บทเรียนคั่นเวลา
วันวานยังหึงอยู่
[Music Yotin]
ในที่สุดวันแห่งการพิพากษาเหล่าเยาวชนกองปราบรุ่นเยาว์ก็มาถึงตั้งแต่เมื่อวันที่ไปช่วยพี่พรายจากไอ้คิง ผมก็ตกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไปแบบงง ๆ ท่านอธิการบดีพ่อพี่พายุคาดโทษพวกเราทุกคนเอาไว้ตั้งแต่เช้าวันรุ่งขึ้นแต่เนื่องจากพวกผมทุกคนติดกิจกรรมดาวเดือนกันหมดท่านก็เลยเลื่อนการลงโทษออกไปก่อนและผมเองก็ดันเสือกได้เป็นเดือนมออันดับสองรองจากไอ้เซฟด้วย
ตั้งแต่ได้ตำแหน่งรองเดือนมหา’ลัยนักศึกษาจากต่างคณะก็รู้จักผมกันมากขึ้น จะไม่รู้จักได้ไงในเมื่อรูปพวกผมมันเด่นหราไปซะเกือบทุกจุดของมหา’ลัยในตอนนี้และที่แย่ที่สุดคือมีสาวแท้สาวเทียมเข้ามาเยอะมาก มากจนไม่รู้ว่ามันทำให้พี่พรายหึงรึเปล่า พี่พรายมันไม่พูดไม่จาไม่มาติวให้ผมอีกเลยแถมยังหลบหน้าผมตลอดตั้งแต่วันที่ผมเปิดตัวว่าคบพี่พรายกับพวกเพื่อนพี่พายุในร้านเหล้า
แม้แต่ตอนนี้...
“เอาล่ะตอนนี้พ่อก็รู้เรื่องทั้งหมดที่พวกเธอทุกคนทำไปหมดแล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่นายนทีทำ” เห็นพี่พรายตอนนี้แล้วสงสารชะมัดหน้างี้หงอยเชียวไม่รู้ท่านจะตัดสินยังไงไล่ออกหรือยุติทุนการศึกษาของพี่พรายรึเปล่า
“ครับผมขอยอมรับผิดทุกอย่างแต่เพียงผู้เดียว”
“ไอ้พราย!” พวกพี่พายุมันร้องออกมาพร้อมกันอย่างไม่สบายใจนัก
“นที...เธอนี่น้าทั้งที่ยังเป็นเป็นเด็กอยู่แท้ ๆ ทำไมถึงกล้าตัดสินใจที่จะทำเรื่องบ้าบิ่นอย่างไปสู้กับพวกขบวนการค้ายาเสพติดตามลำพังแบบนั้นและยังเรื่องที่ทำอาวุธอันตรายพวกนั้นออกมาอีก ถ้าแผนการของวายุมันไม่ได้ผลเธอคงไม่มีโอกาสมายืนอยู่ตรงนี้อีกแล้วล่ะ” พี่พรายเงยหน้ามองท่านอธิการบดีด้วยรอยยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่ผมกังวลที่สุด รอยยิ้มที่พี่พรายเคยทำก่อนพูดจากลาผม
“ผมของรับผิดชอบด้วยการลาออกครับ”
...!
“พราย!” พี่พายุกับพี่ป้องร้องออกมาทันที “พ่อ! ถ้าพ่อจะไล่พรายออก ผมก็จะออกด้วยเพราะยังไงเรื่องนี้ผมก็เป็นคนวางแผนมาตั้งแต่ต้น”
พ่อของพี่พายุกระตุกยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะเอื้อมนิ้วไปกดที่อินเตอร์คอม
“คุณวิไลนำเอกสารเข้ามาให้ผมหน่อย”
เลขาหน้าห้องเดินถือแฟ้มเอกสารเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบเฉยอย่างที่ผมเคยเห็นทุกครั้ง
“พ่อยังไม่ได้พูดสักคำว่าจะไล่ออก” ท่านหยิบเอกสารขึ้นมาจากบนโต๊ะแล้วส่งให้พี่พรายเปิดดู “เอกสารนี้คือเงื่อนไขที่พ่อต้องให้เธอทำสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก”
พอพี่พรายเปิดอ่านแฟ้มด้านในได้สักพักก็ถึงกับน้ำตาไหลออกมาจนพี่พายุและพวกผมต้องดึงมาอ่านเอง แม้แต่ผมเองก็แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่าจะมีคนแบบนี้อยู่ในโลกด้วย
“นี่เป็นเอกสารมอบทุนการศึกษาในแก่นายนทีจนกว่าจะจบในระดับชั้นปริญญาโท หลังจากจบในระดับปริญญาตรีพ่อจะให้ทั้งวายุและนทีไปศึกษาต่อที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ที่นั่นมีมหาวิทยาลัยที่เป็น เป็นพันธมิตรทางการศึกษากับของเราหลายแห่ง พวกเธอสองคนจะเลือกเรียนอะไรก็ได้ตามที่ต้องการพ่อจะไม่บังคับ” เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้ง “แต่พ่อก็ไม่ได้ให้ฟรี ๆ หรอกนะมีสัญญาสำคัญหลายข้อที่ทั้งสองคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดนับจากวันนี้”
“หนึ่งคือห้ามกระทำโดยพลการอันก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือเสี่ยงให้เพื่อน ๆ เป็นอันตราย”
“สองถ้ามีเรื่องอะไรให้แจ้งพ่อโดยตรง พวกเธอคิดจริงเหรอว่าพ่อจะไม่ติดตามดูพฤติกรรมของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะพวกเพื่อนแกแล้วก็แกน่ะวายุมีแต่ตัวแสบ ๆ ทั้งนั้นและสามอย่ามาคิดสร้างระเบิดในมหาวิทยาลัยพ่ออีกนะ เกิดระเบิดตูมตามขึ้นมาพ่อคงหัวใจวายตายก่อน”
ตอนนี้ทุกคนถึงกับยิ้มออกมาบนใบหน้าเลยครับโดยเฉพาะผมกับไอ้พุฒเองที่ดีใจไปกับพี่พรายมากที่สุดเลยมั้ง
“แต่เรื่องที่พวกเธอทำพ่อจะไม่ลงโทษให้หลาบจำก็คงไม่ได้อยากจะเป็นฮีโร่กันนักดังนั้นวันนี้พ่อก็ต้องให้พวกเธอทุกคนที่ร่วมหัวกันในแผนการครั้งนี้รับผิดชอบไปพร้อมกันทุกคน”
และแล้วบทลงโทษของพ่อไอ้พี่พายุมันก็ได้เริ่มต้นขึ้นและมันเป็นบทลงโทษที่โคตรจะฉิบหายในชีวิตของผมเช่นกัน
...กรี๊ดดดดด!
ว๊ายตายแหล่วววว~~~~~โพสต์ท่าหน่อยเร็วววว!
แชะ...แชะ! มิมีตรงไหนเลยที่จะไม่หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บภาพความบัดซบในชีวิตพวกเรา...
เสียงกรีดร้องของเหล่าบรรดาชะนีและเก้งกวางดังขึ้นไม่ได้หยุดหย่อนเมื่อเหล่าบรรดาเดือนรุ่นพี่ ผม พี่พราย ไอ้พุฒ ไอ้เพชรต้องมาสวมชุดสีสันสดใสที่แม่งมาครบแทบทุกสีเพราะมันคือขบวนการพาวเวอร์ เรนเจอร์! และที่สำคัญคือเป้ามันตุงมากห้อยมาเป็นพวงเลยโว้ยยยย!
“กูเกลียดพ่อมึงพายุ!” ฮ่า ๆ ๆ ไอ้พี่เคนพี่มึงได้ใส่สีดำยังทำโวยวายกูนี่ครับสีเหลืองสะท้อนแสงเด่นมากจนมองจากดาวอังคารยังเห็นอะ
“ว่าแต่พายุทำไมมึงได้สีแดงวะ” เดาก็รู้แล้วจ้าว่าทำไมไอ้พี่ป้อง!
“ก็พ่อกูมองว่ากูเป็นหัวหน้าขบวนการน่ะสิ ถึงได้เล่นงานกูขนาดนี้พวกมึงยังโชคดีดูไอ้พรายนู่นมันยังไม่บ่นสักคำ” ไม่รู้ว่าคนอื่นจะมองยังไงแต่ผมว่าชุดพี่พรายมันน่ารักดีออกสีชมพูมุ้งมิ้งแถมมีกระโปรงหน่อย ๆ อีกยิ่งมองก้นแน่น ๆ ของพี่มันแล้วบอกตรงว่าอยากจะยัดเยียดความเป็นชายให้เหลือเกิน
หืดหาด...อยากกดพี่มันคาชุดเน้~~~~
“จะบ่นกันทำไมวะ กูไม่ได้ให้พวกมึงมาช่วยกูสักหน่อยแต่ก็ขอบใจพวกมึงทุกคนนะ ที่นอกจากจะเสือกเรื่องของกูแล้วยังตามมาช่วยอีก” เห้อ...ไอ้พี่พรายก็นะจะขอบใจเพื่อนตรง ๆ ก็ไม่ได้คงจะเขินจนพูดไม่ออกล่ะสิท่า “งั้นก็รีบทำภารกิจของวันนี้ให้เสร็จเถอะยังไงไอ้เพจ U Cute มันก็เอารูปไปลงอยู่แล้วไม่ต้องมาอายแล้วว่ะ...ดูนั่นดิ” พี่พรายมันชี้ไปที่สองสาวที่เดินตามถ่ายภาพพวกเราไม่ห่าง
“ตกลงที่ที่พวกเราต้องไปคือลานกลางใช่ไหมวะ รีบทำให้จบเถอะกูอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว”
“มึงไม่ต้องรีบร้อนหรอกไอ้เอ ป่านนี้คนในคณะมึงเนี่ยเซฟภาพมึงกันหมดแล้วมั้ง ว่าแต่พวกเราต้องไปทำอะไรกันแน่วะพายุ”
“กูจะรู้ไหม? ถ้ามึงอยากรู้ก็ลองขัดคำสั่งแล้วเปิดผลึกซองจดหมายสิแต่อย่าลืมนะว่าพ่อกูสั่งว่าห้ามเปิดก่อนจนกว่าจะไปถึงน่ะ งานนี้พ่อคงกะจะแกล้งให้พวกเราขายหน้าแบบกู่ไม่กลับแน่นอนเลยว่ะ” คนบ้านนี้แม่งมีวิธีการทำโทษที่โคตรบันเทิงเลยครับ ก็ไม่รู้หรอกว่าคำสั่งคืออะไรแต่การที่พี่ป้องมันส่ายหน้าไม่กล้าเปิดดูเนี่ยถึงกับทำให้ผมขนลุกขนชันไปทั้งตัว
เขยิบเข้าหาไปที่พี่พรายมันทีละนิดตั้งแต่เจอหน้ากันพี่พรายมันไม่ยอมพูดกับผมเลยอะ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้พี่มันโกรธด้วยอยากจะง้อใจจะขาดอยู่แล้ว
“พะ...พี่” แอบเอานิ้วก้อยเกี่ยวนิ้วก้อยพี่มันหน่อยนึงแต่เหมือนไม่ได้ผลไอ้พี่พรายมันชักนิ้วกลับให้ผมได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ เหมือนลูกหมาที่กำลังอ้อนเจ้าของ
“พี่พราย...”
“รีบเดินเถอะพวกมึง” พี่พรายมันเอ่ยปากแล้วเดินนำผมขึ้นไปด้านหน้าในทันที
“มึงไปทำอะไรให้พี่พรายโกรธรึเปล่าวะเพลง” ไม่รู้โว้ย! “กูเพิ่งเคยเห็นอาการพี่พรายเป็นแบบนี้ครั้งแรกเลยว่ะก็ไหนมึงบอกว่าเปิดตัวเป็นแฟนกันแล้วไง” เพชรมันหลิ่วตาถามผมเหมือนขอคำตอบ
“ก็ยังไม่ถึงขนาดเปิดตัวเหรอเพชรกูแค่บอกเฉพาะพวกพี่มันเท่านั้นเองแต่กูก็ไม่รู้ว่าพี่พรายโกรธกูเรื่องอะไรเหมือนกัน”
“หรือจะเป็นเรื่องพวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่เดินหน้าเข้ามาขายขนมจีบมึงวะ?”
“ไม่มั้งพุฒกูไม่เคยยุ่งกับใครเลยนะโว้ย ยิ่งเรื่องนอกใจเนี่ยยิ่งไม่เคยทำใหญ่เลยพวกมึงก็รู้ว่ากูรักพี่พรายคนเดียว” พูดจบพุฒเพชรมันถึงกับขมวดคิ้วแล้วถามออกมาพร้อมกันเลยครับ
“มึงเคยบอกรักพี่พรายรึเปล่า?” ได้แต่ส่ายหน้าแบบปลงตกพี่พรายมันไม่ยอมเปิดโอกาสให้ผมได้พูดคำว่ารักเลยสักครั้ง เหมือนพี่มันรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณนักล่าพอจะอ้าปากบอกรักพี่มันทีไรเป็นได้ล่มทุกครั้งไป
“กูว่าชัดแล้วล่ะ อาการนี้เหมือนเมียกูไม่มีผิด”
“ยังไงวะเพชร?”
“เมนส์มา!” บัดซบ! ทั้งผมกับพุฒเตรียมจะถีบมันอยู่แล้ว “เฮ้ย กูล้อเล่นน่าแค่จะบอกว่าอาการพี่มึงน่ะเหมือนกับอีก้อยเวลาที่มันอยากให้กูบอกรักน่ะ มันก็จะบึ้งตึงอย่างนี้แหละบางทีกูไม่ได้สังเกตมึงเอยโกรธงอนกูข้ามวันข้ามคืนเลย” หรือจะจริงอย่างที่ไอ้เพชรมันพูดวะแต่คนอย่างพี่พรายมันจะคิดเล็กคิดน้อยเหรอ?
“แล้วมึงง้อไอ้ก้อยมันยังไงเพชร” โห่...ดีมากเพื่อนรักนี่สิคือคำถามที่กูอยากรู้
“ง่ายจะตายกูกับก้อยเนี่ยครบกันมาตั้งแต่มอต้นทำไมกูจะไม่รู้ว่ามันอยากได้อะไร เวลาง้อมันแต่ละทีกระเป๋าตังกูนี่แทบฉีก ฮ่า ๆ ๆ” หัวเราะทั้งน้ำตาเลยเหรอวะเพื่อน “แต่พวกมึงรู้ไหมว่าทำไมกูถึงยังรักก้อยมันขนาดนี้”
“เวลากูป่วย เสียใจหรือเป็นทุกข์ก้อยมันไม่เคยทิ้งกูเลยสักครั้งเหมือนที่พี่พรายทำให้มึงและก็ที่มึงทำกับพี่พรายเขานั่นล่ะเพลง”
พูดแบบนี้แปลว่าถ้าผมยังยึดมั่นในหัวใจของตัวเองไปตลอดแบบนี้ก็คงจะมีสักวันที่พี่พรายจะยอมเปิดตัวเปิดใจสินะแต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรต่อก็เหมือนกับราหูโคจรทับลัคนาราศีผมในทันทีเมื่อมีหญิงสาวหุ่นสวยหมวยตัวเล็กที่ผมไม่เคยรู้จักกำลังถูกเพื่อนของเธอดันมาทางผมอย่างเขินอาย
“เพลง...นะนี่” มือเล็กยื่นขวดน้ำแร่ส่งมาที่ผมเธอก้มหน้าบิดตัวไปมาเล็กน้อยแล้วก็สะดุ้งตัวอุทานออกมา
“โอะ...สะ...ไส้อั่ว!”
กรี๊ดดดดดด~~~
เสียงร้องจากกลุ่มสาวดังลั่นไอ้เพชรกับพุฒพอมันได้ยินเท่านั้นแหละเดินหนีเลยครับเอาตรง ๆ เลยนะแทนที่คนพูดจะอาย กลับกลายเป็นผมที่ต้องอายแทนเมื่อเธอจ้องมองมาที่ลูกรักของผม
ทั้งยังการปรายตามองของพวกพี่พรายมันคืออะไรวะ!
“เราชื่อพิณ นะโสดสดไม่มีแฟน” เดี๋ยวยังไม่ได้ถาม! แล้วไอ้การแนะนำตัวนี่มันแบบ...
“ขอโทษนะพิณ พอดีเรามีแฟนแล้ว”
“อย่ามาโกหกเราเลยเพลงเราตามดูเพลงมาเป็นเดือนแล้ว ยังไม่เคยเห็นมีข่าวกับผู้หญิงคนไหนเลยถ้าเพลงยังไม่ชอบพิณตอนนี้ก็ไม่เป็นไรแต่เราจะพยายามทำให้เพลงชอบเราให้ได้นะ” มั่นมาก! ขนาดบอกไปตรง ๆ ยังไม่เชื่ออีก
พิณเดินจากไปพร้อมผองเพื่อนแต่กลับทิ้งความซวยชุดใหญ่เอาไว้ให้ผม...
“พิณเพลง...เพลงพิณ จะว่าไปก็เข้ากันดีเนอะถ้ามีลูกก็จะได้ตั้งว่า...พาเพลิน” โฮล่กกกกก พุฒนี่มึงอยู่ ๆ ผีเข้ารึครับถึงได้กล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมาต่อหน้าพี่พรายน่ะ
กว่าจะเดินมาถึงลานกลางกลุ่มพาวเวอร์เรนเจอร์ก็คงขึ้นแฮชแท็กเป็นอันดับหนึ่งของวันนี้แล้วมั้งครับเพราะเริ่มมีกลุ่มคนเดินตามพวกเรามาไม่ขาด เป้าหมายคือเมื่อมาถึงลานกลางให้เปิดผนึกจดหมายของท่านอธิการบดีในทันทีแต่ที่ผมหวั่นใจที่สุดคือไอ้พวกซุ้มที่ตั้งเรียงรายโดยมีผ้าดำผืนใหญ่ปิดคลุมเอาไว้นี่มันคืออะไรวะ สังหรณ์ตงิด ๆ ว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ไม่รู้ว่าพ่อพี่พายุมันเตรียมการเรื่องนี้มานานแค่ไหนแล้ว
“อ้าวมากันแล้วเหรอ? กำลังรออยู่พอดีเลย” เด็กคณะบริหาร นำโดยพี่บุ๋นมองไล่สายตามาที่พวกผมตั้งแต่หัวจรดตีนอย่างไร้ซึ่งความปรานีใด ๆ
“พวกมึงรู้กันได้ยังไงว่าพวกกูกำลังมา”
“ไม่รู้ได้ไงล่ะ ก็ประกาศหราในเพจมหา’ลัยขนาดนั้นว่าวันนี้จะมีกลุ่มฮีโร่มาขอรับบริจาคเพื่อกิจกรรมค่ายอาสานี่” พี่ปิ่นสาวสวยของคณะบริหารกระดิกตีนรอด้วยรอยยิ้ม เอาจริงพวกพี่คณะนี้มันรักไอ้หินมากครับแถมยังดูเหมือนเป็นศัตรูกับพี่พายุมาตั้งแต่ชาติปางก่อนอีก
“เอาจดหมายมาสิ” พี่บุ๋นมันแบมือขอจดหมายจากพี่ป้อง พอพี่มันเอาจดหมายมาถือไว้แวบเดียวโดยไม่เปิดอ่านด้วยซ้ำก็ส่งคืนให้กับพวกเราในทันที
“กูนับถือในน้ำใจของพวกมึงนะ มีไม่กี่คนหรอกที่จะรักและดูแลเพื่อนได้ดีขนาดนี้ เนื้อความในจดหมายก็ไม่ได้มีอะไรมากแค่ให้พวกมึงเสียสละอะไรนิดหน่อยเอง” ผมจำได้ว่าหินมันเคยเล่าให้ฟังว่าพี่รหัสมอของมันคนนี้เป็นประธานชมรมนักสืบแต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นไม่ต้องเปิดดูก็รู้เนื้อความเลยพี่มันใช้วิธีไหนวะ
พวกพี่พายุมันหันมองหน้ากันก่อนจะเปิดจดหมายนั้นออกมาดู
“จงทำตามคำสั่งโดยเคร่งครัด
บริจาค 20 ฮีโร่ตกน้ำ
บริจาค 40 ฮีโร่ขอหอม
บริจาค 60 นวดคอบ่าไหล่ห้านาที
บริจาค 80 นวดเท้าห้านาที
บริจาค 100 Twister Game”
อ่านจบ รปภ. มันก็วิ่งเข้ามาช่วยกันดึงผ้าผืนดำนั้นออก แถมแม่งทุกซุ้มมีเจ้าหน้าที่คอยยืนคุ้มทั้งหมดจนแม้แต่ไอ้พี่พายุยังหน้าเหวอมิน่าถึงว่าทำไมมีแต่คนเดินตามพวกเรามากันหมด
“พะ พี่มึง!” เป็นไอ้หินที่กะพริบตาเรียกพี่พายุมัน ซึ่งมาพร้อมกับพวกไอ้เซฟข้าวจี่ คะน้าเพื่อนสนิทในภาคของหิน
“หินทำไมมาอยู่ที่นี่!”
“อาจารย์ที่ปรึกษาพวกหนูปล่อยก่อนเวลาน่ะค่ะ บอกให้พวกเราทั้งคณะมาที่ลานกลางเพื่อร่วมเก็บกิจกรรมของมหา’ลัยแต่ไม่คิดเลยว่าจะเด็ดดวงขนาดนี้เนอะคะน้า ฮี่ ๆ ๆ” ข้าวจี่มันเลียปากแบบนี้ทำไมวะ สยองโว้ยยยย!
“เอาละครับท่านใดสนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถต่อแถวมาซื้อคูปองทางนี้ได้เลย” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาแบบชนิดที่ว่าวัวตายควายล้มรูมเมทคนสนิทของไอ้พี่แมงป่อง ที่ไม่ว่ามองมุมไหนก็รู้สึกว่าหล่อกว่าพี่พายุซะอีก
“ไอ้พลัง! มึงก็เอากับเขาด้วยเหรอ?” คราวนี้พี่แมงป่องแม่งร้องออกมาเลย
“อืมดิ ซุ้มทั้งหมดก็พวกกูนี่แหละที่ถูกเกณฑ์ให้มาทำตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เพราะมึงมัวแต่ยุ่งกับงานประกวดแล้วก็คอนเสิร์ตเมื่อวานซืนไงเลยไม่รู้เรื่องอะไร”
“ผมซื้อคูปองทุกอันเลยอย่างละห้าใบแล้วขอเลือกแมงป่อง” ไอ้เซฟคนชั่วมันเริ่มเล่นงานพี่แมงป่องแล้วครับ ไหนมึงเคยบอกกูว่าชอบพี่มันไงหรือว่ารอคอยเวลานี้มานานแสนนานอยู่แล้ววะ หลังจากมันซื้อคูปองไอ้เซฟมันก็เดินไปกระซิบกระซาบอะไรไม่รู้กับไอ้หินแล้วยัดคูปองใส่มือมันอีกต่างหาก
พอมีคนเปิดซื้อคูปองเท่านั้นแหละเหล่าบรรดานักศึกษาสายหื่นถึงขั้นรุมซื้อคูปองกันใหญ่ แต่ที่สายเปย์สุดน่าจะเป็นพี่ปิ่นกับพี่พงค์ที่จัดไปไม่ต่ำกว่าคนละห้าพันได้มั้ง แถมพี่บุ๋นมันกระซิบอะไรสักอย่างข้างหูไอ้หินจนตางี้เบิกกว้างเชียว
“พี่มึงไปเล่นทวิตเตอร์กับกูนะ” อยากรู้จังโว้ยว่าพี่มันกระซิบอะไรไอ้หินมันถึงได้อ้อนพี่พายุเบอร์นี้
“อืม” มีจูงมือพากันไปด้วยเฮ้ย แรดมากเพื่อนกู!
แค่เกมแรกเสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นแล้วครับ ไอ้เกมทวิตเตอร์กับชุดรัดเป้าของพวกเราเป็นอะไรที่อุบาทว์มากยิ่งเวลากรรมการหมุนวงล้อแล้วต้องเอามือเอาขาไปลงให้ตรงกับจุดสีที่กำหนดนี่มันนรกชัด ๆ ยิ่งเห็นภาพหน้าไอ้หินไปอยู่ที่เป้าพี่พายุมันเนี่ยบอกตรงรับไม่ได้
“เพลงมึงไปรอซุ้มหอมแก้มตรงนั้นเลยมีคนต่อแถวรอมึงเพรียบเลยว่ะ ไอ้พรายมันก็ไปแล้วดูดิ”
...!
แถวของพี่พรายส่วนใหญ่คือผู้ชายแล้วหลายคนก็เป็นรุ่นพี่วิศวะที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตา ทั้งที่ไอ้พี่พรายมันก็ไม่ได้หน้าหวานเหมือนไอ้หินทำไมถึงมีแต่หนุ่ม ๆ ฟะ...หึงโว้ย! พี่พรายมันก็บรรจงหอมแบบไม่มีการอิดออดเลยสักนิดก็เข้าใจว่าเป็นการบังคับของพ่อพี่พายุแต่พอมาเห็นแบบนี้มันก็คิ้วกระตุกเหมือนกันนะ
“นายช่วยจูบเราอย่างนุ่มนวลด้วยสิ” คูปองถูกยื่นให้เจ้าหน้าที่อยากจะร้องไห้ออกมาดัง ๆ เหลือเกินหอมไปแต่ละทีก็กลัวแป้งกับรองพื้นที่ฉาบเอาไว้จะแตกออกมา...โบกไปกี่ชั้นวะ!
เสียงเฮดังลั่นเมื่อไอ้พี่พายุพี่ปราบต้องขึ้นไปอยู่บนแท่นหนุ่มน้อยตกน้ำ โดยมีพวกพี่บุ๋นพี่ปิ่นพี่พงค์ จัดหนักแบบไม่เกรงกลัวต่อสายตาอาฆาตแค้นของพี่มันเลยสักนิด แล้วยังคนที่รอต่อคิวเล่นงานพี่มันเนี่ยยาวซะยิ่งกว่าต่อแถวซื้อของร้านธงฟ้าซะอีก
หนุ่มหน้าหวานเดินเข้ามาในซุ้มหอมแก้มโดยเลือกผมอีกครั้ง
“อยากได้มากกว่าหอมขอเป็นแฟนเลยได้ไหม?”
...!
“มีแฟนแล้วครับ แฟนเราขี้งอนหึงเก่งด้วยไม่อยากให้แฟนเข้าใจผิดน่ะ” ต้องรีบพูดตัดปัญหาก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายจนกู่ไม่กลับพยายามพูดเสียงดังให้พี่พรายมันได้ยินแต่พี่มันกลับตั้งหน้าตั้งตาจูบอยู่นั่นแหละ
พุทโธ พุทโธ...เย็นไว้โยม!
“ไม่เป็นไรจะรอนะ ถ้าเลิกเมื่อไหร่ก็บอกละกันอ้อเราชื่อเอ็มนะ” เดี๋ยว! วันนี้มันชักจะแปลกไปทุกทีปกติก็ไม่เคยมีใครจีบแรง ๆ แบบนี้นี่หว่า
กว่าจะหมดแถวเล่นเอาซะปากเกือบเปื่อย จนไอ้หินมันมาลากผมไปที่เก้าอี้นวดนั่นแหละถึงได้โชคดีหน่อย เหมือนมันจะรู้ว่าผมอึดอัดเลยเหมาเวลามาตั้งเกือบสิบใบ
“เพลงไม่ต้องนวดให้กูก็ได้นะ แล้วเดี๋ยวกูค่อยตามไปเก็บเงินคืนที่หอ” เขี้ยวมึงนี่จมดินแล้วไอ้หิน! นี่เพื่อนนะโว้ย
“ไม่เป็นไรกูนวดคอบ่าไหล่ให้เองว่าแต่มึงรู้ได้ไงวะว่ากูอยากจะออกจากซุ้มนั้นจะแย่อยู่แล้วะ” หินมันดูเศร้าลงนิดหน่อยก่อนจะมองไปที่พี่พายุที่ยังปักหลักอยู่ที่แท่นหนุ่มน้อยตกน้ำ
“กูคงทนไม่ได้ถ้าต้องเห็นพี่พายุไปเล่นทวิตเตอร์หรือไปหอมแก้มคนอื่นเหมือนกัน พวกพี่บุ๋นเลยช่วยกูด้วยการเหมาบัตรหนุ่มน้อยตกน้ำไปเกือบทั้งหมดเพื่อซื้อเวลาให้จบกิจกรรมของวันนี้ ยิ่งพอเห็นมึงดูไม่ค่อยแฮปปี้นั่นแปลว่าคนที่มึงชอบคงอยู่แถวนี้สินะ ถึงมึงจะยังไม่ยอมบอกกูว่าคนนั้นเป็นใครก็เถอะ”
“กูยอมให้พี่มันตกน้ำดีกว่าจะยอมให้พี่มันไปแตะต้องคนอื่น” หินมันเป็นคนที่เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองออกมาแบบไม่ปิดบัง ถ้ามันลองได้รักใครแล้วละก็ไม่ว่าจะนานแค่ไหนมันก็จะรอแล้วทำไมทั้งที่ความรู้สึกของผมมันชัดเจนขนาดนี้ ปากก็เอาแต่พูดว่าพี่พรายเป็นแฟนแต่ไม่เคยขอเขาออกไปตรง ๆ เลยสักครั้ง
กว่าจะจบกิจกรรมในช่วงเย็นก็ได้เงินสมทบกิจกรรมค่ายอาสาไปเป็นแสน งานนี้บอกเลยว่าน้อง ๆ ที่อยู่บนดอยยิ้มแก้มแตกแน่และคาดว่าเหล่าซูเปอร์ฮีโร่หลายคนพรุ่งนี้น่าจะไข้แดกชัวร์ โดยเฉพาะพี่พายุที่ปากงี้สั่นเป็นผีเข้าจนไอ้หินต้องหนีกลับหอไปเอาผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้พี่มัน พอเห็นคู่นั้นมันก็อดอิจฉาไม่ได้จะกลับก็ไม่ยอมกลับนั่งออดอ้อนออเซาะกันแม่งอยู่ตรงนั้นแหละ
ผมต้องทำอะไรสักอย่างต้องถามตรง ๆ กับพี่พรายไปเลยว่าโกรธเรื่องอะไรไม่อยากจะค้างคาใจอยู่แบบนี้อีกแล้วตอนนี้อารมณ์มันพาไปล้วน ๆ กระชากแขนพี่พรายกลับมาที่คณะตัวเองในทันทีต้องกลับไปเอาเสื้อผ้ากับกระเป๋าก่อนด้วยไง
เราทั้งคู่กลับมาเปลี่ยนชุดนักศึกษาตามปกติพี่พรายก็ยังเหมือนเดิมไม่พูดไม่จา จนเดินลงมาจากตึกนั่นล่ะก็เป็นผมเองที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป
“เป็นอะไรของพี่วะ พี่พราย!”
...หมับ
พี่มันทำท่าหันหลังจะเดินหนีจนผมต้องคว้าแขนดึงตัวพี่มันเอาไว้ คนตรงหน้าขมวดคิ้วเหมือนกับกำลังรำคาญ
“เปล่า!” พี่มันพยายามแกะมือผมออกแต่นั่นยิ่งทำให้ผมบีบแรงขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าวันนี้ยังคุยไม่จบผมไม่มีทางยอมให้พี่มันเดินหนีไปเด็ดขาด
“พี่เป็นอะไรก็บอกผมมาเลยสิผมจะได้ทำตัวถูก!” เสียงน่าจะดังแหละเพราะทุกคนในคณะมันหันมามองหมดเลยแล้วยังพวกเพื่อนในภาคผมอีกที่ยังนั่งรอกันอยู่ที่โต๊ะอาหารด้วย
“เพลงกูเจ็บ!”
เสียงจอแจดังกระหึ่มไปทั้งใต้ตึกแต่ผมไม่สนใจคนพวกนั้นหรอกคนตรงหน้าเท่านั้นที่มีค่าที่สุดสำหรับผม
“เวลาพี่เดินหนีผม ไม่คุยกับผม...มันเจ็บยิ่งกว่าที่ผมทำอีกมีอะไรก็บอกมาเลยสิอย่าทำให้ผมรู้สึกว่าโง่ที่รักพี่ฝ่ายเดียวแบบนี้!!!”
คราวนี้เงียบกริบเลยครับ
“มึงยังกล้าบอกว่ารักกูอีกเหรอ มึงไม่เห็นหึงกูเลยสักนิดในซุ้มขายจูบนั่น” แววตาพี่พรายเหมือนกับผิดหวังที่ผมไม่แสดงอาการออกมาในตอนนั้น เอาจริงตอนนี้คืองงโว้ยยยยตกลงพี่มันเป็นคนยังไงกันแน่วะ?
“หึงสิหึงมากด้วย หึงจนอยากจะตามไปต่อยพวกมันทุกตัว” ไม่รู้ว่าตอนนี้ผมกำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้จับหัวพี่พรายเข้ามาต่อหน้าทุกคนแบบนี้
จุ๊บ!
กรี๊ดดดดดดดด! / เฮ้ยยยยย! / อ๊ายยยยยยย!
เสียงร้องดังออกมาจากปากแทบทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ ไอ้ออดี้ถึงกับกระโดดขึ้นยืนบนโต๊ะเลยพี่พรายมันผลักอกผมออกเล็กน้อยแล้วมองมาด้วยรอยยิ้ม
“เป็นแฟนกันนะพี่ เป็นแฟนให้คนมันรู้กันไปเลยทั้งคณะว่าพี่เป็นแฟนผมแล้วต่อไปนี้ก็ห้ามไปหอมคนอื่นด้วย จูบได้กับผมคนเดียวเท่านั้น”
“เออ ก็รอให้มึงขออยู่นี่แหละเพลง ปล่อยให้กูรออยู่ได้จะโง่ก็ให้มันมีขอบเขตหน่อย!”
จุ๊บ! พี่พรายมันหอมแก้มผมมาที่หนึ่งก่อนจะผลักตัวออกแล้ววิ่งหนีออกนอกโรงอาหารไปปล่อยให้ผมได้แต่ยืนเอ๋ออยู่ตรงนั้น
“นั่นไงกูว่าแล้ว” เพชรมันเดินมาตบหลังผมเรียกสติแล้วลากผมมาที่โต๊ะ
“ไม่แปลกที่พี่พรายมันจะงอนมึงเพลง ขนาดตอนประกวดดาวเดือนกูเห็นนะว่าพี่พรายเป็นคนซื้อช่อกุหลาบใหญ่สุดโหวตให้มึงน่ะ แล้วการที่มึงไม่ยอมขอพี่เขาเป็นแฟนสักทีเป็นใครก็ต้องโกรธเปล่าวะ”
“ก็กูไม่รู้นี่หว่าไอ้กราฟ ปกติพี่มันไม่ยอมให้กูพูดเลยสักครั้ง”
“พี่พรายเขาก็เป็นแบบนี้แหละ เขาคงอยากให้มึงรู้สึกมั่นใจจริง ๆ ก่อนน่ะ เพลงในเมื่อมึงขอพี่กูเป็นแฟนแล้วจะถอนตัวก็ไม่ได้แล้วนะไม่งั้นมึงเตรียมบอกลากระปุกเกียร์ของมึงได้เลย”
โห...พุฒมึงจะขู่เพื่อนแบบนี้ไม่ได้!
“รีบตามพี่พรายไปสิมึง โอกาสปรับความเข้าใจกันแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยนะ” ก้อยมันฉลาดครับรู้ว่าตอนไหนควรจะต้องทำยังไง
“สู้ ๆ นะเพลงกว่าจะจับได้ก็ว่ายากแล้วอย่าปล่อยพี่พรายให้หลุดจากมือล่ะ จับขังใส่หม้อไปเลยแก” เดี๋ยวนั่นคนไม่ใช่ผี! วิว
ผมรีบวิ่งกลับไปที่มอเตอร์ไซค์แสนรักแล้วขับออกไปทันที ความรู้สึกตอนนี้มันบรรยายไม่ถูกเลยไม่ว่ายังไงปิดเทอมรอบนี้ผมจะต้องพาพี่พรายกลับบ้านไปกราบพ่อแม่และคุณยายอ่อนให้ได้ พวกท่านต้องรักพี่พรายเหมือนที่ผมรักแน่
...พี่พรายผู้ใสซื่อที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา
[Part Phai Natee]
อายชะมัดที่ถูกไอ้เพลงจูบต่อหน้าคนทั้งคณะ ไอ้เด็กโง่นี่มันก็ไม่เคยรู้เลยว่าความรู้สึกลึก ๆ ของผมต้องการอะไร การที่ผมทำตัวนิ่งเฉยไม่ได้หมายถึงไม่อยากถูกขอเป็นแฟนสักหน่อย ทั้งที่ตลอดมาผมก็เป็นฝ่ายเข้าหามันตลอดแท้ ๆ
ผมหยิบมือถือขึ้นมากดเข้าแอปพลิเคชันธนาคารที่ใช้อยู่มีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่ต้องจ่ายในวันนี้ กดโอนไปตามรายชื่อที่เมมเอาไว้จากนั้นก็เปิดไลน์เพื่อส่งหลักฐานการโอนเข้าไปในกลุ่มทันที
ตึ่งดึ่ง...
[Phai Natee]
พี่จัดการโอนเงินให้แล้วนะครับ
[Angkana109]
ขอบคุณค่าพี่พราย มีอะไรก็เรียกใช้หนูอีกได้นะคะ
[MT16]
ยินดีช่วยพี่พรายเสมอครับ ว่าแต่สำเร็จไหมพี่? เอาจริงไม่ต้องโอนให้ผมก็ได้แค่พี่มาช่วยสอนการบ้านก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว
[Toy Story]
แค่ได้หอมพี่พรายก็คุ้มเกินคุ้มแล้วครับ
[Nutta]
ใช่ ๆ ตกลงสำเร็จรึเปล่า?
[Phai Natee]
สำเร็จแล้วครับ พี่ขอบใจอีกครั้งนะพิณ เอ็มและคนอื่น ๆ ด้วยที่ช่วยเล่นละครจนแฟนพี่มันหึงจนทนไม่ไหว!
นึกชุดพาวเวอร์เรนเจอร์กันออกไหม?
รัดจนง่ามขาแทบแตก!
**พายุ มีชื่อจริงว่า วายุ กูลมิภักด์ เวลาพ่อเรียกจะเรียกว่า วายุ แต่พวกเพื่อนจะเรียกพายุนะครับ**