อนาวินนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว เกวลินผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ หล่อนเป็นตัวของตัวเองที่สุด กิริยาที่แสดงออกมาก็สุดแสนจะธรรมชาติ แตกต่างจากบรรดาผู้หญิงที่เขาเคยเจอมา ความจริงหล่อนก็น่าเอ็นดูในแบบของหล่อน ภายใต้ความห้าวหาญ กะโหลกกะลาแต่กลับแฝงไปด้วยความอ่อนไหว ขลาดกลัว ที่เจ้าตัวปิดไม่มิด....ฮึ...ทำเป็นปากกล้าขาสั่น......แต่นั่นก็ทำให้เขาอยากปกป้อง...ไม่อยากหักหาญถ้าตัวเองยังไม่แน่ใจ ว่ารู้สึกอย่างไรกับหล่อนกันแน่ แต่ที่เกิดขึ้นแล้วก็คือความอบอุ่นในหัวใจ ถ้าไม่ติดที่ยัยตัวแสบคิดจะไปจากเขาตลอดเวลาเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ เขาคงไม่ต้องหงุดหงิดขัดใจอยู่แบบนี้หรอก
อนาวินพาเมียสาวมาที่ร้านอาหารป่า คงจะขึ้นชื่อของอำเภอนี้ สังเกตจากป้ายชวนชิมเจ้าดัง ที่ดั้นด้นมาถึงอำเภอชายแดนแห่งนี้ แต่ก็ไม่แปลกเพราะสถานที่ท่องเที่ยวของที่นี่ อยู่ในอันดับต้น ๆ ที่หลายคนจะต้องมาเที่ยวสักครั้งให้ได้ รถยนต์สมรรถนะสูง ที่จอดเรียงราย อยู่หลายคันยืนยันความดังได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มช่วยประคองเกวลินเข้ามาในร้าน ที่ตกแต่งด้วยปีกไม้ โต๊ะเก้าอี้ ล้วนทำจากรากไม้ ตอไม้ รูปทรงอิสระดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติ
“คุณภีม อยู่นั่นนี่คะ” เกวลินดีใจ ที่เห็นคุณเลขาหน้าหล่อนั่งอยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับยืนโบกไม้โบกมือ ส่งยิ้มกว้างขวางมาให้
“อืม ผมโทรบอกเขาเอง คุณคงไม่ว่านะ”
“จะว่าทำไมล่ะคะ กินหลาย ๆ คนสนุกดีออก” เกวลินยิ้มแฉ่ง หมายความตามที่พูด แล้วรีบเดินเร็ว ๆ เข้าไปหา จะไม่ให้ดีใจได้ยังไงในเมื่อหลัง ๆ มานี้ หล่อนกับภีมวัจน์ได้กลายเป็นเพื่อนสาวกันไปแล้ว
“ไม่เจอหลายวัน ได้ข่าวว่าเอามีดฟันเท้าเล่นเหรอครับ” ภีมวัจน์ สัพยอกคนยิ้มหน้าบาน
“เป็นวิธีเรียกร้องความสนใจของสาว ๆ สมัยนี้มากกว่า ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน” อนาวินตอบแทน บอกเป็นนัยว่า ที่เขาสนใจดูแลเจ้าหล่อนอยู่เนี่ย ก็เพราะป่วยหรอกนะ ไม่ได้คิดพิศวาสเลยสักนิด
“คุณวิน ! สมองฉันไม่ได้ฝ่อถึงขนาดทำเรื่องสิ้นคิดแบบนั้นหรอกน่า หาข้ออ้างจะใกล้ชิดฉันก็ว่ามาเหอะ” เอาอีกแล้ว จะทำดีได้สักชั่วโมงไหม
รู้ว่าเขาชอบจิกกัด แต่มันก็อดต่อล้อต่อเถียงไม่ได้ คนบ้าอะไร...เสียบได้ทุกช่องสิน่า
“อ้าว ! ว่าได้รึ บางทีเธออาจจะคิดอะไรเพี้ยน ๆ ที่คนปกติเขาคิดไม่ถึงก็ได้” ยังแหย่ไม่เลิก ยิ่งเห็นหน้ายุ่ง ๆ ตาพอง แก้มป่อง เวลาไม่ได้ดังใจของอีกฝ่ายแล้วอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
“คุณสิเพี้ยน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย...เชอะ....”
“ผมว่าทานข้าวเถอะครับ อร่อยกว่าเถียงกันตั้งเยอะ” ภีมวัจน์ ไกล่เกลี่ยก่อนที่ลุกลามบานปลายใหญ่โต
หลังจากลงมือทานอาหารกันไปได้สักพัก คนที่ไม่คิดว่าจะได้มาเจอ ก็ดันหนีกันไม่พ้น ราวกับเจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ปาน
“โลกกลมจังเลยนะคะ คุณวิน คุณภีม” เสียงมินนี่ คนสวยแหลมแหวกอากาศนำหน้ามาก่อน
“อ้าว ! คุณมินนี่ มาทานข้าวเหมือนกันเหรอครับ เชิญครับ” ภีมวัจน์เลื่อนเก้าอี้ข้างกายให้สาวสวยตามมารยาท ที่สุภาพบุรุษพึงกระทำกับสุภาพสตรี
เกวลินขยับเข้าใกล้ชายหนุ่มโดยอัตโนมัติ จนแทบจะเกยขึ้นไปบนตัก
“มาคนเดียวเหรอ มินนี่” อนาวินถาม ทั้งที่ไม่ได้อยากรู้นักหรอก ในขณะที่วงแขนก็อ้ารับร่างบางที่ขยับเข้ามาชิด โอบไว้หลวม ๆ สงสัยไม่ตั้งใจเหมือนกัน
“ค่ะ จะทำไงได้ล่ะคะ มินนี่ไม่มีใครนี่คะ คุณภีมคงเข้าใจดี เราหัวอกเดียวกันนี่คะ”
เกวลิน แทบจะสำลัก เดี๋ยวนี้สาว ๆ เขาพูดจาเปิดเผยกันแบบนี้เลยเหรอ แล้วตกลงแม่สาวตาคมคนนี้เล็งใครกันแน่ ระหว่างคุณวิน หรือว่าคุณภีม ....แต่ก็น่าเห็นใจ ไม่ว่าจะคนไหน ก็แห้ว....