หมอหนุ่มกัดฟันสะกดกลั้นอารมณ์บางอย่างที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่าง จากอารมณ์ขบขันที่ได้กลั่นแกล้งแม่นางฟ้าตกสวรรค์ แต่เหมือนกรรมติดจรวดเมื่อเจ้าก้อนเนื้อขาวอวบเป็นกระเปาะน่ารักบดอัดอยู่กลางแผ่นหลัง เรียกพลังที่หลับใหลภายในกายให้ลุกโชน
“จะเข้าสิงผมเลยหรือไง แม่คุณ” อลันกัดฟันบอกคนข้างหลัง
“...เชอะ....คนขี้แกล้ง” ปานอัปสรบ่นพร้อมกับแลบลิ้นปลิ้นตากับแผ่นหลัง ก่อนจะคลายอ้อมแขนกระเถิบออกห่าง แต่มันก็ไม่ได้ดีขึ้น เพราะพื้นที่มีจำกัด
“จะไปไหนเหรอคุณ มีแต่ป่า” หญิงสาวเอี้ยวตัว พยายามยื่นหน้าไปพูดคุยกับสารถีหนุ่มหล่อ มาดเท่ห์ระเบิดระเบ้อ
“เอาไปฆ่าหมกป่ามั้ง”
“อื้อ......ไม่เอาสิคะคุณหมอ...อุ้ย...” ปานอัปรตกใจรีบกอดเอวหนาไว้แน่น เมื่อรถวิบากออกอาการแฉลบเกือบจะล้ม เมื่อชายหนุ่มขี่จักรยานยนต์ลัดเลาะใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่เข้าไปตามเส้นทางดินที่พอมีร่องรอยของเจ้าสองล้อขับผ่าน บางแห่งก็เป็นเนินหินเล็ก ๆ คับแคบขรุขระ จนร่างบางกระเด้งกระดอน จากที่กอดเอวอยู่ดี ๆ กลับกลายเป็นชะนีเกาะบ่าไปซะนี่
“ถึงหรือยังคุณ...ฉันจะเป็นลม” เอ่ยถามเสียงแหบระโหย ตับไตลำไส้ใหญ่ลำไส้เล็กคงพัวพัน กองรวมกันไปหมดแล้ว
อลันไม่ตอบ แต่เลี้ยวรถเข้าไปจอดโคนต้นไม้ใหญ่ขนาดหลายคนโอบ
“ลงไปสิคุณ” ชายหนุ่มเอ่ยเตือน เมื่อคนข้างหลังนั่งนิ่ง
“เฮ้ย ! คุณ.....” อลันหันไปเห็นคนข้างหลังหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ จึงกระวีกระวาดลงจากรถด้วยความทุลักทุเล เมื่อต้องเกี่ยวร่างบางที่อ่อนปวกเปียกลงมาด้วย
หมอหนุ่ม ประคองร่างนางแบบสาวให้นั่งพิงโคนต้นไม้ ก่อนจะค้นหายาดม นำมาจ่อจมูกพร้อมกับเทน้ำจากขวดใสลงบนผ้าผืนเล็กบิดหมาด มือใหญ่จับปานอัปสรให้นอนราบหนุนตักกว้าง แล้วจึงนำผ้ามาซับใบหน้าอ่อนใสให้อย่างเบามือ ดวงตาคู่สวยปิดสนิทแลเห็นขนตางอนงามแลดูเป็นธรรมชาติ จมูกเชิดรั้นน้อยน่าบิด คนมองเผลอไผลงอนิ้วลากไล้ไปตามแก้มนวลที่เริ่มมีสีนิด ๆ
“อะไรกัน....จะให้มามาช่วยงาน ดันมาเป็นภาระเสียได้ ปล่อยเอาไว้ให้เป็นอาหารของเสือแถวนี้ดีกว่ามั้ง” พูดเหมือนหลอกเด็ก แต่ก็ได้ผลเกินคาด
ปานอัปสรลืมตาโพลงกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรง แต่สายตากวาดมองไปรอบ ๆ อย่างหวาด ๆ กำลังจะเคลิ้มแทบจะลืมหายใจ กลับมาทำลายความหวังกันได้...เฮ้อ..เสียดาย
“หายแล้วค่ะ...จะให้ทำอะไรก็บอกมาสิ”
อลันหัวเราะในลำคอ หยิบถุงที่บรรจุเม็ดสีดำ ๆ บางอันก็สีน้ำตาลรูปร่างต่างกัน ดูไม่ออกว่ามันคืออะไรออกมาจากเป้จากนั้นก็เอากิ่งไม้อันเล็ก ๆ แข็ง ๆ ขุดคุ้ยดินลงไปไม่ลึกมากก่อนจะฝังเจ้าเม็ดดำ ๆ ลงไปแล้วก็กลบไว้เหมือนเดิม
“อะไรเหรอคุณ” ปานอัปสรมองอย่างสนใจ
“สมุนไพร”
“แล้วตรงนี้ที่ของใครคะ”
“ป่าผืนแผ่นดินไทย”
“แล้ว...ทำเพื่อ?” ทั้งคำถามและหน้าตาเต็มไปด้วยคำถาม แต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี
“จะตามมาทำไม ผมจะไปปลูกตรงโน้น” อลัน แบ่งเมล็ดพันธุ์ให้หญิงสาวปลูกบริเวณนี้ ส่วนตัวเองย้ายไปที่ไกลกว่า
“ไม่เอาอ่ะ ไปไหนไปด้วยกัน” ปานอัปสรยืนยันหนักแน่น ซ้ำยังลุกขึ้นยืนคล้องแขนของเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หากกระโดดเกาะได้หล่อนคงทำไปแล้ว
“อย่าเรื่องมากน่า เดี๋ยวไม่เสร็จ เหลืออีกตั้งเยอะ” เอ่ยว่าอย่างรำคาญ
“งั้นก็ช่วยกันปลูกเร็ว ๆ สิคะ” ปานอัปสรดึงแขนคนตัวโตให้นั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะรีบขุดคุ้ยอย่างแข็งขัน ย้ายที่ไปตรงไหนก็ไปปลูกด้วยกันตรงนั้น ขุดดินกระเด็นใส่กันบ้าง อะไรบ้าง กว่าจะเสร็จ ทั้งหน้าตาหัวหู เปื้อนดินกันไปตาม ๆ กัน
“สนุกจัง หมดแล้วแน่เหรอคุณ ดูดี ๆ ดิ” หญิงสาวยิ้มดวงตายิบหยี ชะโงกไปมองมือที่ควานหาของในเป้...ลุ้นว่าเผื่อจะมีเมล็ดพืชหลงเหลืออยู่บ้าง
ทั้งคู่เงยหน้าขึ้นพร้อมกัน สบสายตานิ่งนาน ปานอัปสรไหล่สั่น ก่อนจะเป็นฝ่ายหัวเราะขึ้นมา พลางชี้หน้าคมเข้ม ที่มีดินสีดำติดอยู่ปลายจมูกอย่างขบขัน
“หัวเราะดีนักใช่ไหม” มือใหญ่ลูบใบหน้าสวยหวานจนเปลี่ยนเป็นดำเหมือนถ่านในพริบตา ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาบ้าง อย่างชอบใจ
“คุณอลัน จะบ้าหรือไงถ้าหน้าฉันพังล่ะน่าดู” ปานอัปสร ค้อนตาคว่ำ หน้าตาสำคัญไม่แพ้รูปร่างเพราะใช้มันประกอบอาชีพ หล่อนจึงเฝ้าดูแลทะนุถนอมอย่างดี
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า สิวไม่กล้าขึ้นหน้าคุณหรอก...เห็นไหมแข็งแรงจะตาย” ชายหนุ่มดึงแก้มทั้งสองข้างดึงโยกตามอำเภอใจ เพื่อยืนยันว่าหน้าของหล่อนแข็งแรงจริง
“อร๊ายยย.......อีตาหมอบ้า อย่าอยู่เลย” ปานอัปสรฉุนจัด โถมตัวเข้าหาอลันด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีกระหน่ำตีสะเปะสะปะ ในขณะที่ร่างหนาเอนราบลงกับพื้นโดยเกาะเกี่ยวเอวคอดเอาไว้แนบแน่น .......กว่านางแบบสาวจะรู้ตัวว่าเสียรู้คนตัวโต ก็เมื่อปลายจมูกแทบจะชนกันอกใจไหวหวั่นตะครั่นตะครอ...เออหนอปานอัปสรหล่อนจะมาหวั่นไหวกับเกย์ไม่ได้นะยะ.........