่าจะชวนนัดเจอกันหน่อย"
[เดียร์เอ๋ย... ตอนนี้พี่ออกมาดูงานที่ต่างจังหวัด ลูกคงจะคลานได้แล้วมั้ง เพิ่งจะนัดเจอพี่ได้เนี่ย]
"ฮ่าๆๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ" ริกเตอร์ลูกชายของเธอก็คลานได้แล้วจริงๆตามที่พี่ชายพูดกระแนะกระแหนนั่นแหละ จะปฏิเสธว่ายังไม่คลานก็ยังไงๆอยู่
...เวลามันก็ล่วงเลยผ่านมาหลายเดือนแล้ว อีกไม่กี่สัปดาห์ก็สอบมิดเทอม มีเวลาหยุดพักให้หายใจเพียงไม่เท่าไหร่ ก็ต้องเตรียมตัวออกฝึกงานในเทอมสอง...
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเจ้าของบ้านก็ยังคงเดิมไม่ได้มีการพัฒนาอะไร เขารับเธอกับลูกเข้ามาดูแลเพียงทำตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ ไม่ได้มีใจพอที่จะสานความสัมพันธ์ต่อ
...เรื่องอย่างว่าก็สิ้นสุดลงเพียงแค่คืนนั้นโดยเธอต้องเป็นฝ่ายออกไปซื้อยาคุมด้วยเองในวันต่อมา เพราะไม่อยากพลาดพลั้งมีลูกอีก ลำพังริกเตอร์คนเดียวก็แทบไม่มีเวลาพักผ่อน ถึงชาริทจะจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาให้ก็เถอะ เพราะหลังหกโมงเย็นก็เป็นหน้าที่แม่อยู่ดี
.
.
ร่างอรชรเดินกรีดกรายลงจากชั้นสองหลังวางสายพี่ชายไป หัวคิ้วมนขมวดเล็กน้อยในตอนที่บอดี้การ์ดชุดดำสองคนถือข้าวของพะรุงพะรังเข้าไปในครัว ความอยากรู้ทำให้เธอสะกดรอยตามห่างๆก่อนจะเอ่ยถามในตอนที่สองคนนั้นเดินกลับออกมา
"ถืออะไรมาเยอะแยะเหรอ"
"อาหารมื้อเย็นครับ นายท่านจะมาร่วมทานด้วย นายเลยสั่งอาหารจากโรงแรม"
"นายท่าน?" หญิงสาวเลิกคิ้วเล็กน้อยเพราะเธอไม่รู้ ว่านายท่านที่พวกเขาหมายถึงเป็นใครมาจากไหน
"ครับ อีกสิบนาทีก็คงถึง"
"เห็นเจอาร์ไหม เขาอยู่กับริกเตอร์หรือเปล่า"
"พี่เจอยู่โซนซีเคร็ทครับ"
"อ่อ ขอบใจนะ" ไอเดียร์พยักหน้าทำความเข้าใจทันที เธอเดินเท้าเปลือยเปล่าไปสวมรองเท้าสลิปเปอร์เดินมุ่งหน้าตามหาลูกน้อย โดยลืมว่าใครกำลังจะเข้ามาร่วมทานมื้อเย็นไปเลย
"โซนความลับเหรอ?" หญิงสาวพึมพำถามกับตัวเองเมื่อเดินเข้ามาในโซนบ้านอีกฝั่งซึ่งเป็นห้องโถง การตกแต่งตามผนังดูลึกลับต่างจากโซนที่เธออยู่อย่างสิ้นเชิง บรรยากาศเงียบกริบกระทั่งสามารถได้ยินเสียงเดินของตัวเอง ราวกับไม่มีใครอยู่เลยมองผิวเผินบรรยากาศก็วังเวงใช่เล่น เธอลูบท่อนแขนเบาๆเมื่อไรขนอ่อนลูกชูชันเกิดความกลัวเล็กน้อยตามจินตนาการในหัว
"จองเป็นบ้านพักหรือโรงแรมดีครับ"
"บ้าน เอาแถวริมทะเลมุมสงบๆหน่อยแล้วกัน"
กึก!
สองขาเรียวหยุดชะงัก แอบยืนฟังทั้งที่รู้แก่ใจว่ามันเป็นการเสียมารยาท ไหนๆก็พูดถึงเรื่องทะเลแล้วขอฟังด้วยหน่อยแล้วกันว่าเขาจะไปไหน
"จะแอบฟังอีกนานไหม" น้ำเสียงเข้มดุๆ
"..!" ไอเดียร์แทบแทรกแผ่นดินหนีเมื่อถูกจับได้ เธอเม้มปากเดินเข้าไปหาเขาและลูกน้องอาการหน้าเสียเล็กน้อย แต่ก็พยายามฉีกยิ้มกลบเกลื่อน
"มาทำอะไรโซนนี้" น้ำเสียงเข้มเอ่ยถามสีหน้าดุปนสายตาตำหนิ โซนนี้เขาเคยกำชับเธอแล้วว่าไม่จำเป็นอย่าเดินเพ่นพ่านเข้ามา เพราะมันเป็นส่วนที่เขามีไว้ใช้คุยเรื่องงานสำหรับลูกน้องและเพื่อนสนิทเท่านั้นที่จะเข้ามาได้
"ฉันมาตามนายไปทานข้าว" หญิงสาวตอบเสียงเบา หลบสายตาไม่กล้าสู้หน้า เวลาชาริทดุมักทำให้เธอรู้สึกกลัวทุกครั้ง ราวกับยักษ์มารหรือมัจจุราชก็ไม่ปาน
ชาริทถอนลมหายแรงพยายามข่มอารมณ์โทสะ เขาไม่ชอบที่สุดถ้ามีใครมาแอบฟังเวลาเขาคุยงาน นอกมันจะเป็นการเสียมารยาทแล้ว หากความลับรั่วไหลเขาคงไม่สามารถไว้ชีวิตคนผู้นั้น มาเฟียหนุ่มละความสนใจจากใบหน้ารู้สึกผิดของไอเดียร์ไปพูดกับมือขวาคนสนิทต่อ
"ตามนี้"
"ครับ" เจอาร์ก้มหัวให้นายเล็กน้อย แล้วถือไอแพดเดินออกไปเงียบๆ ไอเดียร์ได้แต่ทำสายตาละห้อยมองตามแผ่นหลังกว้างที่พึ่งสุดท้าย เมื่อถูกทิ้งให้อยู่กันเพียงลำพังสองคน ชาริทจะฆ่าเธอหมกในโซนนี้ไหมก็ไม่รู้ ริกเตอร์ก็สามารถหย่านมแม่ได้แล้วด้วย เพียงแค่คิดก็พานให้เสียวสันหลังวูบ
"ทีหลังอย่าเข้ามาเล่นโซนนี้ อย่าให้มีรอบสอง ...ฉันถือว่าเตือนแล้ว" ชาริทกระแทกลมหายใจแล้วเดินออกไปท่าทีไม่สบอารมณ์
"นาย" เสียงรั้งจากหญิงสาวทำให้ชาริทหยุดฝีเท้าแล้วเอี้ยวหน้าหงุดหงิดกลับมา
"อะไรอีก"
"จะไปแถวทะเลหรอ"
"อืม" เขากระแทกเสียงในลำคออย่างไม่เต็มใจตอบนัก
"ลูกอยากไปด้วย" เธอฉีกยิ้มจอมปลอมซ่อนอาการรอลุ้นแทบไม่มิด ลูกชายคนเดียวเขาก็ต้องเห็นใจและสงสารเธอเชื่ออย่างนั้น
"ลูกหรือแม่มัน"
"แฮร่!" คนถูกตามถามเกาท้ายทอยยิ้มเก้อด้วยความเขินอาย ไม่รู้จะตอบอย่างไรดีเมื่ออีกฝ่ายยังทำหน้าดุใส่ ดวงตากลมหรี่ลงอย่างชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะกลั้นใจพูดออกไป "ฉันหยุดยาวสามวัน ขอไปด้วยนะ"
"ที่นั่นไม่ใช่สนามเด็กเล่น" เขาทิ้งท้ายก่อนจะเดินสาวเท้านำหน้า ทำเอาคนถูกปฏิเสธกระทืบเท้าปึงปังตามหลังไปติด เธอโตแล้วและมีความรับผิดชอบพอไม่ใช่เด็กเสียหน่อย
"ฉันโตแล้วไม่ใช่เด็กซะหน่อย" เสียงตัวเล็กบ่นตามหลังท่าทางกระฟัดกระเฟียด
ตุ้บ!
เพราะมัวเเต่บ่นอุบจนไม่ดูว่าคนเดินนำหยุดฝีเท้าทำให้เธอชนกระแทกแผ่นหลังกว้างเข้าอย่างจัง โดยที่คนตัวโตยังยืนนิ่งแต่เป็นเธอที่เซถอยหลังเกือบล้มคะมำ
"โอ้ย! หยุดแล้วทำไมไม่บอกเนี่ย" มือเล็กยกลูบหน้าผากมนป้อยๆ ทำให้คนถูกต่อว่าเอียงเสี้ยวหน้าปลายหางตามองเล็กน้อย
"วุ่นวายชะมัด"
______________________________________
วันนี้มาเร็ว 5555555