มาร์คเปิดประตูห้องนอนเข้ามาอย่างเบามือ ชะโงกดูหนูบัวที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ชิดริมเตียง มือยังกำผ้าห่มแน่น คงจะกลัวล่ะสิ...เด็กน้อย..... ชายหนุ่มก้มลงขโมยจูบหน้าผากมนแผ่วเบา ก่อนจะทอดตัวลงนอนข้าง ๆ ไม่กล้าแม้แต่จะสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกัน เกรงว่าจะทำให้เจ้าหล่อนตื่น .....เฮ้อ....เข้าหอแบบนี้หรือวะ.....ชายหนุ่มนอนเอามือก่ายหน้าผาก...คิดถึงเรื่องที่น้องชายเล่าให้ฟัง วนเวียนซ้ำไปซ้ำมา สลับกับมองคนที่นอนหลับสบายอยู่ข้าง ๆ ....พลางทอดถอนใจ..........
แพขนตายาวขยับยุกยิก ก่อนที่เจ้าตัวจะลืมตาตื่น หญิงสาวจำได้ว่าเมื่อคืนหล่อนพยายามรีบหลับหนี เกรงว่าอีตาพี่มาร์คจะกลับเข้ามาทวงสิทธิ์ของความเป็นสามี แต่ความจริงแล้วหล่อนหลับไปอย่างง่ายดายมาก อาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยอ่อน ของทั้งร่างกายและจิตใจตลอดหลายวันมานี้ ที่พยายามฝืนไม่ให้ใครรู้ว่าหล่อนกังวลและทุกข์ใจเพียงใด
“ตื่นแล้วหรือครับ หนูบัว”
บัวชมพูเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงที่พูดอยู่เหนือศีรษะ จึงได้เห็นว่า พี่มาร์คนอนตะแคงทอดสายตามองนิ่งอยู่
“เอ่อ พี่มาร์คตื่นนานแล้วหรือคะ” บัวชมพูรู้สึกขัดเขิน กับสายตาที่มองมาแปลก ๆ แปลกกว่าทุกวันจริง ๆ แถมยังพูดจานุ่มนวล เสนาะหู
“ยังไม่ได้นอนต่างหาก”
“ห๊า...ทั้งคืนเลยเหรอคะ”
มาร์คอมยิ้มกับหน้าตาตื่น ๆ ของภรรยาตัวน้อย ที่ไม่ค่อยจะได้เห็นนัก ปกติหล่อนจะเคลือบฉาบใบหน้าตัวเองด้วยความเรียบเฉย เมื่ออยู่ด้วยกัน นอกจากตอนเผลอหรือถูกยั่วโทสะเท่านั้น ถึงจะหลุดแสดงสีหน้าออกมา
“ฮื่อ...”
“ทำไมไม่นอนล่ะคะ”
“กลัวจะเผลอปล้ำคนหลับ” ชายหนุ่มพูดหน้าตาย
บัวชมพูนึกได้ จึงรีบลุกขึ้น แต่ก็ช้ากว่าคนตัวโต ที่กวาดมาทั้งแขนและขา กดล็อคเรือนร่างบางไว้อย่างแน่นหนา
“จะทำอะไรคะ เช้าแล้วนะคะ เดี๋ยวคุณป้ารอค่ะ” หญิงสาวยังไม่วายยกคุณรัมภาขึ้นมาอ้าง เหมือนยันต์กันผี
“ยังจะเรียกคุณป้าอีกเหรอ”
“เอ่อ...มันยังไม่ชินค่ะ”
“สงสัยพี่ต้องช่วยย้ำว่าหนูบัวเป็นเมียพี่บ่อย ๆ แล้วล่ะ” ชายหนุ่มรั้งเรือนร่างบอบบางเข้าชิดอก ก่อนจะเลื่อนหน้ามาหอมแก้มเบา ๆ แต่ก็ทำเอาสาวเจ้าเหวอไปเลย...ก็เกร็งแทบตาย นึกว่าเขาจะมอบจูบดูดดื่มให้เสียอีก
“ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวพี่ขอนอนสักงีบแล้วจะตามลงไป” มาร์คตัดจบดื้อ ๆ พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนหลับตานิ่ง
เจ้าสาวหมาด ๆ ถอนหายใจโล่งอก รีบลุกมาจัดการอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว หล่อนรู้สึกผ่อนคลายลงมาก หลังจากไม่ต้องรับศึกหนักจากพี่มาร์คจอมหื่น อย่างที่จินตนาการไว้เสียน่ากลัว แต่ก็แปลกใจที่อยู่ ๆ เสือร้ายกลายเป็นแมวเหมียวไปได้ยังไงกันนะ....ก่อนออกจากห้อง หญิงสาวเดินเข้าไปชะโงกหน้ามองคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง...อดยิ้มน้อย ๆ กับตัวเองไม่ได้...พี่มาร์คโหมดนี้ก็น่ารักเหมือนกัน.... จากนั้นหญิงสาวก็เดินลงไปชั้นล่างด้วยหัวใจพองฟูกว่าทุกวัน
“อ้าว..หนูบัว ตื่นแต่เช้าเชียว มาทานอาหารเช้ากันลูก” รัมภาทักทายลูกสะใภ้ แล้วยิ้มให้ ขณะที่คุณพ่อ และพี่เร็คซ์ ก็ส่งยิ้มมาให้เช่นกัน
“ค่ะ..คุณป้า...เอ่อ..คุณแม่” บัวชมพูเดินมานั่งลงใกล้ ๆ คุณรัมภา ทั้งที่เป็นคนคุ้นเคยกันทั้งนั้น แต่สถานะที่เปลี่ยนไป ก็อดทำให้หญิงสาวประหม่าไม่ได้
“แล้วนี่ตามาร์ค ไปไหนซะล่ะจ๊ะ ถึงปล่อยให้เมียลงมาคนเดียว”
“พี่มาร์คเพิ่งจะได้นอนค่ะ” บัวชมพู ตอบไปแล้วก็แทบจะกัดลิ้นตัวเอง ก้มหน้างุด หน้าตาแดงก่ำ เมื่อมองเห็นหน้าตาของแต่ละคนบนโต๊ะ ที่คงจะคิดกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“ขนาดนั้นเลยเหรอหนูบัว” เร็คซ์แกล้งแซว ส่งยิ้มล้อเลียนหยอกล้อระคนเอ็นดูไปให้
“เอ่อ...ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะพี่เร็คซ์” บัวชมพูรีบแย้ง แต่ไม่รู้จะอธิบายยังไง
“พอแล้วตาเร็คซ์ น้องอายจะแย่แล้ว เห็นไหมนั่น” คุณรัมภายื่นมือเข้ามาช่วย เมื่อเห็นลูกสะใภ้แทบจะมุดหายลงใต้โต๊ะ
“ใครแกล้งเมียผมครับคุณแม่” มาร์คเดินเข้ามาทันได้ยินพอดี