“อ๊ะ..อ๊ะ...อย่าคิดว่าจะดึงร่างบอบบางของฉันเข้าไปจูบบบบ......ทำโทษให้ตัวอ่อนระทวย ตามสูตรสำเร็จของนิยายรักเลยนะ ขอบอก...ไม่ได้แอ้มฉันหรอก” เกวลินทำปากจู๋ก่อนจะยักคิ้วล้อเลียน
“ใครว่าฉันจะจูบ จะหักคอเธอล่ะไม่ว่า” อนาวินกัดฟันกรอดที่ยัยตัวแสบรู้ทัน
“จ๊อก....จ๊อก...”
“คุณ...ฉันว่าเราสงบศึกซักแป๊บนะ ฉันหิวแล้ว” ท้องของเกวลินร้องครางประท้วงขัดจังหวะขึ้นมา แต่อย่าคิดว่าเจ้าตัวจะเขินอาย เพราะมันหายไปพร้อมกับความปลื้มปริ่มในตัวของชายหนุ่มที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ ..เพราะปากเน่า ๆ ของเขานั่นแหละ
สาวห้าว ขอสงบศึกหน้าตาเฉย เมื่อมองบรรยากาศโดยรอบที่ความมืดเข้าปกคลุมโดยไม่รู้ตัว แถมอากาศเริ่มเย็นลงอย่างรวดเร็ว นี่หล่อนยืนถกเถียงกับเขามานานเหมือนกันนะเนี่ย
“ไปหากินเองก็แล้วกัน อาหารสดอยู่ในตู้เย็น ถ้าทำไม่เป็นก็รอพรุ่งนี้เช้า จะมีคนงานเอาอาหารปิ่นโตมาส่ง” อนาวิน บอกกับเจ้าสาวหมาด ๆ ของเขาส่ง ๆ ไปไม่มีความเอื้ออาทรเลยสักนิด
“โอ้โห.....มีน้ำใจมาก ๆ เลยนะคุณ” หญิงสาวมองใบหน้าบูดบึ้ง พลางเลิกคิ้วสูงเบ้ปากนิด ๆ
“ขอบใจ” ชายหนุ่มยอมรับรับคำชม
“ประชดค่ะ...ประชดเข้าใจหรือเปล่า” หญิงสาวทำปากยื่น กลอกตามองบนอย่าง เหนื่อยหน่าย
“ฉันไม่ได้เชิญเธอมา ที่ให้เข้าบ้านก็บุญนักหนาแล้ว” ชายหนุ่มกระแทกเสียงใส่
“เจ้าค่ะ ดิฉันซาบซึ้งใจม๊วากกกกก….แล้วจะให้ดิฉันทำกับข้าวเผื่อด้วยไหมเจ้าคะ” หญิงไทยน้ำใจงามอย่างหล่อนยังมีแก่ใจห่วงคนปากเสีย
“ฉันกินแล้ว”
จะตอบให้ตรงคำถามหน่อยไม่ได้หรือไง จะต้องอ้อมไปอ้อมมาเพื่อ?
เกวลิน ไม่อยากโต้เถียงกับคนฟอร์มจัด หล่อนหิวจริง ๆ วันนี้ทั้งวันกินแค่โจ๊กชามเดียวก่อนออกจากบ้านเท่านั้น หญิงสาวตรงเข้าครัวที่หล่อนเล็งไว้แต่แรก เพราะอยู่ทางระเบียงด้านขวาของตัวบ้านเปิดโล่ง เห็นว่าพร้อมใช้งาน ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าของบ้านไม่ค่อยได้ใช้เพราะกินอาหารปิ่นโต
หุงข้าวก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงไปรื้อค้นในตู้เย็นหลังใหญ่ ที่มีของสดแช่แข็งมากมาย ราวกับย่อซุปเปอร์มาร์เก็ตมาไว้ในบ้าน หล่อนเลือกวัตถุดิบที่จะนำมาทำแกงส้มกุ้ง กับไข่เจียวปูกรอบ ๆ อีกจานใหญ่ ถึงมิชลินจะยังไม่ได้ชิม หล่อนกล้ารับประกันว่าอร่อยไม่แพ้เจ้าดังแน่นอน กว่าจะเสร็จก็พอดี ข้าวสุกส่งกลิ่นหอมคล้ายใบเตย คงจะเป็นข้าวหอมมะลิอย่างดี ….โอย...ข้าวสวยร้อน ๆ กับแกงส้มกุ้ง แถมไข่เจียวปูฟูฟู กรอบนอกนุ่มในเห็นแล้วต้องอร่อยฝุด ๆ ยังไงก็ดีกว่าอาหารเย็นชืดในปิ่นโตแน่ ๆ คิดแล้ว สมน้ำหน้าคนกินแล้ว...ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า....นายพลาดแล้วจ้า นายอนาวิน.........
เกวลิน ยกอาหารมาจัดวางบนโต๊ะตัวเดิมที่ระเบียงหน้าบ้าน หล่อนเหนื่อยมาทั้งวัน ตอนนี้ ขอกินข้าวท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนเย็นสบาย มีท้องฟ้าและดาวเดือน แสงไฟนวลติดอยู่ ตามหัวเสาหลายดวง อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าหล่อนแต่งงานแบบปกติ อาหารมื้อนี้ คงจะเป็นดินเนอร์ที่โรแมนติกน่าดู
“คุณ...จะกินด้วยกันอีกไหม” เกวลิน แสดงน้ำใจตะโกนถามไปตามมารยาทอย่างน้อยวัตถุดิบทั้งหมดนี่ก็เป็นของเขา เจ้าบ้านนั่งดูทีวีอยู่ ไม่คิดว่าเขาจะลุกมานั่งกินด้วยหรอกแต่ผิดคาด พ่อตัวดีย้ายตัวเองมานั่งตัวตรงรอรับบริการอย่างไม่อิดออด หญิงสาวจึงต้องตักข้าวให้เขา ก่อนจะตักให้ตัวเองแล้วนั่งลงตรงข้าม ลงมือกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย...ก็คนมันหิว...
“อร่อยไหมคุณ” เกวลินถามคนที่บอกว่ากินแล้ว แต่ตักข้าวเป็นจานที่สาม
“ก็พอกินได้” ชายหนุ่มตอบหน้าตาย ไม่ยอมเสียฟอร์ม
“ฮึ...” หญิงสาวค้อนให้วงโต หมั่นไส้คนท่ามาก กะอีแค่ยอมรับว่าอร่อย มันจะเสียศักดิ์ศรีนักหรือไง
“ตั้งแต่พรุ่งนี้เช้า คุณก็รับหน้าที่ทำกับข้าวไปก็แล้วกัน” อนาวินสั่ง
“ก็ไหนว่าพอกินได้”
“เพราะว่าพอกินได้ไง ถึงให้ทำ”
“อ้าว..ปกติใครทำล่ะคะ”
“ทำไม หรือคุณทำไม่ได้ อยากจะนอนรอปั๊มลูกอย่างเดียวหรือไง” ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูง ทำเอาสาวห้าวหน้าแดงระเรื่อทั้งโกรธทั้งอาย ไม่น่าเลยยัยเกว ไม่น่ารับปากปฏิบัติภารกิจบ้า ๆ นี่เลย...พับผ่าสิ...
“ฉันทำได้...ที่ถามน่ะ กลัวคนที่ทำอยู่แล้วเขาจะเสียใจ”
“ไหน ๆ ก็รับค่าจ้างไปตั้งเยอะ ก็ช่วยทำหน้าที่ให้มันคุ้มหน่อย”
เชือดเฉือนเข้าไป ปากหรือมีดโกนนะนั่น
“งั้นก็ได้ค่ะ แล้วงานบ้านล่ะคะฉันต้องทำด้วยหรือเปล่า”
“ปกติเจ้าครกเป็นคนทำ”
“อ๋อค่ะ” หญิงสาวรับทราบ คงจะต้องเป็นหล่อนทั้งหมด ไม่เห็นยากเมื่อคิดถึงเงินก้อนใหญ่ที่คุณลุงดนัยใช้หนี้แทนบิดา จะให้ทำตลอดชีวิตเลยก็ได้…เฮ้อ....จะว่าไปก็ยังตงิด ๆ ว่าพ่อไปเป็นหนี้เป็นสินตอนไหนกัน ท่านเป็นพ่อหม้ายตั้งแต่หล่อนลืมตาดูโลก ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อครอบครัวของหล่อนอยู่บ้านสวน พออยู่พอกิน ไม่ได้เดือดร้อน การพนันท่านก็ไม่ได้เล่น หรือว่ามีกิ๊กยิ่งไม่ใช่...หรือเจ้าน้องชายฝาแฝดไปสร้างหนี้ให้ก็ไม่น่าจะใช่อีก ทั้งคู่อายุแค่สิบสามเอง....แต่ท่านก็ยืนยันหนักแน่นว่าต้องขายบ้านสวนเพื่อไปใช้หนี้ทั้งที่รักบ้านมาก
พอดีคุณลุงดนัยก็เข้ามาได้จังหวะ เสนอตัวใช้หนี้ให้ หลังจากนั้นก็ออกปากขอหล่อนไปเป็นสะใภ้ด้วยเหตุผลที่หล่อนก็ยากจะปฏิเสธ มันถึงได้พิลึกกึกกืออย่างที่เป็นอยู่นี่แหละ ไม่มีงานแต่ง ไม่มีทะเบียนสมรส หล่อนเป็นเจ้าสาวของนายอนาวิน ด้วยคำประกาศของลุงดนัยและผู้เป็นบิดา ต่อหน้าอัฐิของบรรพบุรุษ แต่ไร้เงาเจ้าบ่าว เมื่อเช้านี้ ก่อนจะถูกส่งตัวมาที่นี่.......โธ่.....วันวิวาห์ของฉ้านนนน........สะใภ้หมื่นล้าน....แปลกกว่านี้มีอีกไหมเนี่ย....