“มาร์คัสขา....คิดถึงจังเลยค่ะ” แอรีน สาวสวย ที่ถูกอ้างชื่อเพื่อกอบกู้อิสรภาพของมาร์ค อีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นช่วงสั้น ๆ ก็ตามเถอะ หล่อนเดินมานั่งเบียด ส่งสายตาคมดุไล่ ผู้หญิงข้างกายของมาร์ค ซึ่งจำต้องล่าถอย เพราะใครก็รู้ดีว่าคุณหนูแอรีน หลานรักของมาเฟียใหญ่ อย่างตาเฒ่าคาร์ลอส นั้นมีอิทธิพลแค่ไหน ไม่มีใครอยากต่อกรด้วย
“อืม...มาเที่ยวเหมือนกันเหรอ” มาร์คถามเนือย ๆ แรก ๆ เขารู้สึกตื่นเต้น หวือหวา ในการคบหากับหล่อน แต่ก็จืดจางในเวลาอันรวดเร็ว เพราะหล่อนก็ไม่ได้มีเขาเพียงคนเดียว และที่สำคัญ เขาไม่เสี่ยงที่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย เพราะหล่อนคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะสลัดง่าย ๆ สุ่มเสี่ยงที่จะสร้างความวุ่นวายให้กับเขาในอนาคต
“มารอคุณนั่นแหละค่ะ มาทีไรก็ไม่เจอ” หญิงสาวทำกระเง้ากระงอด หล่อนจะใช้กิริยาออดอ้อนเฉพาะ คนที่คิดว่ามีศักดิ์ศรีทัดเทียมกันเท่านั้น
“แต่คุณก็ไม่เสียเที่ยวนี่นะ” ลูซที่นั่งนิ่ง ๆ มานาน ขัดขึ้น พลางยิ้มเยาะอย่างไม่คิดจะปิดบัง
“คุณจะรู้อะไรด้วยล่ะ ลูซ” หญิงสาวสะบัดเสียงใส่ เพื่อนของมาร์คที่คอยแต่จะจิกกัดเธอเป็นประจำ…ไม่รู้ทำไมถึงเกลียดขี้หน้าอีตานี่นัก...ผู้ชายบ้าอะไร ปากร้าย ปากจัด ไม่เคยยอมอ่อนข้อให้คุณหนูแสนสวยอย่างเธอ
“มาร์ค อย่าไปฟังคนนิสัยเสียนะคะ” แอรีนหันกลับไปอ้อนหนุ่มข้างกาย แต่ส่งสายตาขุ่นขวางไปให้คนขวางโลก
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่แอรีน เราต่างก็ยังโสด” มาร์คตัดบทเซ็ง ๆ อารมณ์รื่นเริงเมื่อครู่หดหายไปหมดแล้ว
“คุณใจกว้างที่สุดเลยค่ะ อย่างนี้สิคะ ถึงจะเหมาะสมกับตำแหน่งสามีในอนาคตของแอรีน” หญิงสาวยืดตัวขึ้นหอมแก้มสามีในอนาคต ฟอดใหญ่
“แค่ก....แค่ก...” ลูซสำลักพรวด กับคำพูดของสาวช่างมโน หล่อนมโนไปได้ไกลเกินจริง ไปมาก….ยัยคุณหนูขี้ตู่....
“เป็นอะไร...ลูซ” แอรีนหันไปมอง ตาเขียวปั๊ด
“สำลักความสุขแทน นายมาร์ค”
“แอรีน ฟังนะผมเป็นคนเลือกไม่ใช่ถูกเลือก”มาร์คหน้าตึง เขาไม่มีความจำเป็นต้องยอมก้มหัวให้แอรีนเหมือนคนอื่น ๆ
“ก็เหมือนกันแหละค่ะ แอรีนให้คุณเป็นคนเลือกก็ได้ แต่ต้องเลือกแอรีนคนเดียวนะคะ” หญิงสาวประทับริมฝีปากสีแดงสด กับริมฝีปากของชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ซึ่งไม่ยอมเปิดปากให้สาวเจ้า จึงได้แต่ฮึดฮัดขัดใจ
“ผมจะกลับแล้ว แอรีน” มาร์คบอกอย่างสุภาพ เมื่อเห็นหญิงสาวหน้างอง้ำ เพราะเขาไม่ยอมตามใจ…ซึ่งความจริงต้องบอกว่าไม่เคยตามใจถึงจะถูก
“อะไรกันคะ มาร์ค เพิ่งจะเจอกัน อย่าเพิ่งกลับสิคะ” แอรีนยอมละพยศ พยายามอ้อนเขา เกาะแขนกำยำไว้แน่น ราวกับยึดไว้ด้วยหนวดปลาหมึก
มาร์คไม่พูดอะไร ได้แต่จ้องหน้านิ่ง ๆ จนแอรีนต้องยอมแพ้ ยอมปล่อยมือจากแขนแข็งแรงที่หล่อนยึดไว้ อย่างเสียดาย
“หึ...หึ...” ลูซหัวเราะในลำคอ สะใจที่เห็นหน้างอง้ำ อย่างกับแม่มดสาว
“มีปัญหาอะไรนักหนา...ลูซ” แอรีน ถลึงตาใส่
“เปล่า...” ชายหนุ่มได้แต่ไหวไหล่ ด้วยท่าทีสุดกวน ส่งผลให้แอรีน สะบัดหน้าจากไปอย่างรวดเร็ว
มาร์คลุกขึ้น จะกลับ
“เฮ้ย...กลับจริงเหรอ อุตส่าห์รอดจากผู้คุมมาได้” ลูซแปลกใจกับท่าทีของเพื่อนรัก ที่ผิดฟอร์มไปมาก
“เออว่ะ...หมดอารมณ์”
“เดี๋ยว ๆ ...ฉันคนมาปลุกอารมณ์ให้ใหม่ไหม รับรองว่าเด็ด” ลูซพยายามนำเสนอด้วยความหวังดี เพราะที่แห่งนี้ เป็นอันรู้กันว่า ผู้หญิงที่นุ่งน้อยห่มน้อย อวดสายตา ท้าลมหนาวนั้น สามารถตกลงกันได้ หากถูกใจ ไม่มีการบังคับฝืนใจ
“ขอบใจว่ะ เอาไว้โอกาสหน้าก็แล้วกัน”
“จะกลับไปกินที่บ้านหรือไงเพื่อน”
“กินได้ก็ดีน่ะสิ”
“.......555........” ลูซอดขำท่าทีที่เปลี่ยนไปของเพื่อนไม่ได้ คงยากแบบนี้ไง พวกนักล่าอย่างพวกเขารู้ดีว่ามันท้าทาย น่าค้นหาแค่ไหน