"ฉันหมายถึงถ้าเธอไม่ยอมป้องกัน อย่าคิดไปไกล"
"ชิ~ ใครเขาอยากคิดไปไกลกับนาย" ไอเดียร์เบะปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ วัฏจักรชีวิตของเธอก็ขอให้ได้มีโอกาสออกไปทำงานบ้าง ไม่ใช่พอคลอดลูกได้เพียงไม่กี่เดือนก็ต้องมาตั้งท้องเพราะความพลาดพลั้งอีก
"เผื่อหวังสูง อยากจับฉัน"
"เหอะ! มั่นใจจังเลยคู๊ณณณ..." ยอมรับว่าเขามีครบทุกอย่างทั้งหน้าตาและความร่ำรวย ทว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเป็นหลัก เพราะการมีครอบครัวที่แสนอบอุ่นได้ ต้องเริ่มจากความรักความเข้าใจของคนสองคนก่อน
"นายน้อยยังไม่อาบน้ำนะครับ ผมไม่กล้าอาบให้" เจอาร์เดินเข้ามาขัดจังหวะเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งริกเตอร์ให้กับไอเดียร์ ซึ่งหญิงสาวก็ผลุนผลันลุกไปอุ้มลูกชายมาไว้ในอ้อมแขน
"เดี๋ยวอีกหน่อยค่อยอาบก็ได้ ขอบคุณนะคะ" หญิงสาวก้มหัวให้ตามความเคยชินซึ่งเจอาร์ก็ลนลานก้มหัวให้เช่นกัน ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปปล่อยให้สามพ่อแม่ลูกได้อยู่ตามลำพัง
"ลูกฉันเมื่อไหร่จะพูดได้" เจ้าของคำถามปลายหางตาเหลือบมองลูกน้อยในอ้อมกอดของหญิงสาว
"ถ้าพูดเป็นคำชัดๆสักคํานึงก็น่าจะประมาณสิบเอ็ดถึงสิบแปดเดือน เพราะเด็กแต่ละคนพัฒนาการไม่เหมือนกัน"
"อืม หิวหรือยัง" ดวงตากลมกลอกไปทางเจ้าของคำถามรู้สึกแปลกๆ ปกติเขากินข้าวไม่ได้สนใจเธอด้วยซ้ำ แล้ววันนี้ไม่รู้ผีห่าตนใดเข้าสิงถึงได้มาถามเรื่องเหล่านี้กับเธอ
"ยัง นายกินก่อนเลย" ถึงอย่างนั้นก็ให้คำตอบไป
"มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน" ดวงตาคมตวัดมาตำหนิ
"เอ้า! ฉันสั่งนายประโยคไหนเนี่ย" หัวคิ้วมนขมวดเข้าหากันยุ่งเหยิง ริกเตอร์เองก็ขมวดคิ้วแหงนมองหน้าแม่กับพ่อสลับกัน ราวกับว่าอ่านความรู้สึกของแม่ได้ว่ากำลังขุ่นข้องใจ
"พาลูกไปอาบน้ำจะได้ลงมากินข้าว" ชาริทยังออกคำสั่งต่อ ก่อนจะเบนใบหน้าคมหนีไปทางอื่นท่าท่างเคร่งขรึมตลอด ทำเอาคนมองรู้สึกเกร็งหน้าแทน
เมื่อขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงไอเดียร์จึงหยัดกายลุกอุ้มลูกชายขึ้นไปอาบน้ำบนห้องต่อด้วยป้อนนมอีกสักพัก แล้วกลับลงมาอีกครั้งพร้อมชุดใหม่ราคาหลักหมื่นบนตัวริกเตอร์ บางครั้งเธอยังแอบคิดว่าเขาจะเวอร์ไปไหนกับราคาของใช้ในแต่ละชิ้น
เมื่อลงมาไม่ถึงครึ่งทางของบันไดก็พบเจอาร์มายืนสเเตบาย ทำหน้าที่รอรับริกเตอร์เพื่อให้ไอเดียร์ได้เข้าไปรับประทานอาหารมื้อเช้าร่วมโต๊ะกับเจ้านาย
.
.
"ฉันลืมไปเลยว่ามีการบ้านจะต้องส่งพรุ่งนี้" ไอเดียร์รวบช้อนส้อมก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มหลังนึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่ทำการบ้านวิชาGEเลย "นายอิ่มหรือยังฉันจะได้รีบเก็บไปล้าง"
เธอถามอย่างชั่งใจเมื่อเห็นเขาคว้าแก้วน้ำขึ้นดื่มเช่นกัน ไม่แน่ใจว่าดื่มพอเป็นพิธีหรือเขาดื่มเพราะอิ่มแล้วกันแน่ ทว่าใบหน้าคมกับนิ่งไปก่อนเขาจะหยัดกายลุกขึ้นยืนไร้การพูดจาเป็นคำตอบ
"เก๊กชะมัด" หญิงสาวก่นด่าตามหลังเบาๆ ก่อนจะรีบลุกเก็บถ้วยจานเข้าไปล้างในครัวอย่างเร่งรีบ ช่างน่าแปลกคฤหาสน์หลังใหญ่เต็มไปด้วยลูกน้องผู้ชายไร้แม่บ้าน ครบสัปดาห์ถึงจะมีแม่บ้านชุดใหญ่เข้ามาทำความสะอาด
หลังล้างจานเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณแม่ยังสาวจึงรีบขึ้นห้องกลับไปนั่งทำงานเพราะอย่างน้อยก็มีเจอาร์คอยช่วงเลี้ยงลูกชายไว้ให้ ไหนจะพ่อของริกเตอร์อีก แม้จะรู้สึกสงสัยว่าทำไมวันนี้พี่เลี้ยงของเจ้าตัวน้อยยังไม่เข้ามาทำหน้าที่เสียทีก็ได้แต่เก็บความสงสัยนั้นไว้แล้วรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อนเที่ยง
"เฮ้อออ... เสร็จซะที" มือเรียวรวบรวมกระดาษใส่ซองใสวางไว้ข้างกระเป๋าสะพายข้างหลังนั่งหลังขดหลังแข็งเขียนงานอยู่นานนับชั่วโมง ก่อนจะลุกไปห้องน้ำเพื่อทำธุระ
แกร่ก~
ดวงตาคมกวาดมองรอบๆห้องไม่พบเจ้าของร่างบาง มีเพียงความเงียบกริบและอุณหภูมิจากธรรมชาติ สายลมเย็นด้านนอกพัดโกรกเข้ามาผ่านช่องหน้าต่างที่เธอเปิดไว้จนกว้างโดยไม่ยอมเปิดแอร์
"งก" ชาริทพึมพำเบาๆ ก้าวขายาวเข้าไปหยุดใกล้หัวเตียง แต่ยังไม่ทันไรเสียงโทรศัพท์มือถือของไอเดียร์ก็ดังขึ้นบนโต๊ะข้าง หางตาคมปลายมองเล็กน้อยอย่างชั่งใจ
"..." มาเฟียหนุ่มตัดสินใจกดรับโทรศัพท์แล้วเงียบไป
[เดียร์... วันไหนพี่จะได้เจอเราสักที พี่คิดถึงเรานะรู้ไหม]
"..." ใบหน้าคมนิ่งไปราวกับรูปปั้นหลังได้ยินประโยคบอกคิดถึงจากชายปลายสาย เขาเค้นเสียงในลำคออย่างเย้ยหยัน แล้วกดวางสายไป
"นี่นายรับโทรศัพท์ฉันหรอ!" ไอเดียร์เสียงดังสาวเท้าเข้าหาหมายจะแย่งโทรศัพท์คืน ทว่าคนตัวโตกว่ารีบยกมันขึ้นสูงเหนือศีรษะจนเธอเขย่งเอื้อมไม่ถึง
"นัดกับชู้เหรอ"
"นี่นายเอาโทรศัพท์ฉันคืนมานะ" หญิงสาวเริ่มหงุดหงิดเอื้อมเท่าไหร่ก็เอื้อมไม่ถึง
"ตอบ!"
"..!" คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกทันทีเมื่อเขาตะเบ็งเสียงลั่น ใบหน้าและสายตาดุดันจนน่ากลัว เท้าเล็กทําหน้าที่ถอยหลังกรูดตามสัญชาตญาณ
"มันเป็นใคร"
"จะไปรู้ไหมเล่า ก็โทรศัพท์ยังอยู่กับนาย" ไอเดียร์พยายามใจดีสู้เสือตอบกลับ มองโทรศัพท์ในมือหนาสลับกับใบหน้าของชาริท
"..." ชาริทกระแทกลมหายใจอย่างไม่สบอารมณ์แล้วโยนโทรศัพท์มือถือในมือคืนเจ้าของด้วยความไม่เต็มใจ โดยไม่สนว่าเธอจะรับทันหรือมันจะตกลงกระแทกพื้นเสียหายหรือเปล่า
"ว้าย!" ความตกใจทำให้ไอเดียร์ลนลานรับมาไว้ด้วยมือสั่นเทา หากมือถือตกเเตกคงไม่มีปัญญาหาเงินซื้อเครื่องใหม่แน่ เงินก้อนที่สะสมไว้เธอต้องประหยัดให้ได้มากที่สุดเพราะกว่าจะเรียนจบค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เธอทาบหน้าจอลงกับหน้าอกกอดด้วยความอุ่นใจที่มันยังอยู่ดีสมบูรณ์
"อย่าให้ฉันรู้ว่ามันเป็นใคร" เขาทิ้งท้ายสายตาข่มขู่ ก่อนสะบัดหน้าหงุดหงิดเดินออกไป
คนถูกขู่รีบปลดล็อคหน้าจอไล่สายตาดูสายเรียกเข้า
"พี่ดรีม?" ดวงตากลมตวัดมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยสีหน้าเอือมระอา ทำไมถึงได้ทำตัวเหมือนกำลังหึงหวงเธอกันนะ แฟนก็ไม่ใช่เสียหน่อย
_______________________________________
แค่ต้องการรู้คำตอบเสียงก็ดังขึ้น 180 เดซิเบล 55555