"นายยังไม่เอานมให้ลูกกินหรอกเหรอ" ไอเดียร์เดินอิดออดเข้าไปหาลูกชาย ชะโงกหน้ามองบุคคลที่เธอชอบมองหน้าเขาทุกวันราวกับริกเตอร์เป็นสารเสพติดที่เธอไม่สามารถขาดได้
"เอามาทำไม"
"ห้ะ! นี่อยากบอกว่านายไม่ได้เอานมมานะ" เธอถามหน้าตาตื่น
"ไม่" เขาปฏิเสธหน้าตายในขณะที่เธอเข่าแทบทรุด หากวันนี้ไม่เลิกเร็วหรือเธอไม่ยอมตามมาแล้วลูกเธอจะได้กินนมที่ไหน เพียงแค่จินตนาการก็นึกสงสารลูกน้อยจับใจ
"นี่นายพูดจริงหรือล้อเล่นชาริท นายพาลูกมาแล้วนมล่ะ" พยายามทำความเข้าใจกับคนเย็นชาอีกครั้ง
"หน้าฉันเหมือนเพื่อนเล่นหรือไง" ไม่! ไม่เลยแม้แต่น้อย หน้านิ่งอย่างกับรูปปั้นไร้ชีวิต ตั้งแต่เกิดมาพ่อแม่เคยหยอกล้อบ้างไหมก็ไม่รู้
"ไม่ล่ะ เหมือนพ่อมากกว่า"
"อย่าลีลา ถอดเสื้อออก" ให้กัดลิ้นตายยังจะดีเสียกว่า นี่เขาเป็นบ้าอะไรอยู่ๆมาสั่งให้เธอถอดเสื้อต่อหน้าต่อตา ดวงตากลมกวาดมองรอบๆห้องอีกครั้งเผื่อเขาจงใจพูดกลั่นแกล้งเธอ อาจจะนำขวดนมไปซ่อนไว้แถวนี้ก็ได้
"นมที่ฉันปั๊มไว้เมื่อเช้าล่ะ เอามาหรือเปล่า" นานสักพักกว่าเธอจะถามซ้ำอีกรอบ
"เอามาทำไมเธอก็อยู่นี่" ตอบหน้าตาย
"ฉันใส่ชุดนักศึกษา มันไม่ค่อยถนัดนิ~" ไอเดียร์ไล่สายตามองหาที่กำบังสำหรับให้นมลูกชั่วคราว เมื่อสุดทางตันจนปัญญาแล้วจริงๆ
"อย่าให้ฉันต้องเอาปืนจี้บังคับ" เขากดเสียงต่ำกดเป็นการข่มขู่
"..."
"ไม่ต้องอายหรอก แบนขนาดนั้นฉันไม่มีอารมณ์" ไอเดียร์มุ่ยหน้าใส่ด้วยความหมั่นไส้ เธอเองก็ไม่ได้อยากจะโชว์เสียหน่อย ทำไมถึงต้องมาว่ากันขนาดนี้
"นายออกไปก่อนสิ ฉันจะให้นมลูก" เธอนั่งลงข้างขอบเตียง โน้มตัวไปช้อนลูกชายขึ้นมาแนบอก
"เธอกล้าดียังไงมาไล่ฉัน" เขาเค้นเสียงผ่านไรฟัน
"นี่! ถึงฉันจะห่วงลูกแต่ฉันก็อายเหมือนกันนะ" เธอเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน ดวงตากลมหลุบมาต่ำสบตาแป๋วของลูกชาย ริกเตอร์ทำราวกับว่านิ่งฟังพ่อแม่กำลังเถียงกัน ไม่ร้องงอแงจนเธออดหวั่นๆไม่ได้ว่าโตขึ้นลูกชายจะมีนิสัยเหมือนพ่อ
"เรื่องมาก" เขาตวัดสายตาหนิก่อนกระชากตัวลุกแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างไม่สบอารมณ์
ไอเดียร์ถอนลมหายใจยาวๆอย่างโล่งอก แล้วให้นมลูกโดยไม่รีรอ ขืนชักช้ามีหวังมาเฟียหนุ่มมาดนิ่งกลับเข้ามาแล้วไม่ยอมออกไปอีกแน่
แกร่ก~
นานหลายนาทีกว่าเสียงเปิดประตูจะดังขึ้นเรียกความสนใจจากคุณแม่ยังสวยให้เงยขึ้นมองต้นเสียงตามสัญชาตญาณ ใบหน้าคมยังนิ่งเฉยตามฉบับมาเฟียมาดนิ่งไม่มีผิดเพี้ยน
ไอเดียร์ละสายตามาหยุดที่แก้มนิ่มๆของริกเตอร์ที่กำลังหลับปุ๋ยบนผ้าห่มแทนเบาะนุ่ม ได้แต่บอกกับลูกน้อยในใจว่าให้อดทนรออีกนิด เธอจะสร้างทุกอย่างด้วยมือและมันสมองเพื่อปูทางให้เขาไม่ต้องลำบาก
"จะสิงลูกหรือไง มองแล้วยิ้มอยู่นั่นแหละ" ประโยคกระแนะกระแหนทำให้บรรยากาศกระตุ้นความแน่วแน่หยุดชะงักลง ค้างอยู่กลางอากาศหลังเธอจินตนาการภาพบ้านและรถในอนาคต
เธอสูดเอาอากาศเข้าไปในปอดช้าๆ เรียกสติให้กลับมาอีกครั้ง ก่อนจะสะบัดหน้าบึ้งตึงไปทางผู้ทำลายบรรยากาศนี้
"ฉันไม่ใช่ปอบนะ!"
"เอ้า! ใครจะไปรู้" เขาไม่สะทกสะท้านกับสีหน้าไม่สบอารมณ์ของเธอ "แล้วเสื้อจะเปิดโชว์อีกนานไหม"
"..!" ร่างกายแข็งทื่อไปราวกับถูกสาปทันทีที่มีประโยคเอ่ยทักจากมาเฟียหนุ่ม อากาศเย็นกระทบผิวตามลำตัวจนเย็นวาบ เป็นเครื่องยืนยันว่าเธอลืมติดกระดุมเสื้อนักศึกษา
ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจเมื่อก้มดูแล้วพบว่าตนไม่ได้ติดกระดุมจริงๆ ร่างกายทำหน้าที่หันหลังเขาอัตโนมัติแล้วไล่ติดกระดุมมือสั่นเทา ยังดีอยู่เล็กน้อยที่เธอสวมบราเซียร์ไม่เช่นนั้นชาริทคงเห็นหมดแน่น
"เธอเรียนเกี่ยวกับการตลาดด้วยใช่ไหม" เจ้าของคำถามเดินผ่านไปหยิบแฟ้มเล่มใหญ่บนโต๊ะ ไอเดียร์อาศัยจังหวะนั้นไล่สายตาสำรวจภายในห้องพักส่วนตัวของชาริทอย่างถือวิสาสะ ไม่ลืมหันกลับให้คำตอบ
"ใช่"
"ไอ้นั่นจ้างวันละเท่าไหร่" หญิงสาวมองเจ้าของคำถามสายตาไม่ไว้วางใจ จู่ๆเขาก็ถามถึงรายได้ที่เธอรับเอาจากบริษัท
"ถามทำไม"
"ถามไม่ได้?" เขาเลิกคิ้วถามเหมือนหาเรื่อง
"มันไม่มีเหตุผลว่าทำไมนายถึงถามฉันนิ" เธอแย้ง การที่เขามาสนใจเรื่องของเธอมันทำให้รู้สึกตะหงิดใจแปลกๆ สัญชาตญาณบอกกับเธอว่าชายตรงหน้าคือบุคคลที่ไม่ควรวางใจเป็นที่สุด
"กำลังไม่ไว้ใจฉันสินะ" ชาริทกระตุกยิ้มมุมปากเพียงนิดก่อนรอยยิ้มนั้นจะหายไป เหลือเพียงใบหน้าเย็นชา ทำไมเธอถึงรู้สึกกลัวรอยยิ้มเมื่อครู่นี้นะ มันดูชั่วร้ายและอันตรายจนไม่สามารถนิยามได้
"ฉันบอกตอนไหนว่าไม่ไว้ใจ" เธอถามกลับพยายามคุมเสียงไม่ให้สั่น
"สีหน้าและแววตา"
"..." เป็นแบบนี้เองสินะ เขาสามารถอ่านความรู้สึกเธอได้เพียงแค่สบตา ในขณะที่เธอไม่สามารถอ่านความคิดของเขาได้เลย
"หึ ช่วยทำงานหน่อยสิ" เขายื่นแฟ้มเอกสารขนาดใหญ่ให้กับเธอบนเตียง ตำแหน่งแฟ้มตรงหน้าทำให้ไอเดียร์เหลือบมองตามเพียงนิด มือเรียวดันแฟ้มออกห่างเป็นการปฏิเสธ
"เรื่องอะไรฉันต้องทำล่ะ"
"เลี้ยงเปลืองค่าอาหารจริงๆ" เขาดึงแฟ้มกลับ ไม่วายถากถางเธอด้วยประโยคอ้อมๆให้เจ็บใจ ทำให้อีกฝ่ายมองหน้าด้วยสายตาขุ่นเคือง
"..." มือเล็กกำหมัดแน่นจนสั่น อยากจะโต้เถียงว่าตนก็นำเงินไปใช้จ่ายค่ากับข้าวเหมือนกัน ไม่ได้กินของเขาฟรีๆ แต่ด้วยที่อยู่และค่าน้ำค่าไฟยังเป็นภาระชายหนุ่มจึงได้แต่ข่มใจให้เมินเฉยไม่โต้ตอบ
_______________________________________
กด Like และ comment เป็นกำลังใจให้กันด้วยน้าาาา❤