“กรุณารักษามารยาทด้วยค่ะ” หญิงสาวเค้นเสียง กัดฟันพูดเสียงต่ำ บังคับไม่ให้ปลายเสียงสะบัด
“.......555......” มาร์คยืดตัวขึ้น เงยหน้า หัวเราะลั่น
“หนูบัว...คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”
“ฉันชื่อ บัวชมพูค่ะ ไม่ใช่หนูบัวชื่อนี้สำหรับคนสนิทเท่านั้นค่ะ” หญิงสาวมองเขาหน้าตึง ไม่สนิทไม่ต้องมาเรียก
“ผมถนัดเรียกคุณแบบนี้…แล้วอีกอย่างนะ อีกหน่อยเราก็จะยิ่งกว่าสนิทกันเสียอีก ผมยังใจกว้างให้คุณเรียกว่ามาร์คเลย...แฟร์ ๆ หน่อย...หนูบัว” มาร์คตอกย้ำ เป็นการยืนยันว่าเขาจะเรียกเธอแบบนี้ ยิ่งเธอไม่พอใจเท่าไร เขายิ่งสนุก
บัวชมพู ต้องนับหนึ่งถึงร้อย ถึงพัน เพื่อรับมือกับนายมาร์ค นายเพลย์บอยตัวร้ายให้ได้ หล่อนไม่ยอมล่าถอยโดยที่ปฏิบัติภาระกิจยังไม่สำเร็จลุล่วงเด็ดขาด เพราะป้ารัมภาขอร้องหล่อนทั้งน้ำตาเพื่อให้หล่อนมาช่วยกันลูกชายของนางออกจากเรื่องฉาวโฉ่ กับบรรดาผู้หญิงไม่เลือกหน้า ถึงขนาดเสียงานเสียการมั่วสุมอยู่กับพวกหล่อนข้ามวันข้ามคืนก็เคยทำมาแล้ว และในครั้งนั้นทำให้สูญเสียลูกค้ารายใหญ่ไปอย่างน่าเสียดาย ไหนยังจะข่าวลือที่แพร่ออกไปอย่างเสีย ๆ หาย ๆนั่นอีก
บัวชมพู ยอมทำงานนี้ เพราะป้ารัมภาเป็นเพื่อนรักของแม่ และให้การดูแลช่วยเหลือทุกอย่างเมื่อครั้งที่แม่ของหล่อนป่วยหนัก จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของท่าน และจากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง หากตอนนั้นคุณป้ารัมภาไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย แม่ของหล่อนคงได้ตายบนเตียงคนไข้อนาถาเป็นแน่ รวมทั้งยังส่งเสียให้หล่อนเรียนจนจบ และที่สำคัญท่านดูแลให้ความรักราวกับหล่อนเป็นลูกสาว หล่อนกลายมาเป็นคุณหนูบัวชมพู ถึงแม้ท่านจะขอมากกว่านี้ หล่อนก็ให้ได้
“ตามใจคุณก็แล้วกัน อยากเรียกอะไรก็เรียกไป” หญิงสาวยอมให้เขาก็ได้ เบื่อจะต่อล้อต่อเถียง....แต่เอ๊ะ...นี่หล่อนเพิ่งจะเจอหน้าเขา ทำไม่คำว่าเบื่อมันผุดขึ้นมาเร็วกว่าแสง แบบนี้
“ผมจะให้อลันพาคุณไปพักผ่อนที่เพนท์เฮ้าส์ก่อน” มาร์คพูดจบและกำลังจะเรียก หนึ่งในบอร์ดี้การ์ดของเขาที่ไว้ใจมากที่สุด ให้มาพาหญิงสาวไปพักก่อน หรือเรียกให้ถูกคือพาไปเก็บให้พ้นหูพ้นตา ดูสิว่า เจ้าหล่อนจะคุมความประพฤติของเขาได้ยังไง อีกอย่างเขาต้องการเวลาในการอยู่คนเดียวเงียบ ๆ เพื่อวางแผนเขี่ยหล่อนออกไปให้พ้นทาง
“ไม่ค่ะ...ฉันจะไปพร้อมคุณ” หญิงสาวตอบหนักแน่น
“อะไรนะ” มาร์คเลิกคิ้วถามเสียงสูง นี่หล่อนกลายร่างเป็นตุ๊กแกตั้งแต่เมื่อไหร่
“งานของฉันเริ่มตั้งแต่วินาทีแรกที่เหยียบที่นี่ค่ะ เพราะฉันต้องรายงานพฤติกรรมของคุณให้คุณป้าท่านทราบทุกวัน” บัวชมพู อธิบายชัดเจนด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่แฝงความสะใจไว้ลึก ๆ
มาร์คหน้าตาบึ้งตึง ...ร้ายนักนะ... กล้าเอาแม่ของเขามาอ้าง แต่มันก็ได้ผล เพราะตอนนี้เขายังไม่อยากแตกหักกับผู้เป็นมารดา ท่านขู่จะตัดแม่ตัดลูก ซึ่งเขาเชื่อว่าท่านทำได้จริง ในเมื่อเขาไม่เคยทำตัวเป็นลูกรักของท่านเหมือนพี่ชายและน้องชายขี้อ้อนนั่น แต่ถึงอย่างไรคุณนายรัมภา เทย์ลินเนอร์ ก็เป็นผู้หญิงที่เขารักและแคร์มากที่สุด
“เอาล่ะ เชิญคุณตามสบายนะคะ ฉันจะอยู่เงียบ ๆ ไม่รบกวนการทำงานของคุณ” บัวชมพู ทำอย่างที่หล่อนพูด ใบหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ราวกับผู้คุมนักโทษก็ไม่ปาน หล่อนลุกจากเก้าอี้ เบี่ยงตัวหลบ ผู้ชายตัวโตเหมือนตึกที่ไม่ยอมขยับให้ เดินไปหย่อนสะโพกกลมกลึงลงบนโซฟาตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่มุมห้อง ทั้งที่อยากเอนนอนพักสายตาสักครู่ เพราะหล่อนยังอ่อนเพลียจากการเดินทาง แต่ก็ต้องฝืนไว้ หล่อนนั่งก้มหน้าอยู่กับสมาร์ทโฟน ไม่ได้เหลือบแลไปทางผู้ชายตัวโตอีกเลย ทำเหมือนไม่มีตัวตนในห้องนี้
มาร์คมองตาม ผู้คุมกิตติมศักดิ์ ที่ลุกเดินออกไปราวกับนางพญา แผ่นหลังบาง เอวคอด สะโพกงอนงามรับกับเรียวขากลมกลึง ที่โผล่พ้นกระโปรงตัวสวยนั้น ต้องยอมรับว่า ผู้หญิงคนนี้น่าฟัดจริง ๆ ชายหนุ่ม เกิดความคิดแวบเข้ามาในหัว ก่อนจะพิมพ์ข้อความบางอย่างสั่งการบอร์ดี้การ์ดคู่ใจเสร็จ แววตาขุ่นขวางเมื่อสักครู่เปลี่ยนเป็นวาวโรจน์ รอยยิ้มร้ายปรากฏบนมุมปาก ก่อนจะเดินกลับไปนั่งเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ทอดสายตามองหญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา สนใจกับสิ่งที่อยู่ในมือ อย่างสบายอารมณ์
“คุณมาเรียมาถึงแล้วครับ” เสียงอัลเบิร์ต เลขาหนุ่มหล่อ แจ้งเข้ามาผ่านเครื่องสื่อสารภายใน
“ให้เข้ามา” มาร์คตอบกลับ
ครู่เดียวประตูบานใหญ่ก็เปิดออก พร้อมกับเรือนร่างสุดเซ็กซี่ ของนางแบบแถวหน้าอย่างมาเรียก็ถลาเข้าหาเจ้าของห้อง อย่างไม่อิดออด