วันต่อมา...
ไอเดียร์ใช้ช่วงเวลาที่ติวเตอร์ไม่อยู่แอบนำลูกไปไว้กับพยาบาลแล้วตามหาห้องพักฟื้นของชาริท การที่เขาอยู่ใกล้เธอแค่เอื้อมนั่นเป็นโอกาสทองที่มันแทบไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีก สองขาเดินมาหยุดหน้าห้องที่เต็มไปด้วยชายฉกรรจ์ชุดดำยืนหน้าเคร่งขรึมราวกับหุ่นยนต์เกือบสิบคนได้
"มาเฟียจริงๆสินะ" เธอพึมพำกับตัวเองก่อนตัดสินใจเดินไปหาคนที่กำลังเดินหน้านิ่งออกจากลิฟต์ หากจำไม่ผิดชายชุดดำรูปร่างสูงโปร่งคนนั้นคงเป็นลูกน้องคนสนิทของเขา
"นาย! นายนั่นแหละ" ไอเดียร์เร่งฝีเท้าเล็กน้อยเมื่อเสียงเรียกของเธอทำให้ชายคนนั้นหยุดฝีเท้าลงได้ ครั้นจะวิ่งให้ทันใจก็ยังเจ็บแผลอยู่
"..." เขาปลายสายตามองหน้าเธอเพียงแล้วเบือนหน้าไปทางตรง
"ฉันอยากคุยกับนายชาริท"
"จะเรียกใครก็ระวังปากด้วย นั่นชื่อเจ้านายพวกฉัน" เขาหันมาตำหนิ ท่าทางดุดันทำให้ไอเดียร์หน้าเจื่อนลงเล็กน้อย
"ฉันมีธุระจะขอคุยกับเขาหน่อย ....เรื่องลูก ช่วยบอกเขาให้หน่อยได้ไหม~" เธอพูดเสียงอ่อนลงเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นใจ ไม่ว่าจะอย่างไรวันนี้เธอต้องเข้าไปพบชาริทให้ได้
...และทุกอย่างก็เป็นดั่งฝันเมื่อเจ้าพ่อมาเฟียอนุญาตให้เธอเข้าไปคุยธุระได้อย่างง่ายดาย สองมือเรียวเล็กประสานกันแน่นบนเก้าอี้ข้างเตียงคนไข้วีไอพีด้วยความประหม่า เมื่อต้องเป็นฝ่ายขอร้องให้เขาช่วยเหลือ
"นาย..."
"ใครคือเพื่อนเล่นเธอ"
"คุณชาริท คือ... ฉันคลอดลูกแล้ว รบกวนคุณช่วยเลี้ยงดูเขาหน่อยได้ไหม" จู่ๆก็รู้สึกเกร็งขึ้นมาเสียดื้อเพียงแค่ถูกคนบนเตียงเพ่งมอง หญิงสาวเผลอจิกเล็บลงผิวแน่นอย่างลืมตัว
"ลูกใคร"
"ละ..ลูกคุณ วันนั้นฉันกินยาคมฉุกเฉินไปเม็ดเดียวเลย ท้อง~"
"มันใช่ความผิดฉันเหรอ"
"นี่! สรุปจะไม่รับผิดชอบเหรอ แค่ฝากเลี้ยงปีเดียวเองระหว่างฉันกลับไปเรียน เมตตารับลูกไปเลี้ยงดูหน่อยขนหน้าแข้งก็คงจะไม่ร่วงหรอกมั้ง ฉันก็อยากเรียนให้มันจบๆลำพังแค่ท้องไม่มีพ่อก็น่าเจ็บใจจะแย่อยู่แล้ว"
"จะเรียกร้อง?"
"เฮ้อ... ก็เรียกร้องแต่ไม่ตลอดไป ฉันเรียนจบได้ทำงานฉันก็จะรับเขากลับ"
"วุ่นวายชะมัด"
"นะนายนะ เขามีเลือดเนื้อเชื้อไขนายอยู่จะไม่เมตตาหน่อยเหรอ~"
"แล้วถ้าฉันตอบว่าไม่ล่ะ เธอไปเอาลูกใครก็ไม่รู้ แล้วมายัดเยียดให้ฉันเป็นพ่องั้นเหรอ"
"นี่ก็โรงพยาบาลไหม ตรวจดีเอ็นเอตอนนี้ก็ยังได้เลย เป็นมาเฟียภาษาอะไรเนี่ย โง่ชะมัด~" หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบหลังเปล่งประโยคสุดท้ายออกไปโดยไม่ทันคิด
"เมื่อกี้ว่าไงนะ" ประโยคคำถามเยือกเย็นทำเอาบรรยากาศรอบข้างโอบล้อมไปด้วยไอเย็นที่สูงผิดปกติราวกับนั่งอยู่กลางท่ามกลางเทือกเขาน้ำแข็ง
"ฉะ..ฉันหมายความว่า ถ้านายไม่มั่นใจสามารถตรวจดีเอ็นเอได้" สถานการณ์อึดอัดทำให้คำตอบตะกุกตะกักไปหมด
"ก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว"
"ถ้าผลตรวจออกมาว่าเป็นลูกนาย นายจะเลี้ยงช่วยใช่ไหม" ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อได้รับสัญญาณที่ดี เพียงแค่จินตนาการว่าได้กลับไปเรียนปีสุดท้ายจบก็เผลออมยิ้มอย่างลืมตัว
"เสพหรือขาย" ใบหน้าเปื้อนยิ้มหุบลงอัตโนมัติเมื่อคนบนเตียงถามกลับเสียงนิ่ง
"อะไร"
"ดูหลอนๆ"
"นี่ ฉันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น" ไอเดียร์ชักสีหน้าเมื่อเข้าใจความหมาย นี่เขากำลังกล่าวหาลอยๆว่าเธอเป็นพวกผู้คลั่งสารเสพติดสินะ
"เจ!" หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆคนบนเตียงก็ตะโกนเรียกชื่อใครบางคนไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ก่อนเสียงเปิดประตูตามด้วยเสียงฝีเท้าหนักอย่างเร่งรีบจะดังขึ้นในเวลาต่อมา
"ครับ" ชายชุดดำผู้เป็นเจ้าของชื่อสาวเท้ามาหยุดตรงปลายเตียงขานรับหนักแน่น เขาปลายสายตามองมาที่หญิงสาวเพียงนิดก่อนเลื่อนไปสบตาเจ้านาย
"ให้คนของเลโอตรวจดีเอ็นเอลูกผู้หญิงคนนี้กับฉันที ขอผลตรวจชัวร์และเร็วที่สุด"
"ครับนาย คุณฉลามกำลังขึ้นลิฟต์มา ให้เข้าเยี่ยมเลยมะ..."
แกร่ก~
"ตายหรือยัง" เสียงเปิดประตูตามด้วยเสียงทักทายฉบับเจ้าชายน้ำแข็งดังแทรกขึ้นขัดจังหวะรายงาน ทำให้เจอาร์หยุดชะงักไปตามสัญชาตญาณ
ชาริทถอนลมหายใจรำคาญกับคำทักทายปนความกระแนะกระแหนของมาเฟียหนุ่มรุ่นน้อง ไม่เคยเลยสักครั้งที่เด็กหนุ่มจะถามเป็นห่วงเป็นใยเหมือนคนอื่น ไม่สิ! ในแก๊งเพื่อนของเขาก็ไม่มีใครพูดดีเลยสักคน
"ทักทายเหมือนชาวบ้านจะตายก่อนกูหรือไง" เขากระแทกเสียงใส่ตามอารมณ์ นอกจากฉลามจะไม่รู้สึกเกรงกลัวยังยืนนิ่งราวกับรูปปั้น สบตาคู่สนทนาด้วยความเย็นชา
"ใคร" เด็กหนุ่มตั้งคำถามในตอนที่เลื่อนสายตามาหยุดที่ผู้หญิงข้างเตียง
"ไม่มีอะไร"
"ตอบไม่ตรงคำถาม"
"..."
"ไร้ประโยชน์สิ้นดี" ไอเดียร์กำหมัดแน่นเมื่อถูกผู้มาใหม่มองด้วยสายตาดูถูก
"มีธุระนิดหน่อย" ชาริทเหลือบมองหน้าไอเดียร์ก่อนเลื่อนไปสบตามาคู่สนทนา "ลมอะไรหอบมาถึงได้มาถึงที่นี่"
"งาน"
"มาที่นี่เพราะธุระเรื่องงานใช่ไหม" ชาริทตีความหมายจากคำตอบสั้นๆ บางครั้งเขาก็รู้สึกเหนื่อยที่ต้องมานั่งถอดกระแสจิตแปลความหมายเวลาสนทนากับฉลาม นี่ยังไม่รวมน้องเขยอย่างเลโออีก มาเจอฉลามยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
"ใช่"
"งั้นเธอออกไปก่อน ส่วนเรื่องห่าเหวนั่นเดี๋ยวลูกน้องฉันจัดการให้" เขาหันไปบอกหญิงสาวเพียงคนเดียวในห้อง การที่เธอมารับฟังเรื่องธุรกิจสีเทาด้วยคงไม่เป็นการดีแน่
"ค่ะ" ไอเดียร์หยัดกายลุกขึ้นยืนปลายสายตามองใบหน้าเย็นชาเล็กน้อย ดวงตากลมละความสนใจแล้วเดินออกไปในทันที
เธอพอจะรู้ว่าหลังจากที่ก้าวพ้นห้องสี่เหลี่ยมวีไอพีแล้วบทสนทนาเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายคงจะเริ่มขึ้นตามหลัก เธอแค่ต้องการรับเอาความช่วยเหลือจากเขาไม่ใช่เข้าไปอยู่ในแวดวงนั้น พยายามหลีกเลี่ยงให้ไกลที่สุดนั่นคือสิ่งที่เธอควรทำ
__________________________________
ได้โปรดกด Like และ comment เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะฮะ