[จาก humanontheearth@gmail.com
ถึง คุณ
ตกลงครับ (: ]
เวลาเผลออมยิ้มให้กับคำตอบที่ได้รับ น้ำตาพลันแห้งเหือดขึ้นมาในบัดดล ที่อย่างน้อยๆสวรรค์ก็ไม่ได้ทอดทิ้งเธอไปซะทีเดียว
เวลาวางเรื่องหนักใจเอาไว้ข้างหลัง มือเรียวเล็กกดจิ้มโทรศัพท์ตั้งท่าจะโทรหาเกวลิน ทว่าในขณะที่เธอเกือบจะกดต่อสายถึงอีกฝ่าย ปลายนิ้วเรียวพลันชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามันไม่ควร ที่จะรบกวนเวลาพักผ่อนของเพื่อนร่วมงาน
หญิงสาวกดล็อคหน้าจอโทรศัพท์ ร่างระหงย้ายจากหน้าโต๊ะเครื่องแป้งไปยังโต๊ะทำงาน ก่อนจะเปิดกระเป๋าแล้วคว้าเอาโน้ตบุ๊คขึ้นมาเปิดอ้า เพื่อเตรียมทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับแขกรับเชิญ
[มนุษย์บนดาวเคราะห์_]
เวลากรอกข้อความอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะกด Enter อย่างมั่นใจ ก่อนจะกวาดมองข้อมูลที่มีอยู่ในอินเทอร์เน็ตอย่างตั้งอกตั้งใจ ทว่าคลิกเข้าหลายเว็บ และไล่อ่านหลายกระทู้ เธอไม่พบข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับตัวนักเขียน นอกจากผลงานและการถูกกล่าวถึงในกระทู้ที่นักอ่านพูดคุยกันถึงการ์ตูนที่เขาแต่ง
“คนอะไรลึกลับจัง” เวลารำพันเบาๆกับตัวเอง ก่อนจะประสานนิ้วมือสอดเข้าหากันแล้วดัดข้อพลางบิดแอ่นไปด้านหลัง เพื่อหวังคลายความเมื่อยล้าที่สั่งสมมาตลอดวัน
“อาบน้ำก่อนแล้วกัน” จบประโยคร่างแบบบางหยัดกายลุกยืน ก่อนจะเดินไปถอดต่างหูอีกข้างออก และปลดสายสร้อยรูปดาวเสาร์ ที่มีเส้นเงินเล็กๆ ล้อมรอบดาวดวงจิ๋วเอาไว้อย่างน่ารัก
‘ถอดได้ แต่ห้ามทิ้งนะ’ ทุกครั้งที่ถอดสร้อยเส้นนี้ ประโยคนี้จะวนเข้ามาในหัวทุกครั้ง และหลายครั้งอีกเหมือนกันที่เธอคิดตัดใจจะทิ้ง แต่ก็ทำไม่ลง
ความทรงจำบางครั้งก็ทำให้มีความสุขในยามนึกถึง แต่ความทรงจำอีกเหมือนกันที่ทำให้ย้อนกลับไปสัมผัสกับความเจ็บปวดใจอดีต...
มือเล็กเปิดลิ้นชักอะคริลิคก่อนจะเก็บสร้อยเส้นนั้นกลับลงไป พยายามไม่หวนนึกถึงเรื่องราวที่จะทำให้ทุกข์ แล้วคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าไปในห้องน้ำแทน ให้สายน้ำได้พัดพาเอาเศษเสี้ยวของความทรงจำนั้นออกไปจากสมอง
เวลากลับออกมาจากห้องน้ำด้วยเรือนร่างที่เปียกหมาด เธอเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะเริ่มทาครีมอย่างรีบๆ เพื่อไม่ให้ริ้วรอยปรากฏบนใบหน้าก่อนวัยอันควร ก่อนจะกลับมานั่งประจำที่ตรงโต๊ะทำงานข้างเตียงนอนอีกหน
“หาข้อมูลไม่ได้สักอย่าง... ไหนดูสิว่าการ์ตูนเป็นยังไง” ดวงตาคู่คมจ้องเขม็งจอโน้ตบุ๊คอย่างเอาจริงเอาจัง
หญิงสาวกดเข้าไปในเว็บของแพลตฟอร์มอ่านหนังสือการ์ตูนออนไลน์ และไม่ต้องเสียเวลาหา เพราะกระแสของการ์ตูน ‘เรื่องเล่าบนดาวเคราะห์’ ที่กำลังเป็นที่นิยม ทำให้เว็บไซต์โปรโมตการ์ตูนเรื่องนี้ไว้ที่หน้าจอหลัก และเธอไม่รีรอที่จะกดเข้าไปในทันที
“โห ร้อยกว่าตอนเลยเหรอเนี่ย?” โปรดิวเซอร์สาวกล่าวอย่างทึ่งๆ ด้วยความคาดไม่ถึง เธอเลื่อนลงไปจนถึงตอนล่าสุดที่ถูกอัปเดตไว้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน
[ความว่างเปล่าบนดาวเคราะห์]
แค่ชื่อตอนก็ชวนให้รู้สึกอ้างว้างทันทีที่ได้เห็น เวลาผู้ไม่ชอบอ่านเรื่องเศร้าเลือกที่จะกดเปิดดูคอมเม้นต์ของนักอ่านเป็นลำดับแรก
[ไม่ลงแล้วเหรอคะ?]
[ติดลิขสิทธิ์เลยไม่ลงจนจบเหรอครับ เสียดายมาก ผมอยากอ่านจนจบ ชอบอ่านแบบการ์ตูนมากกว่า แต่ถ้าไม่ลงก็คงรอดูซีรี่ย์ สู้ๆนะครับ]
[น้ำตาท่วมจอแล้วค่ะ ทำไมเศร้าขนาดนี้]
[ทำไมนักบินอวกาศถึงได้ใจร้ายนักนะ เข้ามาทำให้ดาวเคราะห์สดใส แล้วก็จากไปซะอย่างงั้น โกรธมาก โกรธสุดๆ]
“นี่มันการ์ตูนอะไรกันเนี่ย มีนักบินอวกาศด้วยแฮะ” เวลาพูดกับตัวเองเบาๆ ขณะไล่อ่านคอมเม้นต์ของนักอ่าน ที่ส่วนใหญ่ดูจะอินกับการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย
หญิงสาวไล่อ่านคอมเม้นต์จนเริ่มรู้สึกสงสัย ความอยากรู้มันทำให้เธอเลื่อนกลับขึ้นไปยังตอนแรกอีกครั้ง แล้วกดเปิดอ่านในทันที
[มนุษย์คนใหม่บนดาวเคราะห์]
ชื่อตอนปรากฏต่อหน้าพร้อมกับรูปดาวเคราะห์ที่อยู่ด้านหลังตัวอักษร โดยที่บนพื้นผิวดาวเคราะห์นั้นมีร่างของคนหนึ่งหนึ่งกำลังยืนอยู่เพียงลำพัง
เวลาเลื่อนลงไปด้านล่างอย่างไม่ใคร่ใส่ใจกับชื่อตอนและภาพปกของการ์ตูน ทว่าเธอกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด กับลายเส้นของตัวการ์ตูน มันคล้ายว่าเธอเคยเห็นผ่านตาที่ไหนสักแห่ง แต่ก็จำไม่ได้
[บนดาวเคราะห์ที่เคยมีเพียงความว่างเปล่า รอบกายของเด็กหนุ่มขาดซึ่งสีสัน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนเขาก็เห็นเพียงภาพขาวดำจนชินตา]
การ์ตูนเริ่มบรรยายถึงตัวเอกของเรื่อง ที่คงเป็น ‘มนุษย์’ บนดาวเคราะห์ตามชื่อเรื่อง
[แต่แล้ววันหนึ่ง ในวันที่เด็กหนุ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับดาวเคราะห์ที่ไร้สีสัน เขามีความคิดที่จะ...ละทิ้งดาวเคราะห์]
แรกเริ่มเวลาเปิดอ่านเพราะต้องการค้นคว้า ทว่าตอนนี้เธอรู้สึกว่าการ์ตูนธรรมดาๆเรื่องนี้มันช่างน่าติดตามอย่างบอกไม่ถูก
[ในวันที่แผนของการละทิ้งดาวเคราะห์ถูกวางเอาไว้ เด็กหนุ่มกลับได้พบกับสีสันแห่งแรกและแห่งเดียวบนดาวเคราะห์ นั่นคือเธอ]
การ์ตูนขาวดำเมื่อครู่ กลายเป็นภาพสีเมื่อบรรยายมาถึงภาพของหญิงสาวที่เป็น ‘ตัวเอก’ ฝ่ายหญิง และภาพของเธอก็ทำให้คนอ่านอย่างเวลาสะดุด
หญิงสาวผมสั้นเสมอติ่ง ตามทรงนิยมนักเรียน บวกด้วยหน้าม้าที่เลยคิ้วขึ้นไปนิดหน่อย มันชวนให้เธอนึกไปถึงโรงเรียนสมัยมัธยมของตัวเอง
เพราะตอนขึ้นมัธยมปลาย เวลามีเหตุให้ต้องย้ายโรงเรียนมาอยู่โรงเรียนรัฐ และเธอที่เคยไว้ผมยาวถักเปียสองข้างไปโรงเรียนทุกวัน ต้องตัดใจให้แม่หั่นผมสั้นเสมอติ่งหู ทั้งยังต้องตัดหน้าม้าจนเลยคิ้วเพราะกฎระเบียบของทางโรงเรียน
เวลาอดจะหัวเราะไม่ได้เมื่อย้อนนึกถึง เธอมองใบหน้าของตัวเอกฝ่ายหญิงแล้วนึกชื่นชมในใจ ขนาดอยู่ในทรงผมที่ไม่ส่งเสริมให้ดูสวย แต่คนวาดยังวาดใบหน้าของเธอออกมาให้พริ้งเพราน่ารักน่าเอ็นดู
มือเล็กกดเลื่อนอ่านลงไปเรื่อยๆ แต่ตอนหนึ่งก็จบลงที่ประโยคที่ชวนให้สะเทือนใจ
[เรื่องและภาพโดย มนุษย์บนดาวเคราะห์]
“ถึงว่าทำไมมีร้อยกว่าตอน หั่นตอนซะสั้นขนาดนี้!” คนอ่านบ่นอุบ ก่อนจะกดเลื่อนดูตอนถัดไปอย่างไม่รอท่า
[สีสันต์บนดาวเคราะห์]
เวลาพอจะเดาได้รางๆแล้วว่า นักวาดคงต้องการเล่นคำให้ทุกบทมีคำว่าดาวเคราะห์ต่อท้าย เพื่อบรรยายถึงเรื่องที่ตัวเอกของเรื่องต้องเจอ
[สีสันที่เปล่งออกมาจากตัวเธอมันช่างยวนตา แต่น่าแปลกที่รอบตัวของเธอกลับว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ใกล้กับเธอที่มีประกายแห่งสีสันเลยสักคน]
คนอ่านนึกขัน เธอคิดว่าคนเขียนการ์ตูนเรื่องนี้จะต้องเป็นนักรักที่เวิ่นเว้อ เขาตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งได้ง่ายดายเพียงแรกพบ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแค่ในนิยายหรือในการ์ตูนเท่านั้นแหละ เพราะชีวิตจริงมันโหดร้ายกว่านี้เยอะ
[หรือเธอจะไม่ใช่มนุษย์บนดาวเคราะห์นี้... เธอมาจากดาวดวงอื่นอย่างนั้นเหรอ? ความสงสัยเริ่มเกิดขึ้นในจิตใจของเด็กหนุ่มผู้ไม่เคยพิสมัยสิ่งใดบนโลก และยิ่งเขาสงสัย เขาก็ยิ่งอยากรู้ และยิ่งเขาอยากรู้ เขาก็อยากจะอยู่บนดาวเคราะห์นี้เพื่อหาคำตอบ จนลืมเรื่องละทิ้งดาวเคราะห์ไปจนหมดสิ้น]
“ละทิ้งดาวเคราะห์? อืม... หมายถึงอะไรเนี่ย เดายากจัง” เวลาบ่นกับตัวเองอีกครั้ง แต่ก็ยังคงเลื่อนอ่านต่อไปอย่างไม่ลดละ และไม่รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อย
[“เธอมาจากดาวดวงอื่นเหรอ?” เด็กหนุ่มคนนั้นเดินเข้าไปทักเธอในที่สุด
“ทำไมคิดอย่างนั้น?”
“ก็เธอแตกต่าง...”
“ต่างตรงไหน?”
“เธอดูต่างจากคนอื่นๆ ไม่มีใครเหมือนเธอ”
“นั่นล่ะ อะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น?”
“เธอดูสดใส ในขณะที่คนอื่นไม่มีสีสัน”
“อย่างนั้นเธอคงตาถั่วที่สุดในจักรวาล”]
เวลาชะงักกับประโยคและสีหน้าของตัวละครที่ปรากฏอยู่ต่อหน้า หญิงสาวคนนั้นกำลังยิ้ม ทว่ามันเป็นยิ้มที่เธอคุ้นเคย ยิ้มหลอกๆ ยิ้มที่ปลอบประโลมตัวเองว่าไม่เป็นไรตอนเจอเรื่องแย่ๆ ยิ้มที่คนอื่นมองว่าสดใส แต่แท้ที่จริงแล้วเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้มากมาย
...
กระบอกตาเริ่มร้อนและน้ำตาค่อยๆรื้น เวลาผละมือจากโน้ตบุ๊ค เข้าใจแล้วว่าทำไมคนถึงได้ตามอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ ในการดำเนินเรื่องที่คล้ายจะไม่มีอะไรและดูผ่อนคลาย ทั้งยังมีพลอตแปลกๆอยู่สักหน่อย แต่มันกลับสะท้อนความเป็นไปของมนุษย์ได้อย่างชัดเจน
คนเราไม่ได้ยิ้มเพียงเพราะดีใจเสมอไป บางครั้งก็ยิ้มเพื่อปลอบใจตัวเอง...
มือเล็กยื่นไปคว้าโทรศัพท์ จัดการส่งข้อความนัดประชุมเช้าแบบกะทันหันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เวลาตั้งใจแล้วว่า เธอจะนำเสนองานนี้ออกมาให้ดีที่สุด แม้เวลาจะเหลือไม่ถึงสัปดาห์ก็ตาม แต่หลังจากรายการออนแอร์ ทุกคนจะต้องได้รู้จัก ‘มนุษย์บนดาวเคราะห์’ และการ์ตูนของเขา ที่ทำให้เธอทั้งยิ้มและเสียน้ำตาได้ในคราวเดียวกัน
สายตาหวานจดจ้องมองดูประโยคเดิมที่จะปรากฏทุกครั้งตอนจบตอน
[เรื่องและภาพโดย มนุษย์บนดาวเคราะห์]
“ไว้เจอกันนะคะ คุณมนุษย์บนดาวเคราะห์”
----------------------------------------------------
วันนี้เดี๋ยวเจอกับอิมเมจน้องเวลา และ 'มนุษย์บนดาวเคราะห์' ได้ที่เพจ ละอองอาย นะคะ
เปิดตัวทั้งทีต้องใหญ่ต้องโตเอาไว้ก่อน 555
มาย้อนกลับไปสู่ความทรงจำของน้องเวลาไปพร้อมๆกันค่ะ ขอกำลังใจจากแม่ๆเป็นไลค์เป็นใจหรือจะเม้นต์มาพูดคุยกันก็ต้องขอกราบแนบตักงามๆสักสามทีไปเลยค๊าาา
เดี๋ยวมาอีกตอนช่วงค่ำๆนะคะ จุ๊บ