บทที่ 13 วันที่เธอหายไป (ตอนนี้) 50%
“จากที่ประชุมทางบอร์ดผู้บริหารกับตัวแทนพนักงานของแต่ละฝ่ายได้ระดมสมองกำหนด Vision หรือวิสัยทัศน์ใหม่ของโรงแรมเราดังนี้ ‘รักษาและมอบบริการอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อเป็นหนึ่งในใจลูกค้าทุกคน’ ”
ทุกคนในห้องประชุมปรบมือพร้อมกัน ไอรดากวาดสายตามองคนทั้งห้องประชุมอย่างพร้อมเพรียง Vision หรือวิสัยทัศน์เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากในธุรกิจเป็นเหมือนเป้าหมายระยะยาว ที่ทำให้ผู้คนในองค์กรเข้าใจอย่างตรงกัน เพื่อทำให้การดำเนินธุรกิจไปถึงยังเป้าหมายที่เราวางไว้ได้ ดังนั้นการเปลี่ยนผู้นำบอร์ดบริหารใหม่ สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกก็คือการกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่เพื่อให้คนทั้งองค์กรรับรู้และเข้าใจถึงเป้าหมายใหม่ที่ทุกคนจะต้องทำด้วยกัน เพื่อไปให้ถึงจุดหมายนั้นๆ
การที่จะให้ผู้บริหารคนใหม่มาเปลี่ยนวิสัยทัศน์และสั่งให้ทุกคนทำนู่นนี่นั่นทั้งหมด ย่อมเป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้นไอรดาจึงเรียกประชุมบอร์ดบริหารทุกคน รวมถึงพนักงานที่มีผลงานดีและรุ่นใหม่ไฟแรง เข้ามาประชุมกัน เพื่อระดมสมองคิดถึงวิสัยทัศน์ใหม่ด้วยกัน ดังนั้นวิสัยทัศน์ที่ได้มานี้ ไม่ใช่เป็นเพียงความคิดของเธอคนเดียว แต่เป็นเหมือนกับการร่วมแรงร่วมใจของคนทั้งองค์กร
“เอาล่ะ เพื่อกำหนดความเข้าใจให้ตรงกัน ทุกคนคิดว่าเอกลักษณ์ของโรงแรมเราคืออะไร เริ่มแรกที่การต้อนรับ”
เพื่อทำให้คำว่าเอกลักษณ์ของโรงแรม เป็นเรื่องที่เข้าใจตรงกัน เธอจึงเรียกประชุมทุกคนที่เข้าประชุมได้ในโรงแรม มาช่วยกันนิยามคำว่าเอกลักษณ์ของโรงแรม
“เราต้องกล่าวทักทายแขกอย่างนอบน้อมและมีไมตรีค่ะ”
“การคุยกับแขกต้องสบตาและมีรอยยิ้มเสมอครับ”
“ไม่ว่าเราจะทำอะไรอยู่ ถ้าแขกถามถึงตำแหน่งของห้อง เราต้องพาแขกไปทันทีครับ”
พนักงานแต่ละคนแสดงความคิดเห็นอย่างกระตือรือร้น ไอรดาให้เจนนี่เป็นคนเขียนคำตอบทั้งหมดลงในคอมพิวเตอร์และฉายขึ้นบนจอโปรเจคเตอร์
การประชุมดำเนินผ่านไปหลายชั่วโมง แต่พนักงานดูไม่มีทีท่าจะเบื่อหน่ายแม้แต่น้อย
“ขอบคุณทุกคนมากๆ สำหรับการประชุมวันนี้ ดิฉันเชื่อว่าทุกคนๆ ทราบเป็นอย่างดีว่าเอกลักษณ์ของโรงแรมเราคืออะไร และอาจจะทราบดีว่าดิฉันที่เพิ่งมารับตำแหน่งนี้ด้วยซ้ำ ขอให้ทุกคนรักษาเอกลักษณ์นี้เอาไว้ เพื่อทำให้โรงแรมของเราเป็นหนึ่งในใจทุกคน”
ทุกคนปรบมือรับกับคำพูดนั้น ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับไปทำงาน
ไอรดาเดินออกจากห้องประชุม เอ่ยทักแม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดห้องโถงอยู่
“สวัสดีค่ะป้า วันนี้สวยเชียวนะคะ”
ป้าแม่บ้านหันมามองไอรดาอย่างเอียงอาย “แหมคุณไอละก็ ป้าเอาวิชาที่ไปเรียนแต่งหน้ามาลองใช้สักหน่อย”
“สวยมากเลยค่ะ วันนี้มีปัญหาอะไรไหมคะ”
“ไม่มีเลยค่าคุณไอ เรียบร้อยดี แถมมีลูกค้าชมว่าห้องสะอาดและหอมมาก”
“เป็นเพราะคุณป้าทำงานเก่งมากๆ โรงแรมนี้ถึงได้สวยและดูดีขนาดนี้ ถ้ามีปัญหาอะไร แจ้งไอได้เลยนะคะ” เธอยิ้ม
“ได้จ้า”
ถึงแม้งานของไอรดาจะยุ่งมากแค่ไหน ไอรดาก็จะพยายามแบ่งเวลามาคุยกับพนักงานทุกคนเสมอๆ เธอจัดคอร์สเรียนหลายๆ อย่างเพิ่มเติมเพื่อให้พนักงานได้เรียนฟรีเมื่อเลิกงานแล้ว อีกทั้งยังจัดคอร์สอื่นๆ เพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาบุคลิกภาพหรือการแต่งหน้าทำผม โดยที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถเข้าเรียนได้
เธออยากให้พนักงานทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งเธอเชื่อว่า ความมั่นใจทำให้ทุกคนสวยขึ้น ดูดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่พนักงานต้อนรับ สมัยเธอฝึกงาน เธอทำมาแล้วทุกหน้าที่ เธอเชื่อว่าทุกงานไม่มีตำแหน่งระดับสูงหรือล่าง คุณค่าของงานอยู่ที่โอกาสที่จะได้พัฒนาตัวเอง ฉะนั้นแม่บ้านเองก็มีสิทธิ์ที่แต่งหน้าและทำผมให้ตัวเองดูดีด้วยเช่นกัน ถ้าพนักงานทุกคนมีความมั่นใจ ก็จะส่งผลต่อจิตใจทำให้พวกเขามีความสุข และหากพนักงานมีความสุขจากข้างใน ย่อมส่งต่อความสุขนั้นให้แขกได้ไม่ยาก
“ตารางต่อไปคืออะไรนะคะ”
ไอรดาถอดเสื้อสูทวางไว้บนพนักเก้าอี้ สอบถามเลขาที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะ แล้วหลับตาเพื่อพักสายตา ช่วงนี้เธอทำงานหนัก เพื่อให้คิดถึงเรื่องอย่างอื่นน้อยลง เธอรับเอกสารที่ชลวีร์ส่งให้ ค่อยๆ เปิดดูทีละหน้า
“คนของบริษัทพีเอสคอนสตรัคชั่นจะมาคุยเรื่องวัสดุค่ะ”
ชื่อบริษัทที่คุ้นเคยทำให้ไอรดาชะงักมือที่กำลังเปิดเอกสารอยู่ ก่อนทำสีหน้าให้ปกติ
“ให้เขาเข้ามาเลย”
ไอรดาทำท่าทีเป็นอ่านเอกสารบนโต๊ะ ถึงแม้จะอ่านไม่รู้เรื่องสักตัวอักษร พยายามรวบรวมสติให้ได้มากที่สุด
“สวัสดีครับ”
--------------------------------------
อ่านจบแล้วคอมเมนท์ให้เค้าหน่อยน้า สติ๊กเกอร์อันเดียวก็ยังดีค่า <3