หลังกลับเข้าบริษัท ช่วงบ่าย บัวชมพูดูตารางที่เพิ่งจะส่งเข้ามาใหม่จากคุณเลขา มาร์คมีนัดกับ เลโอ เทย์ลินเนอร์ หรือเร็คซ์ น้องชายคุณสุดท้องของตระกูล เทย์ลินเนอร์ วัย 29 ปี ที่คุณป้ารัมภา รักนักรักหนา เพราะเขาเป็นคนมีนิสัยอ่อนโยน น่ารัก ร่าเริง แถมไม่เคยมีข่าวเสียหายกับพวกผู้หญิง คงจะเป็นเพราะคุณป้าเลี้ยงดู ประคบประหงมด้วยตัวเองตลอด เนื่องจากตอนแรกเกิดเขาสุขภาพไม่ค่อยดี ไม่เหมือนพี่ ๆ ซึ่งตอนนั้น ท่านยังยุ่ง ๆ กับการช่วยงานสามี ทำให้อยู่กับพี่เลี้ยงเสียเป็นส่วนใหญ่ และที่สำคัญ หล่อนสนิทกับเขามาก เพราะชายหนุ่มทำงานที่สาขาในประเทศไทย ไม่เหมือนมาร์คที่เพิ่งจะเจอกันครั้งแรกที่นี่ เมื่อวานนี้เอง
สิ่งหนึ่งที่ถือว่าผิดคาดไปมากสำหรับบัวชมพู คือ การทำงานของมาร์ค เขาจริงจัง และมีสมาธิจดจ่อกับงานที่ทำเป็นอย่างมาก จนหญิงสาวทึ่งในคุณสมบัติข้อนี้ของเขา อย่างวันนี้ก็เช่นกัน เขานั่งทำงานจนเย็นโดยไม่พูดคุยหรือสนใจ ราวกับว่าอยู่ในห้องนั้นคนเดียว จนกระทั่งใกล้เวลานัดหมาย จึงได้ไปพบกับเร็คซ์ น้องชายคนสุดท้อง ที่ร้านอาหารประจำ เลขาหนุ่มบอกกับหล่อนว่า ทั้งคู่ชื่นชอบในรสชาติและบรรยากาศ นัดเจอกันทีไรก็ต้องร้านนี้ บัวชมพูจึงตามเขาไปเงียบ ๆ โดยไม่ซักถามอะไร เพราะหล่อนซักทุกเรื่องจากเลขาของเขาหมดแล้ว
“สวัสดีค่ะ พี่เร็คซ์” บัวชมพู พนมมือไหว้ชายหนุ่มทายาทคนสุดท้องของตระกูลเทย์ลินเนอร์ ทันทีที่พบหน้ากัน ด้วยกิริยาอ่อนช้อยน่ารัก พร้อมกับส่งยิ้มสว่างไสว ดีใจที่เจอพี่ชายใจดีของหล่อน
“เป็นไงจ๊ะ หนูบัว คิดถึงเมืองไทยหรือยัง” เร็คซ์วางมือบนศีรษะทุยสวย ก่อนจะจับโยกขยี้เบา ๆ พร้อมรอยยิ้มกว้างขวาง
“หนูบัวคิดถึงเมืองไทย ทู๊กกก.....ลมหายใจเข้าออกเลยค่ะ พี่เร็คซ์” บัวชมพูยิ้มจนเห็นฟันซี่เล็ก ๆ เรียงตัวขาววาววับ ดวงตายิบหยี
“ฮึ..!...ก็กลับไปสิ...ใครห้าม” มาร์คขวางหูขวางตาและ อดหมั่นไส้กับกิริยาสนิทสนมของเจ้าหล่อนกับน้องชายตัวแสบไม่ได้ ทีกับเจ้าเร็คซ์ยอมให้เรียกหนูบัว แต่ตอนที่เขาเรียก ทำจะเป็นจะตาย…ฮึ....
“คุณก็ทำตัวดี ๆ สิคะ ฉันจะได้กลับเมืองไทยสักที” บัวชมพูไม่ยอมถูกต่อว่าอยู่ฝ่ายเดียว
“เฮอะ !...ใครจะไปแสนดีอย่างเจ้าเร็คซ์ล่ะ” มาร์คแขวะไปถึงน้องชาย ไม่รู้ตัวเลยว่าหลุดมาดผู้บริหารไปไกล กลายเป็นผู้ชายขี้อิจฉาไปได้
“พี่เร็คซ์ไม่เกี่ยวนะคะ คุณอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับพี่เขา” บัวชมพูแหววใส่ ปกป้องพี่ชายที่รักทันที แต่นั่นยิ่งทำให้มาร์ครู้สึกว่าหล่อนด้อยค่าเขาอย่างน่าโมโห
“หมายความว่ายังไง” ชายหนุ่มถามเสียงขุ่น หน้าตึง
“คิดเอาเองสิคะ” บัวชมพูสะบัดหน้าหนี...กลัวซะที่ไหน....
“หึ...หึ...ระวังนายมาร์คจับหักคอเอานะหนูบัว...ยิ่งม่ชอบให้ใครขัดใจอยู่ด้วย” เร็คซ์ ขัดขึ้นมาขำ ๆ ที่เห็นพี่ชายต่อปากต่อคำกับเจ้าตัวเล็ก งานนี้สงสัยจะไม่ใช่ข่าวลือแล้วล่ะ ชายหนุ่มแอบยิ้ม
“น้อย ๆ หน่อย นายเร็คซ์ ฉันไม่ใช่คนป่าเถื่อนอย่างนั้นสักหน่อย” มาร์คตีหน้าดุใส่น้องชาย รู้สึกขัดใจตั้งแต่หนูบัวของเขาเรียกเจ้าเร็คซ์ว่าพี่แล้ว คงจะสนิทสนมกันมากสินะ แถมยังปกป้องกันอีก....ขัดใจโว้ย...............
“ใครจะไปรู้ล่ะครับ คนเราพออึดอัดมาก ๆ อาจจะหน้ามืดเอาได้ง่าย ๆ ใช่ไหมพี่ชาย” คนเป็น น้องชายยักคิ้ว หลิ่วตา ยิ้มยั่วโทสะคนฟอร์มจัด
“นายบอกมาดีกว่า...เจ้าเร็คซ์ ที่แวะมาหาฉัน มีอะไรกันแน่” พี่ชายเปลี่ยนเรื่อง หรี่ตามองน้องชายอย่างค้นหา
“คิดถึง” เร็คซ์ทำหน้าเคลิ้ม ด้วยความหล่อเหลาที่ไม่แพ้กัน แต่คนเป็นน้องมักมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าให้เห็นเสมอ ๆ
“ใคร....นายคิดถึงใครกันแน่”
“โธ่.!..ก็ต้องเป็นพี่ชายอยู่แล้ว...อ้อ...แล้วก็หนูบัวด้วยถึงแม้จะพึ่งห่างกันสองสามวันก็เถอะ” เร็คซ์ ไม่วายยั่วเย้าพี่ชาย
“ขนลุกว่ะ.....ขอเรื่องจริง” มาร์คคาดคั้น