"ทำงานนี่ให้เสร็จ ฉันจ้างห้าพัน" เขาโยนแฟ้มลงบนหน้าตักของเธอ โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเจ็บหรือเปล่า
"..." ไอเดียร์ชักสีหน้าก่อนจะนิ่งเงียบไป ชั่งใจกับจำนวนเงินและจำนวนงานเล็กน้อย ในเมื่อเขาเสนอให้ทำงานแล้วจ้างเธอระหว่างลูกนอนหลับก็มีแต่ได้กับได้ไม่เสียหายอะไร อีกอย่างการเรียนของเธอก็ยังต้องใช้เงินเป็นส่วนใหญ่ ลำพังทำงานเฉพาะเสาร์อาทิตย์มีหรือจะเพียงพอ
"ถ้ารับทำก็รีบๆทำก่อนลูกตื่น" ชาริททิ้งท้ายก่อนเดินไปนั่งบนเก้าอี้ ตวัดขาขึ้นไขว่ห้างอย่างใจเย็น "ปากกาอยู่บนโต๊ะ"
เธอเลื่อนสายตามองตามไปที่โต๊ะอเนกประสงค์เล็กน้อย แม้ใจอยากจะปฏิเสธแต่สมองกับถูกหลอกล่อด้วยเศษเงินของเขา ทว่าเงินห้าพันสำหรับเธอสามารถเลี้ยงปากท้องได้เป็นเดือน
"นายจ่ายแน่นะ" เธอถามย้ำอีกรอบเพื่อความแน่ใจ ไม่ใช่ว่าเธอทำงานเสร็จแล้วเขาทำตัวไม่รู้ไม่ชี้มีหวังเหนื่อยเปล่า
"เพื่อนเล่นเหรอ" เขาให้คำตอบด้วยคำถามเชิงตำหนิ คนตัวเล็กเบ้หน้าใส่เล็กน้อยก่อนดันตัวลุกขึ้นไปรีบทำงานอย่างคล่องตัว เพราะงานที่เขาให้ทำก็เป็นงานแบบเดียวกับที่เคยทำให้ติวเตอร์บ่อยๆ ถึงแม้ต้องคอยถามเซ้าซี้ให้มาเฟียหนุ่มรำคาญ
.
.
"เสร็จแล้ว" เธอหยัดกายลุกขึ้นยืนเเล้วนำงานที่ทำส่งให้เขาหลังนั่งหลังขดหลังแข็งนานถึงสี่ช่วงโมงเต็ม เธอปลายสายตามองนาฬิกาบนฝาผนังเพียงนิด ณ เวลานี้ก็จวนจะห้าโมงครึ่ง ก่อนเลื่อนไปมองลูกชายบนเตียงและพบว่าริกเตอร์ก็กำลังมองเธอตาแป๋วเช่นกัน
"ริก~ ตื่นนานหรือยังลูก" ร่างกายทำหน้าที่เข้าไปช้อนลูกชายขึ้นมาตามความเคยชิน ในขณะที่ชาริทไล่สายตาดูความเรียบร้อย ไอเดียร์คาดการณ์ว่าริกเตอร์อาจจะตื่นนอนได้สักพัก เพียงแต่ไม่ร้องงอแงเหมือนทุกครั้ง
มาเฟียหนุ่มหยัดกายลุกนำเอกสารไปวางบนโต๊ะที่เธอใช้ทำงานงานก่อนหน้า จากนั้นเดินไปเปิดประตูห้องออกแล้วแย่งลูกชายออกจากอ้อมแขนไอเดียร์พาลูกน้อยออกจากห้องนอนมาที่ห้องทำงานแทน
"เราจะกลับบ้านตอนนี้" เขาบอกเสียงเรียบ
"อ่อ แป๊บนึง" ทำให้เธอต้องกลับไปเอากระเป๋าสะพายข้างในห้องนอน ไม่ถึงสามนาทีหญิงสาวก็ออกมาพร้อมสิ่งของของตน
"กลับ"
"นาย ฉันอุ้มเองดีกว่า นายเป็นถึงซีอีโอเดี๋ยวดูไม่ดี" ไอเดียร์ยื่นมือหมายจะอุ้มลูกชาย แต่ยังไม่ทันที่มือจะแตะถึงตัวริกเตอร์
"อ้ะ" เธอสะดุ้งตกใจเมื่อจู่ๆ มือหนาก็รั้งเอวบางเข้าหา ส่งผลให้หน้าท้องแบนราบชนกับหัวเข็มขัดของเขา ร่างกายใช้มือดันแผงอกออกอัตโนมัติ แต่ถูกคนแข็งแรงกว่ารัดแน่นขึ้นกว่าเดิม
"กลัวเหรอ" เขาถามเสียงนิ่ง
"ดะ..เดี๋ยวฉันอุ้มลูกเอง นายเลิกกอดฉันได้ไหม"
"ฉันอุ้มลูกตัวเองมันน่าอายตรงไหน" ว่าแล้วสายตาเย็นชาก็เหลือบมองต่ำ สัญชาตญาณของเธอมันบอกว่าเขากำลังมองหน้าอก สองมือตะครุบปิดอัตโนมัติตวัดสายตาเคืองๆจ้องหน้าชาริททันที
"นายแอบดูนมฉันเหรอ!" เธอถามเสียงเขียวอย่างเอาเรื่อง ทว่าเขากลับนิ่งเฉยไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย ชาริทถอนลมหายใจเอือมระอาเเล้วคลายมือออกจากเอวคอดกิ่ว
"แบน"
"ห้ะ! โรคจิต" เธอสะบัดหน้าหนีด้วยความเจ็บใจ สงสัยชายหนุ่มจะตายด้านจริงๆ ทั้งที่หน้าอกของเธอมันมีขนาดใหญ่กว่าปกติเนื่องด้วยยังต้องให้นมลูก แต่... เธอจะสนใจเรื่องนี้ทำไม? แล้วนี่เธอไปนึกแทนเขาทำไมเนี่ย? ไอเดียร์ต่อว่าตัวเองในใจอยู่นานสักพัก
"จะกลับได้ยัง" เสียงเรียบของชาริทเรียกความสนใจจากไอเดียร์ให้หลุดจากภวังค์ เธอเลิกคิ้วเชิงถามเล็กน้อยก่อนจะเข้าใจความหมายในตอนที่เขายื่นหน้าไปทางประตูห้อง
"นายจะอุ้มริกจริงๆเหรอ" เธอถามย้ำอีกครั้งเพราะเดินออกไปตอนนี้ต้องผ่านสายตาหลายคู่ของเหล่าพนักงานก็คงมองมาที่เขาอย่างเปิดเผยเป็นแน่
"..." เขาให้คำตอบด้วยการเดินไปเปิดประตูด้วยมือเพียงข้างเดียวโดยมีริกเตอร์ในอ้อมกอดแขนอีกข้างนำหน้าออกไป ทิ้งให้เธอรวบรวมความกล้าแกมชั่งใจ จนสุดท้ายต้องตัดสินใจวิ่งตามพ่อลูกออกไป
ทันทีที่ก้าวออกจากลิฟต์ชั้นหนึ่งราวกับมาเฟียหนุ่มเป็นแรงดึงดูดให้ทุกคนหันขวับมองเขาสายตาตื่นตระหนกและเต็มไปด้วยคำถาม ช่างน่าแปลกที่พวกเขาทำหน้าราวกับเห็นผี ทำเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้เดินผ่านจุดนี้เลยสักนิด
.
.
"แอ้~" เสียงอ้อแอ้ริกเตอร์เรียกความสนใจจากชาริทให้หลุบสายตามองลูกน้อยในอ้อมแขนในขณะที่เขาก้าวเข้าไปนั่งในรถ ไอเดียร์เองก็เหลือบมองหน้าลูกเช่นกัน เพียงแค่เห็นรอยยิ้มแฉ่งโชว์เหงือกชมพูอ่อนของลูกชายเธอก็เผลอคลี่ยิ้มตามอย่างลืมตัว
"หลอนหรือไง" รอยยิ้มบางๆก่อนหน้านี้หุบลงอัตโนมัติ แล้วชักสีหน้าใส่เจ้าของคำพูดเหน็บแนม เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ทำได้เพียงกอดอกแล้วสะบัดหน้าหนีออกไปมองด้านนอก
บรรยากาศภายในรถเงียบสนิท ไร้ซึ่งบทสนทนาระหว่างทางมีเพียงเสียงอ้อแอ้ของริกเตอร์ดังขึ้นเป็นระยะ ไอเดียร์ได้แต่แอบชำเลืองมองว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอะไรกับลูกหรือเปล่า ทว่า... ใบหน้าคมยังนิ่งเฉยพอๆกับท่าทีของเขา
"หุ่นยนต์หรือไง" เธอเบ้ปากกระแนะกระแหนเสียงเบา โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้ยินทั้งประโยค
Rrrr Rrrr Rrrr
เสียงโทรศัพท์มือถือแผดเสียงดังสั่นในกระเป๋าสะพายข้างใบเล็ก มือเรียวคว้ากระเป๋าขึ้นมาวางหน้าตักเปิดควานหาต้นเสียงอย่างเร่งรีบเพราะเกรงใจบุคคลภายในรถ ไม่ใช่ชาริทแต่เป็นเจอาร์และลูกน้องคนขับอีกคน
"ค่ะพี่ดรีม" หญิงสาวใช้มือป้องโทรศัพท์สนทนาเสียงเบา
[พรุ่งนี้พี่จะไปเยี่ยมหลานนะ ถ้าเดียร์ไม่สะดวกหรือเกรงใจพ่อของลูก งั้นพาหลานออกมาก็ได้]
"ไว้เป็นอาทิตย์หน้าได้ไหมพี่ดรีม พรุ่งนี้เดียร์ต้องไปทำงาน" เธอบอกพี่ชายไปตามความจริงเพราะถึงดรีมมาหาอย่างไรเธอก็ต้องไปทำงานเสาร์อาทิตย์อยู่แล้ว
[จะห้าเดือนอยู่แล้วพี่ยังไม่ได้อุ้มหลานเลย]
"พี่ดรีม~ อดทนสักนิดนะคะเดี๋ยวเดียร์จะหาวันว่างให้ เดียร์กลับไปเรียนต่อแล้วด้วย"
[เฮ้ย! จริงดิ ทั้งเรียนทั้งทำงานไปด้วยคงหนักน่าดูสินะ ไม่เป็นไรพี่ไม่เร่งเราก็ได้ ไว้สะดวกเมื่อไหร่ค่อยโทรบอกแล้วกัน] หญิงสาวเผลอคลี่ยิ้มคลายกังวลตามลำพัง หลังพี่ชายเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังสื่อสาร
"ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ เดี๋ยวถึงบ้านเดียร์โทรกลับนะ"
[โอเค เห็นตาริกในรูปแล้วมันเขี้ยว พี่จะขโมยกลับมาเลี้ยงเองซะเลยดีไหม]
"อยากตายเหรอ"
"..!" ไอเดียร์อ้าปากค้างไปชั่งขณะ ประโยคเมื่อครู่ไม่ใช่เสียงของเธอแต่เป็นเสียงของคนข้างๆโต้ตอบกลับคนปลายสาย
_______________________________________
เจ้าที่แรง! อย่าเล่นกับพ่อ 55555
***เรื่องนี้เทียร์มาวันเว้นนะคะ เพราะต้องลงเรื่องหลักทุกวันอยู่แล้ว จึงทำให้อัปเรื่องนี้ทุกวันไม่ได้ เดี๋ยวเบลอ... จำชื่อตัวละครผิด สลับพอร์ตเรื่องไปหมดอีก😆😂