Illustrator
'ปุยฝ้าย' นักวาดรุ่นใหม่ ไฟแรงเวอร์
ฝึกงาน... อีกหนึ่งประสบการณ์ที่ต้องเติมเต็ม
ช่วงนั้นเป็นช่วงไฟนอลของปีสาม— เป็นช่วงเวลาที่ทำให้แผนการทุกอย่างวุ่นวายไปหมดเพราะ COVID-19 ระบาด หลายคนหอบข้าวหอบของกลับต่างจังหวัดจากกรุงเทพฯ เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แค่เรียนออนไลน์ก็ว่ายุ่งยากแล้ว พ้นไฟนอลเราก็ต้องฝึกงานอีก ความลำบากเกิดขึ้นก็เมื่อบริษัทหลายแห่งหยุดรับนักศึกษาฝึกงาน และทางมหาวิทยาลัยประกาศให้ฝึกงานออนไลน์ได้เท่านั้น
ในตอนนั้นคิดแล้วแหละว่าจะรอดจริง ๆ เหรอ
ฝ้ายยื่นสมัครฝึกงานหลายที่ แต่ด้วยช่วงเวลาแล้วทำให้หลายบริษัทไม่สามารถรับเข้าฝึกงานได้— ยกเว้น ธัญวลัย
ด้วยความที่เคยเห็นคนรู้จักนี่แหละ มาฝึกงานที่นี่ ฝ้ายเลย เออ ลองมาดูบ้างแล้วกัน ตอนได้รับอีเมล์ตอบกลับจากธัญวลัยให้ทำแบบทดสอบวาดคาร์แรคเตอร์และวาดปก มองเวลาที่ต้องส่งแล้วคือตาลีตาเหลือกเลยทีเดียวเพราะดันชนกับไฟนอล! ไฟนอลก็ต้องทำ ที่ฝึกงานก็ต้องมี ดีที่ว่างานไฟนอลเป็นงานกลุ่มพอกอดแข้งกอดขาเพื่อนให้ช่วยแบกฝ้ายให้ไปต่อได้ ฝ้ายเลยได้ทำแบบทดสอบส่งกลับไป
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีโทรศัพท์มานัดสัมภาษณ์แบบออนไลน์
แล้ว… ฝ้ายก็ได้ฝึกงานที่ธัญวลัย… แบบออนไลน์
ทำงานออนไลน์ฟังดูแล้วเหมือนจะดีเนาะ ไม่เสียค่าเดินทาง ไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นเช้า ๆ เพื่อไปบริษัทเพราะกลัวรถติด ตอนเย็นก็ไม่ต้องไปยืนแออัดบนรถไฟฟ้าหรือนั่งกร่อยในรถรอให้ขยับบนถนน
ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้ดีเลย— ไม่ได้ดีขนาดนั้น
จนฝ้ายฝึกงานจบแล้วยังคงคิดอยู่เสมอว่า โคตร! เสีย! ดาย! สาปแช่งโควิดทุกวันเพราะถ้าโควิดไม่ระบาดฝ้ายก็คงไม่ต้องทำงานออนไลน์แบบนี้
ฝ้ายเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เข้าบริษัทไปทำความรู้จักพี่ ๆ แล้วด้วยความที่อยู่ต่างจังหวัด ช่วงนั้นคือเขางดเดินทางข้ามจังหวัดด้วย ครอบครัวก็วุ่นวายอีก คือไม่มีโอกาสได้ไปบริษัทเลยเพราะแทบไม่มีโอกาสเข้ากรุงเทพฯ
ข้อเสียของการทำงานออนไลน์คือการที่พี่ ๆ เขาไม่สามารถเห็นงานของเราได้ตลอดเวลา ฝ้ายต้องพูดคุยกันผ่านวีดิโอคอลแล้วอินเตอร์เน็ตดับขึ้นมาวันหนึ่งคือจบเลยนะ แบบเนี้ยะ (แค้น— แค้นมาก)
แล้วคือ พี่ ๆ ที่นั่นเขาดูใจดีกันมาก ๆ ฝ้ายเป็นคนที่ชอบให้คนอื่นชี้จุดผิดในงานนะ เพราะฝ้ายอยากพัฒนางานตลอดเวลา ขอบคุณพี่ป่านกับพี่นุ่นที่คอยให้คำแนะนำและคอยชี้จุดบกพร่องต่าง ๆ ให้มาก ๆ ค่ะ เสียดายมากขึ้นไปอีกที่ไม่ได้เข้าบริษัท!
ฝ้ายเสียดายเรื่องที่ถึงแม้เราจะได้ฝึกงานแต่เราไม่ได้สัมผัสบรรยากาศการทำงานอย่าง ‘จริง ๆ’ … ลองนึกภาพที่ทำงานทุกวันเห็นแต่ตัวเองกับจอโน้ตบุ๊คและภาพบรรยากาศเดิม ๆ ของห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน … ฝ้ายเสียดายที่ฝ้ายไม่ได้สัมผัสการพูดคุยระหว่างเพื่อนร่วมงาน หรือฟังบทสนทนาที่มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับคนอื่น ๆ และไม่ได้มีโอกาสรู้จักกับพี่ ๆ คนอื่น ๆ…
โคตรเจ็บ…
ว่าแล้วก็นึกถึงวันที่วีดิโอคอลกัน แล้วเพื่อน ๆ ที่มาฝึกงานเหมือนกัน แต่สามารถเข้าบริษัทไปทำงานได้ ได้กินขนมที่พี่เขาเอามาให้
คนอิจฉาอยู่ตรงนี้นะคะ (ฮา)
เจ็บกว่าเดิมอีก…
จบเรื่องน่าเสียดายมาพูดถึงการฝึกงานที่ธัญวลัยบ้างดีกว่า
การฝึกงานที่ธัญวลัยคือ ไม่ได้ฝึกแค่การทำงาน แต่ได้ฝึกฝนฝีมือ รวมถึงความเร็วในการทำงานอีกด้วย เราเป็นคนที่อนาโตมี่ไม่ได้เป๊ะปัง แต่พอได้มาวาดงานที่พี่ป่านมอบหมายให้ช่วงวันแรก ๆ ฝ้ายเริ่มผ่อนคลายกับการวาดอนาโตมี่มากขึ้น และมันทำให้งานฝ้ายเร็วขึ้นด้วย ยิ่งพอโดนชี้จุดผิดจุดบกพร่องบ่อย ๆ เข้า ฝ้ายก็จะเริ่มจำและมองเห็นได้
นอกเหนือจากนี้พี่เขายังให้ฝึกอะไรที่อยากฝึกหรือไม่ถนัดด้วย— ฝ้ายเป็นคนที่ไม่เคยมีความมั่นใจกับการวาดพื้นหลัง ทุกครั้งที่พยายามวาดก็จะมีความคิดประเภทว่า “เราตีเปอร์ไม่เป็นทำไม่ได้หรอก”, “พื้นหลังมันยุ่งยากเกินไป” หรือ “เราทำได้ไม่สวยเลย” เป็นความคิดติดลบที่… ทำให้ฝ้ายท้อแล้วเลิกวาดภาพพื้นหลังไปเลย
แต่พอได้มาฝึกงาน มันทำให้ฝ้ายมั่นใจในระดับนึงว่า เนี่ย จะมีคนที่คอยชี้จุดผิดให้เรานะ เราไม่ต้องมานั่งงมเอง ปวดหัวเอง แล้วก็ท้อแล้วนะ ขอบคุณพี่ป่านที่คอยชี้แนะเสมอนะคะ ฝ้ายอาจไม่ได้ตีเปอร์เก่งขึ้นมาก แต่การทำงานที่ธัญวลัยทำให้ฝ้ายกล้าที่จะวาดภาพพื้นหลังมากขึ้น และเริ่มที่จะคิดว่า “มันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นนี่นา” ขอบคุณพี่ป่านและพี่มิ้นมาก ๆ ค่ะ
นอกจากนี้ หนึ่งในความฝันของนักวาด— คือการได้วาดภาพขึ้นปกนิยายตีพิมพ์สักเล่ม
ฝ้ายเองก็เคยมีความฝันแบบนั้น แต่เพราะพอโตขึ้นมา เส้นทางของเราเริ่มชัดเจนขึ้น มันทำให้ความฝันของฝ้ายแตกออกไป พร้อมกับความคิดลึก ๆ ส่วนหนึ่งที่ว่าฝันนั้นอาจจะไม่เป็นจริงแล้ว
ก็ไม่คิดว่าธัญวลัยจะให้โอกาสทำให้ฝันเมื่อนานมาแล้วเป็นจริงขึ้นมา…
ปกนิยายเล่มเดียวแต่มีคุณค่าทางจิตใจกับฝ้ายมาก ๆ มันคือการเติมเต็มความฝันในวัยเด็ก และเป็นการผลักดันให้ฝ้ายไปต่อ
เพราะภาพบนปกนิยายกับพวกหนังสือการ์ตูนนี่แหละ คือสิ่งที่ทำให้ฝ้ายเริ่มวาดรูป
การที่พอถึงจุดหนึ่งเราได้เป็นผู้สร้างสรรค์มันขึ้นมาบ้าง มันก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ระหว่างทางอาจมีเครียดบ้างกังวลบ้าง เพราะมันค่อนข้างสำคัญกับฝ้าย แต่พอผ่านมันไปก็แฮปปี้มาก ๆ
ฝึกงานที่ธัญวลัยให้อะไรกลับมาตั้งไม่รู้เยอะแยะ ฝ้ายดีใจมาก ๆ ที่ได้ฝึกงานกับธัญวลัย (และเสียใจมากที่ทำได้แค่ฝึกออนไลน์! กัดผ้า) แค่ผ่านหน้าจอก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากแล้ว ถ้าได้ไปฝึกถึงบริษัทคงเป็นประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นไปอีกแน่นอนเลยค่ะ! (เจ็บใจมากจริงจัง)
ขอบคุณพี่ ๆ ที่สร้างความมั่นใจ และความกล้าให้ฝ้าย ขอบคุณที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของฝ้าย ขอบคุณที่เป็นแรงผลักดันให้ฝ้ายสามารถเดินหน้าต่อและออกจากเซฟโซนของตัวเอง
ขอบคุณธัญวลัยที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางของฝ้ายค่ะ