บทนำ
“เพราะความรักที่ปิดบังตาเจ้าให้มืดบอด จักได้ทำเรื่องที่น่าอับอายต่อเผ่านาคเยี่ยงนี้ สมควรได้ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานบนโลกมนุษย์ยิ่งนัก”
สุรเสียงกังวานสะท้านห้วงแห่งเกษียรสมุทร เกล็ดมณีในอาภรณ์สีเขียวมรกตสภาพอิดโรยต่างน้ำตาริน ใบหน้าเยาว์วัยเอียงเหลือบมองด้วยดวงตาสีแดงก่ำ ผู้มีเศียรแผ่พังพานถึงเจ็ดเศียรผงาด เจ้าของเกล็ดเลื่อมทองประกายแสงยะยิบ ขดกายขนาดใหญ่มิต่างจากสุรเสียงเป็นแท่นประทับขององค์วิษณุเทพ ณ ใจกลางเกษียรสมุทร ความน่าเกรงขามที่แผ่มาปกปักทำให้ผู้ที่มิได้มีเชื้อสายราชวงศ์อย่างธารทิพย์จึงมิกล้าแม้เพียงลอบสบนัยน์ตาแข็งกร้าวคู่นั้น
“ข้าแด่องค์วิษณุเทพ ข้าผู้ถือเป็นผู้สูงสุดของนาคา ขอตัดสินโทษแก่นาคีน้อยผู้นี้...”
“ช้าก่อน...” เหนือสุรเสียงกึกก้อง สตรีงามผู้ประทับเคียงคู่บุรุษเลอลักษณ์บนบัลลังก์นาคาเปล่งสำเนียง ความไพเราะของเสียงที่เปล่งออกมามิต่างจากคีตขับขาน ท่วงทำนองนั้นคล้ายปลอบประโลมนาคีที่นั่งน้ำตานองอย่างแปลกประหลาด นางรีบก้มลงกราบที่พื้นทรายขาวสะอาด ทั้งยังละเอียดอ่อนยามผิวกายต้องสัมผัส “อย่าถึงขั้นต้องให้นางลงไปเป็นเดรัจฉานเลยอนันตนาคราช”
“ข้าแต่พระแม่ นางบันดาลให้เกิดลมฝนในโลกมนุษย์ ทั้งยังบันดาลน้ำท่วมจนเกิดภัยพิบัติ พืชผลล้มตาย สัตว์น้อยใหญ่ได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งส่งพิลาสมยุราและวิหรุตไปจุติยังโลกมนุษย์โดยหาใช่หน้าที่ของนางไม่ โทษของนางเพียงนี้นับว่าน้อยไปเสียด้วยซ้ำ”
“หากข้าถูกพรากจากของรัก ข้าก็คงเสียใจจนเผอเรอบันดาลโทสะมิแพ้นางหรอกอนันตนาคราช”
นี่แหละหนอจักว่างามจนยากหาสิ่งใดเปรียบเปรย งามทั้งน้ำพระทัยที่ใหญ่หลวงเป็นล้นพ้น...
นาคีน้อยที่หมอบกราบมิต่างจากงูตัวจ้อยท่ามกลางกระแสทิพย์แห่งเทพและเทพีผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง ร่างบางสั่นเทาจากแรงสะอื้น อนันตนาคราชเงียบเสียงลง มีเพียงเทพีผู้เป็นดุจร่มโพธิ์ใหญ่ให้แก่นาคีน้อยในตอนนี้เท่านั้นที่เอ่ยกับผู้ที่ทรงบรรทมอยู่ในอิริยาบถผ่อนคลาย ใบหน้าบุรุษช่างเลอลักษณ์ด้วยความหล่อเหลา ทั้งยังแผ่บารมีออกมาในพักตร์ที่หลับตาพริ้ม แต่อมยิ้มที่มุมปาก ดุจทุกเรื่องในโลกหล้ามิมีสิ่งใดเป็นทุกข์สำหรับพระองค์
“เสด็จพี่ หากพระองค์ทรงประทานอภัยแด่นาง ข้าจักสร้างสระบัวลึกลับขึ้นมา เพื่อให้นางบำเพ็ญเพียรเป็นการสำนึกผิด นอกจากจะเป็นการโปรดสัตว์แล้ว ยังช่วยให้นางได้พิเคราะห์ถึงสิ่งที่กระทำลงไป และยังเป็นการบังคับให้นางสร้างเสริมบุญไปในตัวด้วย พระองค์มีความเห็นว่าอย่างไร”
“ให้เป็นเช่นที่เจ้าปรารถนาเถิด”
“เกล็ดมณี...” เจ้าของผิวขาวนวลผุดผ่อง ห่มอาภรสีกลีบบัว พร้อมเครื่องแต่งกายทองคำยะยิบแพรวพราว ใบหน้าเผยยิ้มอ่อนโยน มิต่างจากผู้ที่เหมาะสมเป็นมารดาแด่นางเอ่ยเรียกในฉับพลัน เมื่อได้รับคำอนุญาตจากร่างที่บรรทมอยู่ยังบัลลังก์นาคราช “ข้าได้เนรมิตสระบัวลึกลับขึ้นแห่งหนึ่ง เจ้าจงลงไปที่นั่น ดูแลสระบัวแห่งนั้นให้ดี สำนึกผิด และบำเพ็ญเพียร สั่งสมบุญบารมีให้มาก”
“ขอบพระทัยองค์วิษณุเทพ...” ร่างที่หมอบราบสั่นเครือพร้อมทั้งปล่อยหยาดน้ำตาให้รินไหลออกมามิขาดสาย มือบางประนมกระพุ่มสวยสม กราบกรานแด่ทั้งสองพระองค์ด้วยความเคารพจนหาสิ่งเปรียบมิได้ “ขอบพระทัยเพคะ พระแม่ลักษมีเทวี”
สิ้นเสียงสั่นเครือ ร่างของนาคีทั้งสองพลันสลายเป็นละอองมรกต พวยพุ่งไปยังสระบัวลึกลับยังทิศอีสาน ดังที่ถูกเนรมิตจากกระแสทิพย์แห่งเทพี พระนางจ้องมองนาคีน้อยที่ใจสลายเพราะตนมิถูกเลือกจากผู้ที่รัก ต่างสงสารผู้ที่เป็นดั่งบุตรีที่บูชานางมาเนิ่นนาน
เจ้าของใบหน้างามจนยากผู้ใดเปรียบ ด้วยห่วงหาประดุจบุตรีในอุทรแห่งตน พลันบังเกิดกระแสทิพย์แห่งความห่วงหาลอยปลิวตามติดเกล็ดมณีนาคีไปยังสระบัวลึกลับ จึงได้เผลอประทานพรให้แก่นาง
เมื่อถึงกาลสมควร จักมีผู้ที่รักเจ้าสุดหัวใจหาเจ้าพบในที่สุด…
ฉะนั้น เมื่อเกิดการพบกันขึ้น ข้าอยากให้เจ้าจำไว้ว่ามันมิใช่เรื่องบังเอิญหรอกลูกเอ๋ย…
แต่มันคือ โชคชะตาของเจ้าเอง...
____________________________
ขอบคุณทุกกำลังใจ และโปรดอย่าปิดกั้นการมองเห็น
สามารถแสดงความคิดเห็น หรือกดให้กำลังใจนักเขียน หรือตัวละครได้นะครับ
#เกล็ดมณีนาคี #อนิลครุฑา
.
สำหรับใครที่อยากให้กำลังใจนักเขียน
สามารกด "ดาว" และ "ดาว" และ "ดาว" เท่านั้น ให้ผมได้เลยน้า ...อิอิ...
พอดียังไม่ได้ติดเหรียญน้า
By.
พงพี