แสงแดดในช่วงสายของวันส่องกระทบใบหน้าหล่อคมเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่ให้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศ เขาครางเสียงหงุดหงิดในลำคอหลังได้พักผ่อนไม่เพียงพอเท่าที่ควร
ท่อนแขนแกร่งตวัดพาดกระแทกกับฟูกหนาที่ว่างเปล่า ส่งผลให้คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากันและปรือตาขึ้นในที่สุด เขาหยัดกายลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเปิดผ้าห่มสำรวจเรือนร่างก่อนจะพบว่าเรื่องเมื่อคืนนี้เป็นจริง โดยรอยขีดข่วนตามลำตัวเป็นที่ประจักษ์แจ้งว่าเขาได้กลืนน้ำลายตัวเองไปแล้ว
ชาริทไล่สำรวจพื้นห้องไม่พบเสื้อผ้าของไอเดียร์หลงเหลืออยู่เลย นี่เธอกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ถึงได้รีบออกจากห้องไปทั้งที่ห้องนี้มันเป็นห้องของเธอและลูก
"คิดจะเรียกร้องความสนใจสินะ" ผู้หญิงก็คงมีมารยาร้อยเล่มเกวียน คิดจะเล่นตัวเพื่อดึงดูดและพยายามทำให้ตัวเองแตกต่างหวังให้แมลงตัวผู้พวกโง่งมวิ่งตามจนติดกับดัก
"ฝันไปเถอะ" มาเฟียหนุ่มเสยผมปรกหน้าขึ้นแล้วลุกไปสวมกางเกงยีนส์ตัวเดิม คว้าเสื้อเชิ้ตสีดำพาดไหล่กลับห้องของตนเองเพื่อชำระร่างกาย วันนี้ครบรอบสองเดือนในการนัดฉีดวัคซีนลูกชายตัวน้อยซึ่งเป็นหน้าที่ของพ่อที่จะต้องพาไปโรงพยาบาล ถึงริกเตอร์จะไม่ได้เกิดมาจากความรักแต่เขาก็ไม่ใจร้ายใจดำกระทั่งเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง
.
.
ชาริทชะลอฝีเท้าลงและหยุดการเคลื่อนไหวที่ขั้นสองของบันได เงียบฟังบทสนทนาที่ดังอยู่ไม่ไกลนักระหว่างผู้หญิงคนเดียวในบ้านและมือขวาคนสนิทของเขา อีกทั้งยังมีเสียงอ้อแอ้ของลูกชายแทรกเป็นระยะ
"ใช่ครับ สงสัยคุณหนูจะหิวแล้ว"
"งั้นเดี๋ยวฉันพาลูกไปกินนมก่อน"
"ให้ไปปลุกนายให้ไหมครับ" เพราะมองดูท่าทีแล้วไอเดียร์คงเขินอายไม่น้อยหากต้องป้อนนมลูกอยู่ด้านล่างซึ่งเขาเองก็อยู่ละแวกนั้นเช่นกัน โดยรวมแล้วเจอาร์มองว่าไม่เหมาะสมเท่าที่ควรยิ่งเขาเองก็เป็นผู้ชาย
"ไม่รบกวนเขาดีกว่าค่ะ"
"แต่..."
"ขึ้นไปสิ แต่บนเตียงจะยับหน่อยนะ" มาเฟียหนุ่มแทรกขึ้นไม่รอให้ลูกน้องได้พูดจบประโยค พร้อมกับเข้าไปปรากฏตัวคั่นกลางระหว่างคู่สนทนาทั้งสองจนไอเดียร์ต้องก้าวถอยหลังเพื่อเว้นระยะห่าง
หญิงสาวกระชับกอดลูกน้อยเบาๆหลบสายตาไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้า หัวใจดวงน้อยไม่ให้ความร่วมมือเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่งจนเธอกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงเต้นทุกจังหวะของมัน
"นึกว่านายยังไม่ตื่น เลยตั้งใจว่าจะขึ้นไปปลุกครับ" เจอาร์ผู้รู้งานรีบแจงให้ผู้เป็นนายทราบ
"อีกสิบนาทีไปเตรียมรถ"
"ครับ?"
"ลูกกูต้องฉีดวัคซีน" เขาให้คำตอบเสียงเรียบทำเอาหญิงสาวหน้าเสียเมื่อเธอเผลอลืมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งที่เมื่อวานตั้งใจจะบอกกับเขาแต่ดันเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นเสียก่อน
"ครับ" หลังได้คำตอบเจอาร์ก็ก้มหัวผลุนผลันหมุนตัวออกไปโดยเร็ว ทิ้งให้ไอเดียร์มองตามแผ่นหลังกว้างด้วยสายตาละห้อย ไม่กล้าเผชิญหน้ากับชาริทเพียงลำพังโดยไร้บุคคลที่สาม แค่เหตุการณ์เมื่อคืนฉายซ้ำเข้ามาในหัวเป็นฉากๆเธอก็แทบแทรกแผ่นดินหนี
โชคดีที่วันนี้รถไม่ติดนัก ทำให้การเดินทางไปฉีดวัคซีนและเดินทางกลับใช้ระยะเวลาไม่นาน ชาริทยอมหยุดงานหนึ่งวันเพื่อพาเธอและลูกไปโรงพยาบาล อีกทั้งยังบังคับให้เธอป้อนนมลูกบนรถโดยเอื้อมมือไปปิดม่านเพื่อปิดบังสายตาจากลูกน้องคนขับและมือขวาคนสนิทให้ จนบางครั้งเผลอรู้สึกดีกับการกระทำเล็กๆน้อยๆอย่างลืมตัว
.
.
คฤหาสน์ชาริท
ไอเดียร์รีบอุ้มลูกเดินนำหน้าเข้าบ้าน ในขณะที่เขาสาวเท้าตามหลังมาติดๆ เสียงฝีเท้าหนักดังใกล้เข้ามาจนเธอแทบอยากวิ่งเตลิดขึ้นห้อง หากไม่ติดว่ามีลูกน้อยอยู่ในอ้อมแขนและเกรงว่าจะเกิดอันตรายเธอคงเเจ้นขึ้นห้องภายในไม่กี่วินาทีแล้ว
"เรื่องเมื่อคืน ฉันต้องจ่ายเท่าไหร่" คนที่กำลังเดินหนีหยุดชะงักไปราวกับถูกสาป ไอเดียร์กำหมัดแน่นแล้วหันหน้ากลับไปสบตาคนถามตรงๆ พยายามเก็บสีหน้าไม่พอใจเอาไว้ให้มิด
"ฉันจะคิดว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น"
"คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกหรือไง" ชาริทเค้นเสียงในลำคออย่างเย้ยหยันเมื่อเธอตอบเสียงเรียบ ไม่ยินดียินร้ายเรื่องเมื่อคืนนี้
"มันแก้ไขอะไรได้ไหมล่ะ" เธอเลิกคิ้วถาม
"ง่ายดีนะ"
"เหอะ! ก็ดูง่ายตั้งแต่หน้าด้านมาขอบ้านเขาอยู่แล้ว" ไอเดียกระแทกเสียงแล้วเดินขึ้นบันไดโดยไม่หันกลับมองข้างล่าง อีกหน่อยลูกชายก็คงตื่นขึ้นมางอแงเพราะเจ้าวัคซีนตัวร้ายแน่ๆ ไม่อยากโต้เถียงให้อารมณ์เสียไปมากกว่านี้
ไอเดียร์วางริกเตอร์ลงบนเตียงนุ่มอย่างเบามือ เอื้อมไปหยิบผ้าห่มขึ้นมาพับให้เป็นระเบียบ ความเงียบเชียบภายในห้องสี่เหลี่ยมทำให้ประโยคถากถางของชาริทประเดประดังเข้ามากระทบจิตใจ
เสียงถอนลมหายใจเบาๆ เมื่อเธอละมือออกจากผ้าห่มแล้วเดินอ้อมไปนั่งข้างขอบเตียงเอื้อมมือลูบหัวลูกชายเบาๆ เธอยอมเป็นผู้หญิงหน้าด้านเพียงเพราะความจำเป็นและความเป็นอยู่ที่ดีของลูกในระยะเวลาที่จำกัดเท่านั้น เมื่อถึงเวลาเธอก็พร้อมทำตามสัญญา ไม่ได้หวังจะเรียกร้องอะไรมากความ
"ถ้าแม่พรากริกจากพ่อ ริกจะโกรธเเม่ไหมลูก" เธอมองแพขนตางอนที่ยังเปียกชุ่มของลูกชาย หลังริกเตอร์ร้องลั่นในตอนที่เข็มฉีดยาเสียดเข้าไปในผิวเบาะบางของทารก หัวอกคนเป็นแม่ได้แต่มองลูกน้อยด้วยความสงสารจับใจ
"แม่กับพ่อเเค่ทำผิดพลาด... ถึงเราจะไม่สามารถมีครอบครัวที่อบอุ่นได้ ไว้แม่เรียนจบแม่จะหางานทำดีๆและส่งลูกเรียน ดูแลริกให้ดีทุกอย่างไม่แพ้คนที่เขามีครอบครัวสมบูรณ์แบบเลยนะ ...ริกให้อภัยแม่กับพ่อนะลูก" นิ้วเรียวแตะลูบแก้มลูกชายเบา
การที่ผู้หญิงและผู้ชายได้ทำผิดพลาดลงไปแล้ว นั่นก็ไม่ได้แปลว่าบั้นปลายจะต้องมาจมปลักอยู่ด้วยกันเพียงเพราะมีลูกเป็นตัวผู้ผูกมัด คนสองคนจะไม่สามารถอยู่กินฉันสามีภรรยาได้เลยหากปราศจากความรัก เธอมั่นใจว่าสามารถเลี้ยงลูกชายตามลำพังได้ เขาจะต้องโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีเหตุผลเพียงพอ
.
.
"ผู้หญิงคนนั้นต้องเรียนนานไหมถึงจะจบ" ชาริทถามเจอาร์พลางตวัดขึ้นไขว่ห้าง พาดท่อนแขนบนขอบพนักโซฟา
"สองเทอมครับ เรียนปีสี่เทอมเเรกน่าจะเรียนน้อย ส่วนเทอมสองออกฝึกงานครับ"
"แล้วยัยนั่นบ่นอะไรลับหลังฉันไหม"
"ไม่ครับ"
"เคยนินทาหรือเปล่า"
"ไม่ครับ"
"เช็คดูว่าหุ้นส่วนของบริษัทไอ้หน้าอ่อนที่เป็นเจ้านายยัยนั่นมันมีใครบ้าง กูให้เวลายี่สิบนาทีรีบเอารายชื่อมา"
"นายจะเอาไปทำอะไรครับ" ทำงานร่วมกันมาหลายปี ไม่เข้าใจเลยว่าหุ้นส่วนบริษัทของติวเตอร์เกี่ยวพันกับเจ้านายตั้งแต่เมื่อไหร่
"วันนี้มึงว่างนิ นั่นแหละงาน"
________________________________________
ว่าซ่าน!