ตะวันกลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบออกไปกับพู่ ส่วนใบหม่อน ยังนอนหลับไม่รู้เรื่อง ชายหนุ่มรีบไปที่บ้านพักคนงาน แต่ก็ไม่ได้รายละเอียดมากนัก ไม่มีใครเห็นว่านางแจ่ม ออกไปตอนไหน มีแต่หัวหน้าคนงานที่บอกว่า นางแจ่มขอเบิกเงินล่วงหน้า มันว่ามีเรื่องจำเป็นต้องใช้ รออีกสองวันไม่ไหว
“แจ่มอาจจะกลับไปทำธุระที่บ้านญาติก็ได้ เดี๋ยวคงกลับมา เราก็คงได้แต่รอ” พู่พูดกับเจ้านายหนุ่มเมื่อกลับมาขึ้นรถ
“ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ ไม่ใช่ถูกใครปิดปากไปซะก่อน” ตะวันบ่นออกมา
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็ต้องเป็นคนที่รู้ว่าเมื่อวาน นายไปคุยกับนางแจ่ม ล่ะสิ”
“อืม...อย่าเพิ่งปรักปรำใครถ้าเราไม่มีหลักฐาน อีกอย่างคนร้ายมันอาจจะไหวตัวทัน”
เป็นอันว่าวันนี้ ก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าเกี่ยวกับคดีเลย ตะวันเข้าห้องตั้งใจจะอาบน้ำ แต่ได้ยินเสียงใบหม่อน คงจะเพิ่งตื่นและเข้าไปอาบน้ำอยู่ เขาเลยเลือกใช้ห้องน้ำข้างนอกจัดการตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วกลับมารอภรรยาในห้อง
“ชื่นใจจัง” ชายหนุ่มรวบร่างบางเข้ามากอด ทันทีที่หล่อนออกจากห้องน้ำ ใบหม่อนนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวขมวดปมไว้หมิ่นเหม่ เพราะคิดว่าสามียังไม่กลับ
“พี่ตะวัน หายไปไหนมาคะ”
“ไปธุระที่บ้านพักคนงาน ไอ้พู่มาตามเมื่อเช้า”
“เหรอคะ” แค่ได้ยินว่าบ้านพักคนอ่าน ใบหม่อนก็คิดไปไกล
“เป็นอะไร...หืม... ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ” ตะวันจูบที่ไหล่มน จับสัญญาณงอนได้อีกแล้ว
“เปล่านี่คะ ใบหม่อนไม่สนหรอกนะ ว่าพี่ตะวันจะมีใครมาก่อน”
“พูดเรื่องอะไร พี่ไม่เคยมีใคร”
“แน่ใจนะคะ” หญิงสาวคาดคั้น
“อืม....” ชายหนุ่มตอบรับงง ๆ ที่จู่หญิงสาวก็ลุกขึ้นมาหึงหวงซะงั้น หล่อนสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์เมีย เพียงชั่วข้ามคืน
“วันนี้ไปหาคุณแม่พี่นะ” ชายหนุ่มชวน
“เอ่อ...ค่ะ”
“กลัวหรือเปล่า” ตะวันถามหญิงสาว อย่างรู้ใจ
“คุณแม่พี่ตะวันดุหรือเปล่าคะ” ใบหม่อนถามหวาด ๆ
“เอ...ไม่รู้สิ คงไม่ดุหรอกมั้ง”
“อ้าว...หมายความว่ายังไงคะ...พี่ตะวันยังไม่แน่ใจเลย”
“ก็กับลูกชาย ท่านดุอยู่นะ...แต่ลูกสะใภ้จะยังไงไม่รู้” ตะวันแกล้งขู่
ใบหม่อนถึงกับทำหน้ากลืนไม่เข้า คายไม่ออก...